ช่วยตอบทีคับใครก็ได้ช่วยพ่วงแบตฯให้แบตฯเราพังเอง
avatar
POP XXX


คือเรื่องของเรื่องมีอยู่ว่ารถของเพื่อนสตาร์ไม่ติด(เพื่อนใช้รถกระบะครับ)ผมมีสายพ่วงแบตฯอยู่ในรถเลยพ่วงให้(รถที่ผมใช้TOYOTA ALTIS 1.8 E ครับ) รถผมเปลี่ยนแบตฯมาประมาณ 1ปีครึ่งแล้วครับ ผมไปพ่วงให้เพื่อนพ่วงแล้วก็ยังไม่ติดเพื่อนมันเลยพิเรนสลับขั้วแบตฯ(รถมัน) มีสะเก็ดไฟออกมาจากแบตฯรถมันเลยครับ คราวนี้เลยงานเข้าเลยครับ(แต่ยังไม่รู้ว่างานเล็กหรืองานใหญ่) มีคนใจดีที่อยู่แถวนั้นขับรถกระบะเหมือนกันมาจะช่วยพ่วงให้ (เขาบอกว่าแบตฯรถยนต์ไปพ่วงรถกระบะพ่วงให้ตายก็สตาร์ไม่ติด) ผมเลยดับเครื่องรถผมเลยครับ เขาก็มาช่วยพ่วงจนรถเพื่อนผมสตาร์ติด แต่คราวนี้รถผมกับสตาร์ไม่ติดเสียเอง เขาเลยมาช่วยพ่วงด้วย ก็ติดผมก็เลื่อนรถกลับเข้าที่ ไปทำธุระ ประมาณ 1 ชั่วโมง กลับรถผมสตาร์ไม่ติดอีกแล้วครับ (ใจหายเลยครับ) เลยมีเรื่องมารบกวนถามเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ(เราคนไทยเหมือนกันเป็นพี่น้องกันหมด ขออนุญาตเรียกแบบนี้นะครับ) เพื่อเป็นแนวทาง(และบทเรียนด้วยครับ)สำหรับตัวผมเองและอาจจะมีท่านอื่นด้วยนะครับเป็นข้อๆดังต่อไปนี้ครับ

1.รถผมตกลงเป็นอะไรครับ(ตามอาการที่ได้เล่าไปแล้ว)

2.รถผมจะเสียหายมากน้อยแค่ไหนครับ ถ้าเสียจะมีชิ้นส่วนไหนเสียบ้าง(จะได้ไม่เป็นหมูวิ่งไปจนปังตอครับ)

3.ราคาในการซ่อมควรจะตกอยู่ประมาณที่เท่าไหร่ครับ

4.แล้วที่พี่ผู้ใจดีบอกผมนั้นจริงหรือป่าวครับว่าอย่าเอารถที่แบตฯเล็กกว่าไปพ่วงรถที่แบตฯใหญ่กว่าครับ

5.สอนวิธีการพ่วงแบตฯแบบถูกวิธีให้ด้วยครับจะได้เอาไว้ช่วยเหลือคนอื่นๆ(ถ้าไม่รู้วิธีที่ถูกต้องคงไม่กล้าไปช่วยใครแล้วครับกลัวครับกลัว)

   สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนที่ช่วยเข้ามาตอบและแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ และขอขอบคุณอาจารย์พัฒนเดช เจ้าของเวปดีๆนี้ด้วยครับ (เป็นกำลังใจให้อาจารย์นะครับเคยได้ยินอาจารย์ให้สัมภาษณ์ว่าบางที่ก็โดนคนความคิดไม่ดีว่า ทำให้ท้อบ้าง แต่อย่าพึ่งหมดกำลังใจนะครับ คนดีๆที่รักและชอบอาจารย์ยังมีอีกมากมายครับ สู้ๆครับ)

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ POP XXX :: วันที่ลงประกาศ 2009-08-14 03:57:04 IP : 110.49.93.83


1

ความคิดเห็นที่ 12 (3068563)
avatar
ขอแจม ม่ายช่าย แยม ด้วยคน

ไม่ระเบิดใส่หน้าตาแหกก็บุญแล้วครับ รวมถึงกล่องควบคุม ตามที่อาจารย์บอกด้วยเกือบซวย

ผู้แสดงความคิดเห็น ขอแจม ม่ายช่าย แยม ด้วยคน วันที่ตอบ 2009-08-19 09:22:35 IP : 161.200.255.162


ความคิดเห็นที่ 11 (3066487)
avatar
พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ

แบตรถเก๋งถ้าไฟเต็มก็ช่วยพ่วงรถปิ๊คอัพได้   ไม่เสียหายอะไร  เพียงแต่จะถูกดูดไฟไปมากเท่านั้น   แต่ที่รถคุณเสียสตาร์ทไม่ติด   ผมคิดว่าน่าจะมาจากการที่เพื่อนคุณดันบ้าไปสลับขั้วแบตนั่นละ  ตรวจดูกล่องฟิวส์และรีเลย์สตาร์ทด้วยนะครับ  และต้องภาวนาว่าอย่าให้กล่อง ECU เสียหายไปด้วยก็แล้วกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ วันที่ตอบ 2009-08-16 09:57:04 IP : 125.25.116.60


ความคิดเห็นที่ 10 (3066380)
avatar
POPXXX

ขอบคุณทุกๆท่านที่ช่วยกันแสดงความคิดเห็นนะครับ ได้ความรู้มากมายเลยครับ มีคนเคยบอกกับผมว่าคนไทยมีน้ำใจและน่ารักที่สุดในโลกแล้ว ผมเชื่อสนิทใจ100%เลยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น POPXXX วันที่ตอบ 2009-08-15 22:33:08 IP : 110.49.38.55


ความคิดเห็นที่ 9 (3066082)
avatar
ประณีต

สำหรับท่านคห.8  สายพ่วงเล็กไม่ต้องนำมาใช้เลยครับ  สำหรับรถยนต์ให้ใช้สายพ่วงใหญ่เท่านั้น  ถ้าใครยังไม่มีใช้และคิดจะซื้อใช้ก็ให้ซื้อแบบสายพ่วงใหญ่ (หรือแบบที่ร้านแบตเขาใช้)  สายพ่วงเล็กรับกระแสไฟรถยนต์ไม่พอหรอกครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประณีต วันที่ตอบ 2009-08-15 12:58:25 IP : 58.8.91.114


ความคิดเห็นที่ 8 (3066049)
avatar
จ่าวุฒิ-ชิน

 แล้วขนาดสายพ่วงเล็ก  หรือใหญ่ จะเป็นปัญหาหรือเปล่าครับ.(ถ้ามีปัญหาแล้วไอ้คนผลิตจะทำมาหลายขนาดทำไมเนอะ....

ผู้แสดงความคิดเห็น จ่าวุฒิ-ชิน วันที่ตอบ 2009-08-15 11:58:13 IP : 112.142.86.247


ความคิดเห็นที่ 7 (3065545)
avatar
M(น่ารัก)

เดาว่ารถคุณ POP ไฟหมดหม้อแบตฯ ไปแล้วครับ ซึ่งอาจเป็นจาก

1) ตอนพ่วงให้เพื่อนลองสตาร์ทบ่อยมากจนแบตฯ ตัวเองใกล้หมด พอชอร์ตขั้วก็เลยเกลี้ยงเลย ต้องพ่วงจึงติด แต่วิ่งไปธุระไม่นานดับเครื่องไฟก็ไม่ชาร์จพอที่จะสตาร์ทใหม่..... ถ้าโชคดี เป็นแค่นี้ ชาร์จแบตฯ ให้เต็มอีกครั้งก็น่าจะโอครั

2) เหมือนกรณีแรก แต่การชอร์ตขัวแบตฯ ทำให้เกิดความเสียหายภายใน ชาร์จใหม่ก็คงไม่เกิดประโยชน์ ถ้าลองตามข้อ 1 แล้วก็ยังแบตฯ หมดอีก ถือว่าโชคไม่ร้ายนัก เปลี่ยนแบตฯ ใหม่ก็หายครับ

3) โชคร้ายมากๆ คงยังไม่เกิด คือกล่องควบคุมพังตอนสลับขั้วแบตฯ ไม่งั้นคงพ่วงสตาร์ทไม่ติดแต่ครั้งแรกแล้วครับ... รอดตัวไปครับ

