Captiva : ไม่ใช่แคปติวาแบบเดิมที่เคยรู้จักอีกต่อไป
เชฟโรเลต แคปติวา เข้าสู่ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยด้วยความสนใจของผู้บริโภคที่เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ใช้ในการเดินทางด้วยสมรรถนะอันน่าประทับใจ ทั้งเรื่องของกำลังเครื่องยนต์ ช่วงล่างและระบบขับเคลื่อนที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเครื่องยนต์ดีเซลที่เป็นจุดขายสำคัญของแคปติวา เพราะในรถยนต์กลุ่มนี้แคปติวาเป็นเจ้าแรกๆ ที่มีเครื่องยนต์ดีเซลมานำเสนอ ห้องโดยสารโปร่ง นั่งสบาย พื้นที่เหนือศีรษะเยอะ ก็เป็นจุดขายที่ได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน สิ่งที่ได้รับการยอมรับนั้นส่งต่อมายังรุ่นต่อมาที่คงความเป็นรถยนต์แบบเอสยูวีที่ขับสนุก นั่งสบายและโฉบเฉี่ยว จนกระทั่งเมื่อล่าสุดมีการแนะนำรถยนต์เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ทำให้มีความรู้สึกว่ามันเปลี่ยนไป ไม่ให้ความรู้สึกแบบที่แคปติวาเคยมีมา นั่นยิ่งสร้างความอยากลองขับเพื่อให้รู้ถึงความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิมของแคปติวา
สิ่งที่ลองเป็นอย่างแรกคือตำแหน่งที่นั่งแถว 2 เพราะหลังจากฟังข้อมูลจากทางเชฟโรเลตแล้วว่า นั่งสบายขึ้นก็ยิ่งอยากลอง ระยะทางกว่าสองร้อยกิโลเมตรที่อยู่เบาะนั่งแถว 2 นั้นบอกเลยว่าสบายจริงทั้งพื้นที่เหนือศีรษะ พนักเบาะที่ปรับเอนได้ช่วยให้ผ่อนคลายมากขึ้น พื้นที่วางเท้าก็นั่งไขว่ห้างได้แบบเหลือๆ บวกกับตัวช่วยอย่างหลังคากระจกบานใหญ่ที่ทำให้รู้สึกกว้างสบายขึ้นในกรณีที่แดดไม่แรงนะ อีกตัวช่วยก็คือ ช่วงล่างที่ช่วยให้ความนุ่มนวลได้อย่างลงตังสำหรับผู้โดยสารในตอนที่ 2 จนแอบนึกเล่นๆ ว่านี่น่าจะเป็นรถยนต์ประจำตำแหน่งของผู้บริหารในองค์กรก็ได้ เพราะเมื่อเทียบกับรถเก๋งซีดาน แคปติวา กว้างขวางกว่าอเนกประสงค์กว่า หรือเทียบกับกลุ่มรถเอนกประสงค์ที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะ แคปติวานุ่มนวลกว่า เรียกว่าสู้ได้ในราคาระดับล้านบาท อ้อ..ลืมบอกไปว่าความเร็วในการเดินทางที่ใช้ขณะลองนั่งเบาะตอน 2 นั้นอยู่ที่ประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สำหรับเบาะนั่งแถวสามนั้นเข้าออกได้ปกติตามแบบของรถยนต์สไตล์ 7 ที่นั่ง 3 แถว ส่วนเบาะนั่งตอน 3 นั่นก็ว่ากันไปเรื่องของผู้โดยสารที่จะเข้าไปนั่ง หากนั่งไม่ไกลผู้ใหญ่ก็พอไหว หรือนั่งไกลเด็กๆ ก็พอได้
สิ่งสุดท้ายที่ทำ คือ ประจำตำแหน่งคนขับ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรนั้นถูกตั้งคำถามว่าพอต่อการใช้งานไหม ขอตอบอย่างนี้ล่ะกัน ถ้าเป็นการใช้งานแบบแม่บ้านขับ ใช้งานในเมืองก็เพียงพอไม่มีปัญหา จ่ายกับข้าว รับ-ส่งลูกไปโรงเรียนได้สบายๆ แต่ถ้าเป็นพ่อบ้านเท้าหนักก็จะหงุดหงิด ไม่ได้ดั่งใจ ชักช้าไปหน่อย พอความเร็วเกินกว่าที่เดินทางช่วงล่างก็จะมีอาการให้รู้สึกได้ เหมือนเตือนคนขับว่า เบาๆ ลงหน่อย เดินทางต่างจังหวัดจะกดคันเร่งต้องรู้จักกดปุ่มโอเวอร์ไดร์ฟหรือรู้จักใช้เกียร์ช่วยจะได้มั่นใจมากขึ้น ลากรอบสูงมากไปก็จะได้ยินเสียงเครื่องชัดจนน่าสงสารหน่อย
สิ่งอำนวยความสะดวกสบาย ลูกเล่นต่างๆ ที่มาให้ก็เพลิดเพลินเจริญใจใช้ได้ โดยเฉพาะจอตรงกลางที่เหมือนวางแท็บเล็ตขนาดใหญ่ไว้นั้นดูดี ใช้งานง่าย อีกทั้งส่งให้ห้องโดยสารดูหรูหรา ทันสมัยขึ้น บางชั่วขณะก็นึกถึงหน้าจอของรถไฟฟ้าบางยี่ห้อเหมือนกัน
สรุปได้ว่าแคปติวา ใหม่เปลี่ยนไป ไม่ใช่แคปติวาแบบเดิมที่เคยรู้จัก ไม่ใช่รถอเนกประสงค์ที่ขับสนุกอีกต่อไปแคปติวา ได้กลายเป็นรถครอบครัวที่เน้นเรื่องความสบายในการใช้งานมากกว่า เดินทางหลายคนได้ ขับง่ายใกล้เคียงรถเก๋ง ต้องลองดูก่อนให้แน่ใจเพราะมันเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ....
The All-New Captiva Premier
ราคา 1,199,000 บาท
เครื่องยนต์ เบนซิน (DOHC) แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว 1,451 ซีซี
เกียร์ อัตโนมัติ 8 สปีด CVT
กำลังสูงสุด 143 แรงม้า ที่ 5,000 รตน.
แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 2,400 รตน.
ระยะฐานล้อ 2,750 มม.
ความยาว 4,655 มม.
ความกว้าง 1,835 มม.
ความสูง 1,760 มม.
ล้อและยาง 215/60 R17