ลองดู volvo v70 t5 ท้ายตรง ครับ

 BENZ จะได้ความหรูหรา

1200000-1300000  เพิ่มอีกนิดได้ AClass กับ Serie 1 ป้ายแดง 

 ผมมีเงินสดเจ็ดแสนบาท กับเงินเดือนอีกอย่างน้อย 30000กว่า จะซื้อเบนซ์ตัวซีหรือบีเอ็มซีรี 3 ดี เอาราคา ประมาณ1200000-1300000 และได้รถปีไหน

ฝากไว้อีกนิดนึงครับ ลองเข้าไปศึกษาในเวปของชมรมของรถแต่ละยี่ห้อก่อนก้ได้ครับ เข้าไปเก็บเกี่ยวประสพการณ์และมองหาอู่ซ่อมที่สมาชิกของชมรมส่วนใหญ่ให้ความไว้วางใจเม่นี้ก็น่าจะเ)นทางเลือกให้กับคุณ จขกท.ได้แล้วครับ แล้วก็พวกรถกระเทยแปลงเพศ (รถยุโรปวางเครื่องญี่ปุ่น ขอให้มองข้ามไปเลยครับ เสียสถาบัน กลายเป็นเศษเหล็กไปในทันที่ที่คิดจะขายต่อ 555 )

ผมว่าไปลอง ทั้ง 3ค่าย นั่นแหละดีที่สุด หาคนที่มีประสบการณ์ไปด้วยก็ดีครับ รถยุโรปไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ได้รถมาแล้ว ก็บำรุงรักษา ให้จบภายใน 3-6 เดือน แค่นี้เขาก็ไม่งอแงแล้วที่สำคัญเลยถ้าคุณใช้รถยุโรปแล้วคุณจะไม่มองรถญี่ปุ่นเลย เปรียบเสมือนหนังคนละม้วนเลย รถยุโรป แรงม้า ก็คือ แรงม้า ไม่ใช่ แรงโม้ เหมือนรถญี่ปุ่นทั่วไป สำหรับคนที่ใช้รถยุโรปแล้วบาดเจ็บจากการซ่อม ผมว่าพวกนี้คงเป็นประเภท ขับอย่างเดียว,เอาไว้ก่อน เอาไว้ทำทีเดียวแล้วกัน ไม่ได้ครับ รถยุโรป อะไหล่เสียคือเสีย หมดอายุก็คือหมดอายุ ครับ ตัวผมใช้ volvo 850 T-5 1996 ขับมันส์ในทุกอารมฌ์ เสียเปรียบ Benze , Bmw ก็แค่ในเรื่องของความนิ่มนวล และราคาขายต่อครับ ส่วนเรื่องอื่นๆผมว่า ok. นะครับ ใจเย็นๆครับไม่ต้องรีบร้อน

 รถยุโรป ใหม่หน่อย ราคาไม่แพง 

สงสัยต้องดูที่ volvo ครับ เพราะ ราคามือสองตกมาก 

การขับขี่ สู้ Bmw และ Benz ไม่ได้ แต่ได้รถใหม่กว่า ภายในกว้างขวางกว่า ค่าดูแลลผมว่าพอๆกันครับ สำหรับรถยุโรป 

ราคา 400k น่าจะได้เป็น S60 ตัวแรก 

รถอายุขนาดนี้ เหมาะไว้เป็นคันที่สอง ไว้ขับวันหยุด ถ้าใช้ทุกวัน คุณควรจะซ่อมเองได้บ้างครับ ยังไงก็ถึงเวลาซ่อมแล้ว

 เคยคุยกับช่างหน้าปากซอย บอกว่า รถเยอรมันขึ้นชื่อว่า ขับดี ไม่ว่าจะเป็น เบนซ์ บีเอ็ม เอาดี้ ส่วน volvo นั้นขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ช่างบอกโคตรทนเลย แต่ซ่อมจุกจิกหน่อย ช่างบอกถ้าจะเล่นแนะนำ เบนซ์กับเอาดี้ ครับ ซ่อมถูกกว่าบีเอ็ม บีเอ็มไม่ค่อยทนครับ เอาปีเกาะกลุ่มตั้งแต่ปี 97 - 2002 ประมาณนี้ ในทัศนะผม ดีไซน์สวยน่าจะเป็น Audi นะครับ เอาหรู ก็ A6 เอาประหยัดก็ A4 1.8 ( A4 2.4 กินจุไปหน่อย ติดแก๊สแล้วยัง 2บาท/โล เลย ) ผมชอบ A4 Avant เป็นรถestate ที่น่าใช้ครับสำหรับครอบครัว เดินทางไปเที่ยวตจว.  ราคาประมาณ 3แสนปลาย ๆ แต่ Audi ไม่นุ่มนะครับ ออกแนวสปอร์ต เครื่องแรง ถ้าจะเอาขับนุ่มก็ต้องเบนซ์ครับ แต่ดีไซน์ค่อนข้างโบราณหน่อย ลองพิจารณาดูว่ารถคันไหนเหมาะกับอุปนิสัยและการใช้งานของคุณนะครับ 