4) ค่าแบตฯ ใหม่ควรให้เพื่อนที่สลับขั้วแบตฯ เป็นคนจ่ายครับ ไม่ก็เตะมันซักทีครับ

5) แบตฯ เก๋ง เท่าที่เคยลอง ถ้าไฟไม่เต็ม ไม่สดใหม่ มักพ่วงกระบะไม่ติดครับ เพราะแอมป์มันต่ำกว่าพอควร แต่ไม่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายใดๆ ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น M(น่ารัก) วันที่ตอบ 2009-08-14 15:02:30 IP : 202.12.97.119


ความคิดเห็นที่ 6 (3065437)
avatar
ลมเปลี่ยนทิศ

 แบตเตอรี่เสียอย่างเดียวครับ วิธีพ่วงแบต

1.ถอดสายต่อที่ขั้วลบของรถที่มีไฟออก

2.ถอดขั้วบวกของรถที่มีไฟออก (จะเหลือแบตเตอรี่ที่มีไฟเปล่าๆไม่ต่อกับอะไรเลย)

3.เอาสายพวงต่อขั้วบวกกับขั้วบวก

4.เอาสายขั้วลบต่อกับขั้วลบ

5.สตาร์ทรถคันที่ไฟแบตหมด (ไม่ต้องสตาร์ทรถคันที่มีไฟเพราะยังไงก็ไม่ติด)

6.ถ้าสตาร์ท 5 ครั้งไม่ติดเรียกช่างหรือไม่ก็เข้าอู่เถอะเพราะมันผิดปกติ

7.ถอดสายพ่วงขั้วบวกออกทั้งสองข้าง

8.ถอดสายพ่วงขั้วลบออกทั้งสองข้าง

9.ใส่สายที่ขั้วบวก

10.ใส่สายที่ขั้วลบ

11.เป็นอันว่าเสร็จ

.....หมายเหตุุ......

...ไม่จำเป็นต้องติดเครื่องรถที่ีแบตมีไฟเพราะไฟจากอัลเทอร์เนเตอร์อย่างเดียวไม่สามารถขับมอเตอร์สตาร์ทได้

...การถอดสายออกจากรถที่มีแบตมีไฟเป็นการป้องกันไฟกระชากที่จะทำอันตรายMCU ของรถคุณ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลมเปลี่ยนทิศ วันที่ตอบ 2009-08-14 12:19:10 IP : 203.130.134.196


ความคิดเห็นที่ 5 (3065337)
avatar
อำนาจ

เปอร์เซ็นสูงครับที่แบตฯจะเสีย เนื่องจากการสลับขั้วแบตฯของเพื่อนคุณ (แบตฯช็อดกันเอง) อาจเกิดการลัดวงจรของเซลแบตเตอรี่ ทำให้เกิดการเสียหายในบางเซล มีผลให้การจ่ายกระแสออกมาได้น้อย ไม่เพียงพอในการสตาร์ทเครื่องยนต์ และที่สำคัญขณะเพื่อนสลับขั้วแบตฯ หากคุณเปิดวิทยุ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ที่ติดมากับรถยนต์ อาจทำให้อุปกรณ์เหล่านั้นชำรุดเสียหายได้ หากเครื่องเล่นเหล่านั้นไม่มีระบบป้องกันที่ดี

อย่างไรก็ตาม คุณลองตรวจดูน้ำกลั่นถ้ายังมีระดับปกติ อาจจะลองนำไปชาร์จดูใหม่ ตามที่คุณหนูบางนาแนะนำก็ได้ครับ เพราะกระแสไฟอาจจะตก ในระหว่างที่แบตฯช็อตกันก็เป็นได้ครับ อีกอย่างหลังจากที่แบตฯใช้งานได้แล้วหรือเปลี่ยนแบตฯใหม่ อย่าลืมตรวจเช็คไดชาร์จด้วยนะครับว่ายังใช้งานงานหรือไม่

ผู้แสดงความคิดเห็น อำนาจ วันที่ตอบ 2009-08-14 10:06:01 IP : 58.9.103.35


ความคิดเห็นที่ 4 (3065306)
avatar
หนูบางนา

แบตอาจจะไม่เสียก็ได้ครับไม่ลองนำไปชาร์จดูก่อนล่ะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น หนูบางนา วันที่ตอบ 2009-08-14 09:21:38 IP : 122.154.11.66


