ผมเสียเงินทิ้งเลยรถวิ่งโครตอืด

 ซื้อมาทำเองครับงบไม่เกิน 500 บาท

เรื่องหลักการทำงานของเครื่องฟอกอากาศนั้นมีจริงและเป็นรูปธรรมเห็นได้จากผลิตภัณฑ์ ส่วนตัวได้เคยอ่านข้อมูลของเรื่องประจุไฟฟ้าขั้วลบมาบ้างและสิ่งที่ทำให้เชื่อว่าหลักการนี้ใช้ได้คือสิ่งประดิษฐ์เครื่องฟอกอากาศจากคอยด์รถยนต์ในหนังสือช่างอิเลคทรอนิคส์ จึงตัดสินใจโทรหาตัวแทนและไปติดตั้งมา1กล่องก่อนจะเดินทางไกลไปต่างจังหวัด ซึ่งตอนนั้นคิดว่าซื้อมาแล้วก็จะลองวิ่งทางไกลๆดู รถปิคอัพสี่ประตูนั่งกันไปทั้งหมด5คน น้ำหนักรวมสามร้อยกว่าโลวิ่งที่ความเร็วสูงสุด140-150กม.ต่อชม. วิ่งปกติก็80-120กม.ต่อชม.ทำได้16กม.ต่อลิตร ขับแบบปกติไม่ได้ออกตจว.ก็ราวๆ12-13กม.ต่อลิตร ส่วนตัวพอใจในหลักการของอุปกรณ์นี้เพราะช่วยได้เห็นชัดคือในรอบสูงๆว่ายังเร่งได้อย่างต่อเนื่อง ก่อนติดถ้าจะเร่งต้องเชนเกียร์ลง(ใช้รถรุ่น6เกียร์ครับ) แต่ก็ยังมีข้อสงสัยว่าอากาศที่มีความหนาแน่นนั้่นต้องเป็นอากาศเย็นๆประมาณหลังฝนตกหรืออุณหภูมิห้องถึงจะดีที่สุด แต่รถที่ใช้ระบบเทอร์โบช่วยอัดกาศนั้นอากาศจะเย็นยากมากที่คิดแบบนี้เพราะหลังจากนั้น ลองมาเปิดห้องเครื่องแล้วไล่เส้นทางอากาศหลังปลายสายไฟก็เห็นว่าอากาศที่มาจากเทอร์โบที่อยู่ติดกับท่อไอเสียนั้นร้อนแน่ๆ แต่ไม่เป็นไร ถ้าติดอีกกล่องจะติดหลังจากท่ออินเตอร์คูลเล่อแน่นอน เรื่องการกระโดดของประจุไฟฟ้านั้นถามเพื่อนที่เป็นไฟฟ้าก็๋บอกว่าความห่างที่จะไม่กระโดดเข้าหาโลหะคือระยะห่างตามแรงดันไฟฟ้าหน่วยก็คงเป็นเซนติเมตรเพราะดูจากเต้ารับไฟฟ้าที่สองขั้วมันห่างกันแค่ประมาณสองเซนติเมตรก็ไม่กระโดดแล้ว อยากจะบอกพวกที่ไปว่าคนคิดคนทำขายว่าเป็น18มงกุฎนั้น คือพวกที่ไม่ฉลาดและไม่มีความรู้ในหลักการอะไรสักอย่างนอกจากสิ่งที่ตัวเองเคยเห็นเท่านั้น ลองดูรถแข่งในสนามที่ใช้ไนตรัสออกไซด์ฉีดเข้าห้องเผาไหม้สิว่าเครื่องยนต์มีกำลังมากขึ้นหรือเปล่า นั่นล่ะก็คืออากาศอย่างหนึ่งแต่ชาวบ้านทั่วไปใครจะเสี่ยงไปเอาของเหลวมาทำให้เป็นก๊าซและฉีดเข้าห้องเครื่องล่ะ ระเบิดตายก่อนแน่ และผู้ผลิตรถยนต์ที่เขาไม่ติดตั้งมาเพราะเขาไม่ได้คิดว่าคนใช้รถจะมาสนใจเรื่องนี้งัยล่ะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ติดเพราะไม่ดีเลยไม่ติดมา คิดผิดแล้ว ของมันมีต้นทุนลดได้ลด จะติดเพิ่มก็ไปติดเองอะไรประมาณนั้น และถ้าบอกว่าไปติดกล่องคันเร่งหรือดันรางดีกว่าอันนี้ก็เป็นพวกไม่เข้าใจสิ่งที่กล่องนี้จะทำ กล่องคันเร่งและดันรางพวกนี้จะหลอกให้ยกหัวฉีดนานขึ้นเท่านั้นซึ่งก็คือเมื่อน้ำมันมากขึ้นก็ต้องจุดระเบิดแรงขึ้นมันถูกอยู่แล้ว แต่กล่องฯใช้ไฟฟ้าไปแยกเอาอากาศเข้าเครื่องโดยไม่ได้สั่งฉีดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญคือไม่เหมาะกับพวกชอบแรงๆ แต่เหมาะกับพวกอยากประหยัด พอดีจะไปติดกล่องเพิ่มอีกสักกล่องเลยมาซาวเสียงเรื่องนี้ดู และรู้สึกคันปากเลยขอระบายนิดนึง

