dot




BMW R nineT ขี่สนุก ออปชันพอตัว

 

 BMW R nineT ขี่สนุก ออปชันพอตัว

 

 

BMW R NineT มอเตอร์สายเท่ สาย Heritage วัยรุ่น 90 ชอบ! ยิ่งได้ผสมผสานกับเครื่องยนต์ BMW ใส่เทคโนโลยีสมัยใหม่พอหอมปากหอมคอเอาไว้ได้อย่างลงตัว

 

 

 

ชุดไฟด้านหน้า LED ทรงกลมโตสไตล์คลาสสิก พร้อมไฟ DRL ที่มีฟังก์ชันไฟหน้าอัตโนมัติ เมื่อเข้าในที่แสงน้อยหรือที่มืดไฟหน้าจะติดขึ้นมา มีความสว่างชัดเจนมาก ไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงไฟท้ายก็เป็นไฟ LED และไฟเบรก นอกจากนี้ BMW R nineT ได้เพิ่มฟังก์ชัน Dynamic Brake Light เมื่อเบรกฉุกเฉิน ไฟท้ายและไฟเลี้ยวจะกะพริบถี่ๆ เพื่อเตือนให้รถคันหลังได้ระวัง

 

 

มาดูในส่วนของเรือนไมล์ทรงกลมแนวโมเดิร์นคลาสสิก ที่มีทั้งแอนะล็อกและดิจิทัล หน้าจอแสดงข้อมูลได้เกือบครบ ยกเว้นเกจ์ที่สำคัญ…นั่นคือ เกจ์ระดับเชื้อเพลิงที่ไม่ได้มีมาให้ จะรู้ก็ตอนที่มีไฟเตือนระดับน้ำมันที่ยังวิ่งได้อีกประมาณ 50 กิโลเมตร ต้องหาปั๊มเติมน้ำมัน เรือนไมล์ทรงกลมทั้ง 2 วงแบ่งข้อมูลชัดเจน

 

     

 

ด้านขวาเป็นวัดรอบแบบเข็ม และด้านล่างจะมีข้อมูลบอกทั้งระดับแบตเตอรี่ ตำแหน่งเกียร์ ความเร็วเฉลี่ย อัตราการบริโภคน้ำมันเป็นต้น และมีเพิ่มเติมขึ้นมาบริเวณใกล้กับเครื่องยนต์นั้นก็คือ USB ที่เอาไว้ชาร์จไฟมือถือ หรืออุปกรณ์ GPS

เรือนไมล์ฝั่งด้านซ้ายจะเป็นเข็มวัดความเร็ว ไฟบอกตำแหน่งเกียร์ว่าง บอกโหมดการขับขี่ อุณหภูมิภายนอก ทริป A ทริป 1 ทริปรวม เป็นต้น

 

 

ถังน้ำมันที่มีความจุ 18 ลิตร ดีไซน์ได้สวยงามลงตัว ไม่ว่าจะเป็นส่วนเว้าให้พอดีกับการวางเข่า ไม่ว่าจะเป็นท่านั่ง ท่ายืน รวมถึงเวลาเข้าโค้ง แถมยังออกแบบมาให้เข้ากับเบาะนั่งแบบตอนเดียว ดีไซน์สวยงามเข้ากับตัวรถแถมยังให้ท่าทางการขับขี่ที่สบาย รับกับตำแหน่งแฮนด์บาร์ทรงกว้างของตัวรถอย่างลงตัว ไม่ก้มหน้าหรือนั่งจนหลังตรงจนเกินไป

ประกับด้านขวาจะมีปุ่มเปลี่ยนโหมดการขับขี่ทั้ง 3 แบบ ไล่ลงมาเป็นปุ่มดับเครื่องยนต์ และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ส่วนประกับทางด้านซ้ายจะมีอยู่หลายปุ่ม ทั้งปุ่มไฟ Passing ปุ่มไฟสูง ปุ่มดูข้อมูล เมนูที่เลื่อนขึ้นลงได้ ปุ่มไฟเลี้ยว แตร ส่วนก้านเบรกมือและคลัตช์ปรับความแข็ง-อ่อน ได้ 5 ระดับ

