การสร้างรถ Hybrid แบบที่ไม่ต้องเติมน้ำมันและแทบไม่ต้องชาร์จไฟเลย
avatar
Sakyawich


คือผมมีไอเดียสร้างรถยนต์ไฟฟ้าชนิดที่แทบไม่ต้องเติมน้ำมัน และแทบไม่ต้องชาร์จไฟฟ้าภายนอกเลย  อยากสอบถามอาจารย์ว่า มันมีความเป็นไปได้ในทางวิศวกรรมยานยนต์หรือไม่ครับ

วิธีการก็คือ

1.ติดตั้งเจนเนอเรเตอร์ (ไดนาโม) ที่ล้อหน้า 1 ชุด  ส และที่่ล้อหลัง 1 ชุด (มีระบบกันน้ำได้)

2.ทำชุดขับเคลื่อน 2 ชุด คู่กับชุดแบตเตอร์รี่ 2 ชุด

3.ขณะที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า(ชุดที่1) + ชุดแบตเตอรี่ที่ 1  /  ล้อหลังที่หมุนฟรี ก็ทำหน้าที่ปั่นชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ลูกที่ 2 ไปพร้อมๆกัน

4.เมื่อไฟฟ้าของแบตเตอร์รี่ชุด 1 อ่อนลง  ก็ให้สลับกลับไปขับเคลื่อนด้วยชุดขับเคลื่อนล้อหลัง (ชุดที่2) + ชุดแบตเตอรี่ที่ 2  /  ขณะเดียวกันล้อหน้าที่หมุนฟรี ก็ทำหน้าที่ปั่นชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ลูกที่ 1 ไปพร้อมๆกัน

5.ให้ชุดขับเคลื่อนหน้า-หลัง  และแบตเตอรี่1 และ 2  สลับกันทำหน้าที่กันไปอย่างต่อเนื่อง  เมื่อแบต1 อ่อน ก็ให้ล้อหน้าทำหน้าที่ปั่นไฟและชาร์จไฟเข้าแบต1 โดยขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง // เมื่อแบต2 อ่อน ก็สลับกันให้ล้อหลังทำหน้าที่ปั่นไฟและชาร์จไฟเข้าแบต2  โดยเปลี่ยนไปขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า //  เป็นเช่นนี้ไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

6.ให้มีอุปกรณ์ชุดวัดไฟฟ้าและควบคุมการสลับการทำหน้าที่ของชุดขับเคลื่อน1+แบตเตอรี่1 <<-->> ชุดขับเคลื่อน2+แบตเตอรี่2  สลับหมุนเวียนกันไปอย่างต่อเนื่อง

7.ให้มีชุดเครื่องยนต์เล็ก ขนาดประมาณ 500 ซีซี. ไว้สำหรับปั่นไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉิน  เช่น กรณีแบตหมดและไม่มีที่ชาร์จ

8.ให้มีระบบชาร์จไฟฟ้าจากภายนอกรถได้  สำหรับกรณีแบตทั้งสองคายประจุจนไฟฟ้าอ่อนทั้ง 2 แบต  

 

ผมคิดว่า  ถ้าสามารถออกแบบรถยนต์ให้มีระบบดังกล่าวได้  รถยนต์คันนี้ จะเป็นรถที่วิ่งไปชาร์จไฟฟ้าไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด และแทบไม่ต้องใช้น้ำมันเลย (ยกเว้นกรณีฉุกเฉินจริงๆ) นั่นคือ ขณะที่ขับเคลื่อนล้อหน้า  ล้อหลังที่หมุนฟรี ก็ทำหน้าที่ปั่นไฟฟ้าเข้าแบตไปด้วย เมื่อสลับกลับไปขับเคลื่อนล้อหลัง ล้อหน้าที่หมุนฟรี ก็ทำหน้าที่ปั่นไฟฟ้าเข้าแบตอีกลูกหนึ่งไปด้วย ...

ถ้าสามารถผลิตรถยนต์แบบนี้มาได้ จะเป็นจุดอวสานของบริษัทน้ำมันหน้าเลือดบางบริษัทแน่ๆครับ

สอบถามอาจารย์ว่า แนวคิดที่ผมคิดนี้  มีความเป็นไปได้ในทางวิศวกรรมยานยนต์หรือไม่ครับ

 

หมายเหตุ     http://www.mediafire.com/view/?fxpmcu10pzx3w68

 

-ศักยวิชญ์  จันทร์สีหราช-  

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ Sakyawich (wat976-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2013-02-18 15:27:27 IP : 101.108.201.190


1

ความคิดเห็นที่ 17 (3364738)
avatar
Joe

 ผมว่าเรื่องล้อที่หมุนฟรีให้ทำหน้าชาร์ตแบตได้เพื่อลดอัตราการใช้น้ำมันลง บริษัทรถยนต์คงคิดเป็นแต่กั๊กเรื่องให้บริษัทผลิตน้ำมัน ยังมีอิทธิพลอยู่กับโลกใบนี้อีกต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น Joe (Jo-dot-nualnok-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-04-28 13:07:41 IP : 61.7.141.119


ความคิดเห็นที่ 16 (3362781)
avatar
เจ้าของกระทู้

โอเคครับ ในทางวิศกรรมยานยนต์ พลังงานจะค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ ไม่มีทางที่จะสร้างเครื่องจักรนิรันดร์ได้   แต่ว่าไอ้รถไฮบริดทุกวันนี้ ที่มีอยู่ต้องรอให้เบรคก่อนแล้วถึงจะประจุไฟเข้าแบตได้ ผมว่ามันไม่เข้าท่าอะครับ  ถ้างั้นก็เอาล้อที่มันหมุนฟรีอยู่ตลอดเวลาไปปั่นเจนเนอร์เรเตอร์เพื่อประจุไฟเข้าแบต  มันจะไม่ดีกว่าเหรอครับ  ไหนๆล้อมันก็หมุนไปตลอดอยู่แล้ว  น่าจะได้ไฟฟ้าสำหรับประจุเข้าแบต มากกว่ารอการเบรคเป็นไหนๆ  และน่าจะยืดอายุต่อการชาร็จหนึ่งครั้งไปได้นานกว่าเดิมอีกเป็นไหนๆนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าของกระทู้ วันที่ตอบ 2013-04-03 00:10:43 IP : 101.108.178.78


ความคิดเห็นที่ 15 (3361653)
avatar
คนเชียงใหม่

 เพื่่่อให้เป็นไปตามกฎอนุรักษ์พลังงาน เมื่อเอาท์พุทมีการสูญเสียพลังงานไม่ว่าจะมาจากแรงเสียดทาน หรือการสูญเสียความร้อน เราต้องเพิ่มพลังงานอินพุทเข้าไป ซึ่งพลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ หรือจะเอาแรงคนที่นั่งในรถเข้าเสริม(น้อยนิดก็ยังดี) ซึ่งถ้าพลังงานเข้าและออกเท่ากันเมื่อไรรถคันนี้ก็วิ่งได้เป็นนิรันด์โดยไม่ใช้เชื้อเพลิงครับ แต่อย่าลืมเรื่องความปลอดภัยนะครับ  แนวคิดนี้น่าสนใจและน่าจะมีประโยชน์ครับ สนับสนุนให้คิดต่อยอดไปครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนเชียงใหม่ วันที่ตอบ 2013-03-20 20:10:55 IP : 223.205.147.63


ความคิดเห็นที่ 14 (3359614)
avatar
M(น่ารัก)

ทางวิทยาศาสตร์คล้ายจะเป็นไปได้ แต่ทางวิศวกรรมก็คล้ายๆ ที่น้าเล็กกับน้า่ขับ estate ว่ามาน่ะครับ เพราะมันมี loss ในระบบ และในการใช้งานเยอะอยู่ครับ

ถ้าน้า ศักยวิชญ์ จะทำเรื่องนี้ต่อไป ผมขออนุญาตเสนอว่าให้ลบความจำของความเป็น "รถยนต์" ที่มีน้ำหนักมาก ความแข็งแรงสูง ความเร็วสูง ฯลฯออกไปให้หมดก่อน แล้วเริ่มต้นกับโครงสร้างเบาๆ ของโครงสร้างจักรยาน ของล้อวงใหญ่ที่มีแรงต้านน้อยลง แล้วเอากำลังคนถีบเอง กับเทคโนโลยี solar มาเสริม ใช้มอเตอร์เล็กๆ ใช้เซลพลังงานยุคใหม่ที่เบาๆ (กรดตะกั่วมันแบกน้ำหนักมาก) เอาเรื่อง aerodynamic เข้ามาช่วย....

