ไม่สลับยางหน้า-หลัง จะได้ไหม
avatar
ประวิทย์


จากประสบการณ์เมื่อขับรถไปประมาณ 1 หมื่นก.ม. ดอกยางหน้าจะกินเร็วกว่า เมื่อสลับยางหน้าไป-หลัง ปรากฎว่าเมื่อสลับแล้วมีเสียงหอนจากยาง(ยางลมเช็คตลอด)  ร้านยางบอกว่าเป็นทุกคัน ยางยี่ห้อไหนก็เป็น เพราะถนนเมืองไทยไม่เรียบ รถต้องเหยียบเบรค ออกตัวรถช้าบ้างเร็วบ้าง ถอยหน้าถอยหลัง ถนนขรุขระ อย่างไงก็ไม่เรียบ 

ก็เลยจะถามผู้มีประสบการณ์ว่า ....

1. ไม่สลับยางเลยจะได้ไหม เปลี่ยนยางล้อหน้าที่ประมาณ 3 หมื่นก.ม. ส่วนยางล้อหลัง(ดอกยางจะกินน้อยกว่า)จะเปลี่ยนที่ประมาณ 6 หมื่นก.ม.

2. ร้านยางร้านอื่น ๆ บอกว่า ต้องสลับตอน 8000 ก.ม.บ้าง 5000 ก.ม.บ้าง บ้างก็บอกว่าต้องสลับทุกเดือน  2 ข้อนี้ข้อไหนถูกต้องมากที่สุดครับ

 

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ ประวิทย์ :: วันที่ลงประกาศ 2012-01-07 04:43:30 IP : 171.4.92.216


1

ความคิดเห็นที่ 26 (3322766)
avatar
ก้อง

คุณขับ estate เก่าๆ ครับ ผมส่งเมล์ไปให้แล้วนะครับ  ถ้าสงสัยอะไรก็โทรมาถามได้นะครับ

ก้อง

ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อง วันที่ตอบ 2012-01-11 23:10:53 IP : 101.109.222.139


ความคิดเห็นที่ 25 (3322754)
avatar
ขับ estate เก่าๆ

 wa82_50cal@hotmail.com 
ขอบพระคุณมากครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ขับ estate เก่าๆ วันที่ตอบ 2012-01-11 19:13:01 IP : 27.130.208.247


ความคิดเห็นที่ 24 (3322706)
avatar
ก้อง

คุณ ขับ estate เก่าๆ ครับ  ผมว่าผมน่าจะเป็นน้อง  ขออีเมล์หรือเบอร์ติดต่อซิครับ  เดี๋ยวผมโทรไปหรือส่ง เมล์ไปบอกครับ  ในนั้นผมเห็นมีอะหลั่ยสำหรับรุ่น 123 ด้วยครับ ผมว่าราคาที่เว็บนี่สมควรแก่เหตุ ไม่แพงจนเกินเหตุครับ

ก้อง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อง วันที่ตอบ 2012-01-11 13:53:43 IP : 101.51.163.33


ความคิดเห็นที่ 23 (3322696)
avatar
ขับ estate เก่าๆ

 พี่ก้องครับ ยังไงรบกวนบอกเว็บที่สั่งของให้ด้วยครับ ผมว่าจะปั้น w123 coupe เก็บอยู่ครับ แต่อะไหล่ในไทยบางชชิ้นหาไม่ได้เลยครับ บางชิ้นนี่ก็แพงซื้อญี่ปุ่นเก่าๆได้คันนึง

ผู้แสดงความคิดเห็น ขับ estate เก่าๆ วันที่ตอบ 2012-01-11 12:53:31 IP : 27.130.208.247


ความคิดเห็นที่ 22 (3322674)
avatar
ก้อง

เรียนคุณคนว่างฯ  รถคันนี้ผมเพิ่งทำสีรอบคัน เปลี่ยนยางขอบประตู ยางต่างๆ รอบคัน สักกะหลาด รางกระจก ไฟท้าย ไฟหน้า  ช่วงล่าง และเครื่องยนต์ ตอนนี้กำลังรอชุดซ่อมซีลเฟืองท้าย จอดรออะหลั่ยอยู่บ้าน นายกสมาคมรถเก่า อยู่ครับ  ผมสั่งของจาก website ในเยอรมัน ค่าของ + ค่า freight + ภาษีและ vat แล้วยังถูกกว่าในนี้ครับ  เช่นไฟท้ายเป็นต้น

อย่างไรก็ดีขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ

ก้อง

ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อง วันที่ตอบ 2012-01-11 10:56:55 IP : 101.51.163.33


ความคิดเห็นที่ 21 (3322672)
avatar
ขับ estate เก่าๆ

เอธานอลผลิตมาจากกากน้ำตาลซึ่งเป็นของเหลือจากการผลิตน้ำตาลครับ ไม่ได้ใช้น้ำตาล หรืออ้อยโดยตรง ถ้าจะบอกว่าแย่งของกินก็ต้องบอกว่าแย่งเหล้ากิน (จริงๆก็ไม่ใช่แย่งเสียทีเดียวเพราะเอธานอลเป็นเอธานอลเกรดที่เอาไปทำเครื่องดื่มไม่ได้ เอธานอลลิตรละยี่สิบกว่าบาทแต่สี่สิบดีกรีแพงกว่าเหล้าเยอะ)
 ส่วนb100 นั้นใช้ทั้งปาล์มใหม่และน้ำมันทอดครับแต่โดยกลไกราคาแล้วควรใช้น้ำมันทอดแล้วมากกว่า จะเอาน้ำมันปาล์มใหม่ไปทำb100 ทำไม เมื่อปาล์มโอลินแบบขวดแพงกว่า? ส่วนปัญหาที่น้า4จุดพูดไว้ว่าน้ำมันขาดตลาดนั่นมันเป็นปัญหาน้ำท่วมกับการเมืองสองอย่าง 
     จริงแล้วผมว่าข้อถกเถียงของทุกท่านเรื่องน้ำมันเป็นข้อถกเถียงทางด้านวิศวกรรมซึ่งมันพิสูจน์ได้เชิงปริมาณ อะไรสึกหรอเท่าไหร่ พังอย่างไร พี่ๆท่านใดมีบารมีบ้างก็รบกวนช่วยค้นข้อมูลมาแสดงให้น้องๆทราบก็ดีครับ
     

ผู้แสดงความคิดเห็น ขับ estate เก่าๆ วันที่ตอบ 2012-01-11 10:52:23 IP : 27.130.208.247


ความคิดเห็นที่ 20 (3322631)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

เรื่องอะไหล่เก่านั้น ให้ติดต่อที่ชัยยะยนต์ เพราะถ้าที่อื่นไม่มี ส่วนใหญ่เขาจะมีครับ (ตาม Link ข้างล่างนี้) แต่ถ้าจนปัญญาจริงก็ต้องวิ่งอะไหล่จากเยอรมันเองละครับ ส่วนเรื่องการปรับสภาพนั้น แนะนำว่าเมื่อเราจะเล่นรถเก่า สิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คืออะไหล่หายากและมีราคาแพง ช่างที่ทำเป็นจริงๆก็หายาก มีแต่ช่างที่เก่งแต่จะเอาเครื่องตรวจสอบสภาพเสียบ ECU เพียงอย่างเดียว ข่างที่มีความรู้เรื่องรถเก่านั้นส่วนใหญ่ตายไปเยอะแล้วครับ ดังนั้น ถ้าจะปรับสภาพรถคันนี้ แนะนำให้ทำเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย อย่ารอ เพราะถ้าเกิดจะต้องหาอะไหล่มาเปลี่ยนเพิ่มเติม คุณยังหาได้ในตอนนี้ครับ ถ้ารอไปเกิดอะไหล่เริ่มหายาก ยุ่งแล้วละครับ   

http://www.chaiyayont.com/?lang=th

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2012-01-11 08:49:37 IP : 110.171.1.71