 

   

 

ช็อกอัพด้านหน้าเป็นแบบ Up Side Down กระบอกสีทองขนาดแกน 46 มิลลิเมตร ส่วนด้านหลังมาพร้อม Mono Shock ซึ่งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ปรับตั้งค่าการทำงานของช็อกอัพได้ค่อนข้างละเอียด

ระบบเบรกด้านหน้าเป็นแบบดิสก์เบรกคู่ขนาด 320 มิลลิเมตร ใส่คาลิเปอร์เบรก Brembo แบบ 4 พอร์ต ส่วนด้านหลังมาพร้อมกับจานดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 265 มิลลิเมตร ที่ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์เบรกจาก BMW แบบ 2 พอร์ต

ส่วนล้อและยางของ BMW R NineT ด้านหน้าใส่ล้อซี่ลวดขนาด 17 นิ้ว ใส่ยางของ Michelin Road5 ขนาด 120/70 ZR17 ในส่วนของล้อด้านหลังก็เป็นแบบซี่ลวดขนาดล้อ 17 นิ้ว ใส่ยาง Michelin Road5 ขนาด 180/55 ZR17 ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบเพลา และ PRO ARM มีความสวย เท่ เข้ากับท่อคู่ที่ออกทางด้ายซ้ายเป็นของ Akrapovic ที่ให้เสียงทุ่ม นุ่ม ไพเราะ

 

 

มาดูหัวใจสำคัญของ BMW R NineT ที่ใส่เครื่องยนต์ Boxer วางนอนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ขนาด 1,170 ซี.ซี. ระบายความร้อนด้วยอากาศและมี Oil Cooler ไว้ระบายความร้อนของน้ำมันเครื่อง และใกล้ๆ กันกับ Oil cooler นั้นคือกันสะบัด ป้องกันอาการชกลม หรือหน้าส่ายเวลาลงหลุมหรือใช้ความเร็ว และเครื่องยนต์นี้มีการเปลี่ยนแปลงหัวลูกสูบใหม่ให้เผาไหม้ได้สะอาดมากยิ่งขึ้น โดยส่วนหนึ่งเป็นการปรับปรุงระบบ Turbulence System ใหม่ เพื่อให้อากาศกับน้ำมันเชื้อเพลิงเคลื่อนที่เพื่อการเผาไหม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ในส่วนของกำลังของเครื่องยนต์มีแรงม้า 109 แรงม้า ที่ 7,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 116 นิวตันเมตร แต่ได้ปรับปรุงแรงบิดให้เพิ่มมากขึ้นในรอบความเร็ว 4,000-6,000 รอบต่อนาที ส่งผลให้อัตราการเร่งแซงในช่วง 60-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ 100-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดีขึ้นกว่าเดิมแถมยังผ่านมาตรฐานมลพิษ EU5

โหมดการขับขี่มีมาให้ 3 โหมด เลือกปรับใช้งานได้ตามสถานการณ์ทั้ง Rain Mode โหมดการขับขี่ที่เหมาะกับสภาพถนนที่เปียกลื่น หรือฝนตก , Road Mode โหมดการขับขี่ใช้งานทั่วไปในสภาวะสภาพถนนปกติ และ Dyna Mode จะมาเต็มทุกโหมดความแรง เป็นโหมดที่ขี่คนเดียวได้สนุกมาก

 

 

ระบบความปลอดภัยให้มาระดับหนึ่ง อาทิระบบ ABS Pro + DBC (Dynamic Brake Control) ซึ่งระบบ ABS Pro จะทำงานร่วมกันกับ DBC เพื่อช่วยส่งแรงเบรกสูงสุดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยคำนวณจากระบบเซนเซอร์ที่ถูกติดตั้งไว้จากพื้นผิวถนน มุมเอียงตัวรถ เพื่อคำนวณแรงเบรกได้อย่างปลอดภัยกับสถานการณ์ตรงหน้า

