สำหรับประเทศทุย...เอ๊ย... ประเทศไทย... โทษจะหนักหรือเบาขึ้นอยู่กับนามสถุล... เอ๊ย... นามสกุลครับ

 ประเด็นของผมอยู่ที่คนขับรถเป็นหลัก รถมอเตอร์ไซด์ ทั้งพ่วง และ ธรรมดาที่วิ่งอยู่เลนซ้ายหรือบางทีวิ่งอยู่บนไหล่ทาง พวกนี้ควรได้รับการคุ้มครอง สิ่งที่ผมต้องการชี้คือ ในการขับรถบนทางหลวง อย่าทำให้ทัศนวิสัยลดลงด้วยการเอาอะไรไปบดบังการมองเห็น หรือทำอะไรก็ตามที่ทำให้รบกวนสมาธิในการขับขี่

ความสะดวกสบายของเรา อาจสร้างความสูญเสียให้คนที่มีคุณค่ากับสังคม(กรณีแพรวา) โดยที่คนทำผิดรับโทษแค่ รอลงอาญาแบบไทยๆ

เรื่องคน คุมยาก เรื่องอุปกรณ์ น่าจะควบคุมง่ายกว่า ผมคิดแบบนี้ครับ

ทุกกลุ่มมีทั้งดีและไม่ดีครับ ผมเองก็เคยอยู่ในกลุ่มขับขี่ท่องเที่ยวมาก่อนครับก็หลายช่วงอายุกันครับและก็หลายอาชีพที่มีใจรักการท่องเที่ยวกันครับและก็ยอมรับว่ามีบางกลุ่มก็ขับขี่เช่นนั้นจริงๆครับ และก็ยอมรับว่ามักใช้ความเร็วเดินทางสูงและสูงมาก ถ้าหากถนนโล่งจริงๆ อาจถึง 200+ กม/ชม กันได้ครับ และก็ถือฝ่าฝืน แต่บางครั้งเราอาจต้องใช้ความเร็วมากเพราะแต่ละจุดหมายไกลมาก และเดินทางทีแต่ละครั้งเกิน 1500 กมหรือมากกว่านั้น อย่างพี่ชายผม บางครั้งไปถึง สิงคโปร์ กันเลยทีเดียว แต่ทุกครั้งจะให้สัญญาณกัน เพราะมีหลายเหตุการณ์ที่พลาดพลั้งถึงเสียชีวิตก็มี บางท่านที่ขับขี่กันระดับผู้ใหญ่ อายุร่วม 60 ปี ในกลุ่มก็มีแต่ยังมีใจรักความเร็ว ผมเองออกต่างจังหวัดเดี๋ยวนี้ก็เห็นบ่อย บางครั้งวิ่งเร็วและขวาตลอดผมเองเข้าใจดีก็พยายามให้ท่างเพราะว่าบางเส้นทางซ้ายถนนไม่ดี และเป็น จยย.เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย แต่ในกลุ่มท่อจะไม่ดังเสียงทุ้มหวานซะมากกว่า ส่วนท่อดังผมเองก็ไม่ชอบเช่นกัน และบางครั้งที่ท่านเห็นเค้าขับขี่เต็มเลนถนนช่องเพราะต้องขับขี่แบบสลับฟันปลาครับ เผื่อเบรกถ้าท่านใดขับขี่ท่องเที่ยวคงทราบนะครับ

จริงๆ มีทุกวงการนะครับ ไอคนดี กับคนไม่ดี

ตอนไปวังน้ำเขียว บิ้กไบ้ท์ ผมก็เคยเจอกลุ่มดีๆ ค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่วัยรุ่น

ขับบี่เป็นระเบียบ ขี่เร็ว เฉพาะตอนรถว่างๆ พอใกล้ชุมชนก็ลดความเร็ว

ผมไม่ได้ไปกับเค้านะ แต่วิ่งตามเค้าดู ขับรถไปกับแม่ พอเราจะแซงก็หลบให้

บิ๊กไบ้ท์ มีดีๆครับ แต่ไม่มาก

 รถมันแรง คนก็คึก ผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองถ้าได้รถดีๆ ก็ขับเร็วแต่จะมีระบบเตือน ถ้ายังฝืนถึงขั้น ตบ ทำให้ต้องขับไม่ประมาทและไม่เร็ว เพราะไปไหนมีลูกไปด้วย ทำให้มีสติเตือนตัวเองว่า ซิ่งคือพาไปตายหมด ส่วนใหญ่จะขับไม่เกิน 100 ไม่ว่าทางจะโล่งแค่ไหน เพราะคิดเสมอว่าทางข้างหน้าจะเป็นยังไงไม่รู้  เอาปลอดภัยดีที่สุด และอีกอย่างพวกโทรศัพท์ ผมจะไม่เล่นระหว่างขับเลย อาจมีโทรบ้างเฉพาะจำเป็นแต่ไม่นานมาก ถ้านานจอดข้างทางคุย  (เอ่อ พล่ามซะเยอะเกี่ยวกันไหมครับ)

