ได้ความรู้เยอะเลย กำลังลังเล สองยี่ห้อ ต้ากับแมค ตัดสินใจได้แล้ว น้องแมคค่ะ ใช้บรรทุกหนัก เสริมแหนบ เปลี่ยนล้อหลังเป็นกะทะผ่า บรรทุกของทะเล น้ำแข็ง

เคยซ่อมแต่อีซุเพราะเป็นช่างศูนย์อีซุ ก็เลยชอบรถเก๋งเพราะขับง่าย พอลาออกจากศูนย์แล้ว ถึงได้รู้ว่าอีซุเครื่องไม่แรงแต่โดยรวมแล้วน่าใช้มากๆ ตอนนี้ยังอยากได้มือสองสภาพดีๆเลย  มือ1ไม่มีปัญญาซื้อ(ดีแมกนะ)ถ้าใครจะขายบอกมั่งนะคับ

ไม่ค่อยรู้เรืองรถเหมือนกันครับ แต่ใช้อีซุซุ slx มาห้าปีวิ่งไป สามแสนกว่า บันทุกประมากตันเศษทุกวัน  ขึ้นเขาลงห้วยไม่เคยได้ซ่อม ตอนนี้เครื่องแน่นดี แค่นี้ก็คิดว่าใช้คุ้มแล้วนะครับ เยี่ยมจริงๆ

ทุกยี้ห้อ คุณภาพไม่ได้ต่างกันมากหรอกครับ   มันอยู่ที่คนใช่  แล้วการบำรุงรักษา

ปู่ผมใช้ toyota มาตั้งแต่รุ่นแรก วิ่งได้กว่า 2000000 กิโล ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย เครื่องยังใช้อยู่เลย ผมว่ามันขึ้นอยู่ที่คนใช้มากกว่า ไม่จำเป็นจะมีแต่ ISUZU เท่านั้น ที่เครื่องทน ข้างบ้านซื้อ D-max จะขายทิ้งซะแล้ว จะมาซื้อ Vigo เหมือนผม ใครว่า Vigo ไม่เกาะถนน แล้วจะเกาะอะไรหละครับท่าน อย่าว่าแต่ Vigo เลย ISUZU D-Max ผมเห็นมาเยอะแล้ว มันหรือที่คนขับและฝีมือมากกว่า และรถด้วย

ผมใช้ วีโก้3000 ขับไปด้วยกันกับเพื่อน3คัน มี ไททัน2500 และดีแม็ค 2500 พานักเรียนไปแข่งทักษะที่อุดร เติมน้ำมันเต็มถังทุกคันพอไปถึงจุดหมายแล้วเติมน้ำมันเต็มถัง ผลปรากฏว่าน้ำมันที่ใช้พอๆกันทั้งสามคันครับ น้ำมัน1ถังวิ่งได้ 1000กว่า กิโล ครับ

ตามที่คุณปรีชาถามมาต้อง Navara เท่านั้น 3-4 ตันสบายๆ ครับ

ต้องการนำไปใช้บรรทุกน้ำหนักประมาณ 3000 กก.สิ่งที่อยากได้คือ ประหยัดน้ำมัน เครื่องอึดทน ช่างล้างแข็งเกร่ง สามารถขึ้นเขาได้ดี

 เกาะถนนและเข้าโคงเป็นเยี่ยม ไม่เน้นความเร็ว และการออกตัว ตัวไหนทำได้ดีตามสเปคที่ต้องการข้างต้น

คุณชอบแบบไหนก็เลือกได้ตามใจ  ทุกอย่างมีข้อดี-เสีย  ทั้งนั้น  เป็นผมอยากได้ ช่วงล่างนาวาร่า  เครื่องวีโก้  ประหยัดอีซูซุ  ห้องโดยสารมิตซู

ถ้ารุ่น 2.5 ผมแนะนำ....

- NISSAN Navara (เครื่อง YD25DDTi 144/174 แรงม้า 356/403 นิวตัน-เมตร) เครื่องแรง โครงสร้างตัวถังและช่วงล่างแกร่ง เกาะถนนดีแต่กระด้างไปหน่อย

- MITSUBISHI Triton VG Turbo (เครื่อง 4D56T 178 แรงม้า / 350/400 นิวตัน-เมตร) เครื่องแรง เกาะถนนดี

- FORD Ranger/MAZDA BT-50 (เครื่อง WLC 143 แรงม้า 330 นิวตัน-เมตร) เกาะถนนเยี่ยม เบรกยอด

แต่ถ้าเน้นประหยัดก็ต้องรอตัวใหม่ที่กำลังจะมา...

- FORD Ranger/MAZDA BT-50 เครื่อง 2.2 ลิตร 150 แรงม้า 372 นิวตัน-เมตร และเครื่อง 3.2 ลิตร 200 แรงม้า 470 นิวตัน-เมตร

- NISSAN Navara (แรงแต่ประหยัดขึ้น >>190 แรงม้า 450 นิวตัน-เมตร)

หรือคบแก๊สก็...

