ตรวจสอบหัวเผาขาดหรือเปล่าครับ

โอ้โห ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเลยกาเจ้า แต่ถ้าจะช่วยให้ชาติไทยรวมกันได้ ข้าเจ้าจะยินดียิ่งเชียวแหละ อิ อิ

อิอิ กระทู้รวมชาติไทย เย๊ :-D

แล้วคนถามจากเจียงใหม่ก็ต้องขอ "ยินดีเจ้า" กับทุกท่านทั่วไทยที่ช่วยตอบคำถามเจ้า :) :)

กระทู้นี้ตอบปัญหาข้ามประทศกันเลยนะเนี่ย คนถามมาจากเชียงใหม่ คนตอบมาจากหาดใหญ่  นี่ละประเทศไทยจึงเจริญ55555

มีครับคุณเดือน ที่หาดใหญ่แบตฯสำหรับกระบะดีเซลเครื่อง 3000 C.C. ราคาสามพันกว่าบาท (ทางร้านจะดูว่าเป็นเครื่อง 2500 หรือ 3000 )

ไอ๊หยา อ่านที่แต่ละท่านตอบ ข้าเจ้าเกิดอาการ "มึนตึ๊บ" เพราะเคยแต่ขึ้นรถ สตาร์ท แล้วก็ขับไปไหนต่อไหน ไอ้เรื่องเปิดฝากระโปรงรถแล้วดูอะไรต่อมิอะไร ข้าเจ้าแทบจะไม่เคยทำเลย นอกจากเติมน้ำกลั่นบ้างเป็นครั้งคราว เอางี้ดีกว่า ข้าเจ้าขออนุญาตก็อป***ข้อความเหล่านี้ เอาไปให้เพื่อนอ่าน แล้วให้เค้าลองทำตามคำแนะนำของท่านทั้งหลายดีกว่าเจ้า ถ้าให้ข้าเจ้าทำเอง มีหวังเจ๊งทั้งแบต ทั้งรถ แหะ แหะ

คุณ navi เจ้า รถกระบะดีเซลใช้แบตแห้งได้ด้วยเหรอเจ้า เหมือนจะเคยได้ยินมาจากไหนไม่รู้ว่าแบตแห้งใช้สำหรับรถเก๋งเท่านั้น ถ้ามีก็ดีสิเจ้า คราวหน้าจะได้เปลี่ยนเสียเลย ตัดปัญหาลืมเติมน้ำกลั่นด้วยเจ้า

ยังไงก็ขอขอบพระคุณสำหรับคำตอบของทุกท่านนะเจ้า โดยเฉพาะอาจ๋านพัฒนเดชที่อุตส่าห์สละเวลามาช่วยตอบปัญหาจิ๊บจิ๊บ ของข้าเจ้า ยินดีเจ้า

ตอบคุณ ทิว คหที่  5

ปกติครับ ควรจะวอร์มเครื่องให้รอบ นิ่งก่อนค่อยออกรถครับ ถ้าทำได้ ซัก 5 นาที ก็ ok แล้วครับ

***อ้าว คุณนนท์ ตอบแว้ว นี่หว่า งิ  

วันนี้ ลองชาร์จให้เต็ม แล้วกลับบ้าน ถอดสายแบตขั้วลบออก แล้ว ทิ้งไว้ถึงเช้า  ตอนเช้ามาเสียบ ถ้าสตาร์ทติด แสดงว่า แบตไม่ได้เสื่อม ต้องเชคที่ได ถ้าไดไม่เสีย ก็หายต่อไป  แนะนำให้เข้าร้านได ที่ทำได อย่างเดียว หรือมีแบตขายพ่วง อย่าเข้าร้านที่มันพ่วงมาหลาย ๆ อย่าง  เพราะมันจะไม่จบ

