อยากหา SUV สักคัน ช่วยแนะนำทีครับ
avatar
คนขับรถ(ให้เมีย)


 งบไม่เกิน 6 แสนบาท เกียร์อะไรก็ได้ ดีเชลหรือเบนชิล(ไม่ติดแก๊ส)ก็ได้

ขับ 2 ก็ได้ ขับ 4 ได้ยิ่งดี มี 7 ที่นั่งก็ยิ่งดีครับ

เท่าที่ผมเห็นมาก็มี Sport rider 4d4 - CRV G2 - escape 

หรือท่านใดรู้จักรุ่นอื่นๆ รบกวนแนะนำ + เปรียบเทียบหน่อยครับ

รถใช้ในเมืองเป็นหลัก ทางไกลต่างจังหวัดอาทิตน์ละครั้ง

ขอบคุณครับ



ผู้ตั้งกระทู้ คนขับรถ(ให้เมีย) :: วันที่ลงประกาศ 2011-11-09 10:58:31 IP : 118.172.46.112


1

ความคิดเห็นที่ 18 (3414356)
avatar
อนุพล

 ขายนิสันไทยรุ่งปี2003ครับ สนใจติดต่อดูรถที่ชลบุรีครับ 0821874008

ผู้แสดงความคิดเห็น อนุพล (anupon-dot-thongsumrit-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2016-07-19 20:20:31 IP : 199.255.47.6


ความคิดเห็นที่ 17 (3373876)
avatar
Camen rider

ผมใช้ sport rider 5L รุ่นแรก ใช้เปนรถคันที่สอง เข้าสวน วิ่งไปงานที่ต้องบรรทุกมากกว่า 5  คน ใช้ดีไม่จุกจิก อึดถึก ไปเรื่อยๆไม่รีบ ไม่ใช่เอามาขับกัน เกิน 120 แบบที่ทำกัน แล้วมาบ่นว่าน้ำมันแพง ยังไม่คิดจะเปลี่ยน 

น้ำท่วมครั้งที่แล้ว ก้อไอ้เจ้าม้าอึด คันนี้ล่ะ พาไปทุกที่ เข้า 4WD high ลุยทุกถนนที่มองไม่เห็นทาง น้ำท่วมมิดหัวเข่าผูใหญ่สูง 175 cm  ยังไม่เคยจอดกลางทาง เลิกน้ำท่วมมาแค่เปลี่ยนของเหลว อัดจารบีใหม่ทุกจุด เปลี่ยนจารบีแรค ยังไม่เคยทำให้ผิดหวัง ยามบ้าพลังไว้กวดชาวบ้าน 120 140 ก็พาไปได้ ถึงจะซดหน่อย แต่เราไม่วิ่งขนาดนั้นบ่อย 

รถทุกรุ่นมีข้อดี ข้อเสีย ในตัวมันเอง รถอื่นที่ว่ามา ยกสูงแล้วสวยแบบ มัน หรือเปล่า อยู่ที่คนใช้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น Camen rider วันที่ตอบ 2013-08-25 10:03:37 IP : 27.55.220.202


ความคิดเห็นที่ 16 (3349060)
avatar
man

ผมว่าต่างคนก็ต่างมุมมองอ่ะคับ ไม่มีใครคิดถูกหรือใครคิดผิด คิดว่าทุกคนที่อยากจะมีรถไว้ใช้สักคันก็ต้องหาข้อมูลกันมามากพอสมควร ไม่อยากมองว่ารถค่ายไหนยี่ห้อไหนดีไม่ดีอย่างไร เอาเป็นว่าสรุปอยู่ที่วัตถุประสงค์การใช้งานเป็นหลักครับ

