ถามเรื่องการใช้เกียร์ออโต้ค่ะ
avatar
แนนนี่


- เวลาสตารถ์รถเพื่อออกตัวถ้าเราเลื่อนเกียร์ P มา N ก่อนแล้วค้อยสตารท์   และเวลาจะจอด เปลี่ยนจาก D เป็น N  แล้วดับเครื่องก่อน   หลังจากนั้นจึงเลื่อนเกียร์ไป P  จะมีปัญหากับเกียร์หรือไม่คะ   เพราะรู้สึกว่าการเข้าเกียร์ไปที่ P  จะทำได้ง่ายกว่าการเข้าเกียร์ P ขณะที่เครื่องยนต์ยังติดเครื่องอยู่

- ที่บอกว่าถ้ารถติดให้เหยีบเบรค และใช้เกียร์ D  แทนการเลื่อนมาเกียร์ N  ท่านๆ ไม่เมื่อยขาขวาเหรอคะ  เพราะลองทำดู เมื่อยมากๆเลย   และถ้าเหยียบเบรคไม่แน่นพอ  เบรคไม่จับเต็มที่จะมีปัญหากับระบบเกียร์ หรือเบรคไหมคะ

- มีท่านผู้รู้บอกว่าให้ใช้เกียร์ 2 เวลาการจราจรติดขัดแทนการใช้เกียร์ D  สมควรจริงหรือไม่คะ 

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

 



ผู้ตั้งกระทู้ แนนนี่ :: วันที่ลงประกาศ 2011-06-27 22:00:15 IP : 101.108.101.208


1

ความคิดเห็นที่ 15 (4111689)
avatar
ปล.

 ฮอนด้าzxเวลารถติดไฟแดงเกียรอยุ่ที่ตัวDแล้วเหยียบเบรคไว้แต่รถมันมีเสียงครึดๆเหมือนจะไปหน้าเรื่อยๆอ่ะค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปล. (Patcharee srisutus-at- Gmail-dot- Com)วันที่ตอบ 2018-04-15 09:31:19 IP : 223.24.58.47


ความคิดเห็นที่ 14 (3397844)
avatar
med8_055@hotmail.com

รถเกียรออโต เวลาชนแล้ว ทำมัยเกียรติดหรือค้างไม่สามารถ ปลดเกียรได้คับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น med8_055@hotmail.com วันที่ตอบ 2014-11-22 18:50:47 IP : 182.53.43.86


ความคิดเห็นที่ 13 (3389251)
avatar
thunder

ตอนสตาร์ทเครื่อง -ปิดประตูให้สนิท -คาดเข็มขัด - สังเกตุเกียร์ต้องอยู่ที่ P  -เสียบกุญแจ -บิดกุญแจไปที่  ON รอประมาณ10วิ ให้หน้าปัดแสดงจนครบ และให้สังเกตุว่า อุปกรณ์ที่ใช้ไฟ ดับแล้วทุกอย่าง - บิดกุญแจเพื่อสตาร์ท รอ10วิเพื่อให้เครื่องวอร์มจนสัญญาณดับ -เปิดอุปกรณ์ที่ใช้ไฟได้ และเตรียมตัวออกรถ 

 

ตอนดับเครื่อง -จอดรถจนนิ่งและเหยียบเบรคค้างไว้ -ปิดอุปกรณ์ที่ใช้ไฟทั้งหมด เช่น ไฟหน้า วิทยุ เครื่องเล่น ไฟส่องแผนที่  -เลื่อนเกียร์จาก D ไป N (เท้ายังเหยียบเบรค) ยกเบรคมือ -บิดกุญแจดับเครื่องกลับไปที่ ON เครื่องดับ  - เลื่อนเกียร์จาก N ไปที่ P  - บิดกุญแจไปที่OFF ไฟสัญญาณต่างๆตรงหน้าปัดดับ  ดึงกุญแจออก ถอดเข็มขัด เปิดประตู 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น thunder วันที่ตอบ 2014-04-24 15:27:37 IP : 171.7.72.4


ความคิดเห็นที่ 12 (3300402)
avatar
ลูกบอล

ตอบคุณ โซดา  ....... น่าจะตั้งกระทู้ใหม่ นะ งิ

1. เป็นบางยี่ห้อ  บางรุ่นก็ได้ บางรุ่นก็ไม่ได้  แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้

2. ผมว่ามันคงจะพังเลยอ่ะครับ ถ้า D แล้วไป R ขณะวิ่ง อันตรายไหมก็อันตราย แต่ถ้ามีสติ ก็ไม่มีอะไรน่ากลัวครับ  แต่ที่แน่ ๆ คือ เสียเงินชัวส์

