วิ่งเท่าเดิมครับ   เทสด้วยตัวคูณค่าน้ำมันแล้ว    แค่เร่งแล้วมา 

อย่างเติม 1000  PTT ได้ 3 ขีด   แต่ Vpower ได้ 2 ขีดนิด ๆ  ใช่ครับเหมือน V จะวิ่งไกลกว่า ตามอัคราน้ำมันที่ได้  แต่เพราะหารด้วยค่าน้่ำมัน แล้ว เท่ากัน +- ไม่เกิน 6 กิโล

 ทุกวันนี้ผมเติมแต่ V-desel ครับ เพราะเพื่อนแนะนำมา ก็ ok ครับ

V- Power เขาดีจริงๆ แนะนำเพื่อนๆ หลายคนแล้ว ก่อนแนะนำก็ หลายคนเปลี่ยน หัวฉีดไปแล้วหลายราย ส่วนรถตัวเองใช้ประจำอยู่แล้ว

ถึงเป็นรถกระบะธรรมดา ก็ต้องดูแลหน่อยครับ เพราะรถมันราคาแพงกว่านำ้มัน555

กรุณาเข้าใจให้ถูกต้องด้วยว่าน้ำมันดีเซลทุกชนิดที่จำหน่ายอยู่ในประเทศไทยนั้น ตามกฏหมายจะต้องมีส่วนผสมของไบโอดีเซลตามกฏกระทรวงที่กำหนดเอาไว้ว่าในแต่ละช่วงเวลาจะต้องมีส่วนผสมของไบโอดีเซลร้อยละเท่าไร (เปลี่ยนแปลงอัตราส่วนเพราะขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำมันปาล์มที่มีอยู่ในตลาด ถ้าน้ำมันปาล์มขาดแคลนหรือมีราคาแพง อัตราส่วนก็จะถูกปรับลดลง) เพราะภาครัฐมีความต้องการลดการนำเข้าเนื้อน้ำมันและหันมาให้ประชาชนใช้พลังงานทดแทนแทน ดังนั้น Shell V Power ที่คุณคนแก่เข้าใจว่าเป็นน้ำมันดีเซลเพียวๆนั้น จึงไม่เป็นความจริง Shell V-Power มีส่วนผสมของไบโอดีเซลในอัตราส่วนตามที่กฏหมายกำหนดทุกประการ แต่ที่ Shell V-Power มีเหนือน้ำมันดีเซลยี่ห้ออื่นคือมีสารเพิ่มคุณภาพที่สกัดมาจากแก๊สธรรมชาติที่สามารถเพิ่มค่าซีเทนให้สูงกว่าน้ำมันดีเซลธรรมดา ซึ่งจำเป็นสำหรับรถดีเซลที่มาจากยุโรปเพราะรถเหล่านี้ต้องใช้น้ำมันทีี่มีค่าซีเทนสูงกว่ารถกะบะธรรมดา ในขณะที่สารเติมแต่งคุณภาพนี้ ก็มีสารชะล้างทำความสะอาดหัวฉีดผสมอยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้ว ด้วยเหตุผลดังกว่า ผมจึงเคยเสนอว่าสำหรับคนที่ค้องการทำความสะอาดระบบน้ำมันหลังจากใช้น้ำมันดีