ดีเซลแน่นอนครับ ได้ยกเว้นสรรพสามิตมาเกินสามสิบปีแล้ว และยังคงได้ต่อไปไม่จบ

ขอแก้ไขข้อมูลแรงบิด Captiva อีกรอบนะครับ... 2WD = 350 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รตน. AWD = 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รตน.  (ข้อมูลจากประเทศอังกฤษ www.chevrolet.co.uk)

ตามพี่นนฯครับ  ถ้าเป็นผมก็จะเลือกแคปติว่า ดีเซล รูปทรงออกไปทางรถตรวจการณ์  ส่วน H1 ออกไปแนวรถตู้

ขอแก้ไขข้อมูล Captiva ครับ.... เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร 163 แรงม้าสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า และ 184 แรงม้าสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ

ผมไม่ใช่อาจารย์ แต่ขอแสดงความเห็นและให้ข้อมูลครับ....ตามความเห็นผมถ้าเปรียบเทียบ CHEVROLET Captiva 2.0 VDCi (ดีเซล) กับ HYUNDAI H-1 ผมขอแสดงความเห็นเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ

- เครื่องยนต์: Captiva = ดีเซล 2.0 ลิตร DOHC 16 วาล์ว 163 แรงม้า ที่ 3,800 รตน. 360 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 - 2,750 รตน. H-1 = ดีเซล 2.5 ลิตร DOHC 16 วาล์ว 174 แรงม้า ที่ 3,800 รตน. 392 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 - 2,500 รตน.

- ระบบส่งกำลัง:

  > Captiva = เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ DSC (Driver Shift Control) เปลี่ยนเป็นเกียร์ธรรมดาได้

  > H-1 = เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ แบบ H-Matic เปลี่ยนเป็นเกียร์ธรรมดาได้

- อัตราเร่ง: Captiva ดีกว่า H-1 (ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 180 กม./ชม.)

- ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง:

 > Captiva 2WD ดีกว่า H-1 พอสมควร เนื่องจากน้ำหนักตัวรถที่น้อยกว่าประมาณ 400 กก. และมีเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มากกว่า H-1 ที่มี 5 จังหวะ

 > H-1 จะดีกว่า Captiva AWD เล็กน้อย เนื่องจากไม่ต้องเสียกำลังในการขับเคลื่อน 4 ล้อ

- ค่าบำรุงรักษา: H-1 ประหยัดกว่า Captiva (ผมใช้ H-1 มาเกือบ 1.2 แสน กม. แล้ว ค่าใช้จ่ายในการเช็คระยะพอๆ กับรถกระบะ ครั้งละ 2 พันกว่าบาท สูงสุดไม่เกิน 5 พันบาท)

- ความทนทาน: H-1 ทนกว่า Captiva เนื่องจากใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง แชสซีส์ชิ้นส่วนช่วงล่างขนาดใหญ่ ระบบอิเล็กทรอนิกส์น้อยกว่า พื้นฐานเครื่องยนต์มาจากบล็อก 4D56 ของ MITSUBISHI ที่อึดมาก ใช้มาร่วม 20 ปี (พัฒนาแค่ฝาสูบกับลูกสูบ แรงดันเชื้อเพลิง และเทอร์โบ)

- การลุย: Captiva AWD ดีกว่า H-1 พอสมควร เนื่องจากมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ระยะใต้ท้องสูง 200 มม. (H-1 = 190 มม.) น้ำหนักตัวรถที่น้อยกว่า

- การทรงตัว: Captiva ดีกว่า H-1 พอสมควร เนื่องจากจุดศูนย์ถ่วงต่ำกว่ามาก

 > กว้าง x ยาว x สูง / ฐานล้อ (มม.):

   (1) Captiva: 1,850 x 4,673 x 1,756  / 2,707

   (2) H-1: 1,920 x 5,125 x 1,925 มม. / 3,200

- วงเลี้ยวแคบสุด: H-1(5.6 ม.) แคบกว่า Captiva (5.75 ม.)

- ศูนย์บริการ: CHEVROLET มีมากกว่า HYUNDAI พอสมควร (HYUNDAI มีบางศูนย์ที่บริการดี เช่น บางนา และสำนักงานใหญ่ <ผมเคยใช้บริการ> และรัตนาธิเบศร์ <ผมไม่เคยใช้บริการ>) น่าจะคล้ายกัน คือ ต้องเลือกศูนย์ฯ ครับ (ตามที่มีทั้งคนชมและคนตำหนิ)

- อะไหล่: H-1ได้เปรียบ Captiva เนื่องจากมีจำนวนรถแพร่หลายมากในประเทศเกาหลีใต้ (แหล่งกำเนิด) รวมถึงยุโรปและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว มีใช้กันมาก

>>สรุป

  - Captiva เหมาะสำหรับครอบครัวประมาณ 3-4 คนพร้อมสัมภาระไม่มาก

  - H-1: เหมาะสำหรับครอบครัวเกิน 4 คนพร้อมสัมภาระมาก (ภาษีรายปี 1,600 บาทแบบรถยนต์นั่งเกิน 7 คน หรือ รถตู้โดยสาร)

สอบถามถ้าจะซื้อรถยนต์สำหรับครอบครัว ระหว่าง เชฟโรเลตแคปติว่า ดีเซล 2.0 LSX 2011 กับ ฮุนได H1 DELUXE 2011  เปรียบเทียบคุณภาพ คุ้มค่า ความน่าใช้ ประหยัด บริการหลังการขาย หรือรถประเภทไหนที่ท่านอาจารย์จะแนะนำ

สอบถามถ้าจะซื้อรถยนต์สำหรับครอบครัว ระหว่าง เชฟโรเลตแคปติว่า ดีเซล 2.0 LSX 2011 กับ ฮุนได H1 DELUXE 2011  เปรียบเทียบคุณภาพ คุ้มค่า ความน่าใช้ ประหยัด บริการหลังการขาย หรือรถประเภทไหนที่ท่านอาจารย์จะแนะนำ

จะในหรือนอกเมือง เครื่องยนต์ดีเซลก็น่าใช้กว่าเพราะประหยัดเชื้อเพลิง อัตราเร่งดี (ในรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้ระบบคอมมอนเรล) ทนทานกว่าเครื่องยนต์เบ็นซินครับ ถ้าใช้ในเมืองหรือทางเรียบเป็นหลักแนะนำให้ใช้รุ่นขับเคลื่อนสองล้อก็พอครับ ประหยัดทั้งเชื้อเพลิงและค่าซ่อมบำรุง แถมอัตราเร่งยังดีกว่าด้วย... สรุปว่าแนะนำ Captiva 2.0 VDCi ครับ