ความคิดเห็นที่ 19 (3322595)
avatar
ก้อง

ขอบคุณครับคุณคนว่างฯ  เดี๋ยวผมจะจดเก็บเอาไว้ในแฟ้ม 110 ไว้เป็น plan B ครับ  ตอนนี้ในบ้านผมเหลือคันนี้คันเดียวที่ต้องหา 95 เติม 

คาร์บูเรเตอร์เพิ่งเปลี่ยนชุดซ่อมไปเมื่อเดือนธันวาที่ผ่านมานี่เอง   ส่วนกรองเบนซิน เดี๋ยวไปหามาสำรองก่อน  ถ้าที่นี่ไม่มีเดี๋ยวเดือนมีนาผมไปฮัมบร์วก เดี๋ยวค่อยไปหาเอาที่โน่นก็ได้ครับ

ขอบคุณครับ

ก้อง

ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อง วันที่ตอบ 2012-01-10 22:42:20 IP : 101.51.165.189


ความคิดเห็นที่ 18 (3322537)
avatar
....

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับพี่ กับที่ชอบเอาเงินอนาคตมาใช้ มีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น อย่าทะเยอทะยาน(การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ โลกภัยไข้เจ็บก็ไม่ตามมา)  สมัยนี้เงินหายากจริงๆ อะไรใหม่ๆ แพงๆ  และข้าวของก็แพงเอาแพงเอา นี่เงิน 5 พันที่บ้านโดนน้ำท่วมผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้วยังไม่ได้เลย  ข้าราชการโดนปลดยาก แต่เงินไม่มีจ่ายนี่จริงมันใช้วิธีตกเบิกไปก่อน (ส่วนมากจะโดนกับพวกเงินเดือน 5 หมื่นขึ้น) คนพวกนี้ผมก็ว่าสมควรปลด เงินเดือนเยอะเกิน เอาเงินจ้างคน 1 คน ไปจ้างหลายๆ ดีกว่า คนเงินเดือนเยอะบางคนควบหลายตำแหน่ง โดยใช้เวลาชการ บวกไปบวกมา 1 เดือนนี่ได้ 1 แสนอัพขึ้น 

ตำแน่งต่างๆ ผอ. อธิการ ยังมีการแย่งชิงกัน เหมือนนักการเมืองครับ

ประเทศไทยไอเลิฟยูครับ

เดินทางโดยสวัสดิภาพครับพี่

ผู้แสดงความคิดเห็น .... วันที่ตอบ 2012-01-10 12:50:36 IP : 161.200.100.2


ความคิดเห็นที่ 17 (3322532)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

เรื่องหนึ่งที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนคือพลังงานถ้าใช้แบบนี้ ไม่มีใครเถียงหรอกครับว่าหมดแน่นอน เรื่องรถเสียบปลั๊กนั้น มันยังเป็นของที่เริ่มพัฒนากันอยู่เพราะปัญหามันอยู่ที่คุณภาพของแบตเตอรี่ที่ทุกวันนี้กำลังพัฒนาให้มีความสามารถเพิ่มข้ึนอยู่ตลอดเวลาและการพัฒนามันก็ยังไม่จบ ดังนั้นคำตอบจึ้งยังไม่สิ้นสุด ตัวผมนั้น ดูอยู่ที่รถพลัีงงานไนโตรเยนเหลว ดูว่าการพัมนาในการเก็บและตั้งสถานีบริการมันจะพัฒนาออกมาในรูปแบบใด แต่ถ้าจะใช้งานจริงนั้น ดูท่าทางยังอีกไกลครับ ของพวกนี้กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา เราได้แต่เป็นผู้ตามครับ ขอให้ดูรถที่จะออกมาใหม่ในช่วงห้าปีนี้ คุณจะเห็นได้ว่าการใช้เชื้อเพลิงถึงแม้นจะเป็นแก๊สโซฮอลหรือดีเซลบี5หรืออนาคตจะเป็นบี 10 แต่ที่แน่นอนคือการบริโภคน้ำมันของรถพวกนี้ลดลงอย่างมาก รถที่สมัยก่อนกินน้ำมันอยู่ที่ 7-8 กม/ลิตรจะกลายเป็น 10 ถึง12 กม/ลิตร ซึ่งเป็ยการลดลงเกือบร้อยละ 50 ทีเดียว ซึ่งถือว่าสูง รถ Hybrid เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นอีกหลายยี่ห้อโดยเฉพาะจะเป็นรถ City car ที่เน้นลดลมภาวะและการใช้เชื้อเพลิง รถยุโรปเครื่องยนต์พลังสูงจะกลายเป็นเครื่อง 1.8 Bi-Turbo หรือไม่ก็ดีเซลที่กินน้ำมัน 18 กม/ลิตรในการใช้งานนอกเมือง สิ่งเหล่านี้เมื่อลดการใช้พลังงานลงเท่ากับเป็นการยืดให้พลังงานที่มีอยู่นั้นมันลดการสูญเสียลง แต่การจะหาตัวแทนแบบเต็มร้อยนั้น ยังจะต้องใช้เวลาอีกพอควรครับ คิดว่าอีก 10-20 ปีนั่นแหละครับกว่าจะเอาแบบเป็นรูปธรรมจริงๆ ไม่ใช่รถต้นแบบนะครับ แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเราควรที่จะทำได้ด้วยตัวเราเองโดยไม่ต้องพึ่งอะไรทั้งสิ้นเลยก็คือ พิจารณาด้วยตัวเองเสียก่อนว่าเวลาใดเหมาะสมที่จะใช้รถ ทุกวันนี้เรายังจะเห็นพอเงินเดือนออก ก็จะเห็นรถติดเต็มถนน พอกลางเดือน รถไฟใต้ดินหรือ BTS คนขึ้นเต็มถนนโล่งเพราะเงินหมดไม่มีปัญญาเติมน้ำมัน คนไทยเที่ยงแบบไม่มีแผน ไปเที่ยวมันได้ทุกเทศกาล เงินไม่มีก็รูดเอาไปใช้ก่อน เห็นแล้วกลุ้มแทนครับ ทำไมไม่หัดวางแผนละว่าในหนึ่งปีจะไปเที่ยวที่ไหน ก็พาทั้งครอบครัวไปหนเดียวจน ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง ผมกล้าท้าคุณได้เลยว่าในอีก 3-4 เดือนจากนี้คุณจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าเงินจะหายากยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้นในโลก แนวโน้มที่ข้าราชการจะถูกปลดมีสูงมากเพราะรัฐบาลไม่มีเงินจ่าย รัฐบาลไหนที่เข้ามาบริหารก็ตาม เจอปัญหาหนักอกแน่นอน ต้มยำกุ้งคราวที่แล้วภาคเอกชนล้ม งวดนี้จะไม่แปลกใจเลยถ้าภาครัฐล้มเพราะไม่มีเงิน ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเพราะตั้งแต่อาทิตย์หน้าผมก็ไม่อยู่แล้วครับ งานผมนะเป็นทั้งผู้บริหาร เป็นทั้งผู้ที่จะต้องหารายได้เข้าบริษัท รายงานผลการทำงานประจำปีของผมคือตัวเลขของเงินในธนาคารตอนปิดงวดทุกครั้ง ถ้าเพิ่ม นั่นละคือผลงาน ถ้าเกิดขาดทุนขึ้นมา มันก็เห็นทันตา ไม่ต้องมานั่งรายงานใครให้เมื่อยตุ้ม ไม่ต้องมาทะเลาะกับใคร ภาษีก็เสียเต็มเม็ดเต็มหน่วยเพราะหลบไปแล้ว จะมีก็ถ้าเกิดคนทำงานนี่มันตายหงายเก๊งไปนี่่แหละครับ มันก็หมดคนทำเงินให้เขากันเท่านั้นเอง สาธุ  

        

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2012-01-10 12:23:44 IP : 110.171.1.71


ความคิดเห็นที่ 16 (3322524)
avatar
.....