ระบบ DTC (Dynamic Traction Control) + MSR (Engine Brake Control) คือระบบ DCT ที่จะทำงานร่วมกับ MSR เพื่อช่วยสร้างเสถียรภาพสูงสุดสำหรับการขับขี่ โดยจะมีเซนเซอร์คอยตรวจจับการเอียงของรถ จังหวะการเชนเกียร์ การเบรก เพื่อที่ตัวรถจะส่งกำลังไปยังล้อหลังด้านอย่างเหมาะสม ทำให้ตัวรถไม่เกิดอาการสไลด์ภายในโค้งนั่นเอง

ขี่แล้วคุยหน่อย BMW R NineT ดูจากภายนอกอาจจะดูคันใหญ่ เพราะด้วยตัวเครื่องที่เป็นแบบสูบนอน ขยายออกทางด้านข้างประกอบกับตัวถังน้ำมันที่มีขนาดใหญ่ เลยทำให้ด้านหน้าของตัวรถมีขนาดใหญ่ แต่ถ้ามองจากทางด้านหลังจะดูเพรียวเล็ก มองดูจากทางด้านข้างจะดูสมส่วน

 

 

หลังเปิดสวิตช์กุญแจ สตาร์ทเครื่องแล้วตัวรถจะมีอาการเหวี่ยงออกทางด้านข้างพอรู้สึกได้ จึงไม่ค่อยเหมาะกับการเบิ้ลเครื่องยนต์ ทั้งตอนหยุดนิ่งหรือกำลังขับขี่อยู่ เพราะอาจเกิดการสะบัดได้สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่ชินกับอาการของรถ เมื่อออกตัวรถไปแล้วบอกได้เลยว่า รถบาลานซ์ดีมาก ขี่แล้วมั่นใจ กล้าเล่นกับรถ ขี่ช้าก็เพลิน ขี่เร็วยิ่งสนุก ยิ่งได้การปรับเซ็ตช่วงล่าง บวกกับยางที่ติดรถมา ทำให้การเข้าโค้งนั้น เกาะโค้งดีมาก ผนวกกับโหมดที่ให้มาทั้ง 3 โหมด โดยส่วนตัวชอบโหมด Road มีความแรงที่พอเหมาะ ประกอบกับระบบความปลอดภัยที่พอมีให้พอเหมาะพอดี ระบบเบรกไว้ใจได้ ยิ่งได้เบรกคู่จาก Brembo และมีระบบ ABS Pro ทำให้มั่นใจในการเบรกทั้งทางตรงรวมถึงการเบรกในโค้ง

สรุป ถ้าคุณชอบรถที่มีความเท่ ขี่สนุกด้วย ขี่สบายก็ดี ขี่เที่ยวก็ได้ ขี่ลุยทางฝุ่นก็กำลังดี และราคา 859,000 บาท ก็ตัดสินใจได้ไม่ยาก

 

 

BMW R nineT

ราคา                                      859,000 บาท

เครื่องยนต์                            บ็อกเซอร์ 4 จังหวะ 2 สูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ/น้ำมัน 1,170 ซีซี 

แรงบิดสูงสุด                         116 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รตน.                            

ระบบเบรก                            ดิสก์เบรกคู่ขนาด 320 มม. (น.),  ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 265 มม. (ล.) 

ความเร็วสูงสุด                     เกิน 200 กม./ชม.

น้ำหนักรวม                          221 กก.

ความจุถังน้ำมัน                   17 ลิตร

ล้อและยาง                           ล้อแบบซี่ลวด, ยาง 120/70 ZR17 (น.), 180/55 R17 (ล.)

 

 

 




