2.2 Open Cab Hi-Rider = 699,000 ครับ

ขอขอบคุณ น้า Non ครับ.สำหรับคำตอบ. ผมแอบเล็งๆ ford 2.2 เกียร์ธรรมดาอยู่ กับ ตัว

WILDTRACK โฉมสุดท้าย(ตัวปัจจุบัน) 2.5 OPENCAB เกียร์ธรรมดา กำลังดูราคาตัว 2.2

ที่จะเคาะออกมา มาเปรียบเทียบกันครับ.( กิเลสมา สัญญาเกิด หนี้บรรเจิด เตลิดงบที่มี )555.

มิกล้าๆ... คุณโคราชกล่าวกินไปครับ....ผมแค่แสดงความเห็นในมุมมองและข้อมูลเท่าที่ทราบมาเล็กน้อยครับ... ก็ได้ความรู้จากท่านอาจารย์พัฒนเดช พี่ๆ และเพื่อนๆ ทุกคน และจากการแอบอ่านตามร้านหนังสืออ่ะคับ...คริๆ

ระบบ Power-shift แบบ Dual Clutch ของ FORD Ranger มีทั้งเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ และมีทั้งในเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร และ 3.2 ลิตร ส่วนเครื่องยนต์เบ็นซิน 2.5 ลิตรมีเพียงเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะครับ

ปล. ผมชอบออกตัวด้วยการเปลี่ยนเกียร์สูงเร็วๆ (ประมาณ 1,500 - 2,000 รตน.) แล้วค่อยไปเน้นตอนลอยลำความเร็วสูงๆ ครับ (สงัสยคงตามคุณคนโคราชไม่ทันแน่ๆ เลยครับ)

ขอความรู้น้า NON หน่อยครับ. ไอ้ระบบ Power-shift แบบ Dual Clutch ของ Ford

เค้ามีใน เกียร์ธรรมดา หรือ AUTO  หรือว่ามีทั้ง 2 แบบครับ. และอยู่ในต้ว 2.2 หรือตัว 3.2

ครับ. ได้ความรู้ทางวิชาการ จากน้า Non ผมจะได้กลายเป็นกบนอกกะลาซะที. 555

ปล.ผมชอบออกตัว 2500 รอบup และเร่งแซงบ่อยๆ เห็นบางคันออกตัวอ่อยๆ เห็นแล้วอึดอัด.

ขอบคุณมากครับคุณพี่คนโคราช บ้านผมอยู่แถวบางพลีไม่ท่วมครับ แล้วแถวบ้านพี่ท่วมมั้ยครับ ยังไงขอให้ผ่านพ้นวิกฤติไปด้วยดีนะครับ

แต่ขอเสนอความเห็นเพิ่มเติมจากพี่นิดนึงนะครับว่าอัตราสิ้นเปลืองของรถที่ใช้เกียร์อัตโนมัติส่วนใหญ่จะสูงกว่าเกียร์ธรรมดาเพราะต้องเสียกำลังผ่าน Torque Converter แต่ที่ชดเชยได้ คือ ในรถที่ใช้เกียร์อัตโนมัติจะใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำกว่ารถที่ใช้เกียร์ธรรมดาประมาณ 200 - 500 รตน.

บางรุ่น บางช่วงความเร็ว เกียร์อัตโนมัติประหยัดกว่า เช่น MITSUBISHI Triton 3.2 ที่ความเร็ว 110 กม./ชม. สิ้นเปลืองที่ประมาณ 13.73 กม./ลิตร ขณะที่เกียร์ธรรมดาอยู่ที่ประมาณ 12.5 กม./ลิตร (ข้อมูลจากนิตยสารนักเลงรถกระบะ จำไม่ได้ว่าฉบับไหน เพราะนานแล้ว) ความเร็วยิ่งสูงยิ่งประหยัดกว่าเพราะใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำกว่า

เกียร์อัตโนมัติรุ่นใหม่ๆ ให้ความสิ้นเปลืองใกล้เคียงกับเกียร์ธรรมดาเพราะลดบทบาทการทำงานผ่าน Torque Converter เช่น

- ระบบ Continuous Variable Transmission (CVT) ที่มีอัตราทด 6-8 จังหวะ รอบจะไม่ตกขณะเปลี่ยนเป็นเกียร์สูงขึ้น (รอบคงที่) ระบบนี้ถ้าคุมคันเร่งดีๆ จะประหยัดกว่าเกียร์ธรรมดาครับ (สมมุติคุณกดคันเร่งตั้งแต่ออกตัวที่ 2,000 รตน. ยาวไปถึงความเร็ว 100 กม./ชม. รอบจะไม่ขึ้นไม่ลงแล้วก็ค้างคันเร่งไว้อย่างนั้นตลอด จะประหยัดเห็นๆ เพราะถ้าเป็นเกียร์ธรรมดาช่วงเปลี่ยนแต่ละเกียร์คุณต้องลากรอบที่ 2,500-3,000 รตน.) แต่ถ้าเป็นตัวผมขับชอบเร่งแซงบ่อยๆ เกียร์ธรรมดาจะเหมาะกว่า เพราะกระทืบเท่าไหร่ก็ไม่พัง (ถ้าเป็น CVT คงกระจุยอ่ะครับ)