พี่คนว่างครับ อนาคตมันจะเป็นรถเสียบปลั๊กไหมครับ

แบบว่ากลับมาบ้านแล้วเสียบปลั๊กวิ่งได้ยาวๆ เลย แต่ผมว่ายาก ผู้ผลิตน้ำมันคงไม่ยอมแล้วต่อต้านกัน  เพราะทรัพยากรเราไม่ฃ่วยกันอนุรักษ์ มันก็คงต้องหมดไปอย่างรวดเร็วแน่ หาอะไรมาทดแทนก็คงไม่พอ จริงไหมครับพี่ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ..... วันที่ตอบ 2012-01-10 10:53:56 IP : 161.200.100.2


ความคิดเห็นที่ 15 (3322516)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

ได้อ่านคำตอบจากกระทู้ที่ 13 แล้วก็น่าชื่นใจ ผมขอถามคุณหน่อยเถอะว่าใครเป็นผู้ริเริ่มให้คนไทยรู้จักคำว่าแก๊สโซฮอลกับไบโอดีเซลกันแน่ครับ ทั้งครอบครัวผมก็ไม่ได้มีกิจการผลิตหรือขายแก๊สโซฮอล แต่ผมเป็นคนที่มองการณ์ไกลและหาทางออกว่าสักวันหนึ่งเบนซิน 95 หมดจากโลกนี้แน่นอน เมื่อถึงวันนั้น เราจะได้ไม่ต้องมาเถียงกันว่าจะทำอย่างไร แก๊สไม่ว่าจะเป็น LPG หรือ NGV ต่างไม่ใช่คำตอบในระยะยาว คนที่เล่นรถเก่าจะทราบอย่างดีกว่าถ้าคุณแปลงสภาพไปใช้แก๊สเมื่อไร รถเก่าของคุณมีค่าเป็นศูนย์ในทันที ในด้านการบริหารตามที่คุณอ้างคุณเจริญหรือตาตัน ผมคิดว่าคนในวงการต่างทราบกันอย่างลึกซึ้งว่าที่ได้ดีอยู่ทุกวันนี้เขาได้ดีเพราะอะไร   

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2012-01-10 09:17:28 IP : 110.171.1.71


ความคิดเห็นที่ 14 (3322512)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

คงต้องถามก่อนว่าคาร์บูเรเตอร์ตัวนี้ได้รับการ Overhaul คือเปลี่ยนลูกยางและผ้าปั๋มไปครั้งสุดท้ายเมื่อไร ถ้าตอบว่าพึ่งทำไปได้ไม่เกิน 2 ปีที่่ผ่านมานี้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็หมายความว่าชุด Overhaul ที่ช่างเปลี่ยนให้คุณใหม่นั้นเป็นชุดที่ทนต่อการใช้น้ำแก๊สโซฮอลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ สิ่งต่อไปที่จะต้องเปลี่ยนคือสายน้ำมันที่วิ่งจากถังเข้าสู่ปั๋มและคาร์บิวเรเตอร์ ซึ่งถ้าสายนี้ใช้งานมา 5-6 ปีมาแล้ว แนะนำว่าควรที่จะเปลี่ยนใหม่พร้อมกับเปลี่ยนสายรัดทั้งหมดครับ สายยางที่จะเอามาเปลี่ยนนั้นจะต้องเป็นสายที่ทนต่อการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล ซึ่งคุณสามารถไปซื้อเองหรือจะให้ช่างไปซื้อให้คุณจากร้านอะไหล่นี่แหละครับ แต่ต้องย้ำว่าเอาแบบที่ใช้กับแก๊สโซฮอลเท่านั้น อยากได้ยาวแค่ไหนก็บอกเขาเพราะเขาตัดขายเป็นเมตรครับ ราคาไม่ทราบครับ ซื้อไส้กรองน้ำมันเบนซินมาสองตัว โดยให้เปลี่ยนตัวแรกในทันทีที่ช่างทำคาร์บิวเรเตอร์กับเปลี่ยนสายน้ำมันให้คุณ ให้ช่างเปลี่ยนหัวเทียนและทองขาวชุดใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าระบบจุดระเบิดทำงานได้มีประสิทธิภาพสูงสุดของมัน เมื่อทำทุกอย่างครบแล้ว คุณก็เติมแก๊สโซฮอลซึ่งถ้าเป็นเบนซ์จะใช้แก๊สโซฮอลอ๊อคเทน 95 เป็นหลัก สตารท์เครื่องแล้วให้ช่างทำการจูนอัพจนเครื่องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ จากนั้นก็ใช้รถต่อไปเรื่อยๆจนวิ่งได้สัก 5000 กม. ก็ให้เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื่อเพลิงโดยใส่ตัวใหม่ที่ซื้อสำรองเอาไว้เข้าไปแทนตัวที่เปลี่ยนไปก่อนหน้านี้ ที่ให้ทำเช่นนี้ เพราะแก๊สโซฮอล 95 จะกัดสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในถังน้ำมันและของเสียที่อยู่ในท่อน้ำมันให้หลุดออกมา ดังนั้นสิ่งสกปรกเหล่านี้มันจะไปอุดตันที่ไส้กรองเบนซินผมถึงให้ใช้ไปแค่ 5000 กม. ก็เปลี่ยนทิ้งไปครับ และจำไว้ตลอดเลยว่าไส้กรองเบนซินนี้มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนอย่างน้อยปีละครั้งเพราะ รถเก่าภายในถังน้ำมันมันสกปรกครับ การดูแลเรื่องความสะอาดจึงจำเป็นที่จะต้องเข้มงวดสักหน่อยครับ การดูแลอีกอย่างหนึ่งคือ คุณต้องจำไว้ว่าสายน้ำมันที่เปลี่ยนไปใหม่นี้ เมื่อใช้งานไปสัก 7 ปีควรจัดการเปลี่่ยนใหม่ได้อีกชุดครับ เพราะตามปรกติน้ำมันไม่ว่าขะเป็นแก๊สโซฮอลหรือเบนซินต่างก็มีปฏิกิริยากัดสายน้ำมันอยู่แล้ว แต่คนไทยไม่นิยมเปลี่ยนต้องรอจนมีกลิ่นน้ำมันระเหยออกมาถึงจะไปหาช่างให้ตามหาว่ากลิ่นมาจากไหนเสียมากกว่าครับ ผมคิดว่าคุณก้องเข้าใจความหมายที่ผมแนะนำว่าให้ใช้แก๊สโซฮอล ได้เพราะมันเป็น Plan B ที่เจ้าของรถควรที่จะพิจารณาทำได้แล้ว ดีกว่าที่จะไปยึดติดกับการวิ่งหาเบนซิน 95 เติม เพราะถ้าดูจากความต่างของราคาเบนซิน 95 กับแก๊สโซฮอล 95 นั้น ถ้าคุณใช้งานรถคันนี้ทั้งปี ผลต่างของราคาน้ำมันทั้งสองชนิดสามารถจ่ายเป็นค่าแปลงตามที่ผมพูดมานี้ได้เกือบสองครั้งเลยทีเดียวครับ ส่วนคำถามเรื่องยางนั้น ผมแนะนำให้ติดต่อร้านยางจะเหมาะสมกว่าครับ เพราะเขามีความเชี่ยวชาญกว่าครับ คุณโทรไปปรึกษาได้ที่นายจิ๋ว ร้านบุญยะออโต้ 02-318-4001 กับ 02-314-4719 บอกว่าพี่หมูแนะนำมาครับ ได้ข้อมูลแล้ว จะไปหาซื้อยางจากร้านใกล้บ้านก็ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องอุดหนุนเขาเพราะผมใช้บริการของเขามาตั้งแต่รุ่นพ่อจนคุณพ่อเขาเสียไปและลูกมารับช่วงแทนแล้วครับ เรื่องยางนั้นสำคัญที่ใส่ไปแล้วมันจะต้องไม่ติดตัวถังโดยเฉพาะตอนเลี้ยวสุดนี่แหละครับ ผมเคยใช้ W108 280SE แต่พ่อเขาขายไปนานมาแล้วครับ ปัจจุบันใช้ W116 280S ส่วนที่เหลือก็ใหม่หน่อยคือ W124 E220 กับ E 280 อย่างละคัน W140 S280 BMW 525i E36 BMW 330i E46 และ BMW 2800 E-3 ครับ ทุกคันใช้แก๊สโซฮอล 95 ทุกคัน นั่นคือกลุ่มรถยุโรปที่ผมใช้ รถอเมริกันคือ Oldsmobile Cutlass Salon ปี 1974 ผมได้ขายให้เพื่อนป๊าใจไปได้เกือบสองปีมาแล้ว เพราะไม่มีเวลาไปซ่อมมันครับ งานเยอะเกินตัวต้องขอผ่าน เพราะการจะเล่นรถเก่านั้น จะต้องมีเวลาค่อยๆแก้ปัญหาที่ละจุด การหาอะไหล่แต่ละชิ้นนั้นยากเย็นยิ่งนักครับ เรียนตามตรงว่าถ้าผมมีอายุมากกว่านี้ ดูแลไม่ไหว ก็คงตองผ่านไปให้ลูกดูแลครับ ส่วนมันจะดูแลหรือขายทิ้งก็คงจะเป็นเรื่องของเขาแล้ว        