อาจตั้ง concept เป็นจักรยาน touring เดินทางไกล แต่ผู้ขี่ไม่จำเป็นต้องเป็นนักกีฬาแข็งแรงมากมาย แต่เป็นครอบครัวคนเมือง พ่อแม่ลูก คนละคัน สามารถปั่นเองสลับกับให้รถวิ่งเอง เดินทางจากบางกอกไปกางเต๊นท์ที่สุโขทัยได้โดยไม่ปวดน่อง (ลืมข้อจำกัดเรื่องความปลอดภัยจากสิบล้อไปก่อน) สามารถแวะ "ปั๊มพลังงาน" เพื่อชาร์จไฟ หรือ "แลกแบตฯ" ได้เป็นระยะ เหมือนรถแวะเติมน้ำมัน

ถ้าจักรยานไฟฟ้า+แรงคน+solar ของน้าตอบ concept สมมุตินี้ได้ ผมว่าก็สุดยอดแล้วครับ
แล้วค่อยพัฒนาต่อเป็น "รถยนต์" อีกทีครับผม ขอเอาใจช่วยหัวใจนักประดิษฐฺ์นะครับ ^^

ผู้แสดงความคิดเห็น M(น่ารัก) วันที่ตอบ 2013-02-24 23:00:06 IP : 122.154.128.194


ความคิดเห็นที่ 13 (3359612)
avatar
thailand only

 

 

      คนไทยคิด คนไทยทำ ผมขอสนับสนุนเป็นกำลังใจให้ครับ ต่อยอดกัน สู้ๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น thailand only วันที่ตอบ 2013-02-24 22:40:50 IP : 118.175.53.238


ความคิดเห็นที่ 12 (3359602)
avatar
สายลม

คุณ ศักยวิชญ์  จันทร์สีหราช คิดและทำต่อไปให้สำเร็จนะครับมีทางเป็นไปได้ครับ ถึงจะได้แค่วิ่ง 12 ชม. แต่ต้องชาร์จไฟ 6 ชม.ได้ก็สุดยอดแล้วครับทำเป็นขั้นบันไดครับให้คนอื่นคิดต่อยอดจากเราได้...ที่สำคัญต้องลงมือทำอย่าคิดอย่างเดียว...เอาใจช่วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น สายลม วันที่ตอบ 2013-02-24 19:23:07 IP : 27.55.155.89


ความคิดเห็นที่ 11 (3359600)
avatar
สายลม

ถ้าคุณสามารถทำได้ครับแต่ต้องทำให้ Pin = Pout  ตามคห.ที่8,10

ผู้แสดงความคิดเห็น สายลม วันที่ตอบ 2013-02-24 19:04:51 IP : 27.55.155.89


ความคิดเห็นที่ 10 (3359207)
avatar
ขับ estate เก่าๆ

 ยืนยันตามคุณเล็กครับ การคิดคอนเซปต์ลักษณะนี้เป็น pepertual machine หรือเครื่องจักรนิรันดร์ ซึ่งเป็นการใส่พลังงานเข้าไปค่าหนึ่งแล้วเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างอื่นได้มากกว่าที่ใส่ไป 

กรณีนี้ขัดกับกฎการอนุรักษ์พลังงาน ที่ระบุว่าพลังงานไม่มีเพิ่ม ไม่มีสูญหาย แต่เปลี่ยนรูปไป (เว้นพลังงานนิวเคลียร์)

ระบบของคุณเปลี่ยน ไฟฟ้าในแบตเตอรี่ = พลังงานจลน์ที่ทำให้รถเคลื่อนที่+ชนะแรงเสียดทาน+แรงเสียดทานสถิตย์+แรงต้านกระแสลม+เสียง+ความสูญเสียในระบบชุดเกียร์+ความสูญเสียในระบบมอเตอร์ขับ (efficiency มอเตอร์ไฟฟ้าเต็มที่ก็ 90% ไม่ถึงร้อยนะครับเท่าที่ผมทราบ)+พลังงานที่คุณชาร์จเข้าแบต (มันหน่วงเครื่องเอาการนะครับลองสังเกตไดชาร์จเวลาชาร์จเข้าก็ได้รอบตกเลย) 

จากสมการนี้รถชาร์จแบตเข้าไม่เต็มที่อยู่แล้ว จริงๆแล้วอาจจะหน่วงให้รถคุณวิ่งช้าลงก็ได้ การชาร์จไฟตอนวิ่งมอเตอร์ย่อมสร้างความหน่วงให้ระบบอยู่แล้ว เหมือนวิ่งรถแล้วเหยียบเบรกนิดๆนั่นแหละ

hybrid เขาเอาพลังงานที่ควรจะกำจัดทิ้งจากระบบมาเปลี่ยนเป็นแบต เช่น การเบรก หรือปล่อยไหล และที่สำคัญคือเขาเอากำลังมอเตอร์มาทดแทนการช่วงเร่ง ของเครื่องยนต์ครับ เพราะการเปลี่ยรรอบเครื่องโดยการเร่งอย่างรวดเร็วจะเป็นสิ้นเปลืองพลังงานมาก ลำพังแค่เครื่องยนต์เบนซินเดินรอบนิ่งได้ประสิทธิภาพในการใช้พลังงานถึง 70% ก็ยากแล้ว เขาเลยเอามอเตอร์มาแทนเพื่อรอบเครื่องจะได้ไม่ต้องกระชาก

  ความสนใจและวิสัยทัศน์ที่ดีเป็นประโยชน์ครับถ้าหมั่นศึกษาหาข้อมูลมากๆน่าจะทำให้ได้สิ่งประดิษฐ์ที่มีประโยชน์ออกมาได้ครับ จริงๆตอนนี้รัฐบาล และค่ายรถหลายค่ายเขาสนใจ fuel cell ครับ เพราะมันขนถ่ายได้ง่าย ใช้พลังงานหมุนเวียนได้ เบากว่าแบตเตอรี่ สร้างมลพิษน้อยกว่า ไม่สร้างมลพิษ เพราะการสันดาปผ่านเซลล์เชื้อเพลิงได้น้ำกับไฟฟ้า เอาไฟฟ้ามาหมุนมอเตอร์ ติดทีว่าเมมเบรนมันแพง ถ้าวิจัยตรงนี้ให้ผลิตได้โดยต้นทุนต่ำจะทำให้บริษัทรถสนใจเป้็นอย่างมาก

ผู้แสดงความคิดเห็น ขับ estate เก่าๆ วันที่ตอบ 2013-02-19 23:01:05 IP : 171.7.213.197


ความคิดเห็นที่ 9 (3359204)
avatar
นัท

สุดยอดความคิดครับบ!!

ผู้แสดงความคิดเห็น นัท วันที่ตอบ 2013-02-19 22:37:28 IP : 118.173.80.92


ความคิดเห็นที่ 8 (3359201)
avatar
เล็ก

ในทางวิศวกรรม เป็นไปไม่ได้

หากคุณใช้กำลัง 1 KW คุณไม่สามารถสร้างพลังงาน 1 KW ได้ เนื่องจากต้องมี LOSS เกิดขึ้นด้วย

เรื่องรถ HYBRID นั้น เขาเห็นว่าในขณะขับรถ เมื่อจำเป็นต้องเบรครถ เราก็จะเสียพลังงานไปเปล่าๆ จึงเอาพลังงานที่เกิดขึ้นจากการเบรครถ มาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า และเก็บไว้ในแบตเตอรี่ เพื่อจะนำมาใช้ในภายหลัง

คุณศักยวิชญฺ์ลองพิจารณาดูอีกครั้งนะครับ หากผมเข้าใจที่คุณอธิบายมาผิดพลาดอย่างไร ก็ขออภัยด้วย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เล็ก วันที่ตอบ 2013-02-19 21:02:14 IP : 110.171.2.29


ความคิดเห็นที่ 7 (3359172)
avatar
ชวลิต

 ผมว่าไม่น่าจะพอนะครับ ผมว่าวิจัยไปในแนวทางเสริมการขับเคลื่อนหลักของมอเตอร์ไฟฟ้าน่าจะดีกว่า เหมือนกับรถไฮบริดปัจจุบันที่ใช้แบตเตอรี่เป็นแรงเสริมการขับเคลื่อนหลักของน้ำมัน แต่ต้นทุนระบบยังสูงอยู่ แต่ถ้าคุณทำแล้วต้นทุนทั้งระบบเสริมไม่กี่หมื่นบาท แล้วนำไปติดได้ในรถทุกคัน อันนี้แจ่มกว่าการทีต้องมาสร้างรถทั้งคันนะครับ แล้วทำสำเร็จก็ขายง่ายกว่า เหมือนตอนนี้ที่คนทำเครื่องกำเนิด Hydrogen จากน้ำมาเป็นพลังเสริมทำให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ผมเคยเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทด้านพลังงานทดแทนครับ ลองแนวทางที่ผมแนะนำดูนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวลิต (peterc-at-tstplaspack-dot-com)วันที่ตอบ 2013-02-19 15:36:30 IP : 124.122.98.60


