เพิ่มเติมพี่คนว่างฯ ปัญหายอดฮิตติดลมบนของ E36

1. แอร์โฟร์ชอบเสีย ตัวนึงหลักหมื่น แต่บางคนก็ถอดมายำเล่น(ข้างในไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก) เสียทีรถเราจะไม่กินน้ำมัน             แต่แ_กน้ำมันแทน

2.แร็ครั่ว อันนี้ต้องหาช่างมีฝีมือ หากหาช่างห่วยๆเปลี่ยนซีล มันจะรั่วอีก แล้วจะโทษว่าบีเอ็มจุกจิก ซีลมักจะขาดแค่ตัวเดียวแต่เวลาซื้อต้องซื้อซีลทั้งชุด เบื่อมากๆแปลงแร็คยุ่นใส่เอา เหอ เหอ

3.ช่วงล่างก๋องแก๋ง ใช้ได้ไม่กี่หมื่นโล อันนี้ไปด่าบีเอ็มเค้าก็ไม่ได้ เพราะเค้าออกแบบให้มีความเกาะถนนดีแต่ไม่ทนหลุม ถ้าวิศวกรบีเอ็มมาเห็นถนนและลูกระนาดบ้านเราคงร้องไห้ ถ้าจำไม่ผิดช่วงล่างแบบนี้จะเรียกว่า เออาม สตรัท ช่วงล่างหน้าทำทีก็เป็นหมื่นต้นๆ(ไม่รวมโช้ค) แต่เด๋วนี้มีทางช่วย พวกลูกหมากเอาไปร้านเปลี่ยนเปลือกลูกหมากที่สึกออก(ใช้โครงเหล็กเดิม) ส่วนพวกบูชยางต้องซื้อใหม่ แต่อะไหล่เทียบก็มีราคาย่อมเยากว่า ส่วนโช้คคู่ละเป็นหมื่นเพราะมันมาเป็นชุดโช้คกับสปริง (แต่เมื่อก่อนมีโช้คอย่างเดียวนะราคาถูกว่าแหละ)

4.เฟืองกระจกชอบแตก เอ ไม่ถูกใช้คำว่ารูดดีกว่า เพราะมันเป็นพลาสติก อันนี้ก็ซื้อเฟืองบ้านเราใส่ก็ไม่ว่ากันราคาก็ไม่แพง แต่อย่าเอาเฟืองทองเหลือง

5.บูชคันเกียร์แตกกรณีเกียร์ธรรมดา

6.เป็นรถที่ซ่อมละเอียดมาก ช่างต้องรู้จริง ส่วนมากจากประสบการณ์ของผมจะเป็นประมาณช่างไม่รู้ไม่ละเอียดทำแล้วก็เสียบ่อย บางครั้งช่างทำเสียเองแล้วเจ้าของก็จะบ่นว่าจุกจิก (ยกเว้นช่วงล่างอันนี้เสียบ่อยจริงเพราะทนโค้งไม่ทนหลุม) รวมถึงเจ้าของต้องบำรุงรักษาให้ถูกต้องเช่น เปลี่ยนกรองแอร์

อะไหล่ใหม่วัดโสมแพงกว่าถ้าเทียบกับเบนซ์ แต่เชียงกงถูกกว่า เช่นแพท้ายe36 แปดพันถึงหมื่น แต่แพท้ายc klase หมื่นสองถึงหมื่นห้า

ปล.อยากประหยัดใช้ 318 อยากแรงใช้ 325 ได้ทั้งคู่รวมกัน 323

ปัญหาของ E 36 คือมันเป็นรถขี้อ้อน ซึ่งถ้าคุณไม่ได้เป็นคนที่รักมันจริง เรียนตามตรงว่าจะทนใช้มันไม่ไหวครับ ค่าอะไหล่ไม่แพงจนเกินไป แต่ต้องไปซื้อเองที่แถวหลังวัดโสมฯครับ ช่างทำได้แน่ นอน แต่อย่างที่บอกคือต้องไปหาช่างบ่อยหน่อยเพราะเป็นโรคขี้อ้อนหาหมออยู่เรื่อยครับ ถ้าทนการอ้อนไม่ไหว หนีไปใช้รถญี่ปุ่นสบายใจกว่าครับ