GLC 250d : มาทีหลังดังกว่า หรูหรา น่าใช้

                เรียกว่าปล่อยให้คู่แข่งทำตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดพอเหมาะอย่างนี้มานานสมควร จนหลายคนคิดว่าน่าจะหมดหวังที่จะได้เห็นรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกำลังพอเหมาะพอเจาะแบบนี้จากค่ายดาวสามแฉกอย่างเบนซ์กันเสียแล้ว เพราะบรรดาคู่แข่งนั้นมีรถยนต์มาทำตลาดกันนานทีเดียว ทั้งออดี้ บีเอ็มดับเบิ้ลยู แลนด์โรเวอร์ หรือแม้แต่กระทั้งค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นก็มีรถยนต์ประเภทนี้ออกมาแทบจะครบหมดทุกค่ายแล้วก็ว่าได้ แต่ทันทีที่มีโอกาสไปทดสอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี (GLC) เมื่อประมาณปีกว่าๆ ที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่าน่าสนใจไม่น้อย แม้ว่าในคราวนั้นจะต้องรอลุ้นว่าจะมีรุ่นใดบ้างที่จะเข้ามาเปิดตัวทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งก็ต้องบอกว่าไม่ต้องให้บรรดาแฟนๆ  ในประเทศไทยต้องรอนานเพราะเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เปิดตัวแบบทันที โดยมีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลมาให้เลือกเป็นเจ้าของกันถึง 2 แบบ และแน่นอนว่าเป็นไปตามกลยุทธ์ที่เบนซ์ได้วางไว้คือแนะนำ เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ให้รวดเร็วมากที่สุด เพื่อเผยแพร่ข่าวสารผู้บริโภคได้รับรู้ รับทราบ และเลือกจองเป็นเจ้าของได้อย่างทันท่วงที ไม่ปล่อยให้บรรดาผู้นำเข้ารถยนต์อิสระทั้งหลายได้ทันตั้งตัว อีกทั้งเรื่องของราคาก็เป็นที่น่าสนใจอย่างมากเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับบรรดาผู้นำเข้าอิสระทั้งหลาย ซึ่งนี่เป็นจุดสำคัญที่ทางทีมงานเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เรียกว่าราคาโดน เปิดตัวไว ปรับผลิตภัณฑ์ใหม่ให้เหมาะสมมากขึ้น ครบทุกองค์ประกอบเลยเชียว

                   GLC นั้นเป็นรถยนต์ที่ไม่ได้เน้นแต่เรื่องอเนกประสงค์ และความสะดวกสบายเท่านั้น แต่เบนซ์ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราที่เป็นเอกลักษณ์อันแข็งแกร่งได้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะภายในห้องโดยสารที่เลือกใช้วัสดุอย่างดีเพื่อให้เกิดสัมผัสที่ดีกับผู้ที่อยู่ในห้องโดยสาร เบาะหนังแท้ที่อยู่ในรถยนต์คันนี้นุ่มสบายมากๆ บวกกับส่วนเติมเต็มจากแผงคอนโซล ปุ่มปรับแอร์ แผงหน้าปัด พวงมาลัย และเครื่องเสียงดี ทำให้ความรู้สึกเมื่ออยู่ในห้องโดยสารนั้นไม่อึดอัด ไม่เครียด ผ่อนคลาย อีกทั้งตำแหน่งในการนั่ง และการออกแบบของเบาะนั่งก็ทำให้ผู้ขับขี่มีทัศนะวิสัยที่ดี ในขณะที่ผู้โดยสารเพลินกับการเดินทาง 

              แน่นอนว่าความที่เป็นรถยนต์ในสไตล์อเนกประสงค์ทำให้มีการนำเครื่องยนต์ดีเซลมาเป็นหัวใจในการขับเคลื่อน หน้าที่นี้จึงเป็นของเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง เทอร์โบคู่พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้แรงม้าสูงสุดได้ถึง 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ที่ให้ทั้งความนุ่มนวลในการใช้งาน แต่ก็ให้ความสนุกได้เมื่อต้องการ อัตราเร่งเป็นสิ่งที่โดนใจมากเพราะทุกครั้งที่เพิ่มน้ำหนักเท้าไปที่คันเร่งรถจะพุ่งไปข้างหน้าในทันทีแต่ไม่รู้สึกว่ามันทำลายความสุนทรีในการขับขี่ เรียกว่าขับสนุกแบบผู้ดี ตอบสนองในทันทีแต่ไม่ทำลายอารมณ์ความรู้สึกในการใช้งาน การขับในความเร็วสูงๆ ก็เช่นกัน ความเร็วในระดับ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นเรื่องง่ายและสบายมากสำหรับรถยนต์คันนี้ ขับเพลินๆ กดคันเร่งไปแปบเดียวหันมาดูก็แตะๆ  200 เสียแล้ว ไม่มองดูหน้าปัดก็แทบไม่รู้เพราะทุกอย่างลงตัวจริงๆ  อีกส่วนที่น่าประทับใจมากๆ  ก็คือ GLC 250d มีการตอบสนองที่ดีทั้งระบบช่วงล่างและน้ำหนักของพวงมาลัยในการบังคับควบคุม ชนิดที่ว่ามั่นใจได้เลยว่านี่เป็นรถยนต์ที่ขับสนุกครบเครื่องสมบูรณ์แบบมากคันหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ในระดับเดียวกัน 

          เรียกว่า GLC 250d อาจจะมาทีหลัง มาช้ากว่าคู่แข่งที่มีรถยนต์ประเภทนี้ออกมาจำหน่ายก่อน แต่ต้องยกนิ้วให้ว่า GLC 250d มาช้าแต่ชัวร์จริงๆ  ทุกอย่างที่ถูกใส่เข้าไปในรถคันนี้ได้ศึกษามาอย่างดีแล้วว่าจะทำให้มันเป็นรถยนต์ที่ครบเครื่องมากที่สุดในรถยนต์ระดับนี้ ทุกบาทที่จ่ายไปได้ความคุ้มค่ากลับมาแน่นอนทั้งเรื่องของการออกแบบ ภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ และเกียร์ที่มีการทำงานร่วมกันอย่างลงตัว ใช้งานแบบสบายๆ ความสนุกก็ได้ ดุดันก็ดี ความสะดวกสบาย หรูหราของห้องโดยสารก็ทำให้หลายคนสามารถตัดสินใจเป็นเจ้าของได้เลยเมื่อเข้าไปนั่งในรถ ความปลอดภัยต่างๆ  ก็ใส่มาให้ในแบบที่ว่ามากที่สุดที่จะสามารถใส่ไปได้ ท้ายที่สุดคือเรื่องของความคุ้มค่าคุ้มราคาในการใช้รถยนต์คันนี้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ได้เมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีเยี่ยม และแน่นอนเรื่องของการซ่อมบำรุงดูแลรักษาที่สามารถวางใจได้

Mercedes-Benz GLC 250d 4MATIC