ความคิดเห็นที่ 6 (3359126)
avatar
ต.ตุ้ย

ลองกับรถกอล์ฟน่าจะดี ถ้าใช้ความเร็วสูง+น้ำหนักมาก อาจไม่มีกำลังพอ..เคยเห็นข่าวที่ทำใช้กับจักรยานมา พอไหว โชคดีครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ต.ตุ้ย วันที่ตอบ 2013-02-19 09:02:55 IP : 124.120.37.26


ความคิดเห็นที่ 5 (3359101)
avatar
Sakyawich

พอเป็นไปได้มั้ยครับ  ถ้าหากว่าใช้เจนเนอเรเตอร์2 ตัว ติดล้อ 2 ล้อ สำหรับชาร์จไฟแก่แบต 1 ลูก (สรุปว่ารถ 1 คัน ใช้เจนเนอเรเตอร์ 4 ตัว) หรือให้ดีกว่านั้น  ใช้แบต 3 ลูก ลูกที่ 3 ใช้สำหรับเป็นตัวบาล๊านซ์ระหว่างแบตอีก 2 ลูก

ผู้แสดงความคิดเห็น Sakyawich (wat976-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-02-18 21:50:28 IP : 101.108.197.214


ความคิดเห็นที่ 4 (3359093)
avatar
ชวลิต

 แนวคิดดีครับ แต่การมีgenerator 2 ตัว และ batery 2 ตัว ยังไม่เพียงพอสำหรับการขับเคลื่อนแบบไม่มีที่สิ้นสุด เป็นได้เพียงเป็นแรงเสริมเท่านั้น สิ่งสำคัญคือต้องมีระบบสำหรับชาร์จไฟบ้านที่เป็นพลังงานหลักครับ แบตเตอรี่ที่ใช้ควรเป็นแบบ LI-Ion ครับ ส่วนจะต่อยอดเรื่องไฟบ้านก็อาจใช้โซล่าenergy ก็น่าจะโอนะครับ แบบว่าหากซื้อรถของคุณก็แถมโซล่าเซลล์ไปด้วย นานๆจะเจอคนที่มีไอเดียแบบนี้ครับ ขอชื่นชม

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวลิต (peterc-at-tstplaspack-dot-com)วันที่ตอบ 2013-02-18 20:06:38 IP : 125.25.87.150


ความคิดเห็นที่ 3 (3359092)
avatar
สงคราม

 ผมเข้าใจที่คุณคิด แต่สิ่งที่ข้ามไปก็คือ การชาร์ทไฟ จะทำได้ช้ากว่าการใช้ไฟ  สมมติว่าคุณขับล้อหน้า 1 ชั่วโมง ใช้ชุดหลังปั่นไฟเข้าเก็บ ..เมื่อกลับไปใช้ชุดหลังขับ  จะใช้ได้ไม่เต็มหนึ่งชั่วโมง จะเหลือประมาณครึ่งชั่วโมง...(เปรียบเทียบให้เห็น)  ในที่สุุดก็ต้องใช้เครื่องปั่นไฟช่วยอยู่ดี  แต่ก็น่าจะประหยัดได้มากกว่าเดิมอยู่ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น สงคราม วันที่ตอบ 2013-02-18 20:02:36 IP : 125.25.49.12


ความคิดเห็นที่ 2 (3359076)
avatar
ลูกบอล

ลองทำดูซิ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกบอล วันที่ตอบ 2013-02-18 16:30:50 IP : 202.183.155.30


ความคิดเห็นที่ 1 (3359075)
avatar
มรกต

อีกไม่นานในeco carน่าจะมีครับ แต่ปัจจุบันต้องใช้เครื่องยนต์ด้วยในการทำความเร็วสูง

ผู้แสดงความคิดเห็น มรกต วันที่ตอบ 2013-02-18 16:25:59 IP : 27.55.155.185



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.