ขับ Navara ขึ้นดอย เอ็นจอยกาแฟ

          เคยอยากลองไปใช้ชีวิตชาวไร่กาแฟดูสักครั้งไหมครับ? หลายคนอาจจะไม่เคยคิดอย่างนั้น แต่ยอมรับว่าครั้งหนึ่งผมเคยคิดฝันอยากลองเป็นทำไร่กาแฟบนดอยอยู่เหมือนกัน แน่นอนว่าวันนี้เราไม่ได้ขึ้นดอยไปทำไร่กาแฟกันจริงๆ หรอก แต่ Nissan ก็ชวนให้เราได้ลองมาขับรถขนกาแฟลงดอยกันดูสักรอบหนึ่ง มาพิสูจน์ว่ารถปิ๊กอัพ Nissan Navara สเปกที่ออกจากโรงงานเนี่ยมัน “ทุกรุ่น ทนถึงใจ” อย่างที่ Nissan เขาบอกจริงๆ

          งานนี้ Nissan ประเทศไทยได้จัดรถปิ๊กอัพ Nissan Navara มาให้เราลองทั้งหมดสองรุ่นด้วยกัน รุ่นแรกคือตัวหัวเดี่ยว Single Cab ที่มากับเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร VGS เทอร์โบ ให้กำลัง 163 แรงม้า แรงบิด 403 นิวตันเมตร แบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ส่วนอีกรุ่นคือรุ่น KC Calibre V 7AT หรือแบบ KingCab ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลทวินเทอร์โบ 2.3 ลิตร กำลัง 190 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด โดยจะมีจุดให้แวะเปลี่ยนสลับรุ่นที่ใช้ทดสอบกันด้วย

   

          ทริปนี้เริ่มต้นแต่เช้าตรู่ โดยทีมงานให้พวกเราได้ทดลองขับเจ้า Nissan Navara ทั้งสองแบบที่เป็นรถเปล่ายังไม่ได้บรรทุกอะไรไปตามเส้นทางขึ้นดอย ซึ่งเราจะได้ลองขับบนถนนหลายรูปแบบตั้งแต่ถนนหลักลาดยาง ถนนรองที่เป็นถนนปูนแคบๆ แบบที่รถสองคนสวนกันยังต้องระวังไม่ให้เกี่ยวกัน ไปจนถึงลุยทางลูกรังขึ้นไหล่เขาไปจนถึงจุดที่เป็นไร่กาแฟ ซึ่งทั้งสองรุ่นก็ไม่ทำให้เราต้องผิดหวังแต่อย่างใด

          จุดหนึ่งที่ชอบมากบนเจ้า Navara ทั้งสองรุ่นที่ได้ทดสอบคือภายในที่เพิ่มเติมความสะดวกสบายเข้ามาให้ แต่ก็ให้อย่างพอดีนะ ไม่ได้มากเกินไป เนื่องจากความเป็นรถใช้งานของมัน ซึ่งก็ถือว่าให้ฟังก์ชันมาครบครันไม่ว่าจะเป็น NissanConnect หรือระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนต่างๆทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto

   

          พอถึงตรงนี้เราจะได้แวะพักกันสักครู่เพื่อรอขนถ่ายเมล็ดกาแฟขึ้นท้ายกระบะ เราก็นั่งพักคอย พักคุย หรือบางทีก็เข้าไปช่วยเกษตรกรบนไหล่เขาเก็บและขนเมล็ดกาแฟกัน นับว่าได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ มามากทีเดียว รอสักพักเมล็ดกาแฟหนักราวๆ 1 ตัน ก็ถูกขนขึ้นบนกระบะท้ายทั้งของ Single Cab และ King Cab จนหมด เราก็ถึงเวลาขับใช้งานในส่วนที่สองกัน

          โดยเราได้ปรับเรื่องของแรงดันลมยางตามน้ำหนักบรรทุกด้วยการเพิ่มแรงดันเข้าไปจากเดิมเพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ โดยหลังจากส่งเมล็ดกาแฟทั้งหมดแล้วเราจึงมาปล่อยลมยางให้กลับไปอยู่ที่ความดันทั่วไปอีกครั้ง

          ต้องบอกเลยว่ารถ Nissan Navara ทั้งแบบหัวเดี่ยวและ KingCab ที่บรรทุกหนักเต็มกระบะมา 1 ตันถ้วน นี่ขับกันได้สบายๆ เลย จริงอยู่ว่าน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้นทำให้รถยนต์ต้องใช้แรงมากกว่าเดิมหน่อย คนขับเองก็ต้องควบคุมรถอย่างระมัดระวังขึ้นอีกนิด รอจนขับรถเข้าเทียบส่งเมล็ดกาแฟที่โรงงานแปรรูปเมล็ดกาแฟของเกษตรกรเรียบร้อยก็เป็นอันจบทริปทดสอบครั้งนี้

          ตลอดเส้นทางจะเห็นได้เลยว่า ไม่ว่าจะมีน้ำหนักบรรทุกหรือไม่มี Nissan Navara ทั้งสองคันก็ลุยผ่านกันมาได้เป็นอย่างดีทั้งหมด แถมกับน้ำหนักบรรทุก 1 ตัน โดยที่ไม่ได้ปรับแต่งใดๆ เลยนอกจากแรงดันลมยาง ก็ยิ่งโชว์พลังของการเป็นรถใช้งานได้เป็นอย่างดี สมกับที่ Nissan บอกว่า “ทุกรุ่น ทนถึงใจ” จริงๆ