dot




บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย นำสื่อมวลชนสัมผัสยนตรกรรมหรูทุกระบบขับเคลื่อน กับกิจกรรม BMW Driving Challenge 2023

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย นำสื่อมวลชนสัมผัสยนตรกรรมหรูครบทุกระบบขับเคลื่อน ทั้งขุมพลังสมรรถนะสปอร์ตของรถยนต์ตระกูล M และเปิดประสบการณ์การขับขี่รุ่นปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าตระกูล “i” บนสนามแข่ง กับกิจกรรม BMW Driving Challenge 2023 


          บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย นำสื่อมวลชนสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ทดสอบขุมพลังครบทุกระบบขับเคลื่อน ทั้งเครื่องยนต์สันดาปทรงพลัง กับรถยนต์ตระกูล M ที่โดดเด่นด้วยขุมพลังสมรรถนะสูงแบบสปอร์ตเร้าใจ พร้อมเทคโนโลยีสำหรับรถแข่งอย่างบีเอ็มดับเบิลยู M2 มอบการขับขี่ที่ปราดเปรียวและการตอบสนองทรงประสิทธิภาพ พร้อมความสามารถในการควบคุมที่ทำได้อย่างง่ายดายแม้ในสภาวะการขับขี่ที่ดุดันสุดขีดจำกัด ที่สุดแห่งสมรรถนะอย่างบีเอ็มดับเบิลยู X4 M Competition ที่เติมพลังให้เหนือกว่า เดิมด้วยชุดแต่ง Competition เสริมเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ M TwinPower Turbo และบีเอ็มดับเบิลยู M340i xDrive ใหม่ โดดเด่นด้วยระบบควบคุมที่แม่นยำและเทคโนโลยีการขับขี่ใหม่ล่าสุดพร้อมการยกระดับในด้านศักยภาพความปราดเปรียวให้ทรงพลังขึ้นอีกขั้นด้วยเครื่องยนต์สมรรถนะสูง 

          นอกจากนี้ สื่อมวลชนยังได้สัมผัสประสบการณ์เร้าใจกับการทดสอบพละกำลังยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าบนสนามแข่ง ไม่ว่าจะเป็นรุ่นปลั๊กอินไฮบริดอย่างบีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ยนตรกรรมสปอร์ตซีดานยอดนิยม ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทคโนโลยี TwinPower Turbo และระบบปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% จากบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล “i” สมรรถนะสูง ที่มาให้สื่อมวลชนได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับหลากหลายรุ่น อาทิ บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 Sport โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่มีเส้นสายการออกแบบชัดเจนทรงพลัง แต่ยังคงความเรียบง่ายและบึกบึนสไตล์ SAV มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และนวัตกรรมหลากหลายเหนือกว่ารถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทุกรุ่น และรถยนต์ที่มีดีไซน์ที่สื่อถึงความยั่งยืน และยังโดดเด่นกว่ามอเตอร์ไฟฟ้าในรุ่นอื่น ๆ ด้วยความสามารถในการคงแรงบิดได้แม้ระหว่างรอบสูง อย่างบีเอ็มดับเบิลยู iX3 M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู i4 eDrive35 M Sport ใหม่ รถยนต์ Gran Coupé สี่ประตูที่ผสมผสานความโอ่อ่ากว้างขวางภายใน รวมถึงคุณสมบัติหลากหลายที่ทำให้การเดินทางไกลอุ่นใจยิ่งขึ้น

          การทดสอบสมรรถนะรถยนต์ครั้งนี้จัดขึ้นที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการควบคุมของตัวรถและการเข้าโค้ง (Handling) ฝึกการใช้งานระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ทดสอบประสิทธิภาพการขับขี่ในด่านต่าง ๆ เช่น Ideal Line (High Speed) หรือการขับผ่านเส้นทางที่กำหนดด้วยเวลาที่ดีที่สุด Ideal Line (Fast Corner) หรือการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง การควบคุมรถขณะดริฟต์ และการประชันความเร็วจากขุมพลังของเครื่องยนต์บนสนามแข่ง รวมถึงการทดสอบความคล่องตัวและความปราดเปรียวของระบบ xDrive ในการขับขี่แบบ Gymkhana Dirt เพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจให้กับผู้ร่วมกิจกรรมด้วยการทดสอบการขับขี่แบบออฟโรด 


บีเอ็มดับเบิลยู M2 โฉมใหม่ 

ราคาจำหน่าย: 6,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปีหรือ 60,000 กม.)