3. แล้วเหยียบคันเร่งไหมล่ะครับ โมเมนตั้ม แรงโน้มถ่วงของโลก ง่ะ  ไม่มีปัญหาหรอกครับ งิ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกบอล วันที่ตอบ 2011-07-08 16:31:52 IP : 58.8.12.247


ความคิดเห็นที่ 11 (3300349)
avatar
โซดา - เจี๊ยบ

อยากถามว่า   1.  เวลาจะสตาร์รถหากเกียร์อยู่ที่ตัว D จะสตาร์ทได้ไหมคะ

                       2.  ตอนที่รถวิ่งอยู่ที่ตัว D ลูกชายมือไปโดนเกียร์ให้ไหลไปอยู่ที่เกียร์ N แสดงว่ารถผิดปกติไหมคะ  แล้วอย่างนี้เกียร์สามารถเลื่อนไปที่ตัว R ในขณะที่รถวิ่งอยู่ที่ตัว  D ได้ไหมคะ  กลัวจะเป็นอันตรายน่ะค่ะ

                       3.  เวลาขึ้นเนินชัน ๆ ใช้ตัว D อยู่แล้วไม่ได้เหยียบเบรคทำไมรถยังไหลถอยหลังนิดหน่อยล่ะคะ  อย่างนี้เกียร์มีปัญหาไหมคะ

                           ขอความกรุณาเพื่อน ๆ ช่วยตอบหน่อยค่ะ  ขอบคุณค่ะ                      

 

ผู้แสดงความคิดเห็น โซดา - เจี๊ยบ (Soda-jeab-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-07-08 10:11:28 IP : 223.206.62.15


ความคิดเห็นที่ 10 (3299691)
avatar
แนนนี่

ขอบพระคุณทุกท่านเลยค่ะ   รู้สึกว่าขับเกียร์แมนนวลสบายใจกว่าเยอะเลย  ไม่ต้องกังวลมาก    เมื่อยขาก็เมื่อยข้างเดียว ไม่ยุติธรรมกับขาข้างซ้ายเลย   มันว่างมากไปค่ะ  :-)

ผู้แสดงความคิดเห็น แนนนี่ วันที่ตอบ 2011-06-30 22:05:42 IP : 125.25.37.252


ความคิดเห็นที่ 9 (3299619)
avatar
หนุ่ม

  เรียนคุณ แนนนี่ ครับ

- ที่คำถามแรกสุด ผมเข้าใจคำ ถามคุณนะครับ ก็มีคนทำกันเยอะครับ ( ในหลักการลดความสึกหรอเกียร์ด้วยครับ)แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวังด้วยครับ (ไม่เป็นข้อแนะนำในการทำครับ)

- ส่วนข้อ 2 ก็ว่าตามสะดวกครับ แต่ถ้าจะใช้ D แล้วเบรค ไม่ควรให้รถขยับทีละนิดครับ

- ข้อ 3 ไม่ควรทำครับ ผู้รู้ไม่ควรแนะนำคุณแบบนี้ครับ (เพราะคุณไม่เข้าใจ จะไปกันให้) เดี๋ยวงานเข้า

   วิธีใช้เกียร์ อยู่ในคู่มือ ครับมีหมดทุกอย่าง

 ส่วนการหยุด รถโดยการเชน เกียร์ ก็อย่าไปทำครับ (ออโต้ และ ธรรมดา) งานเข้าเสียเงิน บานเบอะ ครับ

 คุณไปเอาวิธีการนี้มาจากไหนรับ.....การหยุดรถ ทั้งแบบปกติ และฉุกเฉิน สามารถหาอ่านได้ในคู่มือ ครับ รวมถึงการใช้เบรคมือ

  .....ถ้ากลัวว่าเบรคไม่ดีควรนำรถไปให้ผู้ชำนาญตรวจซ่อม ดีกว่าครับ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น หนุ่ม วันที่ตอบ 2011-06-30 11:42:20 IP : 203.151.15.245


ความคิดเห็นที่ 8 (3299438)
avatar
แนนนี่

ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น แนนนี่ วันที่ตอบ 2011-06-28 21:58:22 IP : 101.109.229.99


ความคิดเห็นที่ 7 (3299394)
avatar
kenno

เกียร์ออโต้สมัยใหม่ๆเกียร์มันฉลาดครับถ้าเราขับลงทางชันแล้วแตะเบรคECUมันจะสั่งให้เกียร์เชนให้เองอัตโนมัติครับความเร็วก็จะค่อยๆหน่วงลงระดับนึ่งแต่ถ้าเราแตะคันเร่งต่อเกียร์ก็จะเปลี่ยนสูงขึ้นทำให้ไม่เอนจินเบรค