สำหรับตัวผมแล้วผมเป็นคนชอบลุย ชอบท่องเที่ยว ทั้งในเมืองและนอกเมืองต่างจังหวัด ทางเรียบบ้าง ทางลุยบ้าง ปัจจุบันผมจึงเลือกใช้ Sport rider ตัว Commonrail ครับ เพราะตอบโจทย์ตัวเองได้ว่า นี่แหล่ะ เหมาะกับตัวเองที่สุดแล้ว รูปลักษณ์โดยรวม โดนใจ เส้นสาย โค้งมน สวยได้ใจ สมรรถนะ ลุยได้เต็มที่ ไปไหนไปกัน เครื่องโตโยต้าเท่าที่เคยใช้มานาน ไม่มีปัญหากวนใจ นอกจากตรวจเช็คตามระยะที่กำหนดรับรองจะอยู่กับเราไปอีกนาน สั้นๆ คือ หรูก็ได้ ลุยก็ดี ขับขี่ในเมืองก็ดูดีมีรสนิยม ขับขี่นอกเมืองขึ้นเขาลงห้วยบ้างก็ดีใช้ได้ ไม่ใช่ว่าของค่ายอื่นยี่ห้ออื่นไม่ดีนะครับ เพียงแต่มันไม่เหมาะกับเรามากกว่า ส่วนสไตล์ใครก็สไตล์มันครับ คันไหนตอบโจทย์คุณได้ก็เลือกไปเถอะครับ เพราะได้มาแล้วก็ต้องมาอยู่ด้วยกันและต้องมีความสุขกันมันด้วย....ขอบคุณครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น man วันที่ตอบ 2012-10-28 14:27:31 IP : 110.49.242.238


ความคิดเห็นที่ 15 (3345547)
avatar
bird

เห็นด้วยกับคนรักสมุยครับ สำหรับผมแล้วถ้าจะหารถที่ลุย ทน ถึก มันต้องยอมรับว่าความนุ่มนวลมันต้องน้อยลง และถ้าหากผมจะเลือก sport rider ผมเลือกเครื่อง 5L ครับ เพราะหลังจาก 5L แล้วมีการเอาระบบไฟฟ้ามาสั่งการ มีการติดกล่อง ECU ควบคุมการจ่ายน้ำมัน ซึ่งมันทำให้เกิดข้อจำกัดในการเอาไปลุย โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำท่วม ทำให้ไม่สามารถใช้รถได้เต็มประสิทธิภาพ และด้วยประสบการณ์ที่เคยใช้ทั้งฟอร์จูนเนอร์และ sport rider ผมไม่เห็นความแตกต่างด้านความประหยัดน้ำมันอย่างมีนัยยะสำคัญเลย  5L เมื่อขับในเมืองรถติด กินประมาณ 7 โลลิตร เท่าๆกับฟอร์จูนเนอร์ ถ้ารถไม่ติดก็ประมาณ 8-9 โลลิตรพอๆกันอีก ที่เป็นอย่างนี้เพราะการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลนั้นไม่ได้พัฒนาแบบกระชากเป็น s-curve เหมือนเครื่องยนต์เบนซินและไฮบริด การลงทุนด้าน R&D ของบริษัทผู้ผลิตนั้นจะเน้นที่เครื่องเบนซินและไฮบริดเป็นหลักเพราะมันตอบโจทย์อนาคต เพียงแต่ไฮบริดยังไม่สามารถเอามา commercial ได้เต็มที่เพราะหากทำจริงๆจะราคาแพงมากจึงอยู่ในห้องแล็ปเป็นส่วนใหญ่ ทางการตลาดจึงเน้นเครื่องเบนซินขนาดเล็กประสิทธิภาพสูงเป็นหลัก ซึ่งไม่สามารถตอบโจทย์เรื่องความทนทานได้เท่าดีเซล และถ้าให้เลือกเครื่องดีเซลที่ง่าย ทนทาน สู้น้ำ ต้อง 5L เท่านั้นครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น bird วันที่ตอบ 2012-09-21 10:35:47 IP : 101.109.171.179


ความคิดเห็นที่ 14 (3341070)
avatar
รักคนสมุย

ความจริงเกี่ยวกับ SPORT  RIDER

5L  ดีที่สุดแล้วใน  SPORT  RIDER  ต้องมองยุคนั้นราคาน้ำมันไม่แพงเท่านีี้รถสมัยใหม่ทำเพื่อประหยัดน้ำมัน

5L EFI  เป็นรุ่นทดลองเอาหัวฉีดเบนซินมาใส่ แรงนะแรงแต่กินน้ำมันกว่า 5L ออกมาได้ปีเดี่ยวพี่โตเขาทดลองอีก

1KZ  แรงขับกินน้ำมันมาก  

สุดท้ายตัวแปลคือตลาดน้ำมันยอดเฉลี่ยในการขายลด จึงปรับระะบเพื่อให้เหมาะสมกับราคาแนวโน้วที่น้ำมันจะแพงขึ้นในตลาด