 ตกลงจะให้ตูทำไง ความเห้นไม่ตรงกัน

 ผมดูการทดลองให้ดูแล้วใใจากการที่ปล่อยควันเช้าไปในหลอดแก้วแล้วเอาสายไฟ 3 เส้นแหย่เข้าไปควันหายไปฏ็โอเคดีนะคับ  แต่การทอลองอีกด้านน่าจะต่อเข้ากับเครื่องดูดฝุ่นนะคับเพื่อที่จะดูว่าเมื่ออากาศเมื่อมีการไหลผ่านจะสามารถทำให้ควันเหล่านี้หายไปไหมคับเพราะมื่อมีการเร่งเครื่องอากาศจะ๔ถูกเครื่องยนต์ดูดผ่านแรงมากจะได้รู้กันไปเลยว่าสามารถทำให้ควันที่ปล่อยออกมาหายจิงมั๊ย  และเรื่องการรับประกันความพอใจที่ว่าไม่พอใจคืนเงินนี้ใใน่าจะให้ลองใช้สัก 7วันก่อนนะคับถ้าดีจิงเพราะบางทีลองเดี่ยวนั้นมันวัดกันลำบากคับตองลองสัก 3-7วันนะคับถึงจะรู้เรื่อง..แล้วถ้าไม่ดีจิงถอดคืนแล้วคืนเงินสดทันทีเลยนะคับ..ไม่ใช่บอกว่ารออีก1เดือนหรือ  2 เดือนนะคับ...

 ผมก็ติดน๊ะ แถมมีเครื่องทำโอโซนในบ้าน และในรถ ไม่อยู่บ้านใช้รถอีกคัน ก็ถอดไอ้นี้แหละมาเสียบไว้ในบ้านเปิดพัดลมทิ้ง ผลเป็นยังไงหรือครับ ฝุ่นลงมากองกับพื้นเพียบ ที่ติดอยู่กับพัดลมก็บานเลย ในบ้านอากาศสดชื่น แต่ตัวนี้เท่าที่คำนวณดูมันไม่เหมาะกับใช้ในบ้านขณะที่มีคนอยู่น๊ะครับ จะเป็นอันตรายเอา ยุงแห้งตายเกลี้ยง เรื่องต้องปลายแหลม หรือไม่ แหลม ผมลองดูใช้งานได้เป็นพอครับ เรื่องแรงขึ้นมั้ยผมว่าไม่แรงครับ เพราะรถผมออกตัวแรงๆรถไม่ไปล้อมันฟรีก่อนแถมเป็นรอยล้อยางอีก ตามจริงผมก็อยากเอาไปใส่หลังเซ็นเซ่อน๊ะ แต่ผมมีตัวเดียว เลยคิดว่า เอามาใส่ก่อนเพื่อดักฝุ่นให้กรองเปลือยผม แถมก็ยังเห็นผลอยู่ถึงไม่มากก็น้อย เพราะขับรถมาทำงาน วันละ 15 กม.รถกระบะไตรตั้น เติมน้ำมันเดือนละ 500 ผมก็ว่าโอน๊ะครับสำหรับเงินที่เสียไป แต่ตอนแรกผมคิดว่า ผมคงจะใช้ 6 ปีถึงจะคืนทุน เพราะตีไปประหยัดได้เดือนละ 50 บาท ตอนนี้เข้าปีที่ 5 แล้ว แต่จริงๆแล้วผมคืนทุนไปนานแล้ว เพราะที่คำนวณคือวิ่ง 35000 โลคืนทุนโดยประมาณ ก่อนจะซื้อ ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะซื้อมาใส่เพิ่มอีกคันดีหรือจะย้ายจากคันเก่ามาใส่คันใหม่ อ๋อลืมไป เรื่องกรอง ผมต้องเสียเวลาทำความสะอาดบ่อยขึ้นมากเลยแต่ทำความสะอาดง่ายขึ้น น่าจะเพราะขนาดฝุ่นที่ใหญ่ขึ้น ที่แน่ๆ ในห้องเครื่องฝุ่นจับตรึมครับ น่าจะเป็นผลกับไอ้ตัวนี้ต้องใช้ลมเป่าแล้วแปลงปัดครับ สรุปตัวนี้มันช่วยพวกฝุ่นมวรเบาในบริเวณใกล้เคียง มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นด้วย และช่วยฟอกอากาศในบริเวณใกล้เคียงด้วย แล้วราคาถือว่าประหยัดกว่าเครื่องฟอกอากาศแน่นอนครับ