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2012-01-10 08:53:59 IP : 110.171.1.71


ความคิดเห็นที่ 13 (3322510)
avatar
.....

ไม่ต้องกลัวหรอกครับถึงอย่างไงน้ำมันเบนซินมันก็มีขายอยู่แล้วครับ เบนซิน 95 บอกเลิกไปตั้งนานแล้วแต่คาลเท๊กยังมีขาย แล้วรถแข่งเค้าก็ยังใช้น้ำมันเบนซิน ไม่มีค่ายไหนใช้แก๊สโซฮอลครับ ถ้าคุณเป็นคนรักรถจริงๆ มันมีน้ำมันขายคุณก็ไปซื้อแบบถัง 200 ลิตรมาครับ ไม่ต้องไปง้อ เรื่อง S คลาสนั้นผู้ถามถามอยู่ 2 เครื่อง S300 กับ S500 ไม่ได้ถาม S280 บอดี 2 ตันใช้เครื่อง 2.8 มันก็กินน้ำมันไม่ต่างกับ S 500 ในคลับเบนซ์เค้าควักไส้เป็น 3.2 กันครับ รุ่นนี้เติมแก๊สโซฮอลได้แต่คนส่วนมากที่มีการศึกษากันเค้าไม่เติมครับเค้าใช้เติมเบิฯซินเต็มถังแล้วติด LPG แทนกัน ประหยัดกว่า ออกเทนสูงกว่าเบนซิน วิ่งดีกว่าเบนซินครับ(ต้องอู่ที่ติดเบนซ์โดยเฉพาะ ในคลับรู้ดีติดมาเป็นหมื่นๆ คัน)

รถปัจจุบันนี้ค่าซ่อมแพงทั้งนั้นไม่เห็นมีรุ่นไหนดี แค่ขึ้นชื่อคอมมอนเรวก็ห่วยทั้งนั้น ไม่เห็นต้องทดสอบ w211 ระบบควบคุมพวงมาลัยเปราะบาง การยึดเกาะถนนสู้ w124 ยังไม่ได้ อีกทั้งมีน้ำหนักตัวรถที่เยอะกว่าทั้งอืด ประกับกับเครื่องยนต์ดีเซล์ ของเบนซ์ ซ่อมแพงมาก ถ้าระบบเชื้อเพลิงมีปัญหาซ่อมที ต้องมี 8 หมื่นถึง 1.5 แสน ต่อครั้ง คิดๆ ดูแล้วเครื่องเบนซินแล้วติดแก๊สคุ้มกว่าครับพี่

การยกเลิกสารตะวกัวกับเบนซินมันคนละประเด็ดกันกับแก๊สโซฮอร์ครับพี่ สารตะกั่วมนไม่มีประโยชน์ พี่เอาสารตะกั่วมากินได้ไหมครับ กลับกันเอทานอลพี่เอาไปผลิตน้ำตาลได้ หรือไบโอดีเซล์ เอาน้ำมันปลาม์ไปทอดปาท่องโก๋ให้พี่ทานได้ แต่พวกท่านกลับเอามาใช้กลับรถกันหมด ราคามันก็ปั่นป่วน เมื่อก่อนน้ำมันปลาม์และน้ำตาลขาดตลาดต้องจำกัดจำนวนซื้อกัน พอไบโอผลิตไม่ทัน มันก็เป็นดีเซลธรรดา เบนซินธรรมดาลดราคา แก๊สโซฮอลก็ขายไม่ออก  ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียและก็ไม่ได้อยากดัง แต่อยากให้ใช้เชื้อเพลิงที่ถูกประเภทกัน และมีเชื้อเพลิงที่ดีใช้กับรถพวกๆ ท่านครับ และไม่ต้องการเถียงกับพี่ครับ

ขออภัยยด้วยนะครับ

สดๆ ร้อนร้อน เรื่องการขึ้นราคาเอ็นจีวี บอกขึ้นเพื่อต้องการพัฒนาและขยายปั้ม รถที่ใช้เยอะๆ กลับดึงราคาเท่าเดิม คนที่ใช้น้อยแบบรถบ้านกับขึ้นราคา แล้วอย่างนี้ส่วนต่างที่ได้มาเมื่อไหร่มันจะมีเงินไปพัฒนาปั้ม พวกแท๊กซี่ รถตู้ มันขับกันอย่างบ้าคลั่งไม่รับผิดชอบชีวิตผู้โดยสาร จับล๊อคความเร็วให้หมด ยิ่งเติมถูกเค้าก็ยิ่งไม่สำนึกหรอกครับ