- CHEVROLET Corolado CNG (CNG 70% + ดีเซล 30%) ให้แรงบิดสูงแบบเครื่องดีเซล (280 นิวตัน-เมตร)

- MITSUBISHI Triton 2.4 CNG (2 ระบบ = CNG + เบ็นซิน)

- TATA Xenon 2.1 CNG (CNG ล้วนๆ)

 ไม่มีความรู้เรื่องรถหรอกค่ะ แต่พี่ซื้ออิซูซุดีแมกซ์ SLX เครื่อง 2500 ใช้มาสี่ปีแล้วไม่เคยซ่อมอะไร แต่จะเข้าศูนย์เช็คระยะตามรอบ แถมเวลาลูกปิดเทอมขับไปกลับ ภูเก็ต-พัทลุง ความเร็วประมาณ 100-120 ใช้น้ำมันไปประมาณ 1300 บาท พี่ว่าประหยัดน้ำมันดี 

ยังไงก็วีโก้ครับ ทั้งสวย ทั้งแรงประหยัดน้ำมันด้วย ที่เขาบอกว่ามันไม่ค่อยเกาะถนน เราก็อย่าวิ่งแรงสิ เราไม่ได้ซื้อมาแข่ง เราเอารถสวยไว้ก่อนนะครับ

ผมว่าถ้าเอาความเร็ว ไปซื้อ อายาบูซะ มาขับดีกว่า ผมว่าจะหากระบะส่งผัก วิ่งจาก ปทุมมาส่งด่านสะเดา สงขลา เลยเปลี่ยนใจ ไปเอารถสี่ล้อใหญ่ดีกว่า วิ่งเรื่อยๆเที่ยวเดี่ยวค้มครับ

NISSAN Navara, MITSUBISHI Triton และ FORD Ranger/ MAZDA BT-50

ขอเรื่องความหนาบาง เวลา รถชน หน่อยครับ  อันไหนจะปลอดภัยดีกว่ากัน

โก้เช็ตช่วงล่างด้านท้ายแข็งไปหน่อยเวลาขับแบบสลาลม(โยกซ้ายขวา)หรือสาดโค้งระดับ140-150จะท้านทำให้มีความรู้สึกว่าไม่จับถนนความจริงหาเป็นเช่นนั้นบรรทุกสัก200-300โลก็oนะแต่dแต่แม๊กแซ๊ตช่วงล่างมานิ่มไปบรรทุกหนักแล้วลองขับแบบโก้ดูแล้วจะรู้อย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าจะใด้ลองถ้าไม่ขับเร็วdแต่แม๊กก๊oนะนิ่มดีไม่มีอันไหนสมบูรณ์หรอกได้อย่างเสียอย่างอย่าแปลกใจทำไมbt50และเรนเจอร์ขับแบบสลาลมสาดโค้งระดับ140-150ถึงใด้นิ่งถ้าใด้นั่งแล้วจะรู้ว่าน้องๆเกวียน

ใช้โซ่ทั้งรุ่น 2.5 (4JK-TC) และ 3.0 (4JJ-TC) ครับ

ถ้าเน้นบรรทุกหนัก เครื่องและโครงสร้างทนมือทนเท้า แรง และประหยัดคงต้องมอง NISSAN Navara (YD25DDTi...ใช้โซ่ขับราวลิ้น) MITSUBISHI Triton (4D56...ใช้สายพานขับราวลิ้น)

อยากทราบผู้เชี่ยวชาญช่วยแนะหน่อยว่าเครื่องยนต์ Dmax คอมมอลเรลใช่ระบบสายพานหรือเฟืองครับ