 ผมใส่กล่องจูนมือจูนไม่ดันมากรถผมไวแรงประหยัดด้วยครับถ้าอยากแรงจูนโหมดสามจูนดันรางเพิ่มมากๆก็แรงกว่าเดิมมากถึงมากรถเดิมๆไม่ต้องพูด ผมก็ซื้อของไทยครับช่างอี๊ดทำเองช่างโรงงานหารายได้จากกล่องเพิ่มแรงบิดแรงม้าจะดันจะยกได้หมด รถผมเชฟ6เกียร์ต่อเจ้าปัญหา หลอกยาก ตอนนี้สบายใจแล้ว แรงแบบทนลากยาวๆสบายๆ เรื่องแซงไว้ใจได้ 0880629018  ผมไม่ได้อะไรจากเรื่องราวนี้แค่ลองแรกเปลี่ยนปสบการณ์กัน

 เจ้าเครื่องที่ว่านี้เท่าที่ดูเห็นว่า ใช้หลักการเดียวกันกับเครื่องฟอกอากาศที่อธิบายไว้ข้างบน  ถ้าเครื่องทำงานปกติก็น่าจะได้ผลใกล้เคียงที่โฆษณาไว้  อย่างที่ว่าไว้ข้างบนนะครับ ถ้าปลายสายไม่แหลม ไม่ได้ผลแน่  สังเกตดูตอนช่างติดตั้งไหม  ถ้าปลอกสายแล้วจับตีเกลียวใส่เข้าไปจบแน่ครับ  ไม่ได้ผลแน่เพราะปลายเสายต้องแหลมเท่านั้น  ถ้าปลายสายแหลมน่าจะได้ผล  ที่น่าจะชะดเจนคือเรื่องควันดำควรต้องลดลง ส่วนความแรงความประหยัดก็คงขึ้นอยู่กับสภาพเครื่องยนต์ สภาพถนน  สภาพการจราจร  และวิธีการขับขี่ของแต่ละคน

 ใครยังจำสมัยเรียนมัธยมได้มั่ง  วิทยาศาสตร์ครับ  ถ้าเป็นมัธยมปลายสายวิทย์คงได้เจอเกือบทุกโรงเรียน  เครื่องมือชนิดหนึ่ง มีเข็มปลายแหลมโผล่มา 3 เข็ม  เขาเอาธูปจุดไฟให้เกิดควัน  เอาควันใส่ในแก้วแล้วเอาไปครอบปลายเข็มแหลมๆนั่น  กดสวิทช์ฉับ  ไม่ถึง 10 วินาที  ควันหายเกลี้ยง  ยังจำได้ไหม  ภายหลังวงจรนี้ถูกพัฒนาและออกแบบมาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางและมีชื่อเรียกต่างกันไป เช่น เครื่องฟอกอากาศ  เครื่องผลิตโอโซน  เครื่องผลิตออกซิเจน ฯลฯ อันที่จริงมันก็ไม่ได้ผลิตออกซิเจนขึ้นมาใหม่นะ  เพียงแต่แยกออกมาจากส่วนผสมของอากาศนั่นเอง หลักๆคือ แยกจากคาร์บอนไดออกไซด์   CO2 >> C + O2  และความชื้น(ไอน้ำ)ในอากาศ  2H2O >> 2H2 + O2 ปัญหาอยู่ที่ว่า  ปลายเข็มต้องแหลม  เพราะการถ่ายเทประจุไฟฟ้าจะเกิดขึ้นที่ปลายแหลมสุด  ถ้าปลายไม่แหลม ทุกอย่างจบครับ

 อย่าเถียงกันเลยครับ อยากรู้ ก้อทดลองดูเลยครับ ไม่พอใจ ไม่เปลียนแปลง ก้อไม่ได้เสียตัง สักกะบาทเดียว  

 หลากหลายความเห็นดีจังเลย ได้ความรู้ แม้จะยังไม่ได้ข้อสรุป

นวัตกรรมก็เป็นยังงี้แหละ ก่อนที่จะมีเครื่องบิน สองพี่น้องตระกูลไรท์ก็ล้มลุกคลุกคลาน แล้วถึงวันนี้เป็นไง ไม่ถึงสองร้อยปี เครื่องบินไปถึงไหนแล้ว  ก็ต้องติดตามกันต่อไป บางท่านก็ทดลองใช้ได้ผล บางท่านก็ว่าใช้ไม่ได้ผลต้องถอดออก ถ้าได้ผลจริงและต่อยอดขึ้นไป ก็จะดีมากครับ