รองน้ำมันราคาลิตรละ 10 บาทสิครับ  แน่นอน 5L ขายมา 4-5 ปีก้อต้องมีเปลี่ยนจุดขาย ปรับ new production  ใหม่ไม่งั้นก้อสู้ค่ายอื่นไม่ได้

ก้อต้องเอาความแรงเร็วเข้ามาขายแข่งขันในตลาด   5L  EFI   1ปี   1KZ 1ปี  5L 4 ปี  ถ้าไม่เกี่ยวกับการตลาด  5l efi  1 kz ทำไมอยู่ในตลาดได้ปี

เดี่ยวก้อเพราะมันกินน้ำมัน  แล้วพี่ทดลอองระบบในตลาดแล้วปรับสู้กับค่ายรถอื่นก้อเท่านั้น ดีสุด 5L  อยู่ในตลาดนานสุดเหตุผลหลักทน

ไม่แรงนะคุณไปเที่ยบกับรถสมัยนี้มันคอมมอลเรลคนละเรื่องครับ

ลองยุคนั้นสิครับก้อไม่เป็นลองใคร  

ดีไม่ดีไม่รู้แต่ตอนนั้นดังสุดแล้ว sport rider ขายดีสุดดับหมดทุกยี้ห้อยุคนั้น  ต่อมาก้อยุคน้องจูนมีน้องปามาแข่งตอนนี้

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น รักคนสมุย วันที่ตอบ 2012-08-02 16:29:42 IP : 171.97.173.64


ความคิดเห็นที่ 13 (3317212)
avatar
ลูกบอล

คหที่ 10 ผมว่าแนะนำตามความจริงดีกว่าไหมครับ อะไรเป็นยังไง ไม่ดียังไง ดียังไง ไม่ใช่ไป copy  นิตยสาร ที่เค้าอาจจะได้รับเงินค่าเทส ต่าง ๆ นา ๆ มาพูด  ถ้าคุณใช้จริง  พิมพ์เองซิครับ ไม่ใช่ไป copy บทความเค้ามาใส่

ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกบอล วันที่ตอบ 2011-11-13 14:43:30 IP : 49.48.59.243


ความคิดเห็นที่ 12 (3317208)
avatar
คนขับรถ(ให้เมีย)

สรุปตอนนี้ลงเอยที่ Mu7 แล้วครับ

จับมา 5 แสนปลาย ๆ โดยรวมใช้ได้ดีครับ

แฟนก็ชอบด้วยบอกว่ามันใหญ่ดี

ขอบคุณทุกๆท่านที่ช่วยเสนอแนะมากครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนขับรถ(ให้เมีย) วันที่ตอบ 2011-11-13 13:04:59 IP : 49.230.236.213


ความคิดเห็นที่ 11 (3317155)
avatar
พุฒิ

ผมใช้ G2 ปี 2005 เป็นรุ่นที่ปรับปรุงแล้ว เครื่อง 2000 ซีซี เกียร์เดินหน้า 5 สปีด ร่นก่อนจะมีแค่ 4 สปีด ที่ใช้มาขับดีครับ ยังไม่มีอะไรจุกจิก กินน้ำมันในเมือง 7-8 กม./ลิตร ตจว.วิ่งได้ 10-11 กม./ลิตร เกาะถนนดีครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น พุฒิ วันที่ตอบ 2011-11-12 09:22:02 IP : 27.130.146.39


ความคิดเห็นที่ 10 (3317115)
avatar
คนมีรถสปอร์ทไรด์เดอร์

 น้อยใจมีแต่คนว่า สปอร์ทไรด์เดอร์ห่วย เลยคับบทความที่เจจอเอามางั่ดข้อ  ดูว่าทำมั้ยถึงต้องทำให้ช่วงล่างแข็งกระด้าง

"  โตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์เป็นรถกระบะดัดแปลง มีความอเนกประสงค์แบบรถแวนแต่แกร่งทนทานแบบกระบะ สามารถลุยได้ไม่ขัดเขินโดยพ่วงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้หลายคนสนใจรถประเภทนี้กันมากขึ้น จนเกิดกระแสรถกระบะดัดแปลงขึ้นมา ทำให้หลายยี่ห้อก็หันมาทำรถแนวนี้กันมากขึ้น เมื่อเป็นรถมือสองก็ยิ่งน่าสนใจ