ความคิดเห็นที่ 3 (3065281)
avatar
k13

ตามค.ห.2เลยครับ รถที่แอมป์และโวลท์ของแบตไม่เท่ากันห้ามพ่วงแบตครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น k13 วันที่ตอบ 2009-08-14 08:21:24 IP : 61.7.160.6


ความคิดเห็นที่ 2 (3065280)
avatar
petch46

  ตอบข้อ1 แบตเตอรี่เสีย 2รถไม่เสียหายปกติดี 3 เปลี่ยนแบตลูกใหม่1500-2000บาท

  4 ถูกต้อง 5 ทำตามคุณdeep-samui ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น petch46 วันที่ตอบ 2009-08-14 08:08:26 IP : 58.9.184.28


ความคิดเห็นที่ 1 (3065267)
avatar
deep_samui

 

“จัมพ์แบต”เรื่องง่ายๆที่ทำ(ไม่)ยาก
 
 
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
6 กรกฎาคม 2552 11:51 น.
 
 
ขั้นตอนที่ 1 ต่อหัวสายพ่วงสีแดงเข้ากับขั้วบวกแบตเตอรี่ที่ไม่มีไฟ
       เวลาขับรถบนท้องถนนความปลอดภัยในการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดแต่บ่อยครั้งก็มักเกิดปัญหาไม่คาดคิดโดยเฉพาะปัญหาแบตเตอรี่หมดที่ทำให้ระบบเครื่องยนต์หยุดชะงัก และเป็นปัญหาที่ต้องรีบแก้ไขเฉพาะหน้าด้วยวิธีการต่อสายพ่วงแบตเตอรี่ หรือที่เรียกกันติดปากว่าจัมพ์แบตเตอรี่เพื่อให้เกิดกำลังไฟเพียงพอที่จะทำให้ระบบต่างๆ ของเครื่องยนต์ทำงานและสามารถเดินรถต่อไปได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
ขั้นตอนที่ 2 ต่อหัวสายพ่วงสีแดงอีกด้านเข้ากับขั้วบวกแบตเตอรี่รถที่มีไฟ
       นายประกาสิทธิ์ พรประภา กรรมการ บริษัท สยามยีเอส แบตเตอรี่ จำกัด และบริษัท สยามยีเอสเซลส์ จำกัด ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ “GS แบตเตอรี่” ให้คำแนะนำว่าปัญหาของแบตเตอรี่หมดระหว่างการขับรถบนท้องถนนอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งสายต่อไดชาร์จหลวม น้ำกลั่นหมด แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หรือกำลังไฟของแบตเตอรี่มีไม่เพียงพอ การจัมพ์แบตเตอรี่เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยจะต้องมีสายพ่วงแบตเตอรี่เป็นอุปกรณ์เสริม และต่อสายพ่วงกับรถยนต์อีกคันหนึ่งในการชาร์จไฟ เพื่อให้ระบบได้ทำงาน หลังจากนั้นจึงนำรถยนต์ไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ และเช็คสภาพความพร้อมของเครื่องยนต์จากช่างผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งหนึ่ง
ขั้นตอนที่ 3 ต่อหัวสายพ่วงสีดำหรือเขียวเข้ากับขั้วลบแบตเตอรี่ที่มีไฟ
       “การจัมพ์แบตเตอรี่สามารถทำได้เอง แต่ต้องระมัดระวัง เพราะแบตเตอรี่ มีส่วนประกอบหลัก คือ น้ำกรดที่มีคุณสมบัติเป็นตัวการกัดกร่อนพื้นผิว ซึ่งขณะที่แบตเตอรี่กำลังทำงานจะเกิดก๊าซไฮโดรเจนสะสมในตัวแบตเตอรี่ จึงควรระวังในเรื่องประกายไฟ เพราะอาจเกิดอันตรายระหว่างจัมพ์แบตเตอรี่ได้”
       
