กฎหมายไทยมีมาตรการคุ้มครองพยานกับคนร้องเรียนครับ มีครับไม่ใช่ไม่มี ผมอยู่ในแวดวงเหล่านี้ครับ พอจะทราบถึงกระบวนการคุ้มครองพยานเหล่านี้ เดี๋ยวนี้เค้าพัฒนาถึงขนาดถ้าเป็นกรณีที่ผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐกองทัพจะเข้าให้ความคุ้มครองงครับ อีกอย่างหนึ่งหากเรารวมตัวกันมากๆ การข่มขู่คุกคามก็ทำได้ลำบากครับ

ถ้าไม่กล้าเริ่มเพราะกลัวความปลอดภัยก็ส่งข้อมูลให้สื่อมวลชนร่วมตีแผ่ก็ได้ครับ

ที่จังหวัดผม ปัญหาทุจริตแตะตรงใหนก็เจอ ไม่มีใครกล้าขวางหรอกครับ รวมถึงผมด้วยเพราะรัฐ ไม่มีมาตรการรับรองความปลอดภัยให้เลย ใครขวางก็ตาย แค่ข้ามเส้นมารับเหมาก็ตายแล้วครับ ส่วนเพื่อนคุณ estate ที่มีเรื่องร้องเรียนแบบนั้น เพราะผู้รับเหมาข้ามเขตครับ ไม้แรกก็โดนร้องเรียนแบบนี้ก่อนครับ(รับเหมาข้ามเขตต้องใช้ราคาต่ำและต้องจ่ายเยอะ) แต่ถ้าทำตามspect ก็ได้รับลูกตะกั่วแทนการร้องเรียนครับ

ผมว่าอย่าเห็นเรื่องการทุจริตเป็นเรื่องที่เคยชิน อย่างน้อยที่สุดเราต้องตั้งข้อรังเกียจบุคคลเหล่านี้ ถ้ามีข้อมูลอยู่ในมือก็ควรส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วัฒนธรรมบ้านเราเคารพ "ผู้ใหญ่" แต่คนสมัยนี้นิยามผู้ใหญ่จาก "เงิน" และ "อำนาจ" และยอมมาเป็นบริวารเสริมอำนาจวาสนา "ผู้ใหญ่" อีกชั้นหนึ่ง แต่ถ้าเราเคารพผู้ใหญ่จากผู้ที่มีความดีและไม่โกงผมเชื่อว่าปัญหานี้อาจจะลดลงได้ครับ ผมขอยกคดีที่เพื่อนผมซึ่งอยู่ปปช.มาเป็นตัวอย่าง ชุมชนแห่งนี้อยู่ทางภาคเหนือ ซึ่งมีปัญหาเรื่องการก่อสร้างคล้ายๆกับคุณหนุ่มเหนือยกตัวอย่างมาแต่ชาวบ้านที่นั่นเค้าไม่ยอมครับ เรื่องจึงถึงปปช. ทุกวันนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล ส่วนทางวินัยข้าราชการที่เกี่ยวข้องถูกไล่ออกจากราชการ

ผม ในฐานะเป็นผู้ตั้งกระทู้ มีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ ที่มีหลายๆท่านเข้ามาให้ความเห็น เพราะเคยโดนกระแหนะกระแหนว่า เว็บนี้ต้องพูดเรื่องรถอย่างเดียว ซึ่งบอกมาหลายรอบแล้วว่า เจตนารมย์ของผู้ก่อตั้งกระทู้ คือ อ.พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ไม่เคยบัญญัติไว้ดังนั้นเลย การที่ผมยกเอาคำวินิจฉัยส่วนตัวของ อ.ประเสริฐ นาสกุล ซึ่งท่านเป็นตุลาการเสียงข้างน้อยที่วินิจฉัยให้อดีตนายกรัฐมนตรี คนหนึ่งซึ่งถูกร้องในคดีปกปิดการถือครองหุ้น หรือซุกหุ้น เป็นฝ่ายผิดตามคำร้อง โดยหากได้อ่านคำวินิจฉัยส่วนตัวของ อ.ประเสริฐ อย่างละเอียด จะพบว่า เป็นคำวินิจฉัยที่ประเสริฐสมกับชื่อของผู้เขียนคำวินิจฉัยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะประโยคที่ว่า "ปัญหาของบ้านเมืองบางอย่าง อาจแก้ไขได้โดยไม่ต้องใช้เงินทองเลย เพียงแต่ ผู้นำของประเทศต้องประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดี โดยการคิด พูด และทำตรงกัน และชี้นำประชาชนในชาติว่า ปัญหาของชาตินั้นอยู่ที่ทุกคนจะต้องร่วมมือร่วมใจกันแก้ไข ด้วยการลด ละ และเลิก "ความเห็นแก่ตัว" เป็นอันดับแรก ยิ่งทำได้มากและรวดเร็วเท่าใด จะสามารถนำพาชาติบ้านเมืองให้รอดพ้นจากภาวะวิกฤติสู่ความเป็นปกติรวดเร็วมาก ขึ้นเท่านั้น" ซึ่งผมทึกทักเอาเองว่า หลายๆท่านคงไม่เห็นต่างจากคำวินิจฉัยประโยคทองนี้กระมัง