 

          แต่เครื่องยนต์ดีเซล 5L ที่ใส่ลงในสปอร์ตไรเดอร์ตัวแรก คนที่ใช้เริ่มบ่นกันมากเรื่องพละกำลังที่ไม่ได้ดั่งใจ ไม่แรงแต่กินน้ำมันเยอะ ดังนั้นโตโยต้าจึงนำระบบควบคุมการจ่ายน้ำมันด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์  EFI มาใช้ในเครื่องยนต์ 5ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นรหัส 5L-E โดยค่ายโตโยต้านำเครื่องยนต์ที่ใช้อยู่แล้วในญี่ปุ่นอย่าง 1KZ-TE มาเป็นตัวโชว์ให้เห็นถึงข้อดีของระบบนี้โดยไม่ได้เน้นตัวเลขยอดขาย แต่ก็กลับกลายเป็นว่าสปอร์ตไรเดอร์เครื่องยนต์ 1KZ-TE ล๊อตแรกขายกันหมดในเวลาอันรวดเร็ว  ใครพลาดก็ต้องคิวยาวเลยทีเดียว รุ่นต่อไปเป็นการไมเนอร์เชนจ์ก็คือรุ่นปัจจุบันนั่นเอง ส่วนตัวที่เราจะพูดถึงกันคือรุ่นตัวก่อนไมเนอร์เชนจ์ที่ใช้เครื่อง 1KZ-TE เนื่องจากราคามือสองเหมาะสมกับคุณถาพดี ถ้าเป็นรุ่นแรกก็ออกจะอืดไป ตัวล่าสุดราคามือสองก็แพงไปหน่อยทั้งๆที่เครื่องยนต์ตัวเดียวกัน(ถึงแม้มีรุ่นคอมมอนเรลเพิ่ม แต่ราคามือสองแพงไป)

 

 

 

         พื้นฐานของสปอร์ตไรเดอร์ 1KZ จะใช้ตัวถังเดียวกันกับรุ่น 5L ก่อนหน้านี้ แต่มีการปรับปรุงหน้าตาให้ดุขึ้นตามสไตล์รถออฟโรดไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้าขนาดใหญ่พร้อมกับการ์ดหน้าที่ยื่นออกมาจากกันชน ช่องรับลมตรงกันชนจะเป็นตะแกรง และมีไฟตัดหมอกดวงกลมติดไว้ตรงกันชนด้านล่างแต่ก็ต้องตรวจเช็กดีๆเพราะบางดวงจะมีน้ำไหลเข้าไปขังได้  ซึ่งในช่วง 5 หมื่นกม.แรกหรือไม่เกิน 2ปีทางค่ายโตโยต้า เขาจะเปลี่ยนให้ฟรี ด้านข้างของตัวรถก็จะมีบันไดข้างต่อจากชายบังโคลนหน้าไปถึงชายบังโคลนหลัง ตรงปลายทั้งสองด้านจะมีพลาสติกสีดำหุ้มต่อกัน บันไดข้างจะได้ใช้งานจริงๆเพราะตัวรถค่อนข้างสูง ด้านหลังจะมียางอะไหล่ติดไว้ด้วยแขนยึดตึดกับตัวถัง ซึ่งบางครั้งตัวถังปลดล็อกให้แขนล็อกยางอะไหล่เปิดอ้าจะดึงไม่ออกจึงเป็นอีกจุดที่ต้องระวัง ตรงชายหลังคาด้านหลังก็จะมีสปอยเลอร์พร้อมไฟเบรกติดทำให้ไฟท้ายจะใช้แบบขาวแดง ไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ ไฟเลี้ยวเลนส์ขาวฝังหลอดกลมสีเหลืองดวงใหญ่เอาไว้ รอบคันจะมีโป่งล้อขนาดใหญ่ให้เข้ากับตัวรถ

 

 

 

คันเร่งไร้สาย

 