          บีเอ็มดับเบิลยู M2 โฉมใหม่ สุดยอดรถยนต์ในดวงใจของแฟน ๆ ตระกูล M หวนคืนสู่วงการรถสปอร์ตสมรรถนะสูงอีกครั้ง มาพร้อมกับการปรับแต่งที่โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้า ผสมผสานขนาดกะทัดรัด ระบบส่งกำลัง และเทคโนโลยีแชสซีไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปราดเปรียวและการตอบสนองทรงประสิทธิภาพ พร้อมความสามารถในการควบคุมที่ทำได้อย่างง่ายดายแม้ในสภาวะการขับขี่ที่ดุดันสุดขีดจำกัด รูปลักษณ์สปอร์ตปราดเปรียวของบีเอ็มดับเบิลยู M2 โฉมใหม่ มีที่มาจากสัดส่วนที่ทรงพลังเป็นพิเศษและลักษณะการออกแบบสไตล์ M อันโดดเด่น มาพร้อมระยะฐานล้อที่สั้นลง 110 มิลลิเมตร รวมถึงดีไซน์ภายนอกที่สั้นกว่าบีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupé ถึง 214 มิลลิเมตร

          กระจังหน้าทรงไตคู่แนวนอนขนาดใหญ่แบบไร้กรอบ ผสานกับช่องดักอากาศที่แบ่งออกเป็นสามส่วนในรูปทรงเกือบจะเป็นสี่เหลี่ยมส่งให้ส่วนหน้าของตัวรถมีรูปลักษณ์แบบ M ที่คุ้นเคย ตัวรถยังถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความจำเป็นเชิงเทคนิคในการระบายอากาศและสมดุลอากาศพลศาสตร์ ด้านท้ายของบีเอ็มดับเบิลยู M2 โฉมใหม่ ยังดูสะดุดตาด้วยขอบสปอยเลอร์บนฝากระโปรงหลัง แผ่นสะท้อนแสงจัดวางในแนวตั้ง ดิฟฟิวเซอร์ที่กันชนท้าย และปลายท่อไอเสียสองคู่ที่สองข้างท้ายของตัวรถ

          หัวใจของบีเอ็มดับเบิลยู M2 โฉมใหม่ คือขุมพลังเบนซิน 6 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW M TwinPower Turbo ส่งพลังสูงสุด 338 กิโลวัตต์ / 460 แรงม้า ที่ 6,250 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 2,650 – 5,870 รอบต่อนาที โลดแล่นจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 4.1 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สมรรถนะแบบไดนามิกยังผสานเข้ากับระบบขับเคลื่อนล้อหลังร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ M Steptronic 8 จังหวะ พร้อมระบบ Drivelogic เพิ่มการเปลี่ยนเกียร์ให้สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยระบบการเชื่อมต่อกับเครื่องยนต์โดยตรง พร้อมความสามารถใน

          การลดเกียร์ลงหลายระดับจนถึงเกียร์ต่ำสุด ระบบส่งกำลังพื้นฐานนี้มีส่วนสำคัญในการเร่งความเร็วแบบทันทีทันใดได้อย่างน่าประทับใจ โหมดการขับขี่ M Drive Professional ช่วยเสริมความเร้าใจในการขับขี่ให้มากขึ้น มาพร้อมระบบ

          เฟืองท้าย M Sport เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและเสถียรภาพในการขับขี่เมื่อเปลี่ยนเลนหรือเร่งความเร็วออกจากโค้ง และเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงหรือบนพื้นผิวถนนที่แตกต่างกัน นอกจากนั้น ช่วงล่าง Adaptive M Suspension ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้อย่างอิสระระหว่างรูปแบบการขับขี่แบบสะดวกสบายหรือสไตล์สปอร์ต

          ภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาและโคมไฟหน้าตกแต่งสีดำสไตล์ M และเสริมความโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยระบบไฟหน้า Adaptive LED ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam assistant) ชุดเบรก M Compound สีแดงเงา และหลังคา M Carbon ภายในอวดโฉมการตกแต่งสไตล์สปอร์ตด้วยชุดไฟส่องสว่างภายในและภายนอกห้องโดยสาร (Ambient light) หลังคาภายในดีไซน์ M สีดำ Anthracite และคอนโซลด้านบนบุด้วยหนังแบบ BMW Individual เสริมลุคที่แตกต่างภายในห้องโดยสารด้วยการตกแต่งดีไซน์ M ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M เข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M เบาะนั่งดีไซน์ M Sport เบาะนั่งตอนหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งเฉพาะฝั่งคนขับ และกาบบันไดดีไซน์ M แบบเรืองแสง 

          BMW Live Cockpit Professional นำเสนอจอแสดงข้อมูลสำหรับคนขับที่ทันสมัยผ่านจอโค้ง BMW Curved Display ซึ่งเป็นระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ ทำงานร่วมกับระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน พร้อมระบบความบันเทิงและการสื่อสารล้ำสมัยด้วยจอ Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับจอแสดงข้อมูล 12.3 นิ้ว นอกจากนี้ ระบบ BMW ConnectedDrive และ BMW Connected Package Professional ยังนำเสนอคุณสมบัติและบริการขั้นสูงมากมายที่ช่วยให้การขับขี่สะดวก มีประสิทธิภาพ และสนุกสนานยิ่งขึ้น ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon มอบประสบการณ์เสียงคุณภาพสูงอันดื่มด่ำที่สามารถปรับแต่งได้ จึงช่วยให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ประทับใจยิ่งขึ้น 

