มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ลงนามเอ็มโอยูกับอีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติกส์
ศึกษานำร่องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ เพื่อการพาณิชย์
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เดินหน้าตามแผนดำเนินงานการพัฒนายนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าให้ครอบคลุมการใช้งานทั้งในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและเพื่อการพาณิชย์ โดยมีเป้าหมายส่งเสริมให้ผู้ใช้รถยนต์ชาวไทยหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ผ่านการลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ร่วมกับบริษัท อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินโครงการศึกษานำร่องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicles หรือ BEV) ในประเทศไทย มุ่งทำความเข้าใจ แนวทางการใช้รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ เพื่อการพาณิชย์ และทำการศึกษาข้อมูลจากการใช้งานจริงโดยอีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติกส์
โดยภายใต้บันทึกความเข้าใจนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จะจัดส่งรถยนต์ มิตซูบิชิ มินิแค็บ มีฟ รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ เพื่อการพาณิชย์ จำนวน 1 คัน ให้แก่ อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติกส์ ซึ่งจัดตั้งและถือครองโดยบริษัท ฮิตาชิ ทรานสปอร์ต ซิสเต็มส์ กรุ๊ป หนึ่งในบริษัทชั้นนำ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ทั่วโลกแบบ ‘ครบวงจร’ เพื่อใช้สำหรับการดำเนินธุรกิจการขนส่งสินค้าเป็นเวลา 1 ปี โดยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นดังกล่าว เป็นรถยนต์ที่ได้รับการยอมรับด้านสมรรถนะการขับขี่และการบรรทุกสินค้า ตอบรับการขับขี่ที่เงียบสงบ ประหยัด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเพื่อรองรับการบรรทุกสินค้าที่หลากหลาย
มิตซูบิชิ มินิแค็บ มีฟ ถูกออกแบบเพื่อให้สามารถบรรทุกสินค้าได้สูงสุด 350 กก. พร้อมผู้โดยสาร 2 คน พื้นที่เก็บสัมภาระเมื่อพับเบาะผู้โดยสารลงมีความยาว 2,685 มม. และประตูแบบสไลด์ ช่วยอำนวยความสะดวกในการขนถ่ายสินค้า สามารถรองรับการชาร์จไฟแบบเร็วด้วยหัวชาร์จ CHAdeMO สามารถชาร์จไฟได้สูงสุด 80 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 35 นาที หรือด้วยการชาร์จไฟแบบปกติจนเต็มแบตเตอรี่ 100 เปอร์เซ็นต์ใช้เวลา 7 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีระบบคืนพลังงานขณะเบรก ที่จะช่วยแปลงพลังงานจากการเบรกเป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ขณะขับขี่ และสามารถเป็นแหล่งพลังงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ระบบนิเวศพลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคต หรือ เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ (Dendo Drive House) เหมือนกับ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี อีกด้วย
นอกจากนี้ มร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้จัดส่งรถ มิตซูบิชิ มินิแค็บ มีฟ ประมาณ 9,000 คัน ให้กับบริษัทขนส่งต่างๆ บริษัท ค้าปลีก และหน่วยงานรัฐ ในประเทศญี่ปุ่น และยังจัดส่งอีก 1,500 คัน เพื่อเป็นรถยนต์ที่ใช้ในกรมไปรษณีย์ของญี่ปุ่นอีกด้วย พร้อมให้คำมั่นว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จะเดินหน้าศึกษาถึงแนวทางที่จะทำให้เกิดความสำเร็จในการใช้ยนตรกรรมไฟฟ้า ควบคู่กันไปกับการขยายสถานีชาร์จไฟและการสนับสนุน จากรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง” โครงการนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการใหม่ ด้านสิ่งแวดล้อม (The New Environmental Plan Package) ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ที่มีการกำหนดขอบข่ายของสังคมในอนาคตและทิศทางโครงการริเริ่มต่างๆ สู่เป้าหมายในปี 2593 และยังเป็นการสนับสนุนแผนริเริ่มส่งเสริมยนตรกรรมไฟฟ้าของรัฐบาลไทย ทั้งนี้ หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของแผนปฏิบัติการใหม่ด้านสิ่งแวดล้อมดังกล่าว ก็คือ การเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 50% จากยอดจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิทั้งหมดทั่วโลกในปี พ.ศ. 2573 อีกด้วย