          เครื่องยนต์ 1KZ-TE ที่วางในสปอร์ตไรเดอร์เป็นเครื่องยนต์ยอดฮิตในยุคนั้นซึ่งเป็นเครื่องยนต์แบบสเวิลแซมเปอร์แถวเรียง 4 สูบOHV 8 วาล์ว เพิ่มกำลังด้วยเทอร์โบ แต่ก็ไม่ได้แรงม้าออกมาเท่ากับที่ขายในญี่ปุ่น ความจุ 2982 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 85 กิโลวัตต์หรือ 125 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แต่แรงบิดมากถึง 315 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีดที่มีอัตราทดเฟืองท้าย 3.727 เครื่องยนต์จะไม่มีการติดตั้งอินเตอร์คูลเลอร์มาให้จึงมีปัญหากำลังตกตอนเจออากาศร้อนๆซึ่งถ้าติดอินเตอร์คูลเลอร์เพิ่มเข้าไปก็จะช่วยรักษาแรงม้าให้คงที่ไว้ได้และยังเพิ่มกำลังได้อีกเล็กน้อยจากอกาศที่หนาแน่นขึ้นก่อนเข้าสู่ท่อไอดี เครื่องยนต์รุ่นนี้จะต่างจากรุ่นอื่นๆหรือแม้ว่าจะเป็น 1KZ ในญี่ปุ่นก็ตาม คือการไม่ใช้คันเร่งแต่จะใช้ไฟฟ้าเป็นคันเร่งแทน ซึ่งจะตัดการจ่ายน้ำมันเมื่อยกคันเร่งช่วยให้ประหยัดกว่าคันเร่งสาย แต่อัตราบริโภคก็ยังคงดุเดือดพอสมควรกับระดับ 6-8 กม./ลิตร การเปลี่ยนเกียร์จึงไม่ควรเปลี่ยนเกียร์เกิน 2,000 รอบ ซึ่งจะได้กำลังดีที่สุด ถ้าลากรอบสูงเกินไปการบริโภคน้ำมันก็จะมากขึ้น แถมการใช้รอบสูงๆเปลี่ยนเกียร์อาจจะทำให้ท้ายปัดได้ถ้าวิ่งอยู่บนถนนลูกรัง

 

 

 

 ภายใน

 

 

 

          ความหรูหราของสปอร์ตไรเดอร์ 1KZ มีมาให้มากพอสมควรตามสไตล์รถราคาแพงที่สุดในรุ่น กับราคา 1.24 ล้านในยุคนั้น ด้วยเบาะหนังแท้ที่มีขนาดใหญ่นั่งสบาย แต่เบาะแถวหลังสุดกลับพับไม่ได้จึงต้องเสียเงินเพิ่มอีกประมาณพันเศษๆซื้อตัวพับมาใส่แทนซึ่งจะช่วยให้พับเบาะยกขึ้นมาติดกับเบาะแถวกลางได้ ทำให้มีพื้นที่เก็บสัมภาระที่ไม่ต้องการเปียกน้ำนอกเหนือไปจากการวางไว้บนหลังคา แผงคอนโซลไม่ต่างจากรถกระบะทั่วไปแต่เพิ่มลายไม้ที่เป็นพลาสติกเพิ่มขึ้นมา แผงหน้าปัดจะมีมาตรวัดพื้นขาว พวงมาลัย 4 ก้านลายหยาบปรับสูงต่ำ มีเพาเวอร์ผ่อนแรงพร้อมปรับความสูงต่ำได้ ภายในห้องโดยสารสะดวกสบายพอสมควร สำหรับเบาะนั่งแถวแรกและแถว 2 ส่วนแถวหลังจะเหมาะกับเด็กตัวไม่โตนักเพราะเบาะนั่งไม่สูงนัก

 

 

 

ช่วงล่างกระด้างไปนิด

 

