ระหว่าง new dmax กับ chev ขอความเห็นหน่อยครับ
avatar
tum bangplee


คือผมกำลังศึกษาข้อดี/ข้อเสียของรถ 2 ยี้ห้อนี้อยู่คือ dmax2.5 vgs opencap/ auto  136 แรง (778000 บ.) กับ colorado 2.8 open cap /auto 180 แรง ( 775000 บ.)......ให้ผู้หญิงใช้ขับในกทม.ครับ

 อยากขอความเห้นพี่ๆหน่อยครับ ท่านใดไปลองขับมาแล้ว/พอมีข้อมูลบ้าง.....อะไรดีกว่า/จุดเด่น-จุดด้อยของ2รุ่นนี้บ้างครับ ขอบคุณครับ



ผู้ตั้งกระทู้ tum bangplee :: วันที่ลงประกาศ 2012-02-25 21:16:50 IP : 115.87.96.93


1

ความคิดเห็นที่ 3 (3327747)
avatar
kopee54

 

 ขอบคุณสำหรับข้อแนะนำครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น kopee54 วันที่ตอบ 2012-03-02 18:31:16 IP : 124.120.77.231


ความคิดเห็นที่ 2 (3327608)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

เพื่อความเข้าใจที่ถูฏต้อง เครื่องยนต์ขนาด 2.5 และ 3.0 ที่ติดตั้งอยู่ในอีซูซุรุ่นใหม่นั้น ใช้รหัสเครื่องตัวเดิม แต่ตัวเครื่องยนต์ได้รับการพัฒนาใหม่หมดเพื่อรองรับมาตราฐานยูโร 5 ในยุโรป เพราะรถกะบะในบ้านเราถูกส่งออกไปขายที่นั่นและเครื่องยนต์จะต้องผ่านมาตราฐานยูโร 5 ให้ได้ โดยทางอีซูซุปรับเปลี่ยนอุปกรณ์บางอย่างเท่านั้น เครื่องยนต์ตัวที่ติดตั้งอยู่ในอีซูซุโฉมปัจจุบันก็พร้อมที่จะถูกนำเข้าไปจำหน่ายในยุโรปได้ในทันที ตัวบล๊อคเครื่องยนต์ทั้ง 2.5และ 3.0 ถูกออกแบบใหม่ตั้งแต่ทางเดินน้ำมันเครื่องใหม่ จึงบอกได้ว่าบล๊อคเครื่องตัวนี้ไม่สามารถนำไปใช้ร่วมกับเครื่องยนต์ตัวเก่าได้แม้นแต่น้อย ส่งเรื่องกำลังเครื่องยนต์ที่น้อยเพราะทางอีซูซุมีเป้าหมายที่จะให้เป็นรถที่ประหยัดเชื้อเพลิง ถึงได้ออกสเป็คให้มีแรงม้าต่ำ แต่ถ้ามีความรู้ด้านเครื่องยนต์ดี ย่อมทราบดีว่า แค่เปลี่ยน ECU ที่ติดตั้งมาจากทางโรงานออกแล้วติดตั้ง ECU ที่มีในตลาดเข้าไปเท่านั้น แรงม้าที่เห็นว่าน้อยที่สุดจะกลายเป็นแรงม้าที่ซ่อมเอาไว้โผล่ออกมาในทันที การที่อีซูซุกดแรงม้าให้ต่ำก็ด้วยเหตุผลทางด้านภาษีจึงทำให้ราคาของอีซูซุตัว Top มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 994,000 บาทในบณะที่คู่แข่งหนีไปอยู่ที่ล้านกว่าบาท ช้อเด่นของอีซูซุคือการ Match เครื่องยนต์กับเกียร์ เฟืองท้าย ช่วงล่างและยางที่เหมาะสมกับนำหนักของตัวถังและขนาดของรถที่ใช้อยู่ จึงทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องวืดเหมือนกับที่รถยี่ห้ออื่นที่พยายามรีดแรงม้าในเครื่องขนาดเล็กให้ออกมาสู้กับเครื่อง 3.0 แต่พยายามหาข้อได้เปรียบเรื่องภาษีของเครื่อง 2.5 ที่ต่ำกว่า 3.0 มาเล่น แล้ว Match เกียร์ เฟืองท้าย และยางที่ไม่เหมาะเข้าไป ผลก็คือปัญหาเรื่องวืดที่ผู้ใช้รถบ่นกันระนาวตามมานั่นแหละ อีกอย่างหนึ่งที่อยากจะพูดคือ นักทดสอบรถที่แท้จริง เขาจะต้องทำการทดสอบรถที่ได้มาโดยจะต้องใช้เวลาในการวิ่งในเส้นทางต่างๆกันโดยจะต้องทำการทดสอบติดต่อกันอย่างน้อย 3-5 วัน ถึงจะสรุปได้ว่าเครื่องยนต์ที่ติดตั้งมานั้นเหมาะสมในการใช้งานทุกสภาวะการขับขี่และการใช้งานในแบบต่างๆหรือไม่ ดังนั้นผู้ที่บอกว่าไปยืมรถจากดีลเลอร์แล้วเอามาขับได้ห้านาทีแล้วบอกว่าดีเลิศประเสริฐศรีไปทั้งหมดนั้น บอกได้เลยว่ามั่วครับ 5 นาทีมันบอกไม่ได้หรอกครับ      

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2012-03-01 09:12:13 IP : 110.171.1.71


ความคิดเห็นที่ 1 (3327537)
avatar
นักเปรียบเทียบ

 ข้อแรก ถ้าคุณใช้รถไม่ห่วงศูนย์ เอาเชฟไปเลยครับ แต่ถ้าซื้อรถแล้วกลัวศูนย์หายากก็อีซูซุครับ

เริ่มจากอีซูซุนะครับ

ข้อดี-เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมัน ศูนย์บริการหาง่าย เครื่องทนโคตรๆ

ข้อเสีย-แรงน้อยที่สุดในตลาด(136แรงม้า 320นิวตัน-เมตร) เครื่องยนต์บล็อคโบราณ สังเกตได้จากรหัสเครืิ่องตัวหน้าตั้งแต่รุ่น TFRจนถึงD-Maxตัวใหม่ เป็น 4J ทั้งหมด เปลี่ยนรหัสตัวหลัง 4JA 4JJ 4JK 4JH

เชฟโรเล็ตนะครับ

ข้อดี-ทนทานตามคอนซปต์รถอเมริกัน อัตรเร่งดี(ก็อยู่กับน้ำหนักเท้าที่กดคันเร่ง กดแรงก็ออกดี กดไม่แรงก็ออกอืด)

ข้อเสีย-ศูนย์บริการมีน้อย 

ผู้แสดงความคิดเห็น นักเปรียบเทียบ วันที่ตอบ 2012-02-29 20:27:33 IP : 182.53.111.211



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.