ผมเป็นช่างฮะ ทั้งเครื่อง ช่วงล่าง แอร์และไฟฟ้าทำได้หมด ช่างเก่าๆที่เขารู้จริง เขาใช้คอมไม่ค่อยเป็นหรอกฮะ ผมเป็นช่างที่ถูกถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ปัญหาของรถรุ่นต่างๆผมทราบดีและจะเล่าให้อ่านครับ เอาท่าที่เจอบ่อยๆละกัน เริ่มจากรถบรรทุกยอดฮิด ยุคทองแห่งการบรรทุกหนัก Big-M 2500 สมัยนั้นบรรทุกทำได้ 3 ตันครับ เหตุเพราะลูกปืนล้อใหญ่ แชสซีใหญ่ แค่นั้นเอง เครื่องก็ประหยัดน้องๆมังกรทอง(เครื่องไดเร็กฯ)แต่เครื่องเงียบกว่ามังกรเพราะเฟื่องTiming ละเอียดกว่า ส่วนมังกรทองเครื่องอึดดี เคยน้ำแห้งเพราะลืมปิดฝาหม้อน้ำไหวตัวทัน จอดเข้าข้างทางอย่าดับเครื่อง หาน้ำเติม ไม่ต้องต้ม เติมค่อยๆ มีฟู่เป็นบางครั้ง ระวังหลบให้ดีน้ำมันร้อน ไม่ต้อตกใจทำไปเรื่อยๆช้าๆจนเต็ม หามาฝาปิด ลูกค้าเคยโทรถามเยอะเวลาเครื่องฮีตก็ตอบแบบนี้แหละ 95% เครื่องไม่เป็นไรครับ ส่วน 5% นั้นดูเกย์ความร้อนไม่เป็น เครื่องเร่งไม่ขึ้นแล้วถึงรู้ พังครับ เกย์มังกรขึ้นครึ่งนึงถือว่าน้ำแห้งแล้วใกล้ฮีต สมัยนั้นเปลี่ยนเฟืองท้ายกับเสริมแหนบแค่นั้นเองครับ ส่วน L200 ไซโคลนช่วงล่างด้านหน้าเป็นคอยสปริงไว้สำหรับบรรทุกไข่ขาย ไข่จะได้ไม่แตก แต่เครื่องแดกน้ำมันหน้าดู พอๆกับไมตี้ เพราะเครื่องเป็นแบบสเวิร์ลแชมเบอร์ (Swirl Chamber) หรือ ห้อเผาไหม้แบบอากาศหมุนวน ต้องเผาห้วก่อนไม่งั้นติดยาก แต่แรง วิ่งดี ควัญดำดี แต่ไมตี้ ไม่เหมาะที่จะบรรทุก เพราะลูกปืนล้อเป็นแบบบอลแบริ่ง(ลูกปืนแบบล้อรถเข็นผักแต่ใหญ่กว่าหน่อย)ถ้าบรรทุกหนักลูกปืนจะหลุดบ่อยหลุดกระจายตายแล้วก็เยอะ ลูกปืนหลวมก็ร่อน ส่วนยี่ห้ออื่นเป็นลูกปืนเฉียง เครื่องยนต์รุ่นใหม่ๆ อีซูซุ หล่อมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้หล่อจากไหน เครื่องฮีตแล้วส่วนใหญ่เสื้อหลังปลอกแตกทุกที หรือไม่ก็เสื้อหลังปลอกบวม (อีซูซุปลอกสูบเป็นปลอกแห้งครับ)ถ้าเสื้อหลังปลอกแตกก็อคือเปลื่ยนเครื่องใหม่ไปเลยครับ โดยเฉพาะ 2800T SLX และรุ่นคอมมอลเรล ของอีซูซุ

(ต่อ)และรุ่นคอมมอลเรล ของอีซูซุจะมี โค๊ต-ลับ 5T 6T 7T ที่แนมแพลตที่ติดอยู่ตามคานหน้าหรือผนังกั้นห้องเครื่องใต้ฝากระโปรงรถ โค๊ตลับนี้เรียกสั้นๆว่า"หนูทดลองยา" ส่วนปั้มคอมมอนเรลจะเป็นปั้มของนิปปอน พอหมดการรับประกันปั๊มก็จะพัง ไปศึกษาต่อกันเองนะ ปวดหลังแล้ว บาย

ความคิดเห็นที่9   มั่วชัดๆๆ  ผมใช้ดีแม็คโกล์ซีรีย์ โหลดหน้า2นิ้ว เสริมเเหนบ 7 แผ่น โช้คคู่หน้าของ6ล้อ NPR 120,มาใส่ด้านหลัง โตงเตง 7 นิ้ว กะทะล้อบรรทุกขอบ 14 นิ้ว ยาง XCD 215 เติมลมที่ 120 ใช้มา2ปีกว่าแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องใส่เฟืองใหม่ หรือเพลาลอย{เพลาแอล}เลย

เท่าต้องตรวจเช็คลูกปืนทุกๆ 35,000 กิโลเมตร

เพราะ อีซูซุ มีขนาดลูกปืนล้อที่ใหญ่กว่าโตโยต้าในขนาดที่โตโยต้ามีลูกปืนที่เล็กกว่าอีซูซุเป็นเท่าตัวแถมยังมีเฟื่องที่เล็กกว่า

น้ำหนักลงเพลาอีซูซุรับน้ำหนักได้มากกว่าเพราะมีเฟื่องท้ายที่ใหญ่กว่าโตโยต้าเป็นเท่าตัว

แถมยังบรรทุกมากกว่าโตโยต้าอีกด้วย  อีซูซุ ระวังอยู่อย่างเดียวคือ ยางล้อรถระเบิด ตูมๆ

ที่ต้องเปลี่ยนเฟื่องท้ายใหม่ หรือเพลาลอย{เพลาแอล} คือ โตโยต้า นั้นแหละ

สาเหตุที่โตโยต้าต้องเปลี่ยนเฟื่องท้าย หรือ เพลาลอย คือพอบรรทุกมากเกิน 3.5 ตันขึ้นไปสักระยะนึง ผลที่ตามมาคือ เพลาขาด และ เพลาอาจจะบิดเบี้ยว ไม่เข้ารูปเดิม เพราะมีขนาดลูกปืนและเฟื่องท้ายที่เล็กกว่าอีซูซุ นี้คือสาเหตุที่โตโยต้าต้องเปลี่ยนเฟื่องท้ายใหม่คับ และทำให้เกิดอันตราย และความเสียหายอันใหญ่หลวง คือแครมรถใหม่ทั้งคัน

