dot




รีวิวน้องใหม่ในเมืองไทย BAJAJ Dominar 400

 

รีวิวน้องใหม่ในเมืองไทย BAJAJ Dominar 400

 

Bajaj Dominar 400 รถสไตล์เน็คเก็ตรุ่นใหญ่สุดที่ทาง Vroom นำเข้ามาขายในเมืองไทย

 

    

 

Bajaj Dominar 400 ใช้เครื่องยนต์แบบสูบเดียว 373 ซีซี DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ กำลังสูงสุดอยู่ที่ 39.4 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 35 นิวตันเมตร ใช้หัวเทียน 3 หัวเทียนในการจุดระเบิด ใช้เกียร์ธรรมดา 6 สปีด มี Assist Slipper Clutch ซึ่งเครื่องยนต์ใช้พื้นฐานเดียวกับ KTM Duke 390 ในขณะที่ Dominar 400 คันนี้ใช้ระบบในการจุดสตาร์ทแบบ DTS-i และมีการปรับจูนเครื่องยนต์ให้มีความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับแนวรถที่เน้นการเดินทางไกล

 

 

โช้กอัพหน้า Upside Down ขนาดใหญ่ถึง 43 มิลลิเมตร โช้กอัพหลังเดี่ยวมีซับแท้งค์ ยี่ห้อ Nitrox โช้กหลังปรับพรีโหลดได้ ระบบเบรกด้านหน้ามาเป็นดิสก์เบรกขนาด 320 มิลลิเมตร ส่วนด้านหลังขนาด 230 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับระบบ ABS ซึ่งถือว่าส่วนผสมระหว่างระบบกันสะเทือนหน้าและหลังนี้เป็นสูตรสำเร็จอย่างหนึ่งของรถในยุคนี้

 

 

เรือนไมล์ LCD มี 2 หน้าจอแยกกัน เรือนไมล์หลักบอกความเร็วและวัดรอบจะอยู่ตำแหน่งปกติ มีไฟ ABS เกียร์ว่าง ไฟเตือนรอบเครื่อง ส่วนไมล์อีก 1 อันจะเป็นจอขนาดเล็ก อยู่บนถังน้ำมันเชื้อเพลิงบอกตำแหน่งเกียร์ เวลา ระยะทาง สำหรับขนาดยางหน้าและยางหลังมีดังนี้ 110/70 R17 และ 150/60 R17

 

   

 

การออกแบบของ Bajaj Dominar 400 นั้นให้อารมณ์ใกล้เคียงกับรถเน็คเก็ตที่เน้นความกระชับและคล่องตัว เหมาะกับใช้งานในเมืองและเดินทางไกลได้อย่างสบายๆ ระบบไฟหน้าแบบ LED ให้แสงส่องสว่างเวลากลางคืนนั้นมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ตรงส่วนของหน้ากากหน้านั้นจะมีวินด์ชิลด์ขนาดเล็กติดอยู่ แม้ว่าจะไม่ใหญ่โตเหมือนกับรถในแนวครูเซอร์ทั่วไป แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ลมนั้นหลบพ้นศีรษะไปได้ ตำแหน่งของเบาะนั่งนั้นออกแบบมาให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ รวมไปถึงเบาะคนซ้อนที่มีระนาบเกือบจะใกล้เคียงกับเบาะของคนขี่ และท่านั่งจะเน้นความสบายเป็นหลัก และตำแหน่งแฮนด์ก็เชิดขึ้นมาพอประมาณ โดยรวมแล้วถือว่าเป็นรถที่ขี่ง่าย เป็นมิตรต่อผู้ขับขี่

 

     

 

เมื่อลองคร่อมรถ Bajaj Dominar 400 ตัวรถให้ความรู้สึกไม่ใหญ่นัก เบาะนั่งกว้างแต่กระชับ ท่าขี่แบบหลังตรง ก้มเล็กน้อย ตำแหน่งวางมือ วางขาสบาย สไตล์รถเน็คเก็ต การมองที่เรือนไมล์ชัดเจน อ่านค่าง่าย แต่... จอเล็กที่อยู่ตรงบริเวณใกล้ฝาถังน้ำมัน มองไม่ถนัดแถมตำแหน่งการบอกเกียร์ยังไว้ที่จอเล็ก ควรไปรวมกันที่จอใหญ่จะมองถนัดกว่า ที่สวิตช์แฮนด์มีไฟสีฟ้าบอกตำแหน่งสวิตซ์ต่างๆ ซึ่งถือเป็นข้อดีเวลาค่ำมืด แต่ถ้าขี่จนคุ้นแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมอง

Bajaj Dominar 400 ติดตั้งกันล้มเป็นท่อเหล็กมาจากโรงงานทุกรุ่น! ที่เป็นรถสไตล์เน็คเก็ต ดูแล้วแปลกตา ไม่เป็นไปตามสมัยนิยม แต่จากการใช้งานรถในเมือง ซอกแซกไปได้ไม่ได้แกะกะอะไร ถ้าแฮนด์รถผ่านได้ก็ไม่ต้องกังวล ข้อดีของกันล้มลักษณะนี้ ล้มแล้วรถไม่ทับขา แถมยังกันถังน้ำมันไม่ให้โดนพื้นถนน ซึ่งดีกว่าแบบตุ่มที่นิยมทั่วๆ ไป กันล้มแบบนี้เคยเจอใน Benelli TRK502 มันช่วยวางเท้าเวลาเดินทางไกลได้จริง ลดความเมื่อยล้าได้ดี ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข้อดี

 

 

แรงบิดและอัตราเร่งของ Bajaj Dominar 400 ถือว่าใช้ได้ ดึงดี รอบมาไว เสียงท่อไพเราะคล้ายเครื่อง 4 สูบ มีชิฟไลฟ์ให้ มีความสั่นสะเทือนอยู่บ้าง ตามสไตล์สูบเดียว ลูกโต แต่ไม่มากมายเหมือน Royal Enfield ใช้งานในเมืองรอบต้น ออกตัวไว้ใจได้ แรงบิดเหลือๆ ในรอบต่ำ แต่รอบปลายความเร็วมาช้า มันมาแต่รอบ

 

 

ช่วงล่างหนึบ แต่ยังไม่แน่น ทางตรงสบายๆ ไม่ร่อน ไม่แกว่ง อาจจะด้วยโช้กหน้าใหญ่ หลังเป็นโช้กแก๊ส การเข้าโค้งกว้าง โค้งแคบทำได้ดี อาจจะเพราะใส่ยาง Michiline Road 5 ทำให้เกาะโค้งหนึบๆ ไปได้ ขนาดยาง ล้อ 110/70-17 และ 150/60-17

 

   

เบรกใช้คาลิปเปอร์ของ BYBRE ให้ความรู้สึกที่ไม่ค่อยมั่นใจ หากบีบเบาเกินไปก็ไม่มีแรงในการเบรก เบรกหนักไปก็หัวทิ่มมาด้านหน้าถึงจะมีกำลังในการเบรก ต้องค่อยๆ เรียนรู้กับเบรก

 

 

โดยรวม BAJAJ Dominar 400 ขี่สนุก นั่งสบาย ช่วงล่างไว้ไจได้ รูปร่างหน้าตาแล้วแต่คนชอบ วัสดุ อุปกรณ์พอรับได้ ทนทานหรือไม่ ไว้มาบอกอีกที ราคา 115,000 บาท ถ้าคุณชอบมองหาความแปลกใหม่ ขี่ไปไหนมีแต่คนมอง และที่สำคัญ ถูกใจไม่มีคำว่าแพงครับ

 

Bajaj Dominar 400

ราคา                                115,000 บาท

เครื่องยนต์                       373 ซีซี สูบเดียว

เกียร์                                6 สปีด

พละกำลังสูงสุด               39.4 แรงม้า

แรงบิดสูงสุด                   35 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบต่อนาที

น้ำหนักรถ                       184.5 กก.          

ความจุถังน้ำมัน               13 ลิตร

ล้อและยาง                     110/70 R17 (น.), 150/60 R17 (ล.)