          ช่วงล่างของสปอร์ตไรเดอร์ถูกจำกัดด้วยข้อกฎหมายที่ให้ใช้แหนบได้เพียงอย่างเดียว จะใช้คอยล์สปริงออกมาจากโรงงาน กันสะเทือนหลังจึงเป็นเพียงแหนบซ้อนคานแข็งพร้อมโช้กอัพติดตั้งทแยงกัน โดยตัวแหนบจะวางไว้บนเพลาท้าย ไม่ได้ห้อยไว้ด้านล่างจึงไม่เกะกะเวลาเอาไปลุย ด้านหน้าจะเป็นแบบปีกนกคู่ ทอร์ชั่นบาร์พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วงล่างของสปอร์ตไรเดอร์หนักไปทางแข็งถึงกระด้าง จึงเจออาการท้ายดีดเวลาผ่านลูกระนาดกั้นแถวๆในซอยหรือตามหมู่บ้านต่างๆ แต่ก็ดีตอนเอาไปลุยตามเส้นทางขรุขระมากเพราะตัวรถจะไม่โคลงมาก เฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิปช่วยให้ผ่านทางโคลนได้ง่ายขึ้น ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกหน้า ดรัมเบรกหลังให้ระยะเบรกสั้นกว่าตัวกระบะ 5L ยางติดรถขนาด 255/70R15 พร้อมแม็ก 15x17 นิ้ว ใส่ยางดอกละเอียดมักจะถูกถอดเปลี่ยนยางเป็นมัดเทอเรนขนาด 30-31 นิ้วกันซึ่งจะช่วยให้รถเกาะถนนดีขึ้น นิ่มขึ้น ลุยบนเส้นทางกันดารง่ายขึ้น และวงรอบที่มากขี้นช่วยให้ประหยัดขึ้นเช่นกัน โดยไม่ต้องยกตัวถังสูงขึ้น นอกเหนือไปจากการใส่แร็กหลังคาและบันไดตรงประตูหลังสำหรับปีนขึ้นไปบนหลังคา อะไหล่ไม่ต้องห่วงเพราะหาง่ายตามสไตล์รถพิมพ์นิยม แต่ในช่วงแรกๆก็ควรเข้าศูนย์ไปก่อนเพราะยังใหม่อยู่

 

            ราคาซื้อขายตอนนี้จะอยู่แถวๆ 7-8.5 แสน ซึ่งยังมีคนรอรับซื้อกันเพราะได้ความแรงของเครื่องยนต์และความประหยัด อ้อ...ผมไม่ได้ตั้งใจจะขายรถนะครับแค่ยืมรูปมาประกอบเฉยๆ 

 

 

 

                                                              ปล.สี่เท้ายังรู้พลาดครับ

http://v2.one2car.com/Car2Care/read_dtl.aspx?Know_Car_Id=J140320376&Know_Topic_Id=1

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนมีรถสปอร์ทไรด์เดอร์ วันที่ตอบ 2011-11-11 16:23:12 IP : 223.207.180.168


ความคิดเห็นที่ 9 (3316974)
avatar
Non Wacharakiat

ถ้าไม่นับเรื่องกินน้ำมัน เรื่องอื่นดีหมดครับ แต่ถ้าขับ 100-120 ก็ยังเห็นเลขสิบครับ (ตัวเก่าเป็นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ/อัตโนมัติ 4 จังหวะ)

ผู้แสดงความคิดเห็น Non Wacharakiat (nonwpresley-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-11-09 21:45:37 IP : 124.120.199.42


ความคิดเห็นที่ 8 (3316964)
avatar
คนขับรถ(ให้เมีย)

ไปเดินเล่นดูแถวๆ เต๊นรถแล้วครับ everest ก็สวยดีครับ แต่ตัว 2.5 Commonrail เจ้าของเต๊นบอกว่าราคาน่าจะ 6 ต้นๆ ถึง6 ปลาย

Everest ถ้าเป็นโฉมแรก น่าใช้มั้ยครับ ราคาประมาณ 4-6 แสน เพราะไปลอง Sport rider มาแล้ว แฟนบอกไม่เอา(อีกแล้ว) 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนขับรถ(ให้เมีย) วันที่ตอบ 2011-11-09 17:07:12 IP : 118.172.46.112


ความคิดเห็นที่ 7 (3316946)
avatar
Non Wacharakiat

คุณลูกบอลสุดยอดจริงๆ ครับ งั้นผมขอต่อยอดจากคุณเลยแล้วกันนะครับ...

- Sport Rider นั่งไม่สบาย ไม่เกาะถนน โคลงและกระด้างมากครับ (เหมือนม้าพยศ)

- CR-V ถ้าความเร็วที่คุณบอกไม่น่าเกิน 10 กม./ลิตร แต่ต้องเหยียบคันเร่งแบบเนียนๆ นะครับ.... แต่ผมว่าอย่าไปยุ่งกับมันเลยครับ เพราะจุกจิกมากๆ

แนะนำว่าเล่นรุ่นอื่นที่ปลอดภัย นุ่มนวล เกาะถนนกว่าเจ้า Sport Rider มากครับ.... เช่น

