บางทีปั๊มมีตรา มียี่ห้อนี่แหละครับ เขาก็ซื้อน้ำมันจาก jobbler เหมือนกัน
เพื่อนผมเขาทำกิจการประเภทนี้อยู่ที่ภาคอิสาน แต่เขารับส่งเฉพาะน้ำมันมียี่ห้อ เวลาสั่งน้ำมันมาขายแต่ละล็อตราคาจะไม่เท่ากัน ปั๊มก็จะเลือกน้ำมันที่ถูกกว่าตลอด ไม่ว่าตราหน้าปั๊มจะเป็นของใคร เคราะห์หามยามซวยเจ้าของตรามาจับได้ก็ต้องออกไปเป็นปั๊มอิสระ ดังนั้นปั๊มอิสระที่เห็นน้ำมันอาจเป็นของมียี่ห้อ หรือไม่มียี่ห้อก็ได้ ทางภาคอิสานผมไม่ค่อยกลัวครับ เพราะน้ำมันส่วนใหญ่ออกจากโรงกลั่นในไทยซึ่งมีมาตรฐานจากโรงกลั่นระดับหนึ่ง(ไม่ใช่มาตรฐานในถังนะ) แต่ทีนี้ปั๊มอิสระไม่มีเจ้าของตรามาคุมมาตรฐานของปั๊ม ห้องน้ำ ถังเก็บ มีแต่หัวจ่ายที่ กองชั่งตวงวัดเขาดู(บ้างไม่ดูบ้าง) เท่านั้น

แต่เท่าที่คุยกับเพื่อนผมดู ตราหอยเขาตรวจบ่อย และจะสั่งให้ล้างถังบ่อยมาก

อย่างในกรณีของคุณที่ทำกิจการที่มีรถบรรทุกและหัวลาก การที่จะติดตั้งถังและซื้อน้ำมันมาใช้เองนั้น เหมาะสม เพราะคุณควรที่จะทราบได้ว่าคุณซื้อน้ำมันมาจากบริษัทอะไร รถบรรทุกและรถหัวลากยังสามารถใช้น้ำมันดีเซลมาตราฐานต่ำได้เพราะเครื่องยังมาตราฐานก็สูงสุดก็ยูโร 3  แต่ถ้าเป็นรถกะบะรุ่นใหม่ ยิ่งพวก Commonrail มาตราฐานยูโร 4 ไม่แนะนำโดยสิ้นเชิงครับ และที่จะไปถามเขาว่ารับน้ำมันมาจากไหน คงจะไม่มีใครบอกหรอกว่าไปรับมาจากพวกที่ชอบแอบรับซื้อน้ำมันจากรถบรรทุกที่ชอบเข้าหลบมุมมืดแล้วไปแอบถ่ายลงถังสองร้อยลิตรแล้วถ่ายเอามาขาย เมื่อเอามาแล้วไปผสมใส่ Solvent ลงไปให้ได้ปริมาณมากๆ ราคาถูกๆ คุณจะไปรู้หรือครับว่าเขาเติมอะไรลงไป นอกเสียจากว่าคุณจะเอาตัวอย่างน้ำมันไปส่งห้องแลปพิสูจน์ ถูกเงินนะใช่ แต่ได้ไม่คุ้มเสียนะครับเพราะยกเครื่องทีเป็นแสนนะ น้ำมันเถื่อนที่ลักลอบเอาเข้ามาจากทางภาคใต้ ถ้าใช้กับรถบรรทุกและรถลากนะพอทน แต่รถกะบะนะไม่แนะนำ เพราะน้ำมันมาเลเซียมาตราฐานต่ำกว่าของเรามากครับครับ  

ถามปั้มนั้นเลยครับว่รับน้ำมันมาจากที่ไหนครับ บ้านลุงผมไม่ได้เป็นปั้มน้ำมันแต่ซื้อน้ำมันถังหมื่นลิตรไว้ใช้ส่วนตัว แต่เป็นน้ำมันที่มียี่ห้อ ราคาถูกกว่ากันเยอะ ไว้เติมพวกรถบรรทุก รถหัวลาก

