Haval Jolion : ราคาดี มีของครบ อยากได้เก็บเสียงดีกว่านี้

 

 

           ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้อย่างเป็นทางการ Autocar Thailand มีโอกาสที่ไปเยือนโรงงานผลิตรถยนต์ Haval ที่จังหวัดระยองมาแล้ว และได้สัมผัสรถยนต์รุ่นนี้มาแบบพรีวิวคร่าวๆ ยังไม่เจาะลึกนัก เพราะเป็นแค่การเดินวนเวียนดูรอบคัน แต่ไม่ได้สตาร์ทเครื่องยนต์ไหรือขับไปไหนเลย จนกระทั่งครั้งนี้มีโอกาสที่ได้มาลองขับเพื่อที่จะได้รู้สักทีว่า ราคาที่เปิดตัวมานั้นน่าสนใจถ้าลองขับแล้วจะถูกใจไหมกับ Haval Jolion คันนี้

 

   

 

Haval นั้นเริ่มต้นได้สวยกับรุ่นพี่ของเจ้าสิงโตอารมณ์ดีอย่าง Haval H6 ที่ดึงดูดด้วยราคาที่น่าสนใจ ความแปลกใหม่ในการออกแบบ และฟังก์ชันใช้งานที่เยอะ เรียกว่าเป็นรถยนต์ที่นำเสนอลูกเล่น รายละเอียดต่างๆ มากกว่าด้านสมรรถนะในการขับขี่ก็ว่าได้ ให้อารมณ์ประหนึ่งอุปกรณ์เทคโนโลยีหรือสมาร์ทโฟนเลยประมาณนั้น ซึ่งการที่ลอง Haval H6 ไปก่อนหน้านั้น บอกได้ว่าบางอย่างอาจดูไม่เหมาะหรืออาจแปลกใหม่ไปสำหรับการทำงานในรถยนต์ แต่อย่างไรก็ตามด้วยความแปลกใหม่ที่ว่าก็ทำยอดขายได้เป็นที่น่าพอใจไม่น้อย

 

   

 

หลังจากที่ให้รุ่นพี่อย่าง Haval H6 ออกมาทำตลาดอยู่พักใหญ่ น้องใหม่อย่างสิงโตใจดี Jolion คันนี้ก็ตามมาทันที ด้วยความคล้ายกันเหมือนถอดแบบมาเลยก็ว่าได้เพราะหลายสิ่งหลายอย่างที่มีใน H6 ก็จะเห็นได้ในรุ่น Jolion เช่นเดียวกัน เพียงแต่จะมาในเวอร์ชั่นย่อส่วนลงมาเท่านั้นเอง ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยดีกว่าไม่เสียเวลา

 

      

   

 

          ภายในสวยงามโดดเด่น แปลกตาไม่เหมือนใคร ยกเว้นพี่ใหญ่อย่าง H6 เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าเหมือนกันมากๆ วัสดุที่ใช้เน้นให้ความแวววาว มีความสวยงาม สีสันที่ใช้ก็ได้ความรู้สึกแบบสว่างๆ น่าใช้งาน แต่ก็มีความกังวลเรื่องของการใช้งานในระยะยาวว่าจะมีปัญหาเรื่องของสีลอก สีซีด จืดจางไปบ้างไหม หน้าจอตรงกลางเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถควบคุมการสั่งงานจากตรงนี้ แต่ก็มีจุดที่ไม่ถูกใจเหมือน H6 คือโหมดการขับเคลื่อนที่ต้องเข้ามาเลือกในหน้าจอนี้นั่นเอง ซึ่งขณะที่ขับอยู่นั้น หากอยากเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อนก็ต้องเข้ามากดผ่านตรงหน้าจอ มันซับซ้อนวุ่นวายไปสักหน่อย

 

 

          อีกทั้งขนาดของตัวหนังสือดูจะเหมาะกับการกดใช้งานในขณะที่รถจอดหยุดนิ่งมากกว่า หากมาเล็งปรับโหมดขณะรถวิ่งอยู่ล่ะก็บอกเลยว่าปวดตาแน่นอน ขนาดพื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขวางใช้สอยได้ดี  

 

 

          ภายนอกที่ประทับใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นไฟหน้า มองไปมองมาก็เหมือนกับที่เขาบอกตอนเปิดตัวว่าเหมือนมีเขี้ยวสิงโตอยู่ทั้ง 2 ข้าง สวยงาม ส่องสว่างดี ขับง่าย เห็นชัด ด้านฝาท้าย ไฟท้ายก็ดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไฟเลี้ยวก็ออกแบบมาเข้ากับตัวรถ ดูกลมกลืนกับไฟหน้าและไฟท้าย

 

 

          สำหรับเรื่องของสมรรถนะในการขับใช้งานนั้นต้องบอกก่อนว่าเจ้าสิงโตตัวนี้ไม่ได้เป็นรถยนต์ที่เน้นขับสนุก เน้นสมรรถนะเร้าใจ แต่เน้นความเป็นรถยนต์ที่มีกะทัดรัด ใช้งานง่าย เดินทางไปไหนก็ได้สบายๆ มีราคาจำหน่ายที่น่าสนใจ สามารถเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่มีอยู่ในตลาดได้ โดยกลุ่มเป้าหมายเน้นไปที่คนรุ่นใหม่ ต้องการความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำซากจำเจ แตกต่าง ไม่เหมือนใคร ซึ่งดูจากตัวเลขยอดจำหน่ายก็ต้องยอมรับว่า Haval Jolion นี้ทำได้ดีอย่างน่าแปลกใจ สิ่งที่ต้องรอดูก็คือเรื่องของการซ่อมบำรุงดูแลรักษา และราคาขายต่อที่หลายคนมีคำถามว่าจะสามารถทำราคาได้แค่ไหน ก็ต้องรอดูกันไป แต่ด้วยตัวรถเอง พอลองดูแล้วก็ต้องบอกว่าผ่านครับ...

 

Haval Jolion ULTRA

ราคา                                                      999,000 บาท       

เครื่องยนต์                                             เบนซิน 4 สูบเรียง DOHC 1,497 ซีซี

พละกำลัง                                              95 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที

แรงบิดสูงสุด                                         125 นิวตันเมตร ที่ 4,400-5,200 รอบต่อนาที

ชนิดมอเตอร์                                         ลิเธียมไอออน ขนาด 1.6 kWh

พละกำลังรวมมอเตอร์                          190 แรงม้า            

แรงบิดรวมมอเตอร์                               375 นิวตันเมตร

เกียร์                                                     อัตโนมัติ DHT

ความยาว                                              4,472 มม.

ความกว้าง                                            1,841 มม.

ความสูง                                                1,619 มม.

ระยะฐานล้อ                                         2,700 มม.

ล้อและยาง                                          18 นิ้ว, 225/55 R18