- FORD Everest ไม่แน่ใจว่างบ 6 แสนจะได้รุ่น 2.5 Commonrail รึเปล่าครับ....ถ้าได้ล่ะแจ๋วเลย เพราะแรงและประหยัดมากๆ ครับ แถมเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะด้วย รวมถึงเบรกและช่วงล่างดีมากๆ เกาะหนึบ

- MITSUBISHI G-Wagon 2.8 VGT ถ้าคุณขับแค่ 100-120 กม./ชม. ไม่ซดมากครับ เบรกและช่วงล่างดีมากๆ เกาะหนึบ

- ISUZU Mu-7 3.0 Ddi ตัวเก่า 146 แรงม้า 294 นิวตัน-เมตรก็ประหยัดน้ำมันดีครับ

รอท่านอื่นๆ เพิ่มเติมนะครับ...

ผู้แสดงความคิดเห็น Non Wacharakiat (nonwpresley-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-11-09 13:37:52 IP : 202.136.166.37


ความคิดเห็นที่ 6 (3316943)
avatar
ลูกบอล

 กินเยอะอยู่ครับ ถ้าไม่ติดแก๊ส  

แต่ถ้าคุณจะเอา sport rider ผมว่า คุณไปลองเทียบดูตัวอื่นดีกว่า เช่น Gwagon, TR Adventur และ EV เพราะทุกตัว ได้ปีใหม่กว่า sport rider ทั้งสิ้น รถแพงแต่ห่วย ไม่อยากเชียร์ขับ นั่งหลัง  ขี่เ้กวียนยังกระเืทือนน้อยกว่าเลย 

 

ถ้าทาง ลูกรัง หลุมเยอะมาก ผมไม่แนะนำให้ใช้หรอก CRV    ถ้าจะเอาพวกเบนซินจริง ๆ ผมแนะนำ Escape หรือไม่ก็ Land Rover ดีกว่าเยอะครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกบอล วันที่ตอบ 2011-11-09 13:21:36 IP : 58.11.104.25


ความคิดเห็นที่ 5 (3316941)
avatar
คนขับรถ(ให้เมีย)

ขอบคุณทุกๆท่าน สำหรับคำแนะนำครับ

ที่อยากได้ suv เพราะว่าทางเข้าบ้านที่ต่างจังหวัด เก๋งเข้าไม่ได้ครับ(ทางลูกรัง+หลุมเยอะมาก)

ส่วนเรื่อง 7 ที่นั่งมีหรือไม่ก็ได้ครับ แต่ที่อยากมีไว้เพราะมีของเยอะในบางครั้ง

ผมอยากได้กระบะ 4 ประตูเหมือนกัน แต่แฟนไม่อนุมัติครับ T T

แฟนบอกอยากได้ CRV G2 มันจะจุกจิกมีปัญหาเยอะรึเปล่าครับ ขับไม่เกิน 100-120 จะซดประมาณ กี่โล/ลิตร ครับ(หากไม่ติดแก๊ส)

เพราะหากไม่ไหวจริงๆ คงจะลงเอยที่ Sport rider d4d ครับ

ขอบคุณครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนขับรถ(ให้เมีย) วันที่ตอบ 2011-11-09 13:09:02 IP : 118.172.46.112


ความคิดเห็นที่ 4 (3316939)
avatar
ลูกบอล

 จริง ๆ มันก็มี Toyota RAV4 อีกตัว แต่มันนั่ง 7 ไม่ได้ดิ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกบอล วันที่ตอบ 2011-11-09 12:26:03 IP : 58.8.144.74


ความคิดเห็นที่ 3 (3316938)
avatar
ลูกบอล

ถ้าตามงบไม่เกิน 6 แสน ที่ได้ ก็มี  **ไม่เกิน ในที่นี้หมายถึง ไม่สูงกว่าปี นั้น ๆ 

CRV ไม่เกินปี 2004  

Mitsu G-Wagon ไม่เกิน ปี 2006 

Mitsu Real Pajaro ไม่เกินปี 2006

Ford escapte ไม่เกินปี 2004

Isuzu MU7 ไม่เกินปี 2006 

Ford EV ไม่เกินปี 2006

TR Adventure ไม่เกินปี 2007

Land Rover Free Lander ไม่เกิน 2004

Jeep Cherokee ประมาณปี 2002 - 2004    ไม่อยากแนะนำเลย เด๋วมานั่งร้องไห้ทีหลัง งิ

Toyota sport rider d4d ไม่เกินปี 2004

Mitsu Real Pajaro Mini  เป็นรถนำเข้า มีถึงปี 2011 เลยครับ แต่เป็นมือ 2 ของเพื่อนบ้านนะ  

