ดีแมก​อืดมากเพราะแรงน้อยทำเครื่องเล็กอีก​ผมนี้ขับ2.2ไลเฟอจูน​เนอร3.0สบาย

FORD Ranger T6 บูสต์แค่ 1.4 บาร์ครับ ขณะที่ CHEVROLET Colorado และ MITSUBISHI Triton 2.4 ใหม่ (4N15) บูสต์ที่ 3 บาร์กว่าๆ

ส่วนของผม FORD Ranger 2.2 XLT 6MT 4x4 ไล่และแซง TOYOTA Fortuner 3.0 หรือ ISUZU Mu-X  3.0 ได้สบายก็พอใจแล้วครับ แต่ต้องยอมหลีกทางให้ CHEVROLET Trailblazer 2.8 LTZ 200 แรงม้าครับ

 รถทำมาเกือบจะสุดแล้ว เรียกว่าแต่งจากโรงงานมาแล้ว

 ford T6 กับ bt50pro 2.2 บูสต์เดิม 1.9-2.0บาร์ แล้วครับ จะไล่พวก2500ไม่ได้ ได้ไง อินเตอร์ท่ออินเตอร์เดิมระเบิดกันว่าเล่น

ทำไมในกระทู้บอกออนิวไม่อืดแล้วทำไม่ผมขับอืดจังมาขับฟอร์ด2.2ที่ว่าตัวหนักเครื่องเล็กแรงกว่ากันเยอะเลยจะแสนโลละยังปกติชอบไล่ดีแม็กน่ะแต่ไม่มันเลยตอนนี้เปรี่ยนไปไล่วีโก้กับไทตั้น178ละมันกว่าเยอะ55

 Fom

ออนิวนี่หรอขับแล้วหงุดหงิด

ที่d max ชนะ v6 v8 ส่วนนึ่งเพราะตัวเบาคับ รถมะกันที่ลงแข่งก็มีแต่ตัวหนักๆทั้งนั้น

คหที่ 17  เอ่อ เค้าพูดเรื่องรถโรงงานครับ   ไอตัวที่ไปเมกา  เปลี่ยนไส้  ใช้ฝาเดิม พ่วงกล่อง   เกียร์ซิ่ง ลูกซิ่ง ก้านซิ่ง    แล้วถามว่า วิ่งแบบนั้นซัก 500 กิโล ต่อเนื่อง ทำได้ไหมล่ะ  อยู่กับความจริง ซิครับ ไม่ใช่ฝัน  

ไม่ต้องถึง 500 โล เอาซัก 10 โล  แมร่ง ก้านแตก แล้ว

นาที นี่ ดี d max ทนแรงสุด แรงม้าน้อยแต่โมแรง

เครื่องทน รถผมวิ่ง สี่แสนกว่าแล้ว ยังไม่งอแงเลย 

ยี่ห้ออื่นก็แค่ ม้าเยอะ โมไม่ขึ้น  d max วิ่งที่เมกาเคยแหกตาดูกันมั้ยครับ รถที่พวกคุณไม่รู้จิง แล้วมาพูด ดี

แล้วที่คุณๆๆบอกวิ่งไม่ถึง แสนโลผมว่า ควายครับ ไม่ใช่รถแล้ว

 สรุปรุ่นนี้ไม่ดีไม่แรงพังเร็ว โอเคผมเข้าใจ แล้วกะบะคันสีดำที่ไปอเมริกาแล้วชนะ v6 v8 คืออะไรครับ ช่วยตอบผมหน่อย รุ่นอื่นได้ไปอเมริกามั้ย หัดไปเปิดยูทูบดูนะครับ all new d-max รู้จักมั้ยครับ รุ่นอื่นที่ว่าแรง แรงสุดๆ ทำไมไม่ได้ไปแข่งที่อเมริกาครับ สรุปแค่นี้ก็น่าจะเข้าใจโลกความเป็นจริงกันสักที

