ตัดทำไม ไม่คิดถึงสิ่งแวดล้อมเลย อย่าไปเชื่อไอ้พวกที่ไม่มีความรับชอบต่อผู้อื่นเลยครับ

มันอยู่อย่างไรให้มันอยู่อย่างนั้นละครับดีแล้ว ผมคิดว่าคนที่คิดจะmodify รถให้วิ่งนั้นควรจะมีจิตสำนึกไว้อย่างว่า คุณจะต้องไม่ทำให้รถคันนั้นเป็น 1 ในกลุ่มที่ทำลายชั้นบรรยากาศของโลกครับ

แคทมี2ตัว

ถ้าคุณตัดตัวหลังทำให้ท่อโล่งจริงอยู่แต่ผลที่ได้ออกมาทำให้ก่อมลพิษมากขึ้นเกือบเท่าตัวเสียงที่ออกมาจากปลายท่อดังแน่นขึ้นอีกทั้งยังเป็นการเผาผลาญสิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ

แคทตัวหน้าที่ติดกับเฮดเดอร์จะเป็นตัวรับเซ็นเซอร์ถ้าคุณตัดตัวนี้ออกไปจะทำให้ECUอ่านค่าผิดไปหรืออ่านไม่ออกเลยว่าไอเสียใช้ไปเท่าไหร่ทำให้คุณต้องไปหาซื้อแคทมือสองมาใส่ให้เหมือนเดิมอีกราคาที่คุณขายไปประมาณ3000บาทแต่ซื้อกลับมาไม่ต่ำกว่า5000บาทแน่นอนแถมได้ของเก่ามาอีก

ถ้าคุณอยากให้แรงก็ยกเครื่องเปลี่ยนไปเลยแต่อย่าข้ามสายพันธุ์อย่างเช่นถอดด้านข้างเพื่อยัดเครื่องใหญ่ๆไม่สมควรอย่างยิ่งหรือถ้าอยากให้ท่อดังก็เปลี่ยนปลายหม้อพักได้เช่นกันครับสวยอีกด้วย

ส่วนตัวผมเดิมทั้งรถดูแลรักษาอย่างดีมีเสียงหรืออะไรผิดแปลกก็ส่งช่างที่เป็นเพื่อนพ่อไว้ใจได้ครับ สบายใจสบายกระเป๋าไม่ถูกช่างมั่วหลอกฟัน เปลี่ยนยางทุก1ปีเปลี่ยนของเหลวทุก6เดือน Honda เตารีดวิ่งได้190Km. ขอแค่ทุกท่านดูแลรักษารถ แล้วรถจะดูแลชีวิตและทรัพย์สินคุณครับ

ต่างคน ต่างความคิดครับ ในความเป็นจริงนั้น ระบบ ECU มีการตรวจรับสัญญาณจากอากาศที่ผ่านการกรองของ Catalytic convertor ด้วย ดังนั้นการที่ไปตัดมันออก ย่อมหมายถึงการควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ก็จะเปลี่ยนไปด้วย การอุดและการตัดต่างๆ ถ้าเป็นสมัยประมาณตอนกลางของ ปี 1970-80 ทำได้ เพราะมันไม่มี ECU เข้ามาเกี่ยวข้อง และการทำในสมัยนั้นมันช่วยให้โล่งจริง แต่มาวันนี้ เทคโนโลยี่เราก้าวหน้าไปมากโดยเฉพาะเทคโนโลยี่ของระบบ Cat และระบบ ECU แต่ช่างของเรายังอยู่ในยุค 70 ผมก็ไม่ทราบด้เหมือนกันว่าจะตอบคุณได้อย่างไรครับ นอกเสียจากว่าในอนาคตขนส่งเกิดบ้าจี้จะตรวจสภาพรถแบบรถทุกคัน จะต้องทำการตรวจค่าอากาศเสียก่อนว่าผ่านค่ามาตราฐานของรถที่ผลิตมาในแต่ละปีหรือไม่ ถ้าไม่ผ่านก็ต่อทะเบียนไม่ได้ วิ่งไม่ได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ช่างตัดทั้งหลายก็จะได้มีรายได้แปลงร่างกลายเป็น"ช่างรับติด Cat " หารายได้กันอีกรอบกระมังครับ