|
ขอความรู้ครับ | |
ขอความรู้ครับ | 1. จำเป็นหรือใหม่ เมื่อเวลาที่เราวิ่งรถมาเป็นระยะเวลานานๆ แล้วเมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้วให้ติดเครื่องอยู่สักพักแล้วถึงจะดับเครื่องยนต์ โดยที่ไม่ควรที่จะดับเครื่องทันทีเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง จำเป็นหรือเปล่าครับ และถ้าวิ่งประมาณ 1-2 ชั่วโมง จำเป็นต้องติดเครื่องไว้สักครู่หรือเปล่าครับ 2. ผมใช้รถ มิตซูฯ Lancer ปี03 เกียร์ออโต้ วิ่งมาประมาณ 152,000 กม. เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง , น้ำมันเกียร์ , น้ำมันเบรค , หม้อน้ำ, สายพานหน้าเครื่อง , สายพานไมท์มิ่ง เรียบร้อยแล้วครับ ควรที่จะมีการบำรุงรักษาดูแลอะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า และวิธีการดูแลรักษาให้รถอยู่กับเรานานๆ ครับ รบกวนหน่อยครับ (รถคันแรกครับ) |
ผู้ตั้งกระทู้ ขอความรู้ครับ :: วันที่ลงประกาศ 2011-07-29 11:43:20 IP : 110.164.51.40 |
1 |
ความคิดเห็นที่ 8 (3302730) | |
navi | ความเห็นของผมถ้าจอดติดถนนใหญ่ที่วื่งมาควรรอนิดหนึ่ง ถ้าเข้าตรอก ซอกซอย ไม่จำเป็นครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น navi วันที่ตอบ 2011-07-30 14:18:25 IP : 113.53.7.58 |
ความคิดเห็นที่ 7 (3302711) | |
เล็ก | เป็นผม จะทำตาม คห. 6 ครับ รถที่มีเทอร์โบ หากวิ่งมาเป็นระยะเวลานานๆ ควรจะติดเครื่องไว้สัก 2-3 นาที ก่อนดับเครื่อง เพื่อไม่ให้แกนเทอร์โบเย็นตัวลงบ้าง จะได้ไม่เสียหาย แต่รถที่มีเทอร์โบเดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยจะมี TURBO TIMER มาให้ ผมเข้าใจว่าเขาเอาลักษณะการใช้งานของรถของคนกรุงเทพฯมาเป็นหลักและลดค่าใช้จ่ายในการผลิตรถ เพราะรถในกรุงเทพฯไม่ค่อยมีโอกาสขับด้วยความเร็วสูงๆ มาถึงที่หมายและดับเครื่องในทันที แต่จะรถติดมาเป็นระยะๆ ซึ่งก็คือการเบาเครื่องยนต์มาก่อนแล้ว ก่อนที่จะดับเครื่อง สำหรับผมอยู่ต่างจังหวัด ผมจะติด TURBO TIMER ให้รถผมทุกคันที่มีเทอร์โบ ด้วยเหตุผลนี้ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เล็ก วันที่ตอบ 2011-07-30 09:20:22 IP : 110.169.132.100 |
ความคิดเห็นที่ 6 (3302689) | |
911 | ตอบ 1. อย่างเดียวครับ ถ้ารถมีเทอร์โบ ต้องติดเครื่องไว้ก่อน 1-2 นาที จากนั้นค่อยดับเครื่อง |
ผู้แสดงความคิดเห็น 911 วันที่ตอบ 2011-07-29 22:37:47 IP : 125.24.148.91 |
ความคิดเห็นที่ 5 (3302635) | |
สงคราม | ตามความเห็นข้างบนครับ เพิ่มเติม ผมจะเข้าร่มแล้วเปิดกระโปรงทันทีที่ลงรถครับ(ระบายความร้อนดีครับ) |
ผู้แสดงความคิดเห็น สงคราม วันที่ตอบ 2011-07-29 14:12:07 IP : 125.25.235.236 |
ความคิดเห็นที่ 4 (3302631) | |
yngwie | โช้คเคยเปลี่ยนหรือยัง อายุก็ประมาณ 120000-150000 กม แล้วแต่ เชคบ้างก็ดี รถผม vios วิ่งไม่มากเหมือนรถคุณนี่แหละ ได้เปลี่ยนแล้วที่ 125000 กม รถปี 03 เปลี่ยนยกชุดหน้า-หลัง 4 ตัว ประมาณ 6000 กว่าบาท ลองเชคดูกดทดสอบดู ยังให้การยุบตัวดีอยู่หรือไม่ |
ผู้แสดงความคิดเห็น yngwie วันที่ตอบ 2011-07-29 13:46:22 IP : 125.26.125.143 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3302628) | |
ลูกบอล | 1. ถ้าว่งแค่นั้นไม่จำเป็น 2. เพิ่มเติม พี่ yngwie ปั๊มน้ำ วาล์วน้ำ ด้วยครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกบอล วันที่ตอบ 2011-07-29 13:35:32 IP : 125.24.136.193 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3302616) | |
yngwie | ข้อ 1 ไม่จำเป็นครับ เพื่ออะไรล่ะครับเพื่อระบายความร้อนออกก็ไม่ใช่ เพราะเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำอยู่แล้ว เมื่อรถวิ่งความร้อนซึ่งถ่ายเทออกมาจะถูกกดโดยลมขณะที่รถวิ่ง จะผ่านเข้ากระจังหน้ารถ แล้วถูกกดลงใต้ท้องรถไป ข้อ 2 ดูแลดีอยู่แล้วครับ ที่เขียนมา ที่เหลือก็ช่วงล่างปีกนก ยาง รอยต่อท่อไอเสีย ระบบสายไฟในห้องเครื่อง เท่านี่ก็น่าจะพอ ถ้ารักษารถดีแบบนี้ น้อยมากที่ปัญหาจะเกิด |
ผู้แสดงความคิดเห็น yngwie วันที่ตอบ 2011-07-29 12:35:00 IP : 125.26.125.143 |
ความคิดเห็นที่ 1 (3302615) | |
n | ข้อ1.ผมว่าไม่จำเป็น ข้อ2.ที่เปลี่ยนมามันเป็นbasicที่รถต้องเปลี่ยนอยู่แล้วครับ แต่ตัวอื่นๆเช่น ไดชาร์ต หม้อน้ำ ท่อยางน้ำ ปั๊มน้ำ วาว์ลน้ำ แบตเตอรี่ ผ้าเบรค โช๊คอัพ ชุดช่วงล่าง พัดลมระบายความร้อน หรืออะไรปลีกย่อยอีกหลายๆอย่าง ของพวกนี้ บางสิ่งบางอย่างบางทีมันไม่สามารถตรวจสอบดูได้ว่ามันยังใช้การได้ดีอยู่หรือเปล่า ตรงนี้ต้องใช้ความสังเกตุของอาการเริ่มเสีย ถ้ามีอาการก็รีบแก้ไขครับ ส่วนอะไรที่ตรวจสอบดูแล้วคิดว่าสมควรแล้วที่จะเปลี่ยน ก็จัดการเลยครับ ค่อยๆทำไป ถ้ารถเริ่มเก่าต้องหัดดูแลและสังเกตุอาการบ้างครับ ดีกว่าไปเสียกลางทาง ถ้ารถใช้ได้ดีเราก็จะมีความสุขไปด้วยครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น n วันที่ตอบ 2011-07-29 12:33:02 IP : 125.27.17.187 |
1 |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 4871575 |