 ตอบแบบเด็ดขาดไปเลยครับอีซุซุทำม้าน้อยกลัวรถพังเร็วกัวจะไม่ทนลองทำเหมือนยี่อื่นสิพังเร็วกั่วเพื่อนแน่ลองถามพวกที่ขนของประจำขนาดม้าโลงงานยังวิ่งไม่ถึง100000โลเลยไม่เชื่อถามดูด้ายเลย

ผมชอบความเห็นที่ 8,14 ครับ  เพราะผมก็ซื้อรถบรรทุกมานั่งเช่นกัน   ตั้งใจจะใสฝาครอบกระบะด้วยซำ   ก็กำลังมอง ๆ อยู่ว่ายี่ห้อใหนดี  ใครมีความรู้ก็ขอความกรุณาแนะนำหน่อยครับ   คนที่เขาตั้งใจจะบรรทุกหนัก ๆ  เขาก็เล่นนิสสัน นาวารา ไปนุ้น  คนที่เหมือนผมก็เล่น อีซูซุ  ก็น่าจะถูกแล้วกระมัง

ชอบ คห.13จัง จริงครับเค้าผลิตมาขาย ซึ่งก็ต้องวิเคราะห์ตลาด ดูพฤติกรรมผู้ซื้อ ก็ในเมื่อมันเป็นรถบรรทุก 1 ตัน แต่พี่ๆชอบซื้อมาแค่นั่ง ปีหนึ่งๆจะบรรทุกเต็มๆกันซักวันสองวัน ก็เลยทำอะไรให้มันเหมือนรถนั่งซะเลย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวก แรงม้าแรงบิดก็เอาแค่พอนั่งเดินทางได้ แล้วขายในราคาที่ย่อมเยาลง มันก็ถูกต้องแล้วครับตามกลไกตลาด ในเมื่อบ้านเราชอบซื้อรถบรรทุกมานั่งกัน

   ผมว่า เขาจะผลิตมาขาย  เขาก็คิดว่าจะผลิตแบบใหนออกมาแล้วขายใด้ดี  โฆษนาแบบใหนแล้วคนซื้อ  ก็เท่าน้ัน  ผมสรุป 5555

เข้าใจว่าคนใช้รถส่วนใหญ่ในแบบปกติประจำวันสำหรับส่วนตัว หรือ ไม่ก็ธุรกิจ  ไม่มีใครให้ความสำคัญในเรื่อง แรงม้า แรงบิด เท่าไหร่ บางคนแทบไม่รู้เลย ว่ารถตัวเองมีแรงม้า และ แรงบิด เท่าไหร่ ที่ต้องการรู้คือ เรื่องความประหยัดครับ  (นอกจากว่ากลุ่มคนบางกลุ่มที่เอาไปโม้แข่งกันในเรื่องตัวเลข ซึ่งไม่เห็นประโยชน์อะไร ไม่มีผลได้ผลเสียต่อธุรกิจ และการดำเนินชีวิตประจำวันแต่อย่างใด)

ตรรกะการใช้รถที่บ้านเราน่าจะผิด (มั้ง)

โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ของตรงกันข้ามหมด

ขอโช้คอัพ หนึบ และ นุ่ม

ขอขับดี แรงม้าเยอะ แรงบิดมาทันใจ  และ ประหยัดน้ำมัน

เค้ากั๊กเครื่องใหม่เอาไว้มั๊ง รอไมเนอร์เชนจ์

 ยาวเลยพี่นนท์เรา อิอิ.. แต่ก็ตาม คห.3 กะ คุงลูกบอล นะ

แรงม้าแรงบิดน้อยใช่ว่าจะสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำกว่าเสมอไปครับ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและสภาพใช้งานประกอบด้วย (ผมจะเน้นเรื่องแรงบิด เพราะแรงม้าไว้ใช้ในความเร็วปลาย)

- เครื่องยนต์ที่ให้แรงบิดต่ำ: ต้องทดเฟืองท้ายและเกียร์สูง เพื่อให้ได้กำลัง ถ้าวิ่งโดยไม่มีน้ำหนักบรรทุกอาจจะประหยัดกว่ารุ่นที่แรงบิดสูง แต่ถ้าบรรทุกหนักๆ แล้วจะสิ้นเปลืองกว่ามาก เนื่องจากต้องลากเกียร์ต่ำนานกว่าเพื่อให้ได้กำลังฉุดลาก และเปลี่ยนเกียร์สูงช้ากว่า