เท่าที่ดูข้อมูล หลายๆ ด้าน หลักการทำงานน่าจะเป็นการเพื่ม ประจุในอากาศ ทำให้อาการมมีความบริสุทธิมากขึ้น ซึ้งหลักการทำงานของกล่อง ก็จะเหมือนๆ กับระบบเพิ่มประจุ ในแอร์ เครื่องฟอกอากาศ ครับ ในหลักการ ไฟจะติดได้ก็จะต้องมีองค์ประกอบ ไฟถึงจะติด 1 ในองค์ประกอบนั้นก็คือ O2 ซึ่ง ถ้า O2 มีโมเลกุลเล็กมากเท่าไรการรวมตัวกับน้ำมันก็จะมีความสมบูรณ์มากขึ้น ผมไม่ใช่นักฟิสิกซ์ แต่เท่าที่หาข้อมมูลมาและทำความเข้าใจกับมันโดยส่วนตัวผมว่าน่าลองใช้ แต่ผมเองก็ยังไม่ได้ใช้ เพราะไม่ได้ใช้งานรถบ่อยเลยไม่ค่อยคิดมากเรื่องน้ำมัน ท่านใด มีความรู้ทางด้านฟิสิกซ์ น่าจะเข้าใจได้ดีกว่าผม ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยครับ

 ขอออกนอกเรื่องนิดนึงครับ คือรถผมมีปัญหาเกจวัดน้ำมันเชื้อเพลิงไม่คงที่ขึ้นๆลงๆจะแก้ไขอย่างไรใครรู้ช่วยผมด้วย(วีโก้ 2.5 ตัวแรก)

ขอบคุณครับ

 ทำไม พวกรถแข่ง หรือผู้ผลิตรถถึงไม่ติดกัน อันนี้คือปัญหาใหม่ละครับ ต้องหาข้อมูล เดามั่วๆนะคับ

อาจจะเป็นเหตุลผลในด้านความปลอดภัย

อาจจะเพิ่มออกซิเจนไม่สู้ อุปกร์เพิ่มออกซิเจนตัวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Turbo หรือ Super Charge หรือ Variable Valve ซึ่ง 3  ตัวนี้ไม่ได้เน้นประหยัดแต่เน้นความแรง

อาจจะไม่จำเป็นจริงๆ ต้องติดตั้ง เจ้า Save Plus เพราะอะไรนะเหรอ เพราะเครื่องยนต์มีออกซิเจนเซนเซอร์ ที่ทำหน้าที่ควบคุมปริมาณอากาศและน้ำมันให้เหมาะอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องไปเพิ่มออกซิเจนแต่อย่างใด ถ้าไปเพิ่มอากาศส่วนผสมก็บาง เกิดอะไรขึ้นละท่าน แน่นอนเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้นแต่ ความร้อนสูงตามมา ผิดไปจากการทำงานของผู้ออกแบบเครื่องยนต์อีก

แต่ก็น่าสนใจว่า การเพิ่มออกซิเจนของ SAVE PLUS ทำให้ความส่วนผสมบางมากน้อยแค่ไหน หรือบางลงนิดหน่อยๆ ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์สูงขึ้นตามคำกล่าวอ้าง

 ถ้าแรงจริง ทำไมพวกรถแข่งถึงไม่ติดกัน ผมนี่งงจริง 

อัพเดตแนวคิด หลักการทำงานของ SAVE PLUS 

อุปกรณ์ตัวนี้ไม่ได้สร้างอะตอมออกซิเจนขึ้นมาใหม่แน่นอน คำกล่าวอ้าวที่ว่า ผลิตออกซิเจนออกมาอย่างต่อเนื่อง ในความหมายของผู้ผลิต น่าจะหมายถึงทำให้เกิดก๊าซออกซิเจนมากขึ้น เพิ่มได้อย่างไร Save Plus ทำให้เกิดการซ๊อตของไฟฟ้าแรงดันสูง ผลที่ได้คือ โอโซน O3 เอาแแค่นี้ การหลักการทำงานของ Save Plus ก็จะทำหน้าที่คล้ายๆ เทอร์โบ กล่าวคือเป็นการบีบอัด ทำให้อากาศที่ไหลเข้ากระบอกสูบ มีออกซิเจนมากขึ้น เป็นไปได้ที่ Save Plus จะทำให้การเผาไหม้ดีขึ้น