*** บอกแล้วว่าใครใช้รถเยอะ ใช้เชื้อเพลิงเยอะก็ต้องจ่ายภาษีเหลือค่าเชื้อเพลิงเยอะ อย่างนี้ถึงจะยุติธรรม ทุกคนจะได้ตระหนักถึงการใช้เชื้อเพลิง คนที่มีเงินฝากมากยังได้ดอกเบี้ยมาก คนที่ใช้เชื้อเพลิงมากแสดงว่าก็ต้องมีเงินมาก อย่างนี้มันก็จะกลายเป็นงูกินหาง อะไรถูกคนก็แห่ไปใช้ มันก็หมดไม่มีสิ้นซาก ทำเหมือนการเก็บค่าไฟฟ้า FT ไม่เห็นมีใครโวย แผ่นภาษีหน้ารถเลิใช้เปลี่ยนเป็นเครื่อง GPS  นับกิโลเมตรติดรถยนต์ให้หมด พอถึงปีก็ถอดไปต่อภาษีนับเป็นกิโลกันไปเลย เป็นการป้องกันรถหายด้วยครับ

ผู้บริหารความเท่านั้นที่คอยแต่นั่งอ่านรายงานของพนักงาน ผู้บริหารที่ดีเค้าลงมาดูงานด้วยตัวเอง คนที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นเค้าก็มาจากความลำบากทั้งนั้น เช่นผู้บริหารเบียร์ช้าง หรือ คุณตัน อิชิตัน ไม่ใช่นั่งเป็นความให้ลูกน้อยผูกสันตพาย เสนออะไรมาก็เออๆ  มีคนแบบคุณเยอะ ดูซิประเทศถึงได้ฉิบหายแบบนี้ ไม่อยู่ประเทศไทยก็ดีแล้ว หนักแผ่นดินครับ คนไทยด้วยกันแต่ไม่รักกัน ไม่รู้ว่าพ่อคุณผลิตเอทานอลหรือไงถึงได้เชียร์จัง แต่ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัยอีกครั้งครับ (อย่าร้อนตัว)

****" คนไทยไม่รักกันแล้วเราจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟังครับ"*****

ผู้แสดงความคิดเห็น ..... วันที่ตอบ 2012-01-10 08:43:15 IP : 161.200.100.2


ความคิดเห็นที่ 12 (3322491)
avatar
ก้อง

เรียนคุณคนว่างวันอาทิตย์ครับ

พอดีผมไปหาเรื่องซนไปถอย W110 ปี 1967 มาคันนึงเป็นเครื่องคาร์บูเรเตอร์คู่ของ solex ทีนี้ผมอยากทราบว่าที่คุณคนว่างฯ บอกว่าต้องดัดแปลงเพื่อให้ใช้แกสโซฮอล์ได้นั้นต้องทำอย่างไรบ้างครับ  ผมจำได้ว่าคุณมี W108 อยู่  เทคโนโลยี่สมัยนั้นน่าจะใกล้เคียงกัน  เลยอยากได้ข้อมูลมาเตรียมการไว้เพื่อวันข้างหน้าไม่มีเบนซิน 95 ขาย รถผมจะได้ยังวิ่งได้อยู่  ทุกวันนี้ผมก็รักปั๊มตราดาวของผม ไปไหนเจอปั๊มนี้ต้องคอยจำที่อยู่  เวลาเอา 110 มาวิ่งจะได้มีที่เติมน้ำมันให้เค้าได้  แต่อย่างที่หลายๆคนเตือนแหละครับ  ต้องเตรียม plan B ไว้ด้วย จะได้ไม่ต้องขึ้นฮ้อยส์ จอดเป็นพิพิธภัณฑ์นะครับ

ปล. ยางหน้ากว้าง 6,7 หรือ 7,0 สมัยก่อนมันเท่าหับยางหน้ากว้างเท่าไหร่สมัยนี้ครับ และมียี่ห้ออะไรที่ยังเรียกเบอร์ยางแบบเก่าบ้างครับ

ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ

ก้อง

ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อง วันที่ตอบ 2012-01-09 23:02:21 IP : 125.25.13.228


ความคิดเห็นที่ 11 (3322482)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

ผมเข้ามาตอบในเวปนี้เพราะเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว ผมเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทระดับยักษ์ใหญ่ในประเทศไทย 10 บริษัทที่กลุ่มเพื่อนของผมเป็นผู้บริหารระดับสูง ต้องตัดสินใจคัดเลือกรถเพื่อนำเอามาใช้งานประจำบริษัท ผมจึงได้รับเลือกให้เป็นผู้ทดสอบรถทุกยี่ห้อที่เสนอตัวเข้ามาเพื่อทดสอบว่าในรถแต่ละรุ่นนั้นจะเหมาะสมกับงานประเภทใด เช่นรถเพื่อใช้ในการส่งของยันไปจนถึงรถประจำตำแหน่งผู้บริหารของบริษัท บริษัทเหล่านี้ซื้อรถทีปีหนึ่งไม่ต่ำกว่าร้อยคันต่อบริษัท แต่ปัจจุบันผมไม่ทำแล้วเพราะสามปีที่ผ่านมานี้ ผมเป็นผู้แนะนำให้เขาหันไปเช่าแทนการจัดซื้อเพราะมันจัดการได้ง่ายกว่า ไม่ต้องหาคนขับมาประจำบริษัทและไม่ต้องมานั่งมีปัญหาเรื่องการซ่อมแซม ดังนั้นผมถึงบอกได้ว่าผมทดสอบรถในช่วงนั้นมามากไม่แพ้นักวิจารณ์รถที่เขาต้องทำกัน แต่ผลงานของผม ไม่ถูกตีพิมพ์เพราะเราไม่ได้อยู่ในสายสื่อมวลชน แต่งานของผมเป็นนักธุรกิจ งานทดสอบรถนั้นเป็นงานที่เพื่อนขอให้ช่วยทำให้ ส่วนงานจริงนั้นผมเป็นผู็บริหารของบริษัทส่วนตัว ซึ่งในปัจจุบันผมก็ได้หันไปเปิดบริษัทสาขาในต่างประเทศแล้ว ผมถึงไม่ได้อยู่ในเมืองไทยนอกเสียจากตอนปลายปีทุกปีจนถึงประมาณกลางเดือนมกราคมก็จะต้องกลับไปทำงานบริหารต่ออีกแล้ว  ในตอนที่ทำการทดสอบรถนั้น รถแต่ละคันจะต้องทดสอบอย่างน้อย 5 วันต่อคันก่อนที่จะสรุปผล ต้องทดสอบในทุกสภาพการใช้งานจริงก่อนเสนอรายงานโดยตรงให้ผู้บริหารของแต่ละบริษัททำการตัดสินใจ แต่งานของผมก็ไม่ได้ถูกเผยแพร่เพราะผมก็ไม่ได้ทำงานในงานสื่อมวลชนใดๆ ไม่เหมือนกับอาจารย์หรือเพื่อนๆคนอื่นๆเขา  เรื่องน้ำมันแก๊สโซฮอล นั้น ผมไม่อยากที่จะมานั่งทะเลาเพราะบอกตามตรง ใครอยากจะเชื่ออะไรผมก็ไม่ได้บังคับให้คุณจะต้องไปเชื่อ แต่กรุณาทราบเอาไว้ว่าไม่ช้าก็เร็ว ความจริงก็คือมันจะต้องหมดไปจากตลาดอย่างแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว เมื่อถึงวันนั้น ถ้าบอกว่าใช้แก๊สโซฮอลไม่ได้ก็ต้องหมายความว่ารถคันนั้นจะไม่ต้องวิ่งไปอีกตลอดชีวิตของมันอีกหรือ วิธีการแก้ไขที่ผมพูดในที่นี้ ก็เป็นวิธีที่อาจารย์พัฒนเดชเป็นคนออกมาบอกให้ทำการแก้ไขในวิธีการเช่นเดียวกันนี้แหละ ไม่เชื่อก็หัดกลับไปค้นดูกระทู้เก่าๆที่อาจารย์ตอบเอาไว้ซิครับ จะได้ยืนยันได้ชัดเจนไปเลยว่าพูดเหมือนกันไหม รายการที่คุณคุณอ้างคือที่ 90.5 นั้น ทั้งตาหมู ตาเล็ก ตาวิชัยซึ่งจริงๆนั้นชื่อแกคือตาลิ้ม ผมรู้จักกันหมดทุกคน คุยกันตลอด และถ้าคุณได้คุยกับป๋าใจ ถามแกเลยว่าใช่หรือไม่ที่แกเคยชวนผมให้เจ้าไปร่วมพูดคุยในรายการ แต่ผมเองก็ปฏิเสธไป เพราะผมไม่ต้องการโด่งดังทางด้านนี้ งานของเราไม่ได้มาทางสายนี้และไม่ต้องการที่จะโตทางสายนี้ แต่พวกเราเจอกันเรื่อยๆ ว่างก็ไปกินข้าวกัน แชร์ความรู้เรื่องรถกันประจำ แม้นแต่ผู้จัดรายการนี้ ผมทราบดีว่าใครจะชอบแก๊สโซฮอลหรือไม่ชอบมันเอาเลย แต่ผมก็ไม่ไปห้ามเขานะ เพราะอย่างที่ผมพูดก็คือ ตอบผมให้ได้อย่างเดียว ถ้าในอนนาคต รัฐบาลเกิดยกเลิกเบนซิน 95 ถาวร คุณจะทำอย่างไร ทุกวันนี้หาเติมก็ยากอยู่แล้วนะ การมานั่งเถียงในเรื่องนี้มันเหมือนกับกรณีที่ประเทศไทยเลิกใช้น้ำมันเบนซินผสมสารตะกั่วแล้วบังคับให้มาใช้เบนซินไร้สารตะกั่ว จำได้ไหมว่าทุกคนจะตอบว่าใช้ไม่ได้ วาลว์พังต่างๆนาๆ มาทุกวันนี้มันพังไหม เบนซินผสมสารตะกั่วมีให้เห็นในโลกนี้อีกไหม ส่วนที่คุณอ้างถึง W140 ถ้าคนถามมาว่าจะเล่น S300 หรือ S500 ดี ผมก็จะตอบในวันนี้ว่าเล่นแค่ S280 ก็พอ เพราะบ้านเราถนนไม่มีจะวิ่ง S280 นะเหลือเกินพอไปแล้วราคาตัวรถ S280 ต่ำกว่า S500 อีกประการ ภาษีประจำปี S280 ต่ำกว่า S500 มาก ด้านค่าดูแลรักษา S280 ก็ต่ำกว่ามาก ทุกวันนี้พ่อผมก็ใช้ S280 W-140 อยู่และก็เติมแก๊สโซฮอล 95 มาโดยตลอดเช่นกัน แต่ถ้าจะให้ผมเล่นรถคันนี้เองจริงๆ ผมก็ไม่เล่น เพราะผมเป็นคนชอบเครื่องดีเซล การดูแลรักษามันง่ายกว่า การสิ้นเปลืองก็ต่ำกว่า อัตราการเร่งของดีเซลในปัจจุบันไม่แพ้เครื่องเบนซินแม้นแต่น้อย ตัวที่น่าเล่นก็คงจะเป็น E220 CDI W211 ก็เพียงพอกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันนี้แล้วครับ         