ผู้แสดงความคิดเห็น kenno วันที่ตอบ 2011-06-28 17:49:27 IP : 58.8.248.181


ความคิดเห็นที่ 6 (3299389)
avatar
M(น่ารัก)

สามข้อแรกตอบกันไปแล้วนะครับ ส่วนการใช้ engine brake ที่หายไปในรถเกียร์ออโต้สมัยนี้(คงเห็นเหตุผลของการประหยัดน้ำมันด้วย) ในสภาพปกติอาจรู้สึกเหวอๆ ถ้าขับเกียร์ธรรมดามาก่อน หรือเกียร์ออโต้สมัยก่อนมาก่อนครับ (ผมก็รู้สึกครับ)แต่ ถ้าไหลมากดเบรกจริงๆ มันก็เอาอยู่นะครับ ไม่ต้องกังวลครับผม
engine brake เกียร์สมัยนี้ต้องสั่งครับถึงจะมา  เช่นกด O/D Off เวลาไหลลงเขาที่ความเร็วสูงหน่อย(ราวๆ 80-90) แต่ไม่ควรใช้ D2 เพื่อเอา engine brake ครับ เพราะเขาไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้แบบนั้น... ถ้าจะเอาจริง ลองใช้ O/D Off ขับในเมืองดูก่อนก็ได้ครับ... แต่จะเปลืองน้ำมันนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น M(น่ารัก) วันที่ตอบ 2011-06-28 16:35:08 IP : 202.12.97.114


ความคิดเห็นที่ 5 (3299331)
avatar
แนนนี่

ขอถามต่อนะคะว่า........ถ้าต้องการหยุดรถ  ในเกียร์ MANUAL  เราจะ change gear  ร่วมกับเบรค    แต่สำหรับเกียร์ auto  เราจะสามารถเปลี่ยนเกียร์มา D2  (เกียร์ที่จะใช้เร่งเครื่องเพื่อแซง)  เพื่อเป็น Engine brake แล้วเบรคเท้าเพิ่ม ได้หรือไม่คะ    เผื่อกรณีฉุกเฉินน่ะค่ะ  แต่ปกติก็ไม่ได้ขับเร็วมากๆ   แต่เดิมใช้เกียร์ MANUAL รู้สึกมั่นใจมากกว่าเราสามารถหยุดรถได้จริง   เวลานี้เลยต้องเผื่อเว้นระยะหน้ารถไว้ค่อนข้างมาก  กว่าคนขับคันอื่นๆค่ะ (ถ้าขับประมาณ 100 กม/ชม.)

ผู้แสดงความคิดเห็น แนนนี่ วันที่ตอบ 2011-06-28 11:22:21 IP : 202.122.130.31


ความคิดเห็นที่ 4 (3299327)
avatar
แนนนี่

เรียนคุณขับ estate เก่าๆ  

ที่บอกว่าหลังจากดับเครื่องที่ N แล้วค่อยเปลี่ยนเกียร์ P  จะทำได้ง่ายกว่าการเข้าเกียร์ P ขณะที่เครื่องยนต์ยังติดเครื่องอยู่   เพราะการเลื่อนเกียร์ไปเกียร์ P จะไม่ฝืด-แข็งแบบตอนที่เครื่องยนต์ติดอยู่ค่ะ  และได้ป้องกันเสมอโดยเหยียบเบรคไว้   อย่างไรก็ตามจะทำตามที่ทุกๆท่าน กำชับค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น แนนนี่ วันที่ตอบ 2011-06-28 11:14:08 IP : 202.122.130.31


ความคิดเห็นที่ 3 (3299292)
avatar
เล็ก

เอาง่ายๆตามนี่เลย

1. จะสตาร์ทรถ หรือ ดับเครื่อง ให้รถจอดสนิท เกียร์อยู่ที่ตัว P

2. ขณะเปลี่ยนเกียร์ทุกครั้ง ควรเหยียบเบรคด้วย เพื่อกันรถเคลื่อนโดยไม่รู้ตัว

3. หากกำลังขับรถไปข้างหน้า ไม่ว่ารถติด หรือไม่ เข้าเกียร์ D ไว้ก็พอ

4. หากรถติดนานๆ เมื่อยเท้าที่เหยียบเบรค จะเปลี่ยนเกียร์มาที่ตัว N ก็ได้ แต่ต้องระวังรถไหลด้วย