คุณเดือนครับ   ไปร้านแบตฯที่ดูมาตรฐานน่าเชื่อถือ หรือร้านไดนาโม เขาเช็คให้ว่าไดชาร์จเสียหรือไม่   และถ้าเปลี่ยนแบตฯเอาร้านที่เขาประกันให้เรา มีบัตรรับประกัน และเขียนวันที่ เดือน ปีไว้ที่ตัวแบตฯ (ใช้แบบแห้งเลยราคาไม่ต่างกันมาก ไม่ต้องดูแล ไม่มีไอน้ำกรดให้รถผุ)

ขออนุญาตแชร์นะครับ....ตอนติดเครื่องแล้ว รอบเครื่องสูงกว่าปกติ เนื่องจากระบบโช้คอุ่นเครื่องให้ถึงอุณหภูมิทำงานเร็วขึ้น ดังนั้น ปกติผมติดเครื่องแล้วจะออกรถทันทีหลังจากที่สัญญาณน้ำมันเครื่องดับ แต่จะแค่เข้าเกียร์ 2 แล้วปล่อยคลัตช์ให้รถไปเอง (รถผมเป็นกระบะดีเซล) ซึ่งรอบก็จะไม่สูง พอพ้นซอยย่อย (ประมาณ 100 เมตร ผมก็เริ่มเหยียบคันเร่งที่ไม่เกิน 1,500 รตน. จนถึงหน้าหมู่บ้าน ประมาณ 1 กม. จากนั้นก็จะขับต่อไปอีกประมาณ 2 กม.จนถึงอุณหภูมิทำงาน ผมจึงเร่งตามปกติครับ เพื่อป้องกันการสึกหรอครับ

ยกเว้นเวลาไปเที่ยวดอยตอนอากาศเย็นๆ หรือรถจอดทิ้งไว้หลายวัน ผมจะติดเครื่องประมาณ 2 นาทีแล้วค่อยๆ ออกตามขั้นตอนข้างต้นครับ

เรียนถาม ต่อเนื่องครับ เมื่อสตาร์ทแล้ว รอบเครื่องขึ้นไปที่ 1500 รอบ

แล้วต้องรอให้รอบเครื่องลงมานิ่งก่อน หรือเปล่าครับ ถึงจะออกรถ

และถ้าออกรถเลยจะมีผลเสียยังไงบ้างครับ

รถรุ่นใหม่ทุกแบบทุกยี่ห้อ  มีระบบตรวจและเตือน ( Checking & Warning ) ระบบต่างๆในตัวของมัน  โดยจะแจ้งให้เรารู้ว่าระบบนั้นๆพร้อมทำงานหรือไม่  ผ่านดวงไฟที่หน้าปัด   ดังนั้นก่อนสตาร์ทรถจึงควรเปิดสวิทช์  แล้วรอให้ระบบตรวจตัวเองก่อน  ประมาณไม่เกิน 10 วินาที หรือรอจนไฟถุงลมนิรภัยดับ เพราะมันใช้เวลาตรวจตัวเองช้ากว่าคนอื่น  จากนั้นจึงสตาร์ท  ถ้าสตาร์ทก่อนการตรวจระบบต่างๆทำงานครบถ้วน  กล่องควบคุมอาจจะงงๆๆ   เพราะมันถูกโปรแกรมมาให้รอการตรวจเสร็จเรียบร้อย  วิธีแก้ไขเบื้องต้นคือ  ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกทิ้งไว้สักหนึ่งหรือสองชั่วโมงเป็นอย่างน้อย  จากนั้นจึงสวมขั้วกลับเข้าไป ( ถอดขั้วบวกขั้วเดียวก็พอ )  แล้วเปิดสวิทช์กุญแจขึ้นมา  รอจนไฟดับ  ปิดกุญแจลงไป  เปิดใหม่ ทำอย่างนี้สักสามรอบ  แล้วรอบที่สี่จึงสตาร์ทเครื่องยนต์  จะทำให้กล่องถูกกระตุ้นความจำในตัวมันเอง ( ห้ามถามว่าตำรานี้เรียนมาจากไหน  เพราะมั่วเอาเอง รวมทั้งเรื่องการกำหนดศัพท์ ( Checking & Warning ) ก็มั่วขึ้นเองเช่นกันคร้าบ

