นิสสันซุ่มปรับสายการผลิตรับอีโคคาร์ 4 ประตู ที่เตรียมเปิดตัวในปีหน้า เผยมิติตัวถังใหญ่โตสุดในบี-เซ็กเมนต์ ฐานล้อยาวเท่าทีด้า ลาติโอ้ ส่วนปลายปีนี้เปิดตัวรถใหม่ 5 รุ่น เสริมเขี้ยวเล็บทั้งครุยซ์คอนโทรลในนาวาร่า จอดีวีดีในทีด้า ฟันแพ็ก จนถึง ชุดแต่งสปอร์ตในนิสสัน มาร์ช
นายประพัทธ์ เชยชม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน โรงงานได้ผลิตรถเต็มกำลังการผลิตแล้ว เนื่องจากมีความต้องการในประเทศสูงตามคาดหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตอบรับนิสสัน มาร์ช อีโคคาร์คันแรกของไทย ที่มียอดค้างส่งนาน 4-5 เดือน อีกทั้งยังต้องผลิตป้อนความต้องการในด้านส่งออกไปจำหน่ายในภูมิภาคอาเซียน และญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังหาวิธีการเพิ่มกำลังการผลิตในระยะสั้น เช่นเพิ่มโอที เพิ่มกะ เพื่อเตรียมแผนการประกอบอีโคคาร์รุ่น 4 ประตู ที่จะเปิดตัวในปี 2554
แหล่งข่าวจากวงการรถยนต์ เปิดเผยว่า นิสสันมีแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งพัฒนาบน วี -แพลตฟอร์ม เช่นเดียวกับ นิสสัน มาร์ช โดยใช้รหัสรุ่นว่า แอล02บี เป็นรถซีดาน 4 ประตู เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ที่มีมิติยาว 4,420 มม. กว้าง 1,695 มม. สูง 1,500 มม. และมีฐานล้อหน้า-ล้อหลังยาวถึง 2,600 มม. ใกล้เคียงกับโตโยต้า โคโรลล่า นับว่า กว้างขวางใหญ่ที่สุดในตลาดรถซีดาน บี-เซ็กเมนต์เลยทีเดียว โดยมีขนาดใกล้เคียงกับนิสสัน ทีด้า ลาติโอ้ ที่มีขนาดเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร
โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีนเป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2553 ในชื่อของนิสสัน ซันนี่ ต่อจากนั้น จะเริ่มเปิดในไทยในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ปลายเดือนมีนาคม 2554
นายประพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า นิสสันได้เตรียมสร้างสีสันให้กับตลาดด้วยการแนะนำรถยนต์และรถกระบะเวอร์ชัน ใหม่พร้อมกันทีเดียว 5 รุ่น ซึ่งทุกรุ่นเป็นการพัฒนาขึ้นจากความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก ถือเป็นการสร้างทางเลือกให้กับลูกค้าให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนิสสัน นาวารา ที่ปรับโฉมเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานมากขึ้นทั้งภายนอกและภายใน รวมทั้งเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ เป็นครั้งแรกของรถกระบะที่มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติครูสคอนโทรลทั้งใน ระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เป็นครั้งแรก และในเกียร์อัตโนมัติ ที่สามารถเพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่และยังช่วยในเรื่องของการประหยัด น้ำมัน โดยปรับราคาขึ้นอีกคันละ 1,500-34,000 บาท
นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว นิสสัน มาร์ช สปอร์ต เวอร์ชัน ดีไซน์โดยออเทค ปรับแต่งรูปลักษณ์ให้ดูโฉบเฉี่ยวทั้งภายนอกและภายใน ราคาเพิ่มขึ้น 20,000-30,000 บาท ส่วนเทียน่า 2.0 XL สปอร์ต ซีรีส์ ใหม่เน้นความโก้หรูแบบสปอร์ตและออกมาเพื่อผู้ชื่นชอบสีภายในสีดำ ราคาปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1.236 ล้านบาท ส่วนนิสสัน ทีด้า แฮตช์แบ็ก รุ่น Fun Pack ซึ่งมีเครื่องเล่นดีวีดี หน้าจอระบบสัมผัส เพิ่มราคาอีก 18,000 บาท และเอ็กซ์เทรล รุ่น 2.0 V ใหม่ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เพิ่มอุปกรณ์เสริมทั้งภายนอกและภายใน เน้นการออกแบบที่ช่วยเพิ่มประโยชน์ในการใช้งานให้มากขึ้น โดยปรับราคาจาก 1.06 ล้านบาท เป็น 1.14 ล้านบาท
"การเปิดตัวพร้อมกันทั้ง 5 รุ่นในวันนี้ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เราวางไว้ ที่นอกจากเป็นการสร้างสีสันให้กับตลาดแล้ว ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะนิสสัน นาวารา ใหม่ ที่เราเชื่อมั่นว่าในปีงบประมาณ 2553 นี้จะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 20,000 คัน ส่วนรุ่นอื่น ๆ เราคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกัน"
|