ขอเปรียบเทียบจริง สำหรับผู้ใช้จริงและเห็นด้วย อีซูซุ กับ โตโยต้า เฟื่องท้ายเดิมๆทั้งคู่ บรรทุกหนัง 2.5 ตันเท่ากัน การออกตัวและการวิ่งตอนต้นๆโตโยต้าวิ่งดีว่า แต่ถ้าว่าตอนปลายของ เจ้าอีซูซุ ล่องไปดีกว่า โตโยต้า และแซง โตโยต้า ในที่สุด

{ปล. ผมอยู่ จ.สุราษฎร์ธานี คับ ตอนนี้ใช้ทั้ง 2 รุ่นนี้อยู่ ที่ใช้งานหนักจริงๆ คือเจ้าอีซูซุดีแม็คโกล์ซีรีย์ นี้แหละคับ ผมไว้แบกน้ำหนักเวลาบรรทุก ยางแผ่น หรือว่ายางพารา น้ำหนักที่บรรทุกอยู่ที่ 5500 กิโล คับ มีอยู่วันนึง ขึ้นยางแผ่นลืมน้ำหนักที่บรรทุกคือ 6080 กิโล ผมขับเองยัง งง ว่ามาได้ไงว่ะ แต่ก็ไปถึงโรงงานได้สบายมากโดยไม่มีปัญหา บ้านผมกับโรงงานห่างกัน 90 กิโล สเปคที่เสริมแต่งมาอยู่ด้านบนทุกประมาณ 5 ตันกว่า ลูกยาง ซัซซี่ยังห่างจากเพลา 6 นิ้วลดปัญหาเพลาขาด ล้อระเบิด ซัซซีหัก  ถ้าเป็น เจ้าวีโก้ เพลาเดิมหักตั้งแต่ 30กิโลแรกๆแล้ว ความเร็วที่ใช้วิ่งตอน บรรทุก คือ 100กิโลเมตร/ชั่วโมง ไม่เกินนั้น ถ้า 3 ตันสองร้อยกิโล วิ่งอยู่ที่ 150 กิโลเมตร/ชั่งโมง ไม่เกินนั้น ถ้ารถเปล่าลม 35 ความเร็วอยู่ที่อยู่ คือ 205 กิโลเมตร/ชั่วโมง [ปล.ใช้เวลากว่าจะวิ่งถึงความเร็วที่ 205 ] วิ่งได้เท่านี้แหละ สำหรับเจ้าอีซูซุดีแม็คโกล์ซีรีย์    ผมลูกผู้ชายไม่โกหกคับ  กล้าสบานงับ ที่พิมพ์ไปเป็นเรื่องจิง ถ้าไม่เชื่อให้ถ้าผู้ที่ใช้รถอยู่น่ะ ขอบคุณงับ แต่ระวังเจอ พี่ตำรวจทางหลวงน่ะงับเด๋วนี้พบบ่อยจัง เอาผมเที่ยวล่ะ 100 บาท ไม่ได้ขี้หก }                 

"...จะถอยรถกระบะมาเพื่อใช้งานครับ  วิ่งในกรุงเทพติดต่องานกับลูกค้าและพาครอบครัวไปเที่ยวเสาร์-อาทิตย์เดือนละครั้ง 2 ครั้ง..."

ผมไม่เปรีัยบสองยี่ห้อนะครับ เพราะข้อมูลเยอะแระ อิอิ

แต่สงสัยว่า ใช้งานแบบนี้ ทำไมเลือกกระบะดีเซลเครื่องโตล่ะครับ ;-)

โตโยต้าวีโก้คว่ำง่ายครับ ช่วงล่างไม่ค่อยดีครับ
อีซูซุดีแมกซ์แพงกว่ายี่ห้ออื่น

ดีใจจังที่ได้ใช้แชสซีตัวเดียวกับฮัมเมอร์(สำหรับอีซูซุดีแมกซ์)