 ผมถามคำเดียวว่า ขอกล่าวอ้างที่ว่า อุปกรณ์นี้ ทำให้ ออกซิเจเพิ่มขึ้น อะตอมออกซิเจน ที่ว่าเพิ่มมันมาจากไหน มันเกิดขึ้นใหม่รึ คุณเอารางวัลโนเบลไปเลย เอาเป็นว่าคำกล่าวอ้างที่ว่า ออกซิเจนเพิ่มขึ้นผมไม่เชื่อ เพราะไม่เป็นวิทยาศาสตร์เอาซะเลย 

ถ้าจะบอก กระแสไฟฟ้า ทำให้ ก๊าซออกซิเจน แตกตัวเป็นอิออน (จำนวนอะตอมเท่าเดิมนะ) แล้วทำให้การเผาไหม้ดีขึ้นอันนี้ ผมไม่เถียงนะต้องพิสูจน์  หาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาอ้างกัน

18 มงกุฏอวยกันเอง อย่าไปสนใจเลยครับ

ไปว่าเขาเป็นสิบมงกุฎเคยลองยังพูดไปเรื่อยเปื่อย หลักการเรื่องการสันดาปก็บอกอยู่อากาศ น้ำมัน ไฟ ถ้ามันลงตัวมันก็เผาไหม้หมดจดคุณเห็นไหมในสนามแข็งเขาก็ทำอยู่3อย่างนี้แหละ

ถ้ามันดีจริง วิศวกรประจำโรงงานผลิตจากบริษัทต่าง ๆ  ก็คงผลิตออกมาติดตั้งรถทุกคันแน่นอนอยู่แล้วครับ แล้วคนที่ผลิตไอ้สิ่งนี้มันเป็นวิศวกรหรือไงครับ อย่าไปเสียค่าโง่เลยครับ ไอ้คนขายมันก็เหมือนพวกสิบแปดมงกุฎที่หลอกขายเครื่องประหยัดไฟฟ้านั่นแหละครับ อย่าไปหลงเชื่อเลยครับพี่น้อง

                     จากการที่ทดลองติดตั้งอุปกรณ์ทำเองและอ่านบทความของคุณ ลองอ่านบทความนี้ซิครับ

แสดงว่าเครื่องยนต์ใช้ออกซิเจนในการเผาไหม้ยิ่งมีออกซิเจนมากเท่าใดเครื่องยนต์ยิ่งเผาไหม้ดีเท่านั้นควัน

ดำยิ่งน้อยลงเครื่องยนต์สามารถแสดงสมรรถนะและลดการกินน้ำมันได้สูงสุดตามที่บริษัทออกแบบมา

                                แสดงว่าแนวทางในการทดลองของเรามาถูกทางแล้วครับขอเสริมนิดหนึ่งนะประจุลบก็มี

ผลเหมือนกันคือช่วยเสริมให้การเผาไหม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นไปอีก เรามาช่วยกันลดภาวะโลกร้อนกันด้วยนะเวลา

วิ่งตามหลังรถควันดำแล้วสงสารปอดเราจัง

                                ช่วงนี้ฝนตกไม่ค่อยไ้ด้ไปไหนนั่งมองรถออกแบบมอเตอร์ใส่รถเป็นไฮบริดมั่งดีกว่ากำลังทำระบบชาร์จด้วยตัวเองแม้แต่ตอนจอดเครื่องก็ชาร์จได้ตลอดไม่ง้อไฟบ้านจ่ายกระแสได้สูงใช้แบต12vลูกเดียวก็วิ่งได้ เป็นกำลังใจกัน่ต่อไปนะ

 ลองใส่มาแล้ว ตัดสายไฟแล้ว ผลคือไม่แตกต่างกันเลย ตอนนี้เหลือแต่หาประแจถอดออก

ผมเพิ่งไปติดมาเมือวันเสาร์นี้เองครับ บอกตรงๆน่ะคัฟ แทบไม่อยากเชื่อว่า ว่าข้อแตกต่างก่อนติดกับหลังติดต่างกันมาก ครับ

ยอมรับว่าไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ เพราะเจอกับตัวเอง แต่ไม่เข้าใจว่าสายไฟ 3 เส้นมันทำได้ถึงขนาดนี้เลยหรือครับ แต่เอาเป็น

ว่าก็ประทับใจครับ เมื่อวานผมพาไปเหยียบเส้นมอเตอร์เวย์มา บอกเลยครับว่า รถแรงมาก เกจวัดน้ำมันลดนิดเดียวเอง

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ

http://www.en.kku.ac.th/enjournal/th/images/stories/files/published/33No6-5.pdf

 ก่อนติดตั้ง เติม50 ลิตร วี่งได้ 365 กิโเมตร หลังติดตั้ง เติม 50ลิตร วี่งได้ 420 กิโลเมตร เส้นทางเดิมๆขับแบบเดิมๆ ต้องทดลองทดสอบเองครับ 

 ผมก็ทำใช้เองใช้หลอดทำโอโชนใส่สองหลอดต้นทุน 1200 บาท ทำใส่ใช้งานรถปาเจโร เดิมเติมน้ำมัน50ลิตร วิ่งได้ 365 กิโลเมตร หลังติดโอโซนเติม 50 ลิตรเท่าเดิมวี่งแบบเดิมๆ ได้420 เมตร

ผู้ที่ตัดสินว่าไม่ดี  ควรทดลองก่อน   ก็เค้ายินดีคืนเงินให้ไง....................