5. เรื่องเข้าเกียร์ 2 รถจะเปลี่ยนเกียร์เพียง เกียร์ 1 และ 2 เท่านั้น จะไม่เข้าเกียร์ 3 ให้ ใช้ในขณะขึ้นทางชัน ต้องจอดรถให้นิ่งสนิทก่อน จึงจะเหยียบเบรค แล้วเข้าเกียร์นี้

6. ข้อนี้สำคัญที่สุด หากลงจากรถไม่ว่าเครื่องยนต์จะยังติดอยู่ หรือดับแล้ว เกียร์ต้องอยู่ที่ตัว P เท่านั้น เพื่อป้องกันขึ้นข่าวหน้า 1 ไทยรัฐ "รถไหลทับเจ้าของ" กรณีนี้ เกิดขึ้นบ่อยๆ เจ้าของรถลงจากรถเพื่อไปปิดประตูบ้าน เข้าเกียร์ N ไว้ ไม่ทราบเกิดอะไรขึ้น เกียร์ไหลไปเข้าเกียร์ D เอง อัดเจ้าของบ้านกับประตู

ด้วยความหวังดี

ผู้แสดงความคิดเห็น เล็ก วันที่ตอบ 2011-06-28 08:00:56 IP : 110.171.180.131


ความคิดเห็นที่ 2 (3299288)
avatar
ขับ estate เก่าๆ

1.สร้างความเคยชินเสียใหม่ ควรสตาร์ทที่เกียร์ P เพราะ การสตาร์ทที่ N อาจทำให้รถไหลและเกิดอุบัติเหตุได้ หากท่านสตาร์ทรถในพื้นที่ไม่มั่นคง เช่นเนิน หรือหลุม ส่วนตอนดับเครื่องควรไปที่ P เพราะการดับที่  N อาจเกิดอุบัติเหตุหากรถไหล และการดับที่ N หากรถไหลขณะเลื่อนคันเกียร์ไปเกียร์อื่นๆ (จาก N>R>P) จะสร้างความเสียหายที่เกียร์ แต่ถ้ารถหยุดสนิทก็ไม่สร้างความเสียหายให้เกียร์   ผมวิเคราะห์พฤติกรรมของคุณแล้ว คุณดับเครื่องที่ N แล้วค่อยเปลี่ยนเกียร์ P  เพราะ"สะดวกกว่า" คำว่าสะดวกกว่าหมายถึงไม่ต้องเหยียบเบรกเพื่อจะเปลี่ยนจากเกียร์ D ไป P เหมือนตอนติดเครื่องยนต์ หากเป็นตามที่ผมวิเคราะห์จริง ควรกลับไปอ่านซ้ำอีกรอบเพราะการจอดรถของคุณ ก่ออันตรายครับ มันก่ออันตรายถึงขนาดถ้าคุณสอบใบขับขี่ที่ต่างประเทศคุณจะตกทันที และรถยุโรปหลายๆรุ่นจะไม่ให้คุณดับเครื่องที่ N ด้วยเหตุผลนี้

3.ลากคันเกียร์มาอยู่ที่ตำแหน่ง 2 คือ ใช้แค่สองเกียร์ครับ คือเกียร์ 1 และ 2 การวิ่งแบบนี้จะกินน้ำมันเพราะรอบเครื่องจะขึ้นสูงกว่าปกติ รถรุ่นใหม่ๆ วิ่ง 40-50 ก็ขึ้นเกียร์ 3-4 กันแล้ว จริงๆแล้วเกียร์นี้เอาไว้ขึ้นทางชัน หรือลงเขาครับ การเข้าเกียร์นี้ที่ความเร็วสูงรถอาจหมุน และสร้างความเสียหายให้เกียร์

*****การใช้งานเกียร์ และการบังคับรถต่างๆ ศึกษาได้จากคู่มือประจำรถครับ********

ผู้แสดงความคิดเห็น ขับ estate เก่าๆ วันที่ตอบ 2011-06-28 03:08:10 IP : 183.89.97.121


ความคิดเห็นที่ 1 (3299274)
avatar
911

- มึนๆอ่ะ   

- ถ้ารถติดนานๆไปไว้ที่ เอ็น ถ้าติดไม่นานมากไม่เกิน 45 วิ เข้าเอ็นแล้วเหยียบเบรคให้แน่นๆ ถ้าไม่แน่นจะมีผลต่อผ้าเบรก ทำให้หมดเร็วขึ้น ไม่ส่งผลต่อเกียร์

- ใช้เกียร์ 2 ขณะขับรถอยู่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง มันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทำอย่างนั้น   เข้า ดี ไว้ครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น 911 วันที่ตอบ 2011-06-27 23:03:56 IP : 125.24.129.203



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.