ช่วงล่างไม่ใช่สู้ไม่ได้ ไม่ได้เลยครับสำหรับโตโยต้า ถ้าซัซซีรถยังขืนทำแบบนี้ รุ่นไหนต่อรุ่นไหนผมกล้าท้าเลยว่านอนหงายท้อง จากน้ำหนักตัวรถที่เบากว่าด้วย  ที่โฆษณาว่า จิ๊บๆๆ  ก็มันจะกินได้อย่างไรรถไม่ได้หนักเหมือนนาวาร่า   สังเกตุไหมครับว่ารถที่มีน้ำหนักมาก ทำไมจึงนุ่มนวล แต่ก็มีข้อเสียในข้อดีคือกินน้ำมันเพิ่มขึ้น  แต่ว่าน้อยหรือมากขึ้นอยู่กับเท้า เพราะน้ำหนักตัวรถและการออกแบบฐานล้อที่กว้าง  แต่โตโยต้าไม่มี  เบาโหวงเหวง  ผมตัดสินใจไม่เอาอีกเลย ลองวิ่งถนนเปียกดูสิครับกับนาวาร่า  ไม่ได้เชียร์ใคร และก็ไม่ได้ท้าใครแข่งด้วย  ถึงแม้จะเปลี่ยนยางให้ใหญ่ขึ้นก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก  ยางสี่เส้นจะเพิ่มน้ำหนักขึ้นอีกสักกี่กิโล ใหญ่มากก็แบกภาระเครื่องยนต์ ไมล์เพี้ยน กินน้ำมันมากขึ้น  ถ้าโตโยต้าปรับปรุงเรื่องซัซซีและช่วงล่างใหม่ พร้อมขนาดน้ำหนักของตัวถังให้บาล้านซ์กัน  ก็ไม่มีเจ้าไหนที่จะมาทัดเทียมได้  เพราะเขาเก่งเรื่องการตลาดอยู่แล้วเจ้านี้  โชคดีในการเลือกใช้รถนะครับ

ที่บ้านผมก็มีวีโก้เหมือนกันผมยอมรับว่าช่วงล่างไม่ค่อยสู้เขาได้นักแต่ถ้าเอาไปบรรทุกมันกลับหน้ามือเป็นหลังมือโตโยต้าดีกว่าอีซุเยอะเลยถ้าเอาไปทุกของนะโตโยต้าเครื่องแรงช่วงล่างห่วยแต่อีซุอืดหน่อยๆช่วงล่างซัดโค้ง 120 คว่ำทุกยี่ห้อแต่การโยนตัวนั้นอีซุมีน้อยกว่าโตโยต้าอีซุออกแบบรถมาเหมือนให้เป็นรถยนต์นั่งสว่นบุคคลแต่วีโก้ออกแบบมาเหมือนรถบรรทุก  ถ้าคุณต้องการเอาไปบรรทุกผมแนะนำโตโยต้าผมดูแล้วโตโยเขามีคัสซีที่หนากว่าใหญ่กว่าไม่จำเป็นต้องใส่เฟืองใหม่แต่อีซุของผมต้องเสริมแหนบเยอะกว่าในขณะที่บบรทุกน.นเท่ากันและต้องเปลื่ยนเฟืองใหม่ด้วยและอีซุที่เขาโฆษณาว่าประหยัดน้ำมันนั้นโตโยต้าเขาทำได้ดีกว่าเพราะเครื่อง2.5ของโตโยตอนนี้เขาเปลี่ยนเป็น VNT ประหยัดกว่าอีซูแรงกว่าด้วยขึ้นเขานี่ไปหูลู่เลยแต่ยังไงความอึด+แรงยังแพ้น้องนาอยู่ดี ความทนแข็งแกร่งของเครื่องยนต์อีซุเครื่องไปก่อนนะครับโดยเฉพาะของผมมีวีโก้ 6 คัน อีซุ 3 คันตอนนี้วีโก้ 4 ปีกว่าวิ่งไป 340000 ก.ม. แล้วเครื่องยังสุดยอดแต่อีซุเปลี่ยนฝาสูบไปแล้ว 2 คันแถมพออีซุครบ 3 ปีเสียงคลัชจะเริ่มมายั่วยวนแก้ก็ไม่หายดอ๊ยปวดหัวสรุปไม่มียี่ห้อไหนดีที่สุดหรอกครับเพราะถ้าดีเรื่องนี้มันก็ต้องเสียอีกเรื่องนึงวีโก้ผมก็เคยลงนอนแล้วเหมือนกันหลังจากนั้นไปใส่ค้ำโช้คหน้าติดกันโคลงหลังดีกว่าเดิมมากมายเห็นๆ

โอว...มายก้อดเห็นภาพชัดเจนแจ่มแจ้งแดงแจ๋

ในความรู้สึกของผู้ที่ใช้รถ กลับมองต่างกัน จริงอยู่ ซัซซี 3 ท่อนไม่ใช่ว่าไม่แข็งแรง คนที่ซื้อก็ไม่เข้าใจถึงการออกแบบเพราะไม่ใช่วิศวกร เพราะเขามีการทดสอบการชนว่าซัซซีรูปแบบไหนซับแรงกระแทกได้ดีที่สุด  และปลอดภัยกับผู้โดยสารภายในรถสูงสุด เพียงแต่มันเป็น 3 ชิ้นต่อกันก็เลยมองว่ามันไม่แข็งแรง ทำไมต้องต่อกัน  การที่เขาออกแบบอย่างนี้เพื่อจุดประสงค์อะไร  อีซูซุออกแบบซัซซีเป้นสามท่อน เพื่อง่ายต่อการปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ๆง่ายกว่า ซึ่งง่ายกว่าซัซซีแบบชิ้นเดียว แบบชิ้นเดียวยาวตลอดสเปคมันตายตัวปรับเปลี่ยนไม่ได้  เมื่อเกิดการชนมีแต่ตัวโครงสร้างตัวรถที่ยุบตัว แต่ซัซซีไม่ยุบตัวหรืออาจจะยุบน้อยกว่าที่ควรจะเป็น จึงซับแรงกระแทกได้น้อยกว่าซัซซีแบบ 3 ท่อน   ที่ชนแล้วหักหรือยุบตัวเพื่อซับแรงกระแทก