เห็นด้วยกับคุณหนุ่มเหนือครับ (เพราะเพื่อนผมก็อยู่ในวงการก่อสร้าง และ มีหลายครั้งที่ผมต้องไปเป็นเพื่อนในการนำของขวัญไปให้ผู้ใหญ่ ผมว่าทุกท่านก็ทราบดี แต่เราจะทำอย่างไรที่จะแก้ (หรือลด) ปัญหาหล่าวนี้ หรือ ใครมีวิธีไหนที่จะดัดหลังนักการเมืองหล่าวนี้ได้บ้างครับ

ที่ผมถามแบบนั้นเพราะประเทศเรานักการเมืองเป็นอย่างนั้นจริงๆ สมมุติว่าถ้าไม่มีนักการเมือง ประเทศเราจะเจริญกว่านี้ใหมครับ อีกอย่างผมเป็นคนเหนือก็จริงแต่ก็ไม่ได้ชอบคุณทักษิณครับ และไม่ชอบนักการเมืองเกือบทุกคนเลยก็ว่าได้ ลองสอบประวัติเบื้องลึกดูสิครับ แต่ละคนส่วนมากล้วนมาจากผู้รับเหมาทั้งนั้น จากที่จ่ายให้คนอื่นก็ผันตัวเองมาเป็นผู้รับเสียเลย มันเป็นตั้งแต่ระดับหมู่บ้านจนถึงระดับประเทศแล้วครับ ที่ตำบลของผม งบทำถนนในซอยของบ้านหมู่1 งบรวม หนึ่งล้านสามแสนบาท ท่านนายก อบจ.เอาไปแล้ว สิบ(บอกว่าต้องแบ่งผู้ว่าห้า) เงินวิ่งผ่านที่ว่าการอำเภอ นายอำเภอขอ สิบ ผ่าน อบต.โดนอีกสิบ ทำเสร็จให้คนเซ็นรับงานอีกอย่างน้อย ห้า แล้วจะเหลือเงินไปทำจริงๆอยู่เท่าไหร่ครับ ถ้าท่านไหนคิดว่าเป็นเรื่องไม่จริงผมพาไปพิสูจน์ได้ครับ

 เขาเรียกทุจริตเชิงนโยบายหรือเปล่าครับ ขออันเชิญพระบรมราโชวาทมากล่าว "การที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีนั้นทำได้ยาก แต่เราต้องสนับสนุนคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง" มีการเลือกตั้งครั้งใดขอให้ช่วยกันเลือก สนับสนุน ให้โอกาส คนดีกันนะครับ(แต่บางทีตัวเลือกก็เดิมๆเลือกตั้งทีก็เห็นหน้าทีมายกมือไว้หงกๆๆ) ผมไม่ได้อยู่สีแดง สีเหลือง แต่ผมอยู่สีลม555

ก่อนอื่นต้องขอโทษคุณหนุ่มหนือก่อนนะครับ ว่าไม่ได้ขัดแย้งส่วยตัว แต่ผมคิดว่าถ้าเรามั่วแต่ตั้งคำถามว่า "มีนักการเมืองคนไหนไม่โกงบ้าง" ก็เท่ากับว่าเรากำลังสร้างค่านิยม และ ปลูกฝังความเชื่อผิดๆว่า "ถ้าเป็นนักการเมืองแล้วโกงได้ (และต้องโกง) เพราะมันเป็นเรืองธรรมดาที่สังคมยอมรับได้" มันอาจจะเป็นเรื่องยาทที่จะให้เรืองโกงกินหมดไป แต่ทำไม่เราไม่ปลูกฝังค่านิยมและจิตสำนึกให้คนรุ่นไหม่ละครับว่า เรืองโกงกืนเป็นเรืองที่น่าละอาย และ ผิดกฎหมายเพื่อที่ว่าวันหนึ่งเราจะได้มีโอกาศที่จะมีนักการเมืองที่มีคุณภาพและตั้งใจทำให้ประเทศของเราเจริญยิ่งๆขึ้น.

มีเรื่องมาเล่าให้ฟังกันเล่นๆนะครับ เคยได้มีโอกาศไปดูงานที่ประเทศฮอลแลนด์ได้คุยกับเซล์ของบริษัท ที่ผมไปดูงานและถามเข้าถึงเรื่องค่าตอบแทนที่เขาได้จากบริษัท คำตอบของเขาคือ "ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเซล์แต่เขาขอรับเฉพาะเงินเดือนอย่างเดียวโดยไม่มีค่าคอมมิสชั่นจากการขาย โดยเขาให้เหตุผลว่า "ค่าคอมฯมันไม่แน่ไม่นอน แต่ถ้าเข้าทำงานเต็มที่และทำให้บริษัทที่เข้าอยู่เจริญเติบโตได้ ผลรับที่เข้าจะได้รับคืนในระยะยาวคือความมั่นคงในชีวิต ตอนทีเขาตอบคถามนี้เข้าอายุ 22ปี, ปัจจุบันอายุ30ปี และเป็น 1 ใน 3 หุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทฯ

แต่ที่โกงเป็นมหากาพย์ก็คนเดียวนี่แหละ

ช่วยบอกผมหน่อยครับ ว่านักการเมืองคนใหนบ้างที่ไม่โกง