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2012-01-09 19:58:04 IP : 110.171.1.71


ความคิดเห็นที่ 10 (3322444)
avatar
.....

ผมเชื่อว่าการเก็บรถของคุณยังไม่ได้ครึ่งนึงที่ผมดูแลรถ รถผมอยู่ในห้องกระจกปลอดฝุ่นติดแอร์ ยิ่งเบนซ์ผมนี่เบนซิน 95 ตลอด ออกต่างจังหวัดหาไม่ได้ก็ 91 พลางๆ รถผมทุกคันติด GPS ตามได้หมด รู้หมดว่าขับเร็วแค่ไหน คนไหนขับไม่ดีก็เจอผมแน่ บริษัทอื่นผมไม่รู้ว่าดูแลรถดีแค่ไหน บริษัทผมดูแลรถเข็มงวดมากครับ เพราะทุกคนต้องใช้ถนนร่วมกัน 

**คุณสมใจเป็นคนพูดคำว่าน่าใจหายเมื่อยกเลิกเบนซิน 91 แบบนั้นออกสื่อเมื่อวันเสาร์ 24 ธันวาคม 2554 แล้วพิธีกรข้างๆ ยังพูดเลยว่าเจาะลึกเรื่องการใช้แก๊สโซฮอล์จรึง คนที่มีการศึกษา ความรู้เรื่องรถจริงๆ แล้วเค้าไม่ใช้ครับ  ถ้าเป็นแบบนั้นรายการนั้นก็ห่วยแตกแล้วโหลยโท่ย พูดอะไรไม่รู้ ซี้ซัวร์ออกสื่อโจ่งครึ่ม 

คนที่อยู่ในชมรมรถเก่าจริงๆ ไม่มีใครเค้าใช้หรอกครับท่าน แล้วเรื่องน้ำมันมันก็ไม่ได้เป็นการแบ่งเกรดหรือชั้นวรรณะ ที่นี่ประเทศไทย กินข้าวสาร ไม่ใช้คนอินเดีย แล้วก็เลิกทาสกันไปนานแล้ว ใครจะเติมอะไรมันก็สิทธิของเค้า อย่าไปให้ข้อมูลชีแจงผิดๆ ผมแค่บอกอะไรดีหรือไม่ดีเท่านั้น

***เหมือนท่านชอบเข้าอาบอบนวดมันก็สิทธิของท่าน ใครจะไปว่าอะไรท่านได้ ทำไปเหอะถ้าไม่ผิดกฎหมายหรือเดือดร้อนใครครับ

คนเราควรคิดก่อนพูดไม่ใช่พูดแบบไม่คิด ยิ่งออกสื่อด้วยมาโกหกประชาชนแบบนี้ยิ่งใช้ไม่ได้

** ยิ่งเรื่องเบนซ์ผมฟังคุณบอกตอบคำถามนี้ ตอบแบบผิดๆ เครื่อง K เจ็ทยังไงก็สู้เครื่องธรรมดาของเบนไม่ได้ (วันท่คนโทรมาถามเรื่อง W 140 จะเล่น s300 หรือ s500 ดี)

ขอภัยและความเคารพ

.......