TEST RIDE

Suzuki Raider J Crossover รถแม่บ้านสายลุย
Yamaha Fazzio Hybrid Connected เหมาะขับในเมือง เร่งแซงสบาย ออกตัวไฟแดงไม่ห้อยท้ายแน่นอน
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Yamaha E01 ขี่ดี มีเกียร์ถอย แต่...ไม่ขาย!
Royal Enfield Himalayan ซีซีน้อย แต่ขี่อร่อยเว่อร์
All New Ducati Monster 937
BMW R1250 GS Adventure คือหนึ่งในใจสายเดินทาง ที่นักขี่หลายคนถวิลหา กับราคาเริ่มต้น 1,105,000 บาท
Ducati 1 คันแต่มันส์ได้ 4 แบบกับ Ducati Multistrada V4 ทัวร์ริ่งก็ซิ่งได้
Test Ride : DUCATI Panigale V4S : Fast Force & Hot!!!
BMW R18 CLASSIC หล่อ เท่ พร้อมค่าตัว 1.25 ล้านบาท
Harley-Davidson FLHT Electra Glide Standard | First Ride Review
Triumph Tiger 900 เสือหล่อ กล้ามใหญ่
Review KTM 790 ADVENTURE ตัวลุยที่ไม่ต้องเขย่ง!
BMW C 650 SPORT BIG SCOOTER ที่มีอะไรมากกว่า บิดอย่างเดียว!
Pan America รถ Adventure คันแรกของ Harley-Davidson!
ทริป HARLEY-DAVIDSON Pan America บุกตะลุยเส้นทางแอดเวนเจอร์
BMW R1250 GS รถ Adventure-Touring ระดับหัวแถวของโลก!
BMW R18 First Edition “เล่นได้ เพราะ Berlin Built " กับราคา 1,150,000 บาท
Triumph Trident 660 เล็ก สั้น มันส์ด้วย!!!
BMW C 400 X Size เล็ก แต่ราคา excite!
BMW F 900 XR : Option เพียบ! แต่ราคาเบา?
Bajaj Pulsar RS200 และ Bajaj Pulsar NS 200 ความเหมือนที่แตกต่าง จากดินแดนภารตะ
Test Ride : Triumph Rocket 3 GT 2,500 ซีซี ที่กล้าท้า Porsche 911 Turbo S ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 2.73 วินาที
TEST RIDE : BMW F 900 R หล่อ แรง ล้ำ!
BMW C 400 GT ทัวร์ริ่งก็ซิ่งได้!
รีวิวน้องใหม่ในเมืองไทย BAJAJ Dominar 400
BMW F850 GS ลุยได้ตามใจสั่ง
รถยักษ์ 2500 ซีซี ใหญ่ที่สุดในโลก! กับ All New Triumph Rocket 3
Harley Davidson Softail Heritage Classic
Triumph Street Scrambler 900 ขี่เท่ ขี่ลุย จบในคันเดียว!
หล่อ แรง สมรรถนะสุดเร้า Triumph Bonneville T120 Black
ลองขี่ Ducati Scrambler icon รถซุกซนของวัยมันส์
Triumph Bonneville Speedmaster
Harley Davidson Softail Low Rider custom by AAS Harley-Davidson of Bangkok
Royal Enfield Continental GT 650 หล่อ ใจดี ขี่สบาย!?!?
ลองของใหญ่ Drag Bike Style กับ Harley-Davidson FXDR V-Twin 1,868 ซีซี
Triumph Scrambler 1200 XE ตำนานความเก๋ามาตั้งแต่ในยุค 60's
Test-Ride : Harley-davidson roadster 1200
DUCATI SCRAMBLER SIXTY 2 บิ๊กไบค์สไตล์วัยรุ่น
ลองจับตั๊กแตนพันธุ์ดุ Triumph Street Triple RS
Triumph Tiger 800 XRT
Harley-Davidson Softail Fat Bob 2018 ฉีกลุคเดิมไปอย่างชัดเจน
คลาสสิกทั้งทีต้อง Triumph Bonneville T120 Black
Iron 1200 มอเตอร์ไซค์สไตล์ย้อนยุค พร้อมพละกำลังแรงสะใจ!
Test ride : Ducati Hypermotard 939
ลองขี่ Harley Davidson Softail Sport Glide
Royal Enfield Classic 500 การออกแบบย้อนยุค สไตล์ช่วงหลังสงคราม
ลองของใหญ่กับ Ducati Scrambler 1100 ตัวท็อปจากตระกูล Scrambler



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

V.A & Sons Co.,Ltd. / Advance Activity Co.,Ltd.
21 Soi Viphavadee 32, Viphavadee-Rangsit Road, Jatujak, Bangkok 10900 Thailand
Tel. 02-5114020-2 Fax. 02-5114023