- เครื่องยนต์ที่ให้แรงบิดสูง: สามารถทดเฟืองท้ายและเกียร์ต่ำ ถ้าวิ่งโดยไม่มีน้ำหนักบรรทุกอาจจะสิ้นเปลืองกว่ารุ่นที่แรงบิดต่ำเล็กน้อยหรือเทียบเท่า แต่ถ้าบรรทุกหนักๆ แล้วจะประหยัดกว่ามาก เนื่องจากเปลี่ยนเกียร์สูงได้เร็วกว่า และใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำกว่าในความเร็วเท่ากัน เช่น ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. รุ่นแรงบิดต่ำต้องใช้รอบเครื่องยนต์ 2,500 - 3,000 รตน. ขณะที่รุ่นแรงบิดสูงใช้รอบเครื่องยนต์แค่ 1,500 - 2,200 รตน.

การออกแบบเครื่องยนต์ให้แรงบิดต่ำจึงมีเหตุผลหลายข้อ เช่น

- ประหยัดเชื้อเพลิง (ในสภาวะไม่บรรทุกหรือขึ้นทางชัน) แต่ก็ไม่เสมอไป

- ลดต้นทุนของผู้ผลิตในด้านระบบส่งกำลัง เช่น เกียร์ คลัตช์ และโครงสร้างตัวถัง เช่น แชสซีส์ ที่ไม่ต้องรองรับแรงบิดสูงๆ

- ลดต้นทุนของผู้ผลิตในด้านระบบความปลอดภัย เช่น เบรก (จานเบรก ก้ามเบรก) ที่ไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่รองรับแรงม้าสูงๆ

- ลดต้นทุนของผู้ผลิตในด้านการออกแบบเครื่องยนต์ที่ลดคุณภาพวัสดุภายในเครื่องยนต์ได้ เช่น กระบอกสูบไม่ต้องรองรับแรงอัดสูงๆ จากเทอร์โบ เทอร์โบแบบธรรมดาๆ ไม่ต้องบูสต์สูงๆ ราคาไม่แพง ฯลฯ

ส่วนเครื่องยนต์ที่เน้นแรงม้าสูงแต่แรงบิดไม่สูงย่อมสิ้นเปลืองกว่าเครื่องยนต์ที่แรงม้าต่ำแต่แรงบิดสูงครับ... ฉะนั้น ถ้าเป็นผมๆ จะเลือกรุ่นที่มีแรงบิดสูง แต่แรงม้าพอประมาณ และมีระบบความปลอดภัยที่รองรับสมรรถนะของรถได้ครับ

ตามคุณลูกบอล เอาแรงไปดูยี่ห้ออื่นครับ แต่ ณ ตอนนี้ผมกว่าแรงมากแล้วสำหรับรถกะบะบ้านเราครับ

 ก็มันมาด้วยเงื่อนไข ประหยัดน้ำมัน ตั้งแต่แรก แรงม้าเยอะ แรงบิดเยอะ ก็กินน้ำมันกว่าชาวบ้านไงคับ 

 ก็มันมาด้วยเงื่อนไข ประหยัดน้ำมัน ตั้งแต่แรก แรงม้าเยอะ แรงบิดเยอะ ก็กินน้ำมันกว่าชาวบ้านไงคับ 

แสดงว่าแรงม้าและแรงบิดมากๆ ไม่ดีใช่ป่าว..กลับกันหากเจ้าตลาดแรงม้าและแรงบิดมากกว่าชาวบ้านหละ..จะสรรเสริญกันขนาดใหน...เป็นเรื่องปกติที่จะผิดหวังกับแรงม้าและแรงบิดขนาดนี้..แต่แฟนอีซูซุคงเข้าใจดีเขาเน้นประหยัดมากกว่าแรง...แต่หากทำให้มันแรงและประหยัดได้..เขาจะเรียกว่าอะไร...