ผู้แสดงความคิดเห็น ..... วันที่ตอบ 2012-01-09 15:45:29 IP : 161.200.100.2


ความคิดเห็นที่ 9 (3322433)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

ผมพูดถึงการใช้งานของคนที่รักการใช้รถ มีเงินเพียงพอที่จะรู้ว่าอะไรเหมาะ อะไรควร ควรจะประหยัดอย่างไรและจะใช้จ่ายเมื่อไร ส่วนการที่จะเอามาเทียบกับการใช้งานของบริษัทรถกะบะ ผมคงจะไม่ทำ เพราะผู้ประกอบการ ต้องการกำไรสูงสุด ความปลอดภัยมาที่หลังแทบทั้งสิ้น ส่วนน้าใจนั้น คุยกันประจำ ว่างก็กินข้าวกันและรู้จักผมเป็นอย่างดีครับ และถ้ายังจะมาพูดเรื่องแก๊สโซฮอล 95 หรือ 91 นั้น ถ้าเป็นรถธรรมดา ใช้ได้หมด มีข้อแม้นว่าต้องทำการปรับปรุงเล็กน้อยก่อนใช้เท่านั้น รถที่บ้านผมมีรถเก่าเก็บเอาไว้เป็นรถสะสมอยู่ขนาดไหน น้าใจรู้ดี และรู้ด้วยว่ารถเก่าทุกคันผมจับปรับปรุงทุกคันและใช้แก๊สโซฮอล 95 ทุกคัน ถ้าไม่แน่จริง น้าใจและพรรคพวกของแกคงจะไม่มานั่งน้ำลายหยดขอซื้อรถเก่าต่อจากผมซึ่งจ้างให้ก็ไม่ขายเพราะไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรหรอกครับ ถ้าใช้แก๊สโซฮอล 95 หรือ 91 แล้วรถมันจะพังอย่างที่กล่าวอ้าง ใครมันจะมานั่งขอซื้อรถพังๆเอาไปให้เปลืองเงินเล่นหรือครับ รถเก่านะอะไหล่มันหาง่ายนักหรือและอะไหล่แต่ละชิ้นราคามันโหดแค่ไหน นักเล่นรถเก่าทุกคนต่างก็ทราบกันดีทั้งนั้นแหละครับ  รถที่ต้องใช้เบนซิน 95 นะมันมีคือรถประเภท Lamborghini หรือ Maserati เจ้าของรถรวยขนาดนั้นจะใช้เบนซิน 95 ขนหน้าแข้งก็ไม่ร่วงหรอกครับ  

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2012-01-09 13:36:04 IP : 110.171.1.71


ความคิดเห็นที่ 8 (3322427)
avatar
.....

ตอบผิดและขัดใจก็ขออภัย

ผมเอามาจากการใช้งานจริงรถขนของที่บริษัมผม กะบะตอนเดียววีโก้ 5 คัน บรรทุกสแตนเลสเส้น 2 ตันขึ้นทุกคัน ผมไม่มานั่งดูเลขไมล์หรอกครับ บางทีลูกน้อง คนงานก็รู้ๆอยู่ขับรถ***แค่ไหน ไปโดนอะไรบาดมาก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นก่อนเอาของขึ้นรถทุกเช้าจะมีการตรวจสอบสภาพรถและสภาพยาง เพราะรถต้องใช้งานหนักและวิ่งทางไกล ทุกวัน มานั่งมองเลขไมบ์ไม่ได้หรอกครับ ถ้ายางแตกก็ต้องเอารถอีกคันไปช่วยเปลี่ยนเสียทั้งเงินและเวลาครับ ของที่บรรทุกมีมูลค่าหลายแสน-ล้านบาท ประมาทไม่ได้ครับ ผู้ผลิตบริษัทยางรถยนต์ลายไหนไม่เห็นมีการติดตัวนับเลขไมล์มาที่ยางเลยสักเส้น ว่างเส้นนี้วิ่งได้ 50000 กม. นะ เหลืออีก 5,000 ต้องเปลี่ยนแล้วนะ รถแข่งระดับฟอมูลล่าวันยังทำไม่ได้ เค้าก็ใช้วิธีกะ กะเอาทั้งนั้น แล้วดูสภาพยางเป็นหลัก  อีกคันรถใช้งานเองบรรทุกไม่หนักนี่เข้าปีที่ 8 แล้ว ระยะทางน่าจะเกือบๆ 1 แสนได้แล้วมั้ง แต่สภาพยางและโครงสร้างยังโอเค ผมก็ยังวิ่งได้อยู่ วันเสาร์ที่ผานมาซัด 130-140 ยังไม่แตก แต่ก็ไม่ควรทำเพราะยางมันอายุมากแล้ว ผมเคยขับรถที่ยางแตกจะรู้ดียางยังใหม่แต่ไปโดนตะปู ปะแบบสตีมมา วิ่งแค่ 100 เดียวก็แตกแล้ว ย้ำ ถ้ายางสภาพสมบรูณ์ก็ใช้ต่อไปได้ครับ

คนที่ใช้งานจริงจะรู้ดีกว่าพวกที่ยืมรถเค้ามาแล้ววิจารย์ว่าดีหรือไม่ดี อะไรดีผมก็บอกว่าดี อะไรไม่ดีผมก็บอกว่าดี  ไม่ใช่อะไรไม่ดีแล้วบอกว่าดียกตัวอย่างพวกแก๊สโซฮอร์ ขนาดคุณสมใจ พุ่มนึกยังอึ้งที่รัฐบาลจะเลิกขายเบินซิน 91 แต่ผู้จัดรายการบางคนยังปากสว่างบอกใช้ได้ รถผมคันละหลายล้านยังใช้แก๊สโซฮอล์ รู้ว่ามันใช้ได้แต่ระยะยาวมันไม่ดีเหมือนเบนซินหรอกครับ ของกินก็ส่วนของกิน อย่าเอามาเติมรถเลยครับ 

หายไปนาน คิดถึงพี่นะครับ ว่างๆ ก้ไปอาบอนวดอีกนะครับ  

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ..... วันที่ตอบ 2012-01-09 12:41:38 IP : 161.200.100.2


ความคิดเห็นที่ 7 (3322423)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

 เรื่องเลขไมล์นั้น ไม่ใช่เรื่องที่สมมุติเอาขึ้นมา แต่เป็นเรื่องจริงที่ทั้งอาจารย์พัฒนเดชและผมใช้ปฏิบัติมาโดยตลอด ซึ่งถ้าไม่เชื่อก็ขอให้กลับไปค้นกระทู้เก่าๆที่อาจารย์ตอบเองจะได้ดูซิว่าคำตอบนั้นเหมือนกันหรือไม่ครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2012-01-09 12:17:05 IP : 110.171.1.71


ความคิดเห็นที่ 6 (3322397)
avatar
.....

หลักการง่ายๆ จากการใช้งานจริง มีดังนี้

1. ชอบทนๆ เลือกบริจสโตน ไม่นุ่มแต่โคตรทนครับ

2. ให้ใช้น้ำยาเช็ดแก้มยางที่ดีๆ มีคุณภาพ เพื่อถนอมแก้มยาง สม่ำเสมอ

3. เติมลมยางให้พอดีไม่อ่อน หรือแข็งจนเกินไป ถ้าเป๋ระกบะไม่บรรทุก ข้างหน้าและหลัง 35 ทั้ง 4 ล้อ

4. ข้อนี้สำคัญมากแก้มยางถ้ามีรอยบาดหรือแตกลายงาให้เปลี่ยนทันที มันจะทำให้ยางคุณแตกครับ วิ่งช้าก็แตก ครับ

5. เรื่องอายุและระยะกิโลนั้นเป็นเรื่อมสมมุติขึ้นมาทั้งนั้น ให้หมั่นตรวจสอบตามข้อ 4 ที่ผมบอกครับ  ทุกอย่างมันอยู่ที่เราดูแลครับมันจะทนหรือไม่ทนอยู่ที่คุณครับ

6. เรื่องสลับยางไม่ต้องไปสลับมันครับ ถ้าช่วงล่างสมบรูณ์ ยางจะไม่สึกมากครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ..... วันที่ตอบ 2012-01-09 09:58:41 IP : 161.200.100.2