คงต้องลองที่แบตฯ ก่อนครับป้าเดือน ลองชาร์จแล้วใช้สักระยะ ถ้าเป็นอีกก็เช็คชัวร์ๆ ว่าเป็นที่แบตฯ เสื่อม... ก็ค่อยเปลี่ยน ถ้ายังเป็นอีก.. อันนี้ไม่แน่ใจแล้วครับ พวกรถรุ่นใหม่ๆ (ความหมายผมคืออายุต่ำกว่าสิบปี) มันอิเลคทรอนิคส์เยอะอ่ะครับ มันอาจเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับการไม่รอไฟหน้าปัทม์ก็ได้อ่ะครับ ไม่อยากโทษเค้า... แต่ผมก็บอกแฟนให้รอไฟ check engine ดับก่อนเสมอ เวลาใช้ ecar ส่วนวันนี้ใช้ everest ใหม่ ไฟหัวเผามันดับไวมาก(ติดแค่ 1-2 วินาทีเอง) ผมก็ให้เค้ารอไฟ airbag ดับก่อน(ไม่รู้ว่ารอทำไมนะ แต่เป็นความเคยชิน แหะๆ) แต่รถที่ผมขับเองเจ้ากระบะเฉินหลง ถ้าไฟเผาหัวยังไม่เขียว บิดยังไงก็ยังสตาร์ทไม่ติดครับ อิอิ

บางที... ปัญหาอาจมาจากในระหว่างยืมใช้ เค้าอาจลืมปิดไฟหรี่ ปิดประตูไม่สนิท หรืออื่นๆ ที่ทำให้แบตฯ คายประจุมากก็ได้ครับ พอป้าเดือนเอากลับมาใช้ก็อาจจะวิ่งไม่มาก แล้วแบตฯ ก็เลยอ่อนๆๆๆๆ ลง อันนี้เดาเอาครับ(กรณีไม่มีอะไรผิดปกติเลย) ถ้าเคสนี้ แค่เอาแบตฯ ไปชาร์จเต็มใหม่ก็น่าจะจบครับ... ไม่งั้นก็ต้องดูไล่ไปทีละอย่างอ่ะครับ...

แบต ยี่ห้ออะไรครับ   เป็นไปได้ครับ งิ   ยิ่งเจอแบตตัดสต๊อกมาเยอะ ๆ ด้วย  6 เดือน ก็ไปแล้ว  โดนมากับตัว

เท่าที่ทราบมา หัวเผามีไว้เพื่อช่วยในการติดเครื่องง่ายในอุณหภูมิต่ำ หากอุณภูมิปกติไม่จำเป็น โดยเฉพาะเครื่องแบบฉีดตรง (Direct Inject) ยิ่งไม่มีความจำเป็นต้องรอให้ไฟหัวเผาดับครับ แต่ถ้าเป็นระบบห้องเผาไม้ช่วย (Indirect Injection) ควรรอเพราะเครื่องยนต์จะเข้าสู่อุณหภูมิทำงานปกติได้ช้ากว่าแบบแรกครับ

ถ้าช่างบอกแบตฯ เสื่อมก็เคลมสิครับ อายุยังไม่ถึงปี แต่ถ้าคิดว่าช่างวิเคราะห์มั่วๆ ก็ลองให้ช่างท่านอื่นวินิจฉัยดูครับ...อาจจะเป็นเพราะไดชาร์จเสื่อมก็ได้ ใช้ไฟจากแบตฯ โดยไม่ชาร์จกลับคืนครับ

ลองพิจารณาร่วมกับคำชี้แนะจากท่านอื่นๆ นะครับ