ปั๋มน้ำมันที่ไม่มียี่ห้อหรือปั๋มขาวมีให้เห็นมากในภาคอีสานและภาคใต้ กับปั๋มน้ำมันที่มียี่ห้อที่ตั้งแต่เกิดมาตั้งแต่ท้องพ่อท้องแม่ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน จะซื้อม้ำมันจาก Jobber เข้ามาจำหน่าย ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าต้นกำเนิดของน้ำมันนั้นมาจากบริษัทหรือคลังน้ำมันไหน ขอให้สันนิฐานไว้ได้ก่อนเลยว่าน้ำมันจะไม่ได้มาตราฐาน ซึ่งรถสมัยใหม่ไม่ว่าจะเป็นเบนซินหรือดีเซลก็ตาม เติมเข้าไปเครื่องพังก็จะไปร้องขอความช่วยเหลือหรือขอความเป็นธรรมจากใครก็ไม่ได้ ราคาที่ปั๋มเหล่านี้จำหน่ายน้ำมันออกมาจะมีราคาต่ำกว่าปั๋มทั่วไปครับ ตัวอย่างเช่นถ้าคุณเติมน้ำมันลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านมาเติมให้รถที่เครื่องยนต์รุ่นใหม่เช่นรถกะบะใหม่ปี 2012 ที่จำเป็นต้องใช้น้ำมันมาตราฐานยูโร 4 ขึ้นไป รับรองได้ว่าเครื่องพังแน่นอนครับ และบริษัทรถยนต์ก็ไม่รับชดใช้แน่นอนเพราะคุณเติมน้ำมันผิดประเภทครับ ทุกวันนี้ น้ำมันที่จำหน่ายจากปั๋มมียี่ห้อแต่เจ้าของไม่เคยดูแลตรวจสอบว่าถังบรรจุน้ำมันรั่วหรือมีสิ่งสกปรกไหนเข้ามาในถังจนทำให้น้ำมันเกิดความสกปรก ก็ถือว่าเป็นปัญหาที่แก้ยังไม่ตกเช่นกัน ดังนั้น เราเองจะต้องเลือกเอาปั๋มที่เป็นปั๋มใหม่สักหน่อย ไม่เติมน้ำมันจากปั๋มที่รถบรรทุกน้ำมันพึ่งไปลงน้ำมันเสร็จต่อหน้าต่อตาเรา เพราะฝุ่นสกปรกที่อยู่ก้นถังจะฟุ้งขึ้นมาผสมกับน้ำมันที่เราเข้าไปเติมใส่รถเราครับ รถที่ใช้น้ำมันเบนซินควรเปลี่ยนไส้กรองทุก 40000 กม. ส่วนรถดีเซลควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันดีเซลอย่างน้อยปีละครั้งเพื่อความมั่นใจครับ คู่มือในรถเขาว่าอย่างไร ช่างมัน เพราะคนเขียนคู่มือมันอยู่ต่างประเทศ คนไทยมีหน้าที่แปลให้มันถูกต้องเท่านั้น แต่ปัญหานี้เป็นปัญหาท้องถิ่นที่เกิดแต่ในประเทศเราเอง ของเขาเกิดขึ้นแต่น้อยเพราะยกตัวอย่างเช่นถังน้ำมันที่เก็บน้ำมันนั้น บริษัทและหน่วยงานราชการในต่างประเทศจะเข้ามาตรวจเป็นประจำ แต่ของไทย รอไปชาติไหนตายไปกี่รอบถึงจะมีบริษัทหรือหน่วยงานของรัฐจะโผล่เข้ามาตรวจสักครั้ง เจ้าของรู้ว่ารั่วก็ทนใช้เพราะบอกบริษัทกว่าจะส่งช่างมาซ่อมก็รากงอกไปแล้วครับ