หากตัดสินผิดแปลกด้วยตัว แต่ยังไม่ทำการทดลองด้วยตัวเองเค้าเรียกว่า......โ....ง่

 จากที่เคยทำใช้เอง ลองผิดลองถูก มาหลายๆแบบ ถ้าทำแบบที่เขาติดตั้ง วิ่งรถสักพักจะมีคราบดำๆมาเกาะต้องใช้อัลกอฮอล์เช็ดออกบ่อยๆครับ

เครื่องยนต์เดินเงียบ  ก่อนเช็ดคลายประจุให้หมดก่อนนะครับเดี๋ยวมันดูด   แรงดันยิ่งสูงยิ่งดีครับ ถ้าขยับปลายสายมาใกล้กับกรองอากาศจะ

ช่วยลดคราบดำได้ดี  ลองติดตั้งหลายตัวควันดำยื่งลดลง  ออกตัวได้ดีมากขึ้น

      อีกแบบผมใช้ น้ำมาผลิตออกชิเจนเพิ่มโดยใช้แรงดันไฟฟ้าป้อน นำออกซิเจนมาใช้ส่วนไฮโดรเจนปล่อยทิ้งไป เอาวงจรสร้าง O3แบบ  

โคโรน่าดักไว้ได้O3เพิ่มหลายเท่าตัวป้อนเข้าสู่ท่อไอดี เครื่องยนต์แรงดีขึ้นเหยียบออกตัวคึกคักฉับไวควันดำแทบไม่เห็นเลยถ้าไม่เหยียบแรงๆ

ตอนเข้าเกียร์ว่าง ลองทำกันดูนะครับ สมองยิ่งใช้ยิ่งพัฒนาครับ ลองทำกันก่อนได้ผลดีไม่ดีค่อยมาติงกันนะ

ขอพูดแบบกลางๆนะครับ ไปดูเขาอธิบาย หลักการทางวิทยาศาสตร์ก็น่าจะเป็นไปได้ แต่ประหยัดถึง 20 % หรือเปล่า อันนี้ไม่รู้ไม่เคยติด

แต่มีข้อสงสัยตรงที่ว่า ปลายขั้ว ที่ทำ ให้เกิด hi volt ที่ไปทำให้เกิด Ozone มันต้องทำความสะอาดบ่อยๆ หรือเปล่า

ผมว่าที่บริษัทรถไม่ติดตั้งอุปกรณ์นี้อาจจะติดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ก็เป็นได้  และอันตรายจากไฟแรงสูง แต่่ถ้ามีการออกแบบที่ดี

แก้ปัญหาไอน้ำมันมาเกาะ ทำความสะอาดได้ง่าย ที่เขาทดสอบ ไดโนเทส ผมอ่านกราฟ คร่าวๆ แรงม้าเพิ่มมาอีกประมาณ5ตัว

อยากให้ บริษัทรถต่างๆรีบทำรถมาขาย น่าจะดีไม่น้อย 

 ผมทำใช้เองเหมือนกัน  หลักการเหมือนเครื่องฟอกอากาศ คือใช้กระแสไฟฟ้าความต่างศักย์สูง ไปทำให้ O2 แตกเป็นประจุ ซึ่งสามารถทำให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์กว่าครับ  อัตราเร่งดีกว่าเดิมครับ  แต่การทดสอบออกตัวด้วยเกียร์5 ถ้าไม่เลี้ยงครัชท์ รับรองดับแน่ครับ ต้นทุนประมาณ 800 บาทเท่านั้นเอง  

ผมทำใช้เองหลักการคล้ายๆกันคือผลิต O3 แล้วป้อนเข้าสู่ ท่อไอดีของเครื่อง ควันดำลดลงทันตาเห็นเลยครับ เข้าเกียร์ว่างเหยียบไปที่ 4000รอบ

ลืมบอกรถผมเป็นเครื่องดีเซล 2500cc รถผมไมมีตัววัดการใช้น้ำมันก็เลยไม่รู้ว่าประหยัดขึ้นหรือเปล่า แต่เวลาเร่งเครื่องออกตัวได้ทันใจดีกว่า