          ความปลอดภัยในการขับขี่ได้รับการยกระดับไปอีกขั้นด้วยระบบต่าง ๆ ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ได้แก่ ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ระบบควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน (DBC) ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (BA) เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash sensor) ระบบ Teleservices และปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call)

          บีเอ็มดับเบิลยู M2 โฉมใหม่ มีมาให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีฟ้า Zandvoort Blue Solid, สีขาว Alpine White Solid, สีแดง Toronto Red Metallic, สีเทา Brooklyn Grey Metallic และสีดำ Black Sapphire Metallic โดยสามารถเลือกการตกแต่งภายในด้วยเบาะหนัง Vernasca ในสี Black/Exclusive Highlight, สี Black/Contrast Stitching Blue, และสี Cognac Decor Stitching หรือเบาะหนัง Alcantara/Sensatec Combination ในสี Black/Contrast stitching Blue และที่สำคัญ ลูกค้าสามารถทำการจองบีเอ็มดับเบิลยู M2 โฉมใหม่ ได้ทางออนไลน์ ผ่าน https://shop.bmw.co.th โดยลูกค้าสามารถเลือกปรับแต่งรถยนต์ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกสีภายนอก ภายใน รวมถึงตัวเลือกล้ออีก 2 ตัวเลือก ได้แก่ ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา M ลาย 930 M Double Spoke แบบสลับสี หรือ สีดำ Jet Black  


บีเอ็มดับเบิลยู M340i xDrive 

ราคาจำหน่าย: 4,199,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปีหรือ 60,000 กม.)

บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport

ราคาจำหน่าย: 2,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปีหรือ 60,000 กม.)


          บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ใหม่ ที่มาพร้อมกับการปรับปรุงดีไซน์และเทคโนโลยีใหม่ทั้งภายในและภายนอก ด้วยการออกแบบสไตล์สปอร์ตหรูหราและเน้นการควบคุมที่คล่องตัว บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ใหม่ ได้สร้างมาตรฐานใหม่ล่าสุดให้กับความเพลิดเพลินในการขับขี่ในกลุ่มรถยนต์ระดับพรีเมียมขนาดกลาง 

          การปรับปรุงเฉพาะจุดบริเวณกันชนหน้าและกันชนหลังชูความโฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ตให้โดดเด่นกว่าที่เคย ไฟหน้าและกระจังหน้าทรงไตคู่แบบใหม่ส่งให้ตัวรถสะดุดตายิ่งขึ้น ไฟหน้า Adaptive LED ถูกออกแบบให้เรียวลง ส่วนไฟส่องสว่างตอนกลางวันถูกออกแบบใหม่ในรูปทรงตัว L กลับหัว มอบรูปลักษณ์ภายนอกที่กลมกลืนและล้ำสมัยกว่าเดิม ภายนอก ตกแต่งภายนอกด้วยวัสดุสีเงาดำ นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู M340i xDrive ยังมาพร้อมกับโคมไฟหน้าตกแต่งสีดำอีกด้วย 

          การออกแบบห้องโดยสารเน้นความทันสมัยและระบบดิจิทัลเป็นหัวใจสำคัญ โดยลดปุ่มสั่งงานต่าง ๆ เพื่อรองรับการควบคุมแบบสัมผัสและการสั่งงานด้วยเสียง หน้าจอแสดงข้อมูลขนาด 12.3 นิ้วหลังพวงมาลัยและหน้าจอควบคุมขนาด 14.9 นิ้ว ถูกผสานรวมกันเป็นจอแสดงผลดิจิทัลแบบโค้ง BMW Curved Display เพื่อสร้างการนำเสนอแบบดิจิทัลที่ให้ความคมชัดสูง ซอฟต์แวร์ที่มากับจอยังได้รับการอัปเกรดเป็นระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Sport Steptronic และแป้นเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย รวมไปถึงคันเกียร์แบบใหม่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

          บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินปลั๊กอินไฮบริดและเทคโนโลยี TwinPower Turbo ให้กำลังรวมสูงสุด 292 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุดที 420 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 5.8 วินาที และบีเอ็มดับเบิลยู M340i xDrive มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียงพร้อมเทคโนโลยี M TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 387 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,900 - 5,000 รอบต่อนาที สามารถพุ่งทะยานจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 4.4 วินาที บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู M340i xDrive ยังให้ความเร็วสูงสุดที่ 230 และ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามลำดับ

          ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) และระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรค (ABS) ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อช่วยควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ใหม่ ยังมีระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เซนเซอร์ควบคุมความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง และระบบเตือนสถานะของยางอีกด้วย ส่วนระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้างมีมาในเฉพาะบีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport นอกจากนี้ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ใหม่ ยังสามารถใช้ประโยชน์จากบริการด้านดิจิทัลผ่านหน้าจอ BMW Live Cockpit Professional โดยสามารถตั้งค่าการแสดงผลต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ หรือเลือกช่องทางในการเชื่อมต่อสื่อสารและควบคุมได้ตามความถนัด ทั้งผ่านจอ Control Display ระบบสัมผัส ระบบการสั่งงานด้วยเสียง ระบบเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัดผ่านบริการ BMW ConnectedDrive และระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon ในรุ่น 330e M Sport และ M340i xDrive เสริมความพึงพอใจและความสะดวกสบายในห้องโดยสารยิ่งขึ้น


บีเอ็มดับเบิลยู X4 M Competition

ราคาจำหน่าย: 8,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปีหรือ 60,000 กม.)


          สำหรับนักขับที่มองหาความแรงที่เหนือกว่าไปอีกขั้น รับรองได้ว่าจะต้องประทับใจไปกับที่สุดแห่งสมรรถนะจากบีเอ็มดับเบิลยู X4 M Competition ที่เติมพลังให้เหนือกว่า X4 M รุ่นเดิมด้วยชุดแต่ง Competition เสริมให้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ M TwinPower Turbo ขนาด 2,993 ซีซี มอบความแรงได้ถึง 375 กิโลวัตต์ / 510 แรงม้า ขณะที่การเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ทำได้ในเวลาเพียง 4.0 วินาทีเท่านั้น ประสิทธิภาพเต็มพิกัดของบีเอ็มดับเบิลยู X4 M Competition นี้ เป็นผลพวงจากการผนึกรวมนวัตกรรมที่อยู่เบื้องหลังความแรงสไตล์รถแข่งของบีเอ็มดับเบิลยู M3 และ M4 เช่น เพลาข้อเหวี่ยงน้ำหนักเบาที่ช่วยส่งแรงบิดและพละกำลังรอบเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น และระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์ที่ผ่านการทดสอบบนสนามแข่งมาแล้ว 

          ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยู X4 M Competition มีความคล่องตัวสูง ผสมผสานข้อได้เปรียบจากการส่งพลังลงสู่ทั้งสี่ล้อที่ช่วยให้รถเกาะถนนมากขึ้น เข้ากับความสนุกและคล่องตัวในแบบรถขับเคลื่อนล้อหลัง โดย M xDrive จะทำงานร่วมกับระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (Dynamic Stability Control) เพื่อส่งแรงบิดไปยังเพลาหน้าเฉพาะในกรณีที่ได้ส่งกำลังเต็มพิกัดไปที่ล้อหลังผ่านระบบเกียร์ 8 จังหวะแบบ M Steptronic พร้อมเทคโนโลยี Drivelogic ขณะที่ระบบเบรกประสิทธิภาพสูง BMW M Compound Brake ก็ชะลอและหยุดรถได้อย่างมั่นใจ พร้อมเติมมาดเข้มด้วยคาลิเปอร์สีดำขลับ 

          รูปลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู X4 M Competition เปี่ยมด้วยความสปอร์ตไม่ต่างจากสมรรถนะของตัวรถ ด้วยรูปทรงที่ได้แรงบันดาลใจจากรถสปอร์ตคูเป้ กระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ที่เสริมด้วยชุดแต่ง BMW Individual High-Gloss Shadow Line with Extended Contents ส่วนไฟหน้า LED มาในทรงเรียวกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ พร้อมเติมความเข้มด้วยโคมไฟหน้าตกแต่งสีดำแบบ BMW M Light Shadow Line ขณะที่ด้านท้ายรถก็โดดเด่นด้วยการออกแบบช่องทรงสี่เหลี่ยมคางหมูบริเวณป้ายทะเบียนที่กันชนท้าย พร้อมด้วยท่อไอเสีย 4 ท่อ 2 คู่ ในสีดำโครเมียม ติดตั้งประกบอยู่ทั้งสองข้างของดิฟฟิวเซอร์ สอดรับกับความดุดันในโทนสีดำที่ล้อแม็ก 21 นิ้วแบบ M light alloy ในดีไซน์ Double-spoke แบบสลับสี 

          บีเอ็มดับเบิลยู X4 M Competition คงความสปอร์ตภายในห้องโดยสารด้วยเบาะหนังสปอร์ตแบบ M เข็มขัดนิรภัยแบบ M และพื้นผิวภายในที่ตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมหลังคากระจก Panorama นอกจากฟังก์ชันมากมายในระบบ BMW Live Cockpit Professional แล้ว X4 M Competition รุ่นนี้ยังมีระบบช่วยการขับขี่ Driving Assistant รุ่น Professional ติดตั้งมาให้ มอบความสะดวกสบายในการขับขี่ที่เหนือกว่าผ่านระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Stop & Go (Active Cruise Control with Stop & Go) นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลของตัวรถได้จากระยะไกล ผ่านกุญแจ BMW Display Key


บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 Sport ใหม่

ราคาจำหน่าย: 5,299,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)


          บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 Sport ใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าใหม่ล่าสุด พร้อมเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติและการเชื่อมต่ออีกมากมาย เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานยิ่งขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฟฟ้าซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสมรรถนะการขับขี่ในระยะยาวไกลยิ่งขึ้นและอัตราเร่งที่ทรงพลังด้วยความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.1 วินาที ส่งพละกำลังรวมสูงสุด 240 กิโลวัตต์ / 326 แรงม้า ระบบ BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ห้านี้ยังทำงานพร้อมเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุด มอบระยะทางขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าตามมาตรฐาน WLTP สูงสุด 372 - 425 กิโลเมตร และ 420 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC สร้างแรงบิดรวมได้สูงสุดถึง 630 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แรงดันสูงในบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 Sport ใหม่ มีความจุพลังงานสุทธิ 76.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 150 กิโลวัตต์ จึงสามารถชาร์จจาก 0% ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 34 นาที 

          เทคโนโลยีแชสซีที่ใช้ในการพัฒนาบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 Sport ประกอบด้วยเพลาหน้าแบบปีกนกคู่ เพลาหลังแบบ five-link ช่วงล่างแบบปรับระดับได้ และระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถขณะขับขี่ (Servotronic) แปรผันตามการหมุนและความเร็วเสริมด้วยยางที่มีชั้นโฟมบริเวณพื้นผิวด้านในเพื่อลดการเกิดเสียง

          อีกหนึ่งเอกลักษณ์ใหม่ที่ไม่ซ้ำใครของบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 Sport ใหม่ คือ ดีไซน์ภายนอกที่มีเส้นสายการออกแบบชัดเจนทรงพลัง แต่ยังคงความเรียบง่ายและบึกบึนสไตล์ SAV รายละเอียดขององค์ประกอบต่าง ๆ สื่อถึงความประณีตและความหรูหราล้ำยุค โดดเด่นสะดุดตาด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ที่เกือบปิดทึบ สะท้อนถึงนวัตกรรมการผลิตที่ล้ำสมัย ส่วนกล้องและเรดาร์เซนเซอร์ฝังอยู่ภายใต้พื้นผิวของกระจังหน้า โดดเด่นด้วยไฟหน้าและไฟท้ายที่เรียวยาวที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู มือจับประตูที่เปิดด้วยการกดปุ่ม หน้าต่างไร้ขอบ และฝากระโปรงท้ายบานใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่บริเวณท้ายรถทั้งหมด 

          การออกแบบภายในห้องโดยสารมุ่งนำเสนอแนวคิดของการใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ พื้นที่กว้างขวางและเบาะที่นั่งแบบใหม่ที่มาพร้อมกับพนักพิงศีรษะเสริมความหรูหรายิ่งขึ้น คอนโซลกลางมาในดีไซน์เฉียบไม่แพ้เฟอร์นิเจอร์หรู สวิตซ์ปรับเบาะนั่งคู่หน้า ปุ่มควบคุม iDrive และสวิตซ์เปลี่ยนเกียร์แบบ rocker switch ตกแต่งด้วยคริสตัล เติมเต็มความทันสมัยยิ่งขึ้นภายในห้องโดยสาร พร้อมเน้นย้ำถึงการออกแบบห้องโดยสารเพื่อผู้ขับขี่ด้วยจอ BMW Curved Display พวงมาลัยทรงหกเหลี่ยมและจอ Head-Up Display หลังคาภายในสีดำ Anthracite มาพร้อมกับระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Harman Kardon Surround Sound System ขนาด 655 วัตต์ พร้อมลำโพง 18 ตัว ที่สร้างประสบการณ์รับฟังที่ดีที่สุด

          บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 Sport ใหม่ มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และนวัตกรรมหลากหลายเหนือกว่ารถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทุกรุ่น พร้อมเซนเซอร์เจเนอเรชั่นใหม่ ซอฟต์แวร์ใหม่ และแพลตฟอร์มในการประมวลผลที่ทรงพลัง ใช้กล้อง 5 ตัว เรดาร์เซนเซอร์อีก 5 ตัว และอัลตร้าโซนิกเซนเซอร์ 12 ตัวในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบคัน ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go เสริมการทำงานด้วยระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus) ประกอบด้วยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera) แสดงภาพพื้นที่โดยรอบของรถให้เห็นแบบสามมิติผ่านระบบ Remote 3D View พร้อมด้วยระบบ BMW Live Cockpit Professional และระบบสั่งงานอัจฉริยะ BMW Natural Interaction 

          ระบบความปลอดภัยในบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 Sport ใหม่ ได้รับการติดตั้งมาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยผู้โดยสารและผู้ที่อยู่รอบรถยนต์เป็นที่ตั้ง ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่อัตโนมัติ (ASC) ระบบควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน (DBC) ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (BA) เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash sensor) ระบบ Active Protection ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ระบบ Teleservices และปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call)

          รถยนต์รุ่นนี้มากับตัวเลือกสีตัวถังมากมายได้แก่ สีแดง Aventurin Red, สีดำ Black Sapphire, สีขาว Mineral White, สีเทา Storm Bay, สีน้ำเงิน Phytonic Blue และสีฟ้า Blue Ridge Mountain 


บีเอ็มดับเบิลยู iX3 M Sport ใหม่

ราคาจำหน่าย: 3,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)


          บีเอ็มดับเบิลยู iX3 M Sport มาพร้อมเอกลักษณ์สุดล้ำ ประสานประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับความหนาแน่นและความจุพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของแบตเตอรี่แรงดันสูง พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า แผงวงจรไฟฟ้า เทคโนโลยีการชาร์จ และแบตเตอรี่แรงดันสูงรุ่นล่าสุด ที่ได้รับการยกระดับในด้านสมรรถนะการทำงาน การใช้พลังงานไฟฟ้า และระยะทางในการขับขี่ เพิ่มความหนาแน่นและศักยภาพของกำลังไฟฟ้าด้วยการรวมมอเตอร์ไฟฟ้า วงจรอิเล็กทรอนิกส์ และระบบเกียร์ไว้ภายใต้โครงสร้างเดียวกัน เช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู iX

          ระบบขับเคลื่อนรุ่นใหม่ในบีเอ็มดับเบิลยู iX3 M Sport ส่งพละกำลังสูงสุด 210 กิโลวัตต์/286 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ซึ่งโดดเด่นกว่ามอเตอร์ไฟฟ้าในรุ่นอื่น ๆ ด้วยความสามารถในการคงแรงบิดได้แม้ระหว่างรอบสูง โลดแล่นจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับขี่สนุกอย่างอุ่นใจด้วยระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-actuator wheel slip limitation) ปริมาตรความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่การติดตั้งและน้ำหนัก ส่วนความจุพลังงานรวมอยู่ที่ 80 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยสามารถนำมาใช้งานได้สูงสุด 74 กิโลวัตต์ชั่วโมง เพื่อขับเคลื่อนให้บีเอ็มดับเบิลยู iX3 ขับขี่ได้ไกลถึง 460 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP และ 470 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

          เทคโนโลยีระบบชาร์จใหม่ล่าสุดเติมพลังงานสู่แบตเตอรี่ 400 โวลต์ และแหล่งจ่ายไฟ 12 โวลต์แก่อุปกรณ์ต่าง ๆ ในรถ หากใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ สามารถชาร์จด้วยระบบไฟแบบ 1 เฟส และ 3 เฟส ได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ และเมื่อชาร์จแบบรวดเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง จะรับพลังงานได้สูงสุด 150 กิโลวัตต์ แบตเตอรี่แรงดันสูงในบีเอ็มดับเบิลยู iX3 ยังรองรับการชาร์จจาก 0 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ได้ภายใน 34 นาที 

          บีเอ็มดับเบิลยู iX3 M Sport มาพร้อมระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แบบแปรผัน (Adaptive recuperation) เพิ่มสมรรถนะและความสะดวกสบายระหว่างการขับขี่ ระดับการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่จะแปรผันตามสภาวะถนน ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลในระบบนำทางและเซนเซอร์ในระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้ตามต้องการ ระหว่างระดับสูง ปานกลาง และต่ำ เมื่อเข้าเกียร์ D และระบบ Recuperation จะทำงานอัตโนมัติในระดับสูงเมื่อเข้าเกียร์ B เพื่อสร้างประสบการณ์ในการขับขี่ยนตรกรรมไฟฟ้าอันเฉพาะตัวของบีเอ็มดับเบิลยู 

          แบตเตอรี่แรงดันสูงรุ่นล่าสุดนี้ติดตั้งอยู่ใต้ตัวรถ จึงช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงลงประมาณ 7.5 เซนติเมตร เมื่อเทียบกับ X3 รุ่นอื่น ๆ ระบบช่วงล่างแบบ Adaptive ปรับระดับด้วยไฟฟ้าตามสภาพถนนและสภาวะการขับขี่

          รูปโฉมภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู iX3 M Sport ยังคงสัดส่วนที่โฉบเฉี่ยวสไตล์ SAV มาพร้อมความแข็งแกร่งระดับพรีเมียมและความอเนกประสงค์ของตระกูล X โดดเด่นด้วยองค์ประกอบการดีไซน์เฉพาะรุ่นอย่างชิ้นส่วนแอโรไดนามิกส์ต่าง ๆ สอดแทรกด้วยดีไซน์ที่สื่อถึงความยั่งยืน กระโปรงหน้าและกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่มาในดีไซน์ปิดทึบ ท้ายรถมาพร้อมการออกแบบเพื่อลดแรงต้านอากาศ

          ไฮไลท์ของบีเอ็มดับเบิลยู iX3 ยังอยู่ที่ความหลากหลายในการใช้งาน มาพร้อมพื้นที่กว้างขวางกว่า X3 รุ่นอื่น ๆ เบาะหลังพับได้แบบ 40 : 20 : 40 ช่วยเพิ่มปริมาตรการบรรจุสัมภาระจาก 510 ถึง 1,560 ลิตร เสริมความเอ็กซ์คลูซีฟด้วยระบบเสียง BMW IconicSounds Electric ซึ่งมาเป็นมาตรฐานสร้างทำนองเสียงไม่ซ้ำใครเมื่อสตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์จากผลงานของ Hans Zimmer ล้อ M aerodynamic ขนาด 20 นิ้วแบบสลับสี เสริมประสิทธิภาพด้านแอโรไดนามิกส์ยิ่งขึ้น ไฟหน้า Adaptive LED เสริมฉนวนกันเสียงที่ประตูหน้า และยังมีอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อเสริมความสะดวกสบายแบบพรีเมียมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบ

          ปลดล็อกประตู Comfort Access เบาะหนัง Vernasca ตอนหน้าดีไซน์แบบสปอร์ต จอ BMW Head-Up Display ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ และระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติรุ่น Plus พร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ยกระดับความสะดวกสบายและความปลอดภัยแบบเอ็กซ์คลูซีฟยิ่งขึ้นด้วยระบบ BMW gesture control ระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon ระบบ BMW Live Cockpit Professional และ BMW Intelligent Personal Assistant

          บีเอ็มดับเบิลยู iX3 M Sport มาให้เลือกใน 5 สี ได้แก่ สีดำ Carbon Black, สีขาว Mineral White, สีน้ำเงิน Phytonic Blue, สีแดง Piemont Red และสีเทา Sophisto Grey

 

บีเอ็มดับเบิลยู i4 eDrive35 M Sport ใหม่

ราคาจำหน่าย: 3,899,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)


          บีเอ็มดับเบิลยู i4 eDrive35 M Sport ใหม่ เป็นรถยนต์ Gran Coupé สี่ประตูที่ผสมผสานความโอ่อ่ากว้างขวางภายในตัวรถเข้ากับการใช้งานจริง พร้อมโลดแล่นบนท้องถนนกับความโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตซึ่งเป็นความโดดเด่นของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู รวมถึงคุณสมบัติหลากหลายที่ทำให้การเดินทางไกลอุ่นใจยิ่งขึ้น 

          บีเอ็มดับเบิลยู i4 eDrive35 M Sport ใหม่ ผสมผสานมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 210 กิโลวัตต์ / 286 แรงม้า เข้ากับระบบขับเคลื่อนล้อหลังแบบคลาสสิก มอบระยะวิ่งสูงสุดถึง 483 กิโลเมตร อัตราการใช้ไฟฟ้ารวม 18.7 – 15.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP  และระยะทางวิ่งสูงสุด 490 กิโลเมตร อัตราการใช้ไฟฟ้ารวม 15.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC รถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมกับแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร มอบอัตราเร่ง 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 6 วินาที ประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ตยังมาพร้อมกับเสียงอันทรงพลังที่ีตอบสองในจังหวะการเร่งเครื่องซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น เทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 ยังประกอบด้วยแบตเตอรี่แรงดันสูงพร้อมด้วยเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุด โดยมีความจุพลังงานแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ 70.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถชาร์จไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC) สูงสุดได้ที่ 180 กิโลวัตต์ ใช้เวลาประมาณ 35 นาที ในการชาร์จไฟจาก 0 – 80%

          ช่วงหน้าของรถที่สั้นลง เสาทรงเพรียว ประตูพร้อมหน้าต่างแบบไร้ขอบ และหลังคาท้ายลาดที่ออกแบบมาอย่างโฉบเฉี่ยวตามแบบฉบับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูคูเป้ พร้อมระบบไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ และกระจังหน้าทรงไตคู่ของบีเอ็มดับเบิลยูที่มาพร้อมกับกล้องที่แฝงตัวอยู่ภายใน เซ็นเซอร์แบบเรดาร์และอัลตราโซนิก ล้วนแล้วแต่เป็นคุณสมบัติเด่นในส่วนหน้าของตัวรถ รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i4 eDrive35 M Sport ใหม่ ยังตกแต่งภายนอกด้วยชุดตกแต่ง M Sport พร้อมวัสดุสีเงาดำ คาลิเปอร์เบรกดีไซน์ M Sport สปอยเลอร์ท้ายดีไซน์ M ความสะดวกสบายของผู้ขับขี่ได้รับการยกระดับให้ดียิ่งขึ้นด้วยระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า และระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ นอกจากนั้น ล้อ M aerodynamic น้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้ว แบบสลับสี ยังช่วยเพิ่มรูปลักษณ์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยวให้กับรถรุ่นนี้อีกด้วย