ถ้าเป็นนักวิชาการด้านกะบะจริงจะต้องทราบว่าเรื่องการโจมตีว่า Chassis ชิ้นเดียวนั้นทนทานมากกว่า Chassis แบบสามท่อนที่อีซูซุใช้ เพราะ Chassis แบบสามท่อนนั้นถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและปลอดภัยซึ่งมันจะยุบตัวเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทำให้เพิ่มการป้องกันให้กับผู้โดยสาร  Chassis แบบสามชิ้นก็ไม่ได้หมายความว่าเอาเหล็กสามชิ้นมาอ๊อคติดกัน แต่เป็นการต่อแบบกล่องเพื่อให้กระจายการรับน้ำหนักของรถได้ดีขึ้น โตโยต้าเองก็รู้เรื่องนี้ดีและรถ Toyota Thundra ที่จำหน่ายในอเมริกาถึงได้ใช้ Chassis แบบสามชิ้นนี้เช่นกัน รถกะบะนั้นเป็นรถขนาดหนึ่งตันซึ่งบรรทุกได้เต็มที่ก็หนึ่งตันกว่าๆตามสเป็คเดิมๆจากโรงงาน แต่ถ้าผู้ใช้ต้องการที่จะบรรทุกเกินจริงๆ เขาเสริมแหนบแล้วเปลี่ยนเฟืองท้ายเอาของหกล้อมาใส่ ซึ่งคุณจะสังเกตุได้จากล้อหลังของรถคันนั้นจะใหญ่กว่าปรกติ ซึ่งมันจะช่วยให้บรรทุกได้มากยิงขึ้น (รถแถวตลาดไทยชอบทำกัน) แต่มันเป็นช่องทางให้คุณตำหนวดสามารถหารายได้รายวันได้เพระรถที่ไปดัดแปลงนั้นเป้นรถที่ผิดกฏหมายครับ สรุป Chassis แบบชิ้นเดียวไม่ได้ดีไปกว่า Chassis แบบสามชิ้นตามที่ทางผู้ใช้โตโยต้าพยายามโจมตี   

