คลาสสิกทั้งทีต้อง Triumph Bonneville T120 Black

มอเตอร์ไซค์คลาสสิกที่ใครหลายคนพูดถึงความสวยงาม ลงตัว แทบไม่ต้องแต่งเพิ่ม

Triumph Bonneville T120 Black มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุ 1,200 ซีซี โดยมีแรงบิดสูงสุดที่ 105 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำ 3,100 รอบต่อนาที มีระบบเบรก ABS ระบบป้องกันการลื่นไถลและคันเร่งไฟฟ้า ปลอกแฮนด์แบบอุ่นมือได้ ระบบปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์ ไฟท้าย LED สลิปเปอร์คลัตช์ นาฬิกาบอกเวลาทั้งแบบดิจิตอลและอานาลอกอยู่ด้วยกัน ขาตั้งคู่ ระบบป้องกันการโจรกรรม

 

 

ท่อไอเสียสุดหรูแบบ Peashooter พร้อมท่อเฮดเดอร์ที่เดินเป็นเส้นตรง ให้เสียงตามแบบฉบับเครื่องยนต์ 2 สูบ สัญชาติอังกฤษ โดยมีเสียงที่ลึกและทรงพลังเข้ากับลักษณะของรถเป็นอย่างดี

หน้าปัดแสดงข้อมูลอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น ความเร็วเดินทางแบบเข็ม, รอบการทำงานของเครื่องยนต์แบบเข็ม, ไฟบอกเกียร์, เกจ์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง, ระยะทางที่วิ่งต่อได้กับน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่ (range), ไฟเตือนระยะ service, นาฬิกา, Trip 1/2, Mode การขับขี่ 2 mode Rain /Road, ไฟแสดงสถานะของ Heated grip, แสดงอัตราสิ้นเปลืองขณะการขับขี่, แสดงสถานะของ Traction Control

 

มาดูแฮนด์ฝั่งซ้ายมือกันบ้าง ไล่เรียงจาก ด้านบนเป็นไฟสัญญาณ pass, สัญญาณสลับไฟ Daytime running light (DRL) และสัญญาณไฟต่ำปกติ เมื่อใช้ DRL ปุ่ม pass จะทำหน้าที่ดิฟไฟสูง และเมื่อไม่ใช้ DRL ปุ่ม pass จะเป็นการเปิด/ปิด ไฟสูงแทน, ปุ่ม “i” หรือที่ผมชอบเรียกว่าปุ่มมหัศจรรย์! เพราะเจ้าปุ่มเล็กๆ ปุ่มเดียวนี้แหละครับที่จะใช้ในการควบคุมทุกอย่างของรถ โดยใช้ได้สองแบบคือ กดปล่อย เพื่อเลือกการแสดงผลต่างๆ และกดค้าง เพื่อทำการตั้งค่า มาต่อกันด้วยสัญญาณไฟเลี้ยว, สัญญาณแตร, Heat Grip!! เพื่อความอุ่นสบายของอุ้งมือเมื่ออากาศหนาวเย็นที่อาจจะพบเจอได้บ้างในบ้านเรา

แฮนด์ฝั่งขวามากับความเรียบง่ายด้วยปุ่ม 3 ปุ่ม ปุ่ม off-run / start การทำงานของเครื่องยนต์, ปุ่มเลือก Mode การขับขี่ของรถทั้งสองโหมด คือ Road / Rain และปุ่มสัญญาณไฟ hazard (หรือไฟผ่าหมาก)

คุยกันหลังขี่สักหน่อย Triumph Bonneville “Bonny” T120 Black คันนี้ ที่มากับขุมพลังขนาด 1200 ซีซี แบบ High Torque ที่ให้แรงบิดตั้งแต่รอบต่ำ และสูงสุดที่ 3,100 รอบต่อนาที ทำให้ T120 Black พร้อมที่จะทะยานออกไปได้ทันทีดั่งใจที่ต้องการ การเร่งแซงต่างๆทำได้ทันทีแบบไม่ต้องลุ้น คือเพียงแค่บิดขึ้นไปเลย แต่ด้วยรถมีแรงบิดเยอะในรอบต่ำคงต้องใช้ความเคยชินถึงแม้จะมี Traction Control แต่ก็ยังต้องมีความคุ้นชินกับตัวรถ

 

การใช้งานในเมืองคล่องแคล่วดี แฮนด์รถไม่กว้างซอกแซกสบาย คลัตช์สามารถปรับความแข็ง อ่อนได้รวมถึงเบรกเช่นกัน พูดถึงท่านั่งในการขับขี่จัดได้ว่า “สบายมาก” ขี่ระยะทางยาวๆ ก็ยังสบายๆ ไม่ออกอาการล้าอะไร เบาะนุ่ม ช่วงล่างนุ่มนวล ยิ่งทำให้สบายขึ้นไปอีก

เบรกติดรถที่ให้มานับว่าค่อนข้างดี และให้การหยุดรถที่มั่นใจมาพร้อมกับ ABS ที่ทำงานอิสระหน้า-หลัง ยิ่งทำให้ผู้ขับขี่สามารถ “เหยียบ และ กด” เบรกได้อย่างเต็มที่ การทำงานของ ABS ติดรถค่อนข้างละเอียด และยังคงให้ระยะหยุดที่ค่อนข้างดี

ช่วงล่างที่ให้มาหน้า-หลังจาก Kayaba ตอบสนองได้กับทุกสภาพเส้นทางการเดินทางในบ้านเราค่อนข้างดี นุ่มสบาย และยังคงการตามติดกับพื้นถนนได้ค่อนข้างดีพอสมควร โช้กหลังสามารถปรับ Preload ให้เหมาะสมกับการใช้งานได้

ความร้อนของตัวรถน้อยมาก เพราะมีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งนับว่าทำได้ดีมากเลยทีเดียวกับความจุขนาด 1,200 ซีซี ขนาดนี้

โดยรวมแล้ว Triumph Bonneville T120 Black คันนี้กับราคา 578,000 บาท ถือว่าคุ้มค่า และพร้อมที่จะพาผู้ขับขี่ รวมไปถึงคนรู้ใจ และสัมภาระพร้อมๆ แล้วออกเดินทางไปด้วยกัน ทะยานไปกับแรงบิดที่เหลือเฟือ ไปบนเส้นทางการเดินทางที่ต้องการได้ทันที

Triumph Bonneville T120 Black

ราคา                              578,000 บาท

เครื่องยนต์                     2 ลูกสูบ 1,200 ซีซี

กำลังสูงสุด                      80 แรงม้า ที่ 6,550 รตน.

แรงบิดสูงสุด                    105 นิวตันเมตร ที่ 3,100 รตน.

เกียร์                              ธรรมดา 6 สปีด   

น้ำหนักตัวรถ (แห้ง)           224 กก.            

ความจุถังน้ำมัน                14.5 ลิตร

ล้อและยาง                      100/90 R18 (น.)

                                    150/70 R17 (ล.)