ความคิดเห็นที่ 5 (3322363)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

คอบคำถามที่ 3 สำหรับผมนั้น ผมเปลี่ยนเป็นขุดคือทั้งหน้าและหลังพร้อมกันทั้ง 4 เส้นตามกำหนดของลักษณะการใช้งานที่ผมได้ไล่ให้ฟังจากข้อ 1 ถึง 3 ครับ การดูอายุของยางนั้น ไม่ได้ดูที่ดอกครับ แต่ยางมันจะเสียหรือหมดอายุเกิดที่โครงสร้างของยางเมื่อมันหมดอายุการใช้งานครับ สาเหตุที่ไม่แนะนำให้เปลี่ยนคู่หน้าก่อน ใช้ไปสักพักแล้วค่อยเปลี่ยนคู่หลังเพราะถ้าคู่หน้ายางคุณเกาะปรกติแต่หลังยางลื่น มันจะพาคุณไปชมวิง 360 องศาไหมครับ การใช้ยางที่ปลอดภัยคือมันจะต้องเกาะถนนเหมือนกันทั้งสี่เส้น รถจะได้ไม่ลื่นไถลและทำให้เกิดปัญหาท้ายปัดขึ้นได้ครับ     

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2012-01-09 08:13:50 IP : 110.171.1.71


ความคิดเห็นที่ 4 (3322356)
avatar
M(น่ารัก)

ที่ผมทำก็คือ ผมไม่สลับยาง แต่จะเปลี่ยนยางทีละคู่ครับ(สี่เส้นไม่ไหวครับ แบบว่ากระเป๋าบาง)

โดยผมจะเอายางใหม่ใส่คู่หน้า แล้วเอายางหน้าเดิม ย้ายไปเป็นคู่หลังครับ

แต่สำหรับกรณีที่เคยเปลี่ยนสี่เส้นมาก่อน ถ้าอยากเปลี่ยนทีละคู่ เป็นผมนะ ก็จะเปลี่ยนครั้งแรกคู่หน้าก่อน คู่หลังทนใช้ของเดิม(อย่างระมัดระวัง)ไปอีกสักปีสองปี จนกว่าจะออกอาการ ดอกแข็ง ไม่เกาะแล้ว ผมก็จะเอาคู่หน้าไปใส่หลัง และเปลี่ยนยางใหม่ใส่คู่หน้า แล้วก็จะเปลี่ยนครั้งต่อไปทีละคู่แบบนี้แหละครับ

แต่ถ้าสตางค์ไม่ใช่ปัญหา เปลี่ยนยกสี่เส้นเลย ดีที่สุดครับ จะได้ไม่ต้อง drift โดยไม่ตั้งใจบ่อยนัก (แต่พอรู้อาการมัน และคุมอยู่ ก็สนุกดีนะครับ แหะๆ)

ผู้แสดงความคิดเห็น M(น่ารัก) วันที่ตอบ 2012-01-08 20:50:22 IP : 223.27.226.20


ความคิดเห็นที่ 3 (3322349)
avatar
ประวิทย์

ขอบคุณครับ คนว่างวันอาทิตย์

ได้คำตอบกระจ่างแล้วครับ ปกติที่เราสลับยางหน้าหลังเพื่อให้ดอกยางมันสึกหรอเท่า ๆ กัน เพราะยางหน้าจะสึกหรอเร็วกว่า

สรุปแล้วว่า ไม่ต้องสลับยางหน้าหลังนะครับ ....  แต่มีคำถามว่า ดอกยางหลังจะเหลือมากกว่ายางหน้าแน่นอน ยังงี้เปลี่ยนเฉพาะยางหน้าได้ไหมครับ อัตราส่วนเปลี่ยนยาง(หน้า) 2 ต่อ 1(หลัง)  ได้ใช่ไหมครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวิทย์ วันที่ตอบ 2012-01-08 17:49:23 IP : 223.207.7.186


ความคิดเห็นที่ 2 (3322333)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

ยางสมัยใหม่นี้เป็นยางที่มีคุณภาพสูงแทบทั้งสิ้น ดังนั้น วิธีการใช้งานที่เข้าใจง่ายๆมีดังต่อไปนี้คือ

1. ถ้าคุณเป็นคนขับรถเร็ว ใช้ความเร็วสูงตลอดเวลา ยางที่ใช้ควรจะเปลี่ยนที่ระยะทาง 3-40,000 กม ทั้งชุดหน้าและหลังพร้อมกัน ระหว่างการใช้งานนั้น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสลับยางใดๆทั้งสิน แต่ควรที่จะต้องเช็คลมยางทุกอาทิตย์ถ้าเป็นลมยางธรรมดาและอย่างน้อยเดือนละครังถ้าเป็นไนโตรเยน

2. ถ้าคุณขับรถตามกฏหมายกำหนดคือไม่เกิน 120 กม. ต่อชั่วโมงสูงสุด สามารถเปลี่ยนยางได้ที่ 50,000 กม. ทั้งชุดหน้าและหลังพร้อมกัน ระหว่างการใช้งานไม่ต้องสลับยางเช่นกัน การแนะนำเรื่องการเช็คลมยางเหมือนข้อ 1.

3. ถ้าคุณใช้รถในเมืองล้วนๆ ความเร็วไม่เคยเกิน 100 กม. สามารถเปลี่ยนยางได้ที่ 60,000 กม. ทั้งชุดหน้าและหลังพร้อมกัน ไม่ต้องสลับยาง ลมยางเช็คเหมือนข้อ 1.

4. ที่ร้านบอกว่าต้องสลับทุก 5000 กม. เพราะทุกครั้งที่สลับยาง เขาได้เงินคุณครับ เพราะคุณจะต้องสลับพร้อมทำการถ่วงทุกครั้ง การเปลี่ยนบ่อยเท่าไร ร้านยางจะชอบเพราะเขาได้เงินนี่แหละครับ การสลับยางจะทำให้เกิดเสียงรบกวนตามมาซึ่งเสียเวลาหาทางแก้ครับ 

5. ทุกครั้งที่เปลี่ยนยางใหม่ จะต้องให้ช่างเช็คช่วงล่างทั้งระบบ ถ้ามีอะไรเสียต้องทำการเปลี่ยนและแก้ไขในทันที

6. การที่คุณประวิทย์บอกว่ายางหน้าสึกเร็วเหลือเกินนั้น ขอให้ทำการตรวจสอบสภาพช่วงล่างด้วยว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ โดยเฉพาะโช๊คอัพ ลมยางต้องทำการตรวจสอบตามที่ได้แนะนำมา ถ้าทำตามที่บอกวาแล้ว จะช่วยให้ความสึกน่าจะลดลงจากเดิมครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2012-01-08 12:58:55 IP : 110.171.1.71


ความคิดเห็นที่ 1 (3322281)
avatar
ชายแดน

สลับที่ 1 หมื่น กม.หรือ 6 เดือนถูกต้องที่สุดแล้วครับผู้ผลิตยางแนะนำอย่างนี้ แต่ที่ร้านยางแนะนำเพราะได้ค่าสลับยางกับตั้งศูนย์

ส่วนยางเวลาเปลี่ยนใหม่ก็เปลี่ยนคู่หน้าก่อน พอเก่าหน่อยก็เปลี่ยนมาใส่คู่หลังแล้วซื้อคู่หน้าใหม่ ที่สำคัญควรตั้งศูนย์ถ่วงล้อทุกครั้งที่มีการถอดยางออกแล้วใส่ชุดใหม่เข้าไป

ผู้แสดงความคิดเห็น ชายแดน วันที่ตอบ 2012-01-07 13:58:50 IP : 61.7.160.6



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.