TEST RIDE

BMW R nineT ขี่สนุก ออปชันพอตัว
Suzuki Raider J Crossover รถแม่บ้านสายลุย
Yamaha Fazzio Hybrid Connected เหมาะขับในเมือง เร่งแซงสบาย ออกตัวไฟแดงไม่ห้อยท้ายแน่นอน
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Yamaha E01 ขี่ดี มีเกียร์ถอย แต่...ไม่ขาย!
Royal Enfield Himalayan ซีซีน้อย แต่ขี่อร่อยเว่อร์
All New Ducati Monster 937
BMW R1250 GS Adventure คือหนึ่งในใจสายเดินทาง ที่นักขี่หลายคนถวิลหา กับราคาเริ่มต้น 1,105,000 บาท
Ducati 1 คันแต่มันส์ได้ 4 แบบกับ Ducati Multistrada V4 ทัวร์ริ่งก็ซิ่งได้
Test Ride : DUCATI Panigale V4S : Fast Force & Hot!!!
BMW R18 CLASSIC หล่อ เท่ พร้อมค่าตัว 1.25 ล้านบาท
Harley-Davidson FLHT Electra Glide Standard | First Ride Review
Triumph Tiger 900 เสือหล่อ กล้ามใหญ่
Review KTM 790 ADVENTURE ตัวลุยที่ไม่ต้องเขย่ง!
BMW C 650 SPORT BIG SCOOTER ที่มีอะไรมากกว่า บิดอย่างเดียว!
Pan America รถ Adventure คันแรกของ Harley-Davidson!
ทริป HARLEY-DAVIDSON Pan America บุกตะลุยเส้นทางแอดเวนเจอร์
BMW R1250 GS รถ Adventure-Touring ระดับหัวแถวของโลก!
BMW R18 First Edition “เล่นได้ เพราะ Berlin Built " กับราคา 1,150,000 บาท
Triumph Trident 660 เล็ก สั้น มันส์ด้วย!!!
BMW C 400 X Size เล็ก แต่ราคา excite!
BMW F 900 XR : Option เพียบ! แต่ราคาเบา?
Bajaj Pulsar RS200 และ Bajaj Pulsar NS 200 ความเหมือนที่แตกต่าง จากดินแดนภารตะ
Test Ride : Triumph Rocket 3 GT 2,500 ซีซี ที่กล้าท้า Porsche 911 Turbo S ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 2.73 วินาที
TEST RIDE : BMW F 900 R หล่อ แรง ล้ำ!
BMW C 400 GT ทัวร์ริ่งก็ซิ่งได้!
BMW F850 GS ลุยได้ตามใจสั่ง
รถยักษ์ 2500 ซีซี ใหญ่ที่สุดในโลก! กับ All New Triumph Rocket 3
Harley Davidson Softail Heritage Classic
Triumph Street Scrambler 900 ขี่เท่ ขี่ลุย จบในคันเดียว!
หล่อ แรง สมรรถนะสุดเร้า Triumph Bonneville T120 Black
ลองขี่ Ducati Scrambler icon รถซุกซนของวัยมันส์
Triumph Bonneville Speedmaster
Harley Davidson Softail Low Rider custom by AAS Harley-Davidson of Bangkok
Royal Enfield Continental GT 650 หล่อ ใจดี ขี่สบาย!?!?
ลองของใหญ่ Drag Bike Style กับ Harley-Davidson FXDR V-Twin 1,868 ซีซี
Triumph Scrambler 1200 XE ตำนานความเก๋ามาตั้งแต่ในยุค 60's
Test-Ride : Harley-davidson roadster 1200
DUCATI SCRAMBLER SIXTY 2 บิ๊กไบค์สไตล์วัยรุ่น
ลองจับตั๊กแตนพันธุ์ดุ Triumph Street Triple RS
Triumph Tiger 800 XRT
Harley-Davidson Softail Fat Bob 2018 ฉีกลุคเดิมไปอย่างชัดเจน
คลาสสิกทั้งทีต้อง Triumph Bonneville T120 Black
Iron 1200 มอเตอร์ไซค์สไตล์ย้อนยุค พร้อมพละกำลังแรงสะใจ!
Test ride : Ducati Hypermotard 939
ลองขี่ Harley Davidson Softail Sport Glide
Royal Enfield Classic 500 การออกแบบย้อนยุค สไตล์ช่วงหลังสงคราม
ลองของใหญ่กับ Ducati Scrambler 1100 ตัวท็อปจากตระกูล Scrambler



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

V.A & Sons Co.,Ltd. / Advance Activity Co.,Ltd.
21 Soi Viphavadee 32, Viphavadee-Rangsit Road, Jatujak, Bangkok 10900 Thailand
Tel. 02-5114020-2 Fax. 02-5114023