Toyota Land Cruiser Prodo ไม่เกินปี 1998

หมดแล้วมังครับ  ลองหาดูละกัน  ไม่เปรียบเทียบให้ นะ รอคนอื่นมาจัดต่อล่ะกัน

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกบอล วันที่ตอบ 2011-11-09 12:24:32 IP : 58.136.28.242


ความคิดเห็นที่ 2 (3316936)
avatar
Non Wacharakiat

ถ้าคุณต้องการ SUV ก็ต้องตัด Sport Rider ออกไป เพราะมันเป็น PPV (กระบะดัดแปลง) ครับ

แต่ถ้าต้องการ 7 ที่นั่ง ก็ต้องตัด 2 ตัวหลังออก เพราะมีแค่ 5 ที่นั่ง และซดมากๆ ครับ

ถ้าจะเอา 7 ที่นั่งที่นั่งสบายก็ต้องตระกูลไทยรุ่ง (NISSAN = TR Xciter / ISUZU = TR Adventure) ราคามือสองไม่แพง แต่ช่วงล่างจะเน้นนิ่มจนย้วย อะไหล่ตัวถังหายากและแพง

ถ้าใช้ในเมืองเป็นหลักและไม่ติดแก๊ส และดูจากที่คุณบอกว่า 5 หรือ 7 ที่นั่งก็ได้ แสดงว่านั่งโดยสารไม่เต็มคัน แนะนำพวก Eco Car ป้ายแดงจะเหมาะกว่า เพราะคล่องตัว ประหยัดเชื้อเพลิง ลองดูเจ้า NISSAN Almera สิครับ คันไม่เล็กนะครับ หรือเจ้า FORD Fiesta 1.6 ตัวล่างๆ ซึ่งก็อยู่ในงบประมาณที่คุณตั้งไว้ด้วยครับ

หรือพวกกระบะดีเซลก็น่าสน (4 ประตู 5 แสนปลายๆ น่าจะมีครับ) เพราะเหมาะกับลุยน้ำ ทางขรุขระ ทนทาน และค่าเชื้อเพลิงถูกกว่าครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น Non Wacharakiat (nonwpresley-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-11-09 11:56:44 IP : 202.136.166.37


ความคิดเห็นที่ 1 (3316935)
avatar
Non Wacharakiat

ถ้าคุณต้องการ SUV ก็ต้องตัด Sport Rider ออกไป เพราะมันเป็น PPV (กระบะดัดแปลง) ครับ

แต่ถ้าต้องการ 7 ที่นั่ง ก็ต้องตัด 2 ตัวหลังออก เพราะมีแค่ 5 ที่นั่ง และซดมากๆ ครับ

ถ้าจะเอา 7 ที่นั่งที่นั่งสบายก็ต้องตระกูลไทยรุ่ง (NISSAN = TR Xciter / ISUZU = TR Adventure) ราคามือสองไม่แพง แต่ช่วงล่างจะเน้นนิ่มจนย้วย อะไหล่ตัวถังหายากและแพง

ถ้าใช้ในเมืองเป็นหลักและไม่ติดแก๊ส และดูจากที่คุณบอกว่า 5 หรือ 7 ที่นั่งก็ได้ แสดงว่านั่งโดยสารไม่เต็มคัน แนะนำพวก Eco Car ป้ายแดงจะเหมาะกว่า เพราะคล่องตัว ประหยัดเชื้อเพลิง ลองดูเจ้า NISSAN Almera สิครับ คันไม่เล็กนะครับ หรือเจ้า FORD Fiesta 1.6 ตัวล่างๆ ซึ่งก็อยู่ในงบประมาณที่คุณตั้งไว้ด้วยครับ

หรือพวกกระบะดีเซลก็น่าสน (4 ประตู 5 แสนปลายๆ น่าจะมีครับ) เพราะเหมาะกับลุยน้ำ ทางขรุขระ ทนทาน และค่าเชื้อเพลิงถูกกว่าครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น Non Wacharakiat (nonwpresley-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-11-09 11:56:42 IP : 202.136.166.37



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.