 ใช่เลยครับคุณนนท์ ลืมเล่า บางคนยืนขี่ตลอด แต่ที่แย่กว่านั้นเอาขาสองข้างมาไว้บนถังน้ำมันแล้วขี่มันอันตรายมากถ้าเจอหลุม ขุขระมันล้มคันเดียวก็ช่างมัน แต่กลัวว่ากลิ้งไปทำความเดือดร้อนให้รถคันหลังหรือฝั่งตรงข้ามซิครับ

แต่ทริปนี่ก็ยังมีเรื่องประทับใจที่อยากจะเล่าให้ฟังครับ มีคนไทยคงเป็นแฟนกัน พักที่โอมสเตย์ที่ปางอุ่งด้วยกัน ใจดีมากครับพอดีก็ทักเค้าคุยกันซักพักให้สตอเบอรี่มาถุง 

ช่วงขับจากลำปางจะเข้าตากทางมืดมากครับ กำลังจะแซงสิบล้อ เปิดไฟเลี้ยวแซง เค้ายกไฟสูงให้เพื่อให้เราได้มองเห็นทางข้างหน้า ทำให้รู้สึกว่าในสังคมเราก็ยังมีคนดีมีน้ำใจกันครับ

Big Bike ของบ้านเราก็เหมือนกันครับ งบน้อยก็คันเล็กหน่อย แต่ "สันดาน" ไม่ต่างกัน คือ "กร่าง" เสียงท่อดัง แซงปาดไปมา ผมหลบให้ประจำเพราะรำคาญ และให้มันรีบๆ ไปมุดใต้ท้องรถพ่วงตายซะ เราไม่อยากยุ่งกะมัน... ต่างจากที่ผมเห็นที่อเมริกา Harley Davidson มาเป็นขบวน ขี่เร็วแต่เรียงแถวเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นคนวัยเกษียณตัวใหญ่ๆ ซ้อนท้ายด้วยแฟนมาท่องเที่ยวพักผ่อนกับเพื่อนๆ ดูแล้วลงตัว ไม่เหมือนบ้ายเราคนขี่ตัวเท่าลูกหมา บางคันแฮนด์สูง ดูแล้วเหมือนอีแร้งวัดสระเกศเลยครับ

 ผมเพิ่งกลับมาจาก แม่ฮ่องสอน ตลอดทางจะพบมอเตอร์ไซค์เยอะมาก ขี่ขึ้นเขาลงเขา  เราก็หลบหลีกให้ทางเค้าตลอด จนมาแถวแม่ริม บิ๊กไบค์คงไม่ต่ำกว่า30คัน เป็นฝรั่ง ขี่ขวาสุดปิดห้ามแซง ขับต่อท้าย ก็มาไล่เราให้แซงไป ซ้ายก็รถยนต์ช้าวิ่งสรุปต้องตามไปเรื่อยหาจังหวะแซง  ผมไม่รู้ว่าเค้าต้องขออนุญาติขับขี่หรือเรียนรู้กฎหมายของไทยกันบ้างหรือเปล่า มอไซค์ต้องขี่ชิดซ้าย หรือถือว่ามากันเยอะตามใจฉัน อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลกวดขันบ้างจัง