ตอนไม่ใส่ครับ  

คุณ พอล ครับ ผมว่าคุณใช้แนวอารมณ์แล้วนะ เรามาหาข้อเท็จจริงกันดีกว่า

1 อย่างว่าถ้าดีจริงทำไมไม่ติดมาป็นอุปกรณ์มาตราฐานของรถเลย

2 หลักการมีการทดลองจากสถาบันวิจัยที่น่าเชื่อถือหรือไม่

3 ถ้าช่วยประหยัดได้จริง จะคุ้มค่าไหม3500 บาท อายุการใช้งานของเครื่อง ผลกระทบต่อเครื่องยนต์

ผมสงสัยแค่นี้

 ผมติดอุปกรณ์ตัวนี้แล้ว ผมเห็นว่าประหยัดได้จริง ผมใช้นาวาร่าวิ่งความเร็ว80-90 ประหยัดได้ลิตรละ 2.25 บาท ผมก็ถือว่าประหยัดได้พอสมควร ว่าจะติดอีกกล่องน่าจะประหยัดได้มากกว่านี้ เพราะผมชับทุกวันๆละ 200 กม. ผมอยากถามพวกที่วิจารณ์ว่าแหกตานั้น พวกนี้มีรถขับกันรึปล่าว ถ้ามีใช้วิ่งวันละกี่กิโล กล่องละแค่3500 ถ้าไม่ดีไม่ได้ผลเขาบอกว่ายินดีคืนเงิน จะไปกลัวอะไรล่ะครับ ผมกลัวแต่ว่าพวกคุณไม่มีปัญญาติดมากกว่า

เพิ่มอ๊อกซิเจนไม่น่าทำให้ส่วนผสมบาง แต่น่าจะทำให้การระเบิดแรงขึ้นส

ถ้าคุณมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ผมว่าคุณต้องลองแน่นอน   แต่สำหรับคนไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์อ่านและศึกษาอุปกรณ์นี้จากเว็บครับมีเยอะลองหาข้อมูลดู  ไม่ลองไม่รู้เงินแค่นี้ผมว่ามันคุ้มแน่สำหรับการลองและที่สำคัญไม่ดีเข้าก็คืนเงินถ้ามันไม่ประหยัดอย่างที่เข้าพูด

ตามความเห็นของผมๆ ว่าอุปกรณ์พวกนี้แหกตาทั้งนั้น (เช่น รถใช้น้ำ) มักอธิบายให้ดูมีหลักการ มีศัพท์ภาษาต่างประเทศให้ดูขลัง แต่ถ้าคนที่เรียนมาหรือมีความรู้จริงๆ ก็จะบอกว่ามั่ว

คิดง่ายๆ ถ้ามันดีจริงๆ วิศวกรเยอรมันคงตกงานกันเป็นแถว ค่ายรถยนต์ไม่ติดกันมาแล้วเหรอครับ? ประหยัดเชื้อเพลิงคนก็กล้าที่จะซื้อรถมาใช้มากขึ้น

อีกอย่างรถรุ่นใหม่ๆ ใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมปริมาณอากาศกับน้ำมันให้เหมาะสม เผาไหม้สมบูรณ์ การที่เพิ่มออกซิเจนเข้าไปโดยไม่เพิ่มน้ำมันก็เท่ากับส่วนผสมบางไป กำลังตก ต้องเค้นคันเร่งเพื่อเรียกกำลัง

มันเป็นเครื่องที่เพิ่ม ปริมาณออกซิเจนให้สูงกว่าปกติ แล้วให้ท่านที่สงสัยไปหาข้อมูลเกี่ยวกับทฤษีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์  โดยตัวเครื่องทำหน้าที่คล้ายเครื่องฟอกอากาศ จะมีกระแสไฟออกมาแน่ๆ ก่อนอื่นต้องศึกษารายละเอียดของ Safe plus ก่อนนะครับ ทำความเข้าใจก่อนติดนะครับ อย่าเชื่อคำคนอืน ลองก่อนไม่พอใจก็คืน

ห่วยแตก

 ถอดฟิวส์ออก ยังมีไฟช็อตอีก ช้อตแรงมาก ถอดออกแล้วครับ ห่วยแตก

 เขาบอกติดตั้งแล้วรถเกียร์ออร์โต ไม่ต้องเหยียบคันเร่ง ก็สามารถออกตัวได้  รถเกียร์ออร์โตยี่ห้อใหนไม่ต้องติดกล่องนี้ ก็สามารถออกตัวได้อยู่แล้วที่รอบความเร็วเดินเบา แล้วปกติการเผาใหม้ก็มีน้ำออกมาอยู่แล้วโดยที่ไม่ต้องติดกล่องนี้