ต่ออีก

            ถ้าเปรียบเทียบกันระหว่างโตโยต้ากับอีซูซุ ขนาดน้ำหนักนั้นโตโยต้ามีน้ำหนักที่มากกว่าอีซูซุ 10 กก คือ 1550 กก  หรือตันครึ่งเท่านั้นรถจึงออกตัวได้ง่ายกว่าเพราะเบาและเครื่องยนต์รอบจัด น้ำหนักรถพอฟัดพอเหวียงกับอีซูซุ ที่ขนาดน้ำหนัก 1540  กก แต่อีซูซุออกตัวอืดกว่าทั้งที่รถเบากว่าโตโยต้า นิสสัน นาวาร่า 1830  กก จะเห็นว่านิสสันหนักกว่า 280  กก ประมาณข้าวสาร 3 กระสอบบรรทุกอยู่หลังกระบะ นี่ผมเลือกเอาแสตนดารด์ทั้งหมดไม่ยกสูง  นาวาร่าเซตช่วงล่างมาเพื่อการบรรทุกออกจะแข็งกระด้างนิดๆ  แต่การควบคุมการเข้าโค้งมั่นใจมากเพราะขนาดน้ำหนักที่เข้ากันได้ แต่เปลืองน้ำมันนิดๆเพราะตัวรถที่ใหญ่และแบกน้ำหนัก เกียร์ที่มีมากถึง 6 เกียร์ อีซูซุก็โอเคเพราะเซตช่วงล่างมาดี เข้าโค้งไม่โยน  ทางแก้ปัญหาของโตโยต้าคือขยายความกว้างฐานล้อ ขนาดและน้ำหนักของตัวรถ  เท่านี้โตโยต้าก็จะเป็นรถที่ขายดีเทน้ำเทท่าอย่างไม่ต้องสงสัย สมัยที่ผมเป็นเด็ก พ่อใช้ดัทสัน 1200 เหล็กนี้อย่างหนา หมาเห่าไม่มีบุบเพราะหนาจริงๆ ทะเบียน ก-0027  คิดเอาแล้วกันว่าหมวดอักษร ก ไก่ที่เป็นหมวดอักษรสองตัว ณ ปัจจุบันนี้กี่คันเข้าไปแล้ว  และรถคันนี้อายุกี่ปี คิดกันเล่นๆ  ต่อมาเปลี่ยนเป็นโตโยต้ารหัส RN30 โมเดลนี้ออกประมาณปี 13-14  ราคาตอนนั้น 70000 กว่าบาทถือว่าหนักหนาสาหัสเหมือนกัน ซัซซีก็ฮีโน่นี่แหละก่อนที่โตโยต้าจะเทคโอเวอร์ เอาในช่วงหลังๆ ก็ใช้โตโยต้ามาเรื่อย จนมาเปลี่ยนเป็นโฉมม้าย่องกระโดดอยู่ข้างรถ  และก็รุ่น 5 ดาว ไม่ใช่ไก่ย่างนะครับ ก็ใช้งานดีแต่สั่นเป็นเจ้าเข้าถ้าวิ่งเกิน 120 เจอโค้งไหนปราบเรียบ ลงไปนอนหงายท้อง ซึ่งเจอมาด้วยตัวเองพลิก 5 ตลบ วิ่ง 80 โค้งซ้ายทวนเข็มนาฬิกาวนเป็นขวาซัดกับต้นไม้ขนาดต้นแขนขาดสองท่อน ล้อชี้ฟ้านอนอยู่กลางทุ่งนา เลยเปลี่ยนมาเป็นไมตี้เอ็กซ์รุ่นฝาท้ายตัวหนังสือใหญ่ ตัวนี้ใช้มา 7 ปีก็ขายไปเปลี่ยนเป็นไทเกอร์เครื่อง 5แอล 4x4 ซดน้ำมันจริงๆ วิ่งเร็วสัก 140-150  นี่เต็มเข็มไมล์แล้ว เหมือนรถไม่ได้วิ่งบนถนน เบาหวิวๆพิกล เหมือนมันลอยจากพื้นถนน  ถ้ามีอะไรตัดหน้าสงสัยไม่เหลือแน่ๆ แต่ก็ขายอีกใช้มาได้ 5 ปี  จนเปลี่ยนมาเป็นนิสสัน นาวาร่าที่ใช้อยู่ ณ ปัจจุบัน  โตโยต้าก็ดีอยู่หรอกเรื่องความสวย ราคาขายต่อ ศูนย์บริการที่ครบครัน ต่อให้จัดแคมเปญลดแลกแจกแถมอย่างไรผมก็คิดที่ไม่กล้าที่ซื้อ เหตุผลเดียวของผมก็คือ เรื่องช่วงล่างที่โตโยต้าแก้ไขไม่ตกสักที ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว  ( ไม่ได้โจมตีนะแต่มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ) จากผู้ที่เคยใช้

ต่อ-

         มาถึงเรื่องเครื่องยนต์ d4d  commonrail  ที่ว่าโด่งดัง  โตโยต้าเป็นบริษัทฯ ขนาดใหญ่มีเงินทุนสำรองกว่าหลายหมื่นล้านดอลล่าร์  โตโยต้าจึงเข้าซื้อหุ้นจาก อีซูซุ เพราะอะไร  โตโยต้าฉลาดไม่ต้องเปลืองสมองมาพัฒนาเครื่องยนต์ เพราะอีซูซุนั้นเก่งทางเรื่องเครื่องยนต์ดีเซลอยู่แล้ว   โตโยต้าแค่เอาพื้นฐานของเครื่องยนต์อีซูซุมาพัฒนาให้ดีขึ้น  แล้วโฆษณาว่าเป็นเครื่อง คอมมอนเรล  ใครจะไปบอกล่ะครับว่าเป็นเครื่องอีซูซุ   ซึ่งโตโยต้าเอามาพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้นเท่านั้น  ไม่ใช่ซื้อโตโยต้ามาเปิดฝากระโปรงเป็นเครื่อง อีซูซุ ถ้าใครเคยใช้รถมาสด้าเมื่อหลายสิบปีก่อน   ขณะนั้นมาสด้ายังไม่มีเครื่องดีเซลเป็นของตนเอง  ยังต้องอาศัยอีซูซุ มาใส่ในรถมาสด้ารุ่น thunder 2500 cc  เพียงแต่ขยายอ่างเครื่องออกเป็น 6 ลิตร จนมาสด้ามาพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลเป็นของตนเอง เครื่อง 4 สูบ 12  วาลว์ เหตุผลที่มาสด้าขยายอ่างเครื่องก็คือเมื่อวิ่งขึ้นทางชันมากๆ น้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยงไม่ถึง ซึ่งอีซูซุก็เจอปัญหานี้เช่นเดียวกัน  เครื่องอีซูซุมังกรทองเปลี่ยนอย่างเก่ง 4 ลิตร เท่านั้น พอมารุ่นใหม่ๆขยายอ่างเครื่องออก เป็น 6 ลิตร  ไม่แน่นะครับว่ารถโตโยต้าวีโก้ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ เป็นเครื่องอีซูซุก็ได้  หรือจะจริงอย่างที่โฆษณาที่ว่า  super commonrail รายแรกของโลก ต้องอีซูซุเท่านั้น