ไม่ทราบรถคันนี้เป็น รถคันที่ 2 ของบ้าน  และมีอีกคันอยู่แล้วหรือไม่  ถ้าใช่ ก็อย่าไปแคร์สื่อ อยากได้อะไรก็จัดเลย  เพราะถ้ามันเสีย ก็มีอีกคันขับ  แต่ถ้าไม่ใช่  หารถญี่ปุ่นขับเหอะครับ ไม่เจ็บตัว ไม่ปวดหัว ไม่ต้องขึ้นรถเมลล์

 อ้อ เกือบลืม 850 ขับหน้า...แล้ว

 ทั้งหมดเป็นรถขับหลัง   ความจุกจิก น่าจะไม่หนีกัน(หากปรับสภาพสมบูรณ์แล้ว)  แต่ค่าดูแลของรถ ยิ่งเป็นรุ่นใหม่ ๆ คุณเอ๋ย  แต่ละชิ้นมันยังกับทำด้วยทอง..เทียบกับ ก่อนปีสองพัน ค่าดูแลถูกกว่ากันเยอะ(เวลามีปัญหา)  ผมไม่มีทั้งสามตัว  แต่ผมเปรียบเทียบกับ saab 900 , 9000 , 9-5 ตัวหลังนี่เริ่มจากปีสองพัน อะไหล่ชิ่นเดียวกัน บางทีราคาต่างกันสี่ห้าเท่าก็มี  สองตัวแรกหากทำเครื่องทั้งตัวใหม่ ประมาณสาม-ห้าหมื่น ตัวหลังแสนขึ้น  ฟังแล้วขนหัวลุกควันออกหู..ถ้าจะซื้อผมพอซื้อได้แต่ก็ไม่กล้า กลัวอ้วกครับ

    ข้างบนแนะให้แล้วตัวหนึ่ง บีเอ็มผมสัมผัสแค่นกแก้ว น้องชายคนเล็กใช้ ก็พอได้ แต่เขาบอกวาแรงน้อยไป ส่วน ตัวหลังมีมาร์เก็ตเก่าของผมใช้ ตัว 850 อยู่ เขาก็บอกว่าใช้ดี ไม่จุกจิก แถมมีห้าสูบ วิ่งธรรมดาสี่สูบ เวลาอัด ๆ ก็เพิ่มเป็นห้าสูบ  มีทั้งเครื่องธรรมดา  ไลท์เทอร์โบ และเทอร์โบเต็ม  ข้อติที่ผมไม่เลือกยี่ห้อนี้คือ  คอนโซลหน้ารถ เป็นมันยังกับเอาน้ำมันไปทาไว้  ซึ่งผมไม่ชอบเลย  ข้อเสียอีกอย่างคือหุ่นล้าสมัย...

  หากผมเลือกในสามตัว ผมเลือก 850 ครับ ส่วนเงินที่เหลือไว้ปรับสภาพ บำรุงรักษาดีกว่า

จุกจิกก็น่าจะพอๆกันนะครับ  ว่าแต่ละคันการใช้งานนานเท่าไหร่แล้ว  ถ้าเป็นผมเลือกเบ็นซ์อะไหล่ไม่แพง ซ่อมง่ายเครื่องยนต์กลไกไม่ซับซ้อนอะไรมาก  เล่นรุ่น c-220  ปี 95-96  ราคาประมาณนี้  ส่วน bmw  อะไหล่บางตัวแพงมากกว่าเบ็นซ์เสียอีก ทั้งที่ทั้งคู่เกิดที่เยอรมันเหมือนกันเข้าศูนย์มี 10000 up  ส่วน volvo  รถ sweden  ตัวนี้ไม่เคยใช้ จะมีปัญหาก็เฉพาะคาร์บูเรเตอร์ อะไหล่บางตัวหายากกว่าเบ็นซ์เสียอีก เป็นผมเล่น benz ครับภาษีดีกว่า