- ระบบ Power-shift แบบ Dual Clutch (คลัตช์คู่) ของ FORD ก็จะมีคลัตช์ 2 ตัว ตัวแรกจะเป็นเฟืองควบคุบเกียร์ 1, 3 และ 5 อีกตัว จะเป็นเฟืองควบคุบเกียร์ 2, 4 และ 6 เพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์ต่อเนื่องขึ้น รอบเครื่องยนต์แทบไม่ตกเมื่อเปลี่ยนเกียร์สูงขึ้น อัตราสิ้นเปลืองใกล้เคียงเกียร์ธรรมดามาก

- ระบบ Direct Gear Shift (DSG) ของพวกรถยุโรปอย่าง VOLKSWAGEN หรือ AUDI ก็จะผสานระบบเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติเข้าด้วยกัน คือ เปลี่ยนเกียร์แบบเกียร์ธรรมดาแต่ไม่ต้องเหยียบคลัตช์ อัตราสิ้นเปลืองใกล้เคียงเกียร์ธรรมดามาก

ฯลฯ

จากคหที่ 4 auto ยังไงก็กินกว่า เกียร์ธรรมดา แม้ข้อมูลสมัยใหม่ก็เถอะคับ.  คุณ สามส่วน

จะดูจาก review ทดลองขับจริงๆ ทุกยี่ห้อคับ อย่าว่าแต่ nissan เลย. อย่าไปเชื่อ sale คับ

พวกนี้มี ส่วนได้ส่วนเสีย ราคารถ auto แพงกว่าธรรมดา sale เค้าก็ได้ % จากการขายมาก

กว่า  แต่ เพื่อนพ้อง น้องพี่ ณ WEB แห่งนี้ ของจริง จริงใจ ไม่จิงโจ้ คร๊าบ..

ไม่คิดติดแก๊สเล่นกะบะดีกว่าครีบพี่ เห็นจากรถน้ำท่วมแล้วรถเก๋งใช้ประโยชน์ห่าไรไม่ได้เลยครับ ส่วนตัวผมเองมีรถเก๋งติดแก๊สยังเอาไปจอดเก็บ วิ่งมังกรทองลุยน้ำได้ กิโลละ 1.80 บาท 14 กม./ลิตร นี่เหยีบแบบตามใจตีนแต่ไม่เกิน 120 ถ้าขับประหยัดๆ นี่ 15-16 กม. อย่างต่ำเลยนะครับ แต่วิ่งแก๊สประหยัดกว่ากันเยอะ โลละ 0.40-1 บาท กม./ลิตร ครับ

ไอ้ระบบ Stop นั้น เหยีบเบรค 3 นาทีเครื่องดับแต่แอร์ติด เกียร์ CVT ของนิสสันไม่มีปัญหา แต่เลี่ยงได้ก็เลี่ยงครับ ขับเกียร์ธรรมดาได้ ก็เลือกเกียร์ธรรมดาไปครับ ซ่อมถูก ดูแลรักษาง่ายครับ

เห็น คนขายเชียร์ ให้ซื้อ รุ่น AUTO เนื่องจาก ทันสมัย กว่าและประหยัดกว่า ครับเลย ไม่แน่ ใจเนื่อง จากข้อมูลสมัย เดิมAUTO จะกินน้ำมันกว่า

โอโฮ...กว่าจะพิมพ์คำตอบเสร็จ กด enter ส่งปั๊บ.ช้ากว่า น้า NON 20 นาที ตอบใจตรงกันเลย ว่าแต่ บ้านน้า NON น้ำท่วมปล่าวคร๊าบ....ขอให้รอดปลอดภัย. 

ใช้รถที่ ตจว. ใช้เกียร์ธรรมดา ดีก่า เพราะรถไม่ติดเหมือนใน กทม. ที่ต้องใช้auto (เบื่อเหยียบ

คลัช) ธรรมดา ราคาถูกกว่า ซ่อมง่าย ขับมันส์ ประหยัดoilกว่าauto  ส่วนดับเครื่องเองเมื่อ

จอด เงื่อนไขจุกจิก เช่นห้ามเปิดแอร์ ใช้ไปใช้มา คนขับจะเบื่อเลิกใช้ในที่สุด ค่าซ่อมแพง

กว่า  จ่ายแพงกว่าทำไม เอาเงินเก็บไว้เติม oil ดีก่า.. ความเห็นส่วนตัวนะครับ. 

อัตราสิ้นเปลืองไม่ต่างกันมากครับ แต่ระบบดับเครื่องเองได้เฉพาะเมื่อคุณหยุดรถโดยไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ (คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน) ซึ่งถ้าขับในเมือง (โดยเฉพาะเมืองร้อนอย่างบ้านเรา) เป็นไปได้ยากมากครับ

ถ้าคุณขับต่างจังหวัดแนะนำเกียร์ธรรมดาดีกว่าครับ (ไม่ต้องเหยียบคลัตช์บ่อยๆ แบบขับในเมือง) เพราะทนทานและซ่อมง่ายกว่าครับ