 มันมีสายไฟ 3 เส้น ต่อเข้า ท่อร่วมไอดีก่อนเข้า แอร์โฟลมิเตอร์ สายไฟอีกเส้น เข้าสายไฟบวกที่ขั้วบวกของแบตรถ อีกสายเข้าขั้วลบแบตรถ แต่ไม่เข้าใจว่า กล่องมันจะผลิตกระแสอะไรออกมา ให้สายไฟ 3 เส้นจากกล่อง เพิ่มเพิ่ม O 2 ได้อย่างไร

 เหมือนเดิม เหมือนไม่ได้ใช้ คันเร่งไม่ได้เบาขึ้น ไม่ประหยัด อัตราการกินน้ำมันเท่าเดิม เก็บเงินไว้เติมน้ำมันดีกว่า 2900-3500 

ประหยัดจริงครับความเร็วเท่าเดิมยิ่งvigoประหยัดเกิน20%ครับตอนนี้เอาnissanไปติดมาอีกคันแล้วครับถ้าพิสูตย์ได้เครื่องเดิมมาเหยียบแข็งกันก็ได้ครับ

55555555555555 ผมก็ใช้ครับผม ดีครับ ลองถอดออกแล้ว รถวิ่งช้า เร่งอืดมากๆๆๆ พอเอาใส่คืนนะครับเร่งง่ายๆๆเลยครับ ช่วยประหยัดได้เยอมากครับผม จากเดิม 9 กิโลเมตร หลังใส่กล่องนี้เข้าไปแล้วได้ 14 กิโลเมตรเลยครับ ได้เยอะจริงๆๆ ถ้าไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ ผมลองใสแล้ววัดน้ำมันดู ขับเหมือนเดิมเอาระยะเท่าเดิมเปรีบยเทียบก่อนใส่และหลังใส่ ใครตแตกต่างเลย สรุปแล้วใส่ดีกว่า ถ้าใครไม่เชื่อนะครับ เอางี้ผมเป็นตัวแทนขายครับ มาติดแล้ววิ่งดูครับ ถ้าไม่เห็นผลผมไม่เอาเงินครับ ผมติดให้ดูเห็นๆๆ  โทมาถามเลยครับ 0801773479

ผมถอดออกเเล้วคับ

เเม้งโครตเน่าเลย

เปลือยกองยังดีกว่าอีก

หลักการทํางานเหมือนเครื่องปั้มนําตู้ปลาเลย

เห็นแกโฆษณาไว้ว่าจะเกิดoxidation แต่oxidation เนี่ยมันดึงอากาศออกไม่ใช่หรือครับ พูดอีกทีการเกิดปฏิกริยาแบบนี้คือการเกิดสนิมนั่นเอง???

อีกประการหนึ่งคือเค้าบอกว่าการเกิดกระแสลมวน......ไฟฟ้าทำให้เกิดกระแสลมวนได้ ด้วยหรือครับ อย่างนั้นหัวเทียนก็น่าจะทำกระแสลมวนได้สิ????

ผมว่าถ้าอยากเพิ่มอากาศแบบเสียไฟ ใช้ซุปเปอร์ชาร์จจะได้อากาศมากกว่าหรือเปล่าครับแรงอัดอากาศเพิ่มอีกเป็นบาร์แสดงว่าอากาศต้องเข้ามากขึ้นเกือบเท่าแหงๆ

ผมไม่ใช่วิศวกรแต่ผมก็ไม่เชื่อผลิตภัณฑ์อะไรทำนองนี้ครับหากไม่มีข้อมูลเชิงสถิติที่เกิดจากวิธีที่ถูกต้องยืนยัน อย่างเครื่องประหยัดน้ำมัน ที่อ.มหาลัยแห่งหนึ่งออกมาทำการทดสอบขับขึ้นดอยลงดอยนั้นผมไม่เชื่อครับ ตัวแปรมันมากไปเปลี่ยนคนขับก็กินน้ำมันไม่เท่ากันแล้ว

ควรเก็บตังค์ไว้เติมน้ำมันและไว้ล้างรถ  ค่าเข้าศูนย์จะดีกว่าครับพี่น้อง

การเพิ่มอากาศไม่เห็นต้องใช้ตัวที่ว่านี้เพิ่มเลย ก็จูนอากาศให้มากกว่าเดิมก็จบ แต่การเพิ่มอากาศอย่างเดียวคงไม่ได้เพราะการจูนต้องใช้องค์ประกอบหลายอย่างทั้งน้ำมัน+อากาศ+จังหวะจุดระเบิด ฯลฯ สรุปเหมือนคุณคนว่างฯ ครับ

เรียนตามตรงนะว่า เก็บเงินเอาไว้เติมน้ำมันดีกว่าครับ