เหนือใช้นาวาร่า หกเกียร์ ส่วนปาล์มใต้ใช้ดีแมก ตะวันออกเน้นไตตั้น คงแล้วแต่ตลาด ช่างซ่อมเป็นก็ว่าดีหมด

รถยนต์ที่ดี จะต้องมีเครื่องยนต์ที่มีแรงม้า แรงบิด  เกียร์และเฟืองท้ายที่เมื่อนำทุกอย่างมาติดตั้งรวมกันแล้ว จะต้องทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ให้สมรรถนะและประสิทธิภาพสูงสุดตามที่วิศวกรออกแบบมา จึงจะถือว่าเป็นรถที่สมบูรณ์ ทุกอย่างจะต้องมีความสัมพันธ์กันถึงจะลงตัว การอ่านแต่สเป็ครถในกระดาษแล้วจะวิจารณ์ว่าคันนี้ดีหรือเยี่ยมเป็นการวิจารณ์ที่ไม่ถูกต้อง แต่ผู้วิจารณ์ควรที่จะต้องทำการทดสอบขับจริงเพื่อที่จะได้รู้สมรรถนะรถอย่างแท้จริงถึงจะวิจารณ์ได้ว่ารถคันไหนจะใช้งานได้ตามที่มันถูกออกแบบมาหรือไม่ สเป็คในกระดาษมันก็แค่สเป็ค ถ้าทุกระบบมันทำงานไม่เข้าขากัน จะให้เครื่องมีแรงม้ามหาศาลเท่าไร จะมีเกียร์สักกี่เกียร์ ครัชท์แบบวิเศษเท่าไรก็ตาม เฟืองท้ายที่ทดมาแสนห่วย เฟืองเกียร์ก็จัดมาเน้นเรื่องการบรรทุก รถคันนั้นมันก็จะไม่มีแรงตามที่มันโฆษณาเอาไว้ กินน้ำมันก็จะมหาศาล สึกหรอก็สูง เวลาที่บริษัทรถเขาโฆษณาว่าเครื่องของเขามาแรงม้าเท่านั้น เท่านี้นั้น เขาทดลองแต่เครื่องยนต์เปล่าๆที่ไม่ได้ติดตั้งระบบกรองไอเสีย เคยมีใครทราบหรือไม่ว่าเมื่อติดตั้งระบบทุกระบบอย่างสมบูรณ์เข้าไปแล้ว แรงม้าที่ลงพื้นหรือใช้งานจริงนะมันเท่าไร แรงบิดใช้งานจริงจะเหลือเท่าไรครับ อยากรู้จริงก็มีทางเดียวคือคุณต้องเสียเงินเอามันไปขึ้นทดสอบบนแท่น Dyno test ซิครับ     

ก็คิดว่าน่าจะเน้นการใช้งานจริงในชีวีตประจำวัน เขาเป็นเจ้าตลาดตีคู่มากับโตโยต้ามาก่อน อาศัยการโหมโฆษณา เลยไม่เน้นเรื่องพละกำลังแรงม้ามั๊งครับ ส่วนยี่ห้ออื่นๆ คงต้องเน้นเรื่องอย่างนี้ เพราะจะสู้กับเจ้าตลาดอย่างอีซูซุกับโตโยต้าได้ ต้องหาจุดเด่นของยี่ห้อของตัวเอง ให้ลูกค้าชอบและพอใจ เขาจึงจะขายรถออก (ได้บ้าง)

ในความรู้สึกส่วนตัว คิดว่าเราใช้รถในการเดินทางในชีวิตประจำวัน เช่น เดินทางไปทำงาน ไปเที่ยว บรรทุกของเล็กๆ น้อยๆ ฯลฯใช้รถที่มีแรงม้าเท่านี้ ก็เป็นการประหยัดน้ำมัน และปลอดภัยกว่ารถที่มีแรงม้าเยอะๆ อยู่นะครับ ก็สามารถใช้งานได้ดีระดับหนึ่ง ทุกอย่างมีข้อจำกัดในตัวของมันเอง ไม่มีอะไรสมบูรณ์ที่สุดหรอกนะครับ