          ภายในห้องโดยสารเน้นการใช้งานสำหรับผู้ขับขี่ เสริมด้วยบรรยากาศแห่งความหรูหราระดับพรีเมียม พร้อมพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง พร้อมตกแต่งด้วยอลูมิเนียมลาย ‘Mesheffect’ เบาะนั่งปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่ง แผงหน้าปัดรถยนต์หุ้มหนัง Sensatec ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน และชุดไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ช่วยเสริมที่สุดแห่งความเพลิดเพลินและความสะดวกสบายในระหว่างการขับขี่

          ระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 ได้รับการออกแบบมาโดยเน้นการใช้งานหน้าจอสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display และการสั่งการด้วยเสียงผ่านระบบผู้ช่วยส่วนตัว BMW Intelligent Personal Assistant ที่ถูกพัฒนามาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หน้าจอดิจิทัล BMW Curved Display มาพร้อมจอแสดงข้อมูลขนาด 12.3 นิ้ว และจอควบคุมระบบสัมผัสขนาด 14.9 นิ้ว หน้าจอโค้งด้วยองศาที่รับกับมุมสายตาของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ BMW Live Cockpit Plus ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานพร้อมระบบเครื่องเสียง HiFi loudspeaker ให้ผู้รักเสียงเพลงได้เพลิดเพลินไปกับคุณภาพเสียงที่คมชัดยิ่งขึ้น ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนยังช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าถึงแอปพลิเคชันโปรดและความบันเทิงอย่างไร้รอยต่อในขณะเดินทาง นอกจากนี้ ระบบ BMW lconicSounds Electric ยังมาพร้อมกับเสียงประกอบต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์ผ่านความร่วมมือระหว่างบีเอ็มดับเบิลยูและ Hans Zimmer นักประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดัง 

          หลากหลายระบบตัวช่วยถูกติดตั้งเพื่ออำนวยความสะดวกสบายและยกระดับความปลอดภัยในขณะขับขี่และเมื่อจอดรถ บีเอ็มดับเบิลยู i4 eDrive35 M Sport ใหม่ โดดเด่นด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่น Stop&Go และระบบช่วยการขับขี่ มาพร้อมกับระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่อัตโนมัติ (ASC) ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) ระบบควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน (DBC) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน และระบบ Teleservices 

          บีเอ็มดับเบิลยู i4 eDrive35 M Sport ใหม่ มีให้เลือก 4 สี คือ สีดำ Black Sapphire, สีขาว Mineral White, สีเทา M Brooklyn Grey และสีน้ำเงิน M Portimao Blue




FIRST DRIVE

ลองขับ Honda e:N1 รถพลังงานไฟฟ้าที่ตั้งใจให้ขับใช้งานจริง
ลองขับ New Honda City Hatchback ปรับโฉมครั้งนี้ จะดีแค่ไหน
สัมผัส Hyundai IONIQ 5 เจ้าของ 3 รางวัล World Car Award 2022
Mitsubishi ชวนทดสอบ Xpander และ Xpander Cross HEV ฟูลไฮบริดครั้งแรกของแบรนด์
ขับ Nissan Navara ขึ้นดอย เอ็นจอยกาแฟ
อีซูซุจัดกิจกรรม “Isuzu V-Cross 4x4 Unlock the Master Spirit” ชวนลูกค้าเปิดประสบการณ์ออฟโรดสุดมันรูปแบบใหม่ ที่เขาใหญ่
ฮอนด้า พาสื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะ “ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่” บนเส้นทางจากภูเก็ต-พังงา-กระบี่ กว่า 268 กิโลเมตร
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย นำสื่อมวลชนสัมผัสสุดยอดเทคโนโลยีในงาน BMW Beyond Electric Chapter II
GWM โชว์สมรรถนะรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จัดคาราวาน ORA GOOD CAT เดินทาง ไป - กลับ กรุงเทพฯ – สิงคโปร์
ฟอร์ดท้าสื่อพิสูจน์ความดุดันไม่เกรงใจใครของ 'ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่'



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

V.A & Sons Co.,Ltd. / Advance Activity Co.,Ltd.
21 Soi Viphavadee 32, Viphavadee-Rangsit Road, Jatujak, Bangkok 10900 Thailand
Tel. 02-5114020-2 Fax. 02-5114023