       
**วิธีการ ‘จัมพ์แบตเตอรี่’**
       
       เมื่อแบตเตอรี่หมดให้ปิดสวิตช์กุญแจและอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดของรถและขอความช่วยเหลือจากรถยนต์ที่มีแบตเตอรี่ เพื่อต่อสายพ่วงแบตเตอรี่ นำหัวสายพ่วงของสายพ่วงสีแดงซึ่งเป็นสายขั้วบวกมาต่อกับขั้วบวก (+) ของรถยนต์ที่แบตเตอรี่หมด หลังจากนั้นนำหัวต่ออีกข้างต่อเข้ากับขั้วบวก (+) ของแบตเตอรี่รถยนต์อีกคัน นำหัวสายพ่วงของสายพ่วงสีเขียวหรือสีดำซึ่งเป็นสายขั้วลบมาต่อกับขั้วลบ (-) ของแบตเตอรี่รถยนต์อีกคัน ควรตรวจเช็คให้แน่ใจว่าสายพ่วงต่อแน่นหนา
ขั้นตอนที่ 4 ต่อหัวสายพ่วงสีดำหรือเขียวเข้ากับตัวถังรถคันที่แบตเตอรี่ที่ไม่มีไฟ
       ต่อจากนั้นนำสายหัวต่อที่เหลือต่อเข้ากับส่วนที่เป็นโลหะของเครื่องยนต์หรือตัวถังรถยนต์ของรถยนต์ที่แบตเตอรี่หมด โดยควรต่อให้ห่างจากแบตเตอรี่มากที่สุด จากนั้นสตาร์ทเครื่องยนต์คันที่แบตเตอรี่มีไฟ ทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที แล้วเร่งเครื่องยนต์เล็กน้อยเพื่อให้แบตเตอรี่มีการไหลเวียนของประจุไฟฟ้า หลังจากนั้น เริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์คันที่แบตเตอรี่หมด จากนั้นเร่งเครื่องยนต์ประมาณ 1,500 - 2,000 รอบ/นาที เพื่อเช็คดูว่าประจุไฟเข้าหลังจากการชาร์จหรือไม่ ซึ่งถ้าเครื่องยนต์ไม่ดับแสดงว่าการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่สำเร็จ
       
       จากนั้นถอดสายพ่วงสีเขียว หรือสายขั้วลบ (-) ออกจากตัวถังรถคันที่แบตเตอรี่หมด และตามด้วยหัวต่อขั้วลบของแบตเตอรี่ที่มีไฟ จากนั้นจึงถอดสายสีแดงหรือสายขั้วบวก (+) จากรถคันที่แบตเตอรี่หมด และถอดหัวสายพ่วงจากแบตเตอรี่ที่มีไฟ ปิดฝาช่องเติมน้ำกลั่นให้ครบทุกช่องและควรสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือขับรถไปเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คเครื่องยนต์และเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
ขั้นตอนที่ 5 สตาร์ทเครื่องยนต์เริ่มจากรถที่แบตเตอรี่มีไฟก่อน
       **ปลอดภัยเวลา “จัมพ์แบตเตอรี่”**
       

       - ไม่สตาร์ทเครื่องยนต์ระหว่างต่อสายพ่วงแบตเตอรี่
       - เวลาต่อสายพ่วงแบตเตอรี่ อย่าสูบบุหรี่หรือทำสิ่งใดๆ และระวังอย่าให้สายพ่วงแบตเตอรี่สัมผัสกัน เพราะอาจทำให้เกิดประกายไฟได้
       - ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ทั้งขั้วบวกและขั้วลบ โดยใช้น้ำร้อนราดที่ขั้วแบตเตอรี่ทั้ง 2 ขั้ว เพื่อขจัดคราบเกลือที่เกาะติดอยู่
       - ตรวจเช็คกำลังไฟของแบตเตอรี่ก่อน เพราะแบตเตอรี่ขนาด 6 โวลต์ หรือ 24 โวตล์ ไม่สามารถนำมาพ่วงกับแบตเตอรี่ขนาด 12 โวลต์ได้ เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่เกิดการระเบิดขึ้นได้
       - ตรวจเช็คสภาพแบตเตอรี่ก่อนทุกครั้ง โดยดูจากที่วัดของแบตเตอรี่ หรือใช้ที่วัดความถ่วงจำเพาะ(HYDROMETER) บริเวณด้านข้างของแบตเตอรี่ ซึ่งสามารถสังเกตได้ง่ายๆ เช่น สีเขียว = ประจุไฟฟ้าเต็ม สีน้ำตาลหรือสีดำ = ประจุไฟหมด สีเหลือง=แบตเตอรี่หมดอายุการใช้งาน
 
ผู้แสดงความคิดเห็น deep_samui วันที่ตอบ 2009-08-14 07:40:32 IP : 113.53.9.70



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.