คารวะคุณ Yngwie เลยครับ  เห็นภาพหมดจด

ช่วงล่างของวีโก้ โดยเฉพาะซัซซี ออกแบบโดยฮีโน่ ซึ่งเป็นบริษัทฯ หนึ่งของโตโยต้าที่เข้าไป take over ซัซซีจึงแข็งแกร่งตามแบบฉบับรถบรรทุก  แต่มีข้อเสียคือมันไม่บิดตัว  เพราะฮีโน่ชำนาญเรื่องซัซซีที่เหมาะกับรถบรรทุกขนาด 3 ตันขึ้นไป  ไม่ชำนาญกับซํซซีรถไซด์ขนาด 1 ตันแบบนี้ และด้วยตัวถังรถที่เบาทำให้รถโตโยต้านั้นร่อนที่ความเร็วสูงๆ  เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพื่อลดภาระของเครื่องยนต์ให้ไม่ต้องแบกน้ำหนักตัวเองทำให้สิ้นเปลือง  จึงไม่น่าแปลกที่รถวีโก้วิ่งกันระเบิดเถิดเทิง  ลองเอาวีโก้บรรทุกข้าวสารสัก 2 กระสอบดูคุณจะพบว่ามันนิ่มขึ้น  แต่ถ้าไม่บรรทุกคนละเรื่องกันออกกระด้าง  อีซูซุ นั้นผลิตซัซซีมาตั้งนานแล้วตั้งแต่อีซูซุ faster   kb  อีซูซุได้เปรียบโตโยต้าเพราะพัฒนามาก่อนแล้ว  ซึ่งไม่น่าแปลกอีซูซุจะมีรถตั้งแต่ 1  ตัน ยันหัวลากจูง   เครื่องยนต์ถ้าพูดถึงเรื่องความทนทานต้องยกให้อีซูซุ เพราะเขาเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกอยู่ในอันดับ 3  จึงไม่น่าแปลกที่อะไหล่อีซูซุจะถูกกว่า  เพราะส่งขายไปทั่วโลก เครื่องตั้งแต่มังกรทองเห็นใช้กันเป็นหลักล้านกิโลเมตร ซึ่งผมก็ไม่เคยเห็นเครื่องของโตโยต้าใช้ถึงสักที  300000-500000  กม ก็นับว่าเก่งแล้ว เพราะมันขึ้นอยู่กับการออกแบบเครื่องยนต์ด้วย  รุ่นใหม่ๆไม่รู้การกินน้ำมันเครื่องแก้ไขไปหรือยัง เรื่องซัซซีอีซูซุนั้นก็ทนใช้ได้แต่บรรทุกหนักสู้วีโก้ไม่ได้เพราะซัซซีอีซูซุต่อ 3 ท่อน  ไม่เหมือนวีโก้ชิ้นเดียวยาวตลอดแต่ช่วงล่างอีซูซุดีกว่า นิ่มนวลกว่าวีโก้เกาะโค้งดีกว่า  เครื่องก็มีให้เลือกเหมือนวีโก้แต่จะมีแค่ 2.5  ธรรมดา และ 3.0 vgs turbo อยู่ในรถ hi-lander  mu7  เท่านั้น  ถ้าไปเป็นครอบครัว 2.5  ธรรมดาสี่ประตูแค่นี้สบายกว่ากันเยอะ ภาษี 4800 บาท ประหยัดกว่า  แต่ห้องผู้โดยสารตอนหลังสู้วีโก้ไม่ได้  แต่จะดีที่สุดคือไทรทันแต่ศูนย์บริการไม่ขอกล่าวถึง ฉีดยาก็แล้ว ผ่าตัดก็แล้ว ไม่หายสักที  ลองพิจารณาดู  ไม่มีรถค่ายไหนที่ทำสมบูรณ์แบบ 100  เปอร์เซ็นต์ ดีอย่างเสียอย่างขึ้นอยู่กับผู้บริโภคเท่านั้นที่เป็นตัวตัดสินใจที่จะเลือกใช้มันหรือไม่เท่านั้นเองครับ

ด้านเครื่องยนต์ ถ้าเป็นเครื่อง 2.5 VN Turbo จะมีความแรงมากกว่าเครื่อง 2.5 ของ Dmax ช่วงวล่างของวีโก้เหมาะกับการบรรทุกมากกว่าของ DMax ดังนั้น ถ้าจะให้การทรงตัวในวีโก้ดีก็ต้องบรรทุกครับเพราะเขาออกแบบมาเช่นนั้น ความสิ้นเปลือง ถ้าเปรียบเทียบระหว่าง 2.5 VN กับ 2.5 ของ DMax ของ DMax จะประหยัดกว่าครับ