ผมสังเกตว่าพฤติกรรมของผู้ขับขี่รถยนต์เปลี่ยนไปในทางแย่ลง (มากๆ) ตั้งแต่เกียร์อัตโนมัติเริ่มแพร่หลายในช่วงประมาณ 15 ปีหลังนี้ นอกจากนั้นการสอบใบขับขี่ก็ให้ใช้เกียร์อัตโนมัติสอบได้ทำให้ผู้ขับขี่ที่มือใหม่ทั้งใจถึง (แช่ขวาและเร่ง พอเจอรถรอยูเทิร์นหรือรถบรรทุกอยู่ซ้ายก็เบรกตัวโก่ง แล้วก็ตรงทื่อเข้าไปหาไม่ยอมเลี่ยงให้ชาวบ้านเขาเลย) และใจไม่ถึง (เบรกบ่อยมาก โดยเฉพาะเจอรถบรรทุกก็ตีคู่ ไม่ยอมแซง ขอทางก็ไม่หลบเหมือนไม่รับรู้อะไรเลย) มาเกะกะขวางถนน ซึ่งผมไม่เห็นด้วยอย่างแรง เพราะเมื่อก่อนคนจะสอบฯ ได้ ใช้รถเกียร์ธรรมดาที่ต้องฝึกควบคุมคลัตช์ ขึ้นเนิน/สะพาน ไม่ให้รถดับ กว่าจะผ่านมาได้ก็ต้องฝีมือระดับหนึ่ง เพราะต้องใช้สติแบ่งแยกประสาทในการควบคุม ตัดสินใจในระหว่างการขับขี่

สรุปว่าผมไม่เห็นด้วยที่อนุญาตให้ใช้เกียร์อัตโนมัติในการสอบใบขับขี่ ควรจะยกเลิกโดยเร็วครับ (สอบเกียร์ธรรมดา พอได้แล้วจะไปใช้เกียร์อะไรก็ตามอัธยาศัย)

วินัยการการจราจร หรือการละเมิดสิทธิผู้ใช้ถนนอื่น หรือแม้นแต่ละเมิดสิทธฺผู้ใช้ทางข้ามมักพบเห็นกันบ่อยมากถ้าขอเพียงเราเองไม่ไปทำแบบเขาเหล่านั้นก็ช่วยได้มากแล้วครับ พูดมากก็เดี๋ยวว่าหามาบ่นหรือระบายในนี้ ผมเองก็เสียใจจากการจากไปของนักปั่นรอบโลกรายนี้เช่นกันและท่านอื่นที่เสียชีวิตไปเมื่อปีก่อนนั้น  ส่วนการใช้โชเชียลฯเดี๋ยวนี้ แพร่หลายมากจนลืมนึกถึงอันตรายของตัวเองและผู้อื่น แม้แต่ จนท.บางท่านก็ไม่เว้น ทุกวันเห็นกันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ผมไม่รู้ว่า จนท.ได้เก็บสถิติในระหว่างเกิดอุบัติเหตุไว้หรือไม่ว่าในระหว่าง เวลา น. นั้นๆ เกิดเหตุผู้นั้นได้ใช้ โทรศัพท์หรือไม่ เพราะสามารถขอข้อมูลหรือดูได้จากอุปกรณ์ของโทรศัพท์ได้ไม่ใช่หรือครับ เช่นเกิดเหตู 15.00 และเราก็ไปดูเวลาใกล้เคียงของโทรศัพท์ว่าใช้ในระหว่างเกิดเหตุหรือไม่ เพราะบางคันหรือส่วนมากก็ว่าได้ผมขับรถตามจะเห็นส่ายเป็นงูเลย ผมใช้ จยย. พอเร่งขึ้นไปประกบดู แทปเลตนี่แทบจะแปะอยู่ที่หน้าคนขับครับ สองมือจับแทปเลต และก็ใช้เพียงฝ่ามือหรือข้อมือบังคับพวงมาลัย นี่เรื่องจริงนะครับผมไม่พูดเกินเลยแน่ ต้องขอโทษด้วยถ้ามันยาวมากไป

ประเทศนี้ใช้วินัยกันด้วยหรือ (ผมโดนละเมิดตลอด) ผมเพิ่งรู้!!! ไม่ได้กวนนะ

ลืมไปนิด อีกอย่าง เดี๋ยวนี้กิจกรรมต้องห้ามขณะขับรถก็มีมากขึ้น เช่นเล่นไลน์ เฟส โซเชียลทั้งหลายขณะขับรถทางไกลในบรรยากาศ เย็น เงียบ แสนสบาย แต่ควรต้องรับผิดชอบคนร่วมทางด้วยอย่างหนักหนาด้วยนะครับ (อยากบอกว่ากว่าจะเห็นโค้งก็ สายเสียแล้ว)

จาก fiesta เทาๆ คนเดิมครับ

ไม่เห็นเกี่ยวกับฟิลม์  มันอยู่ที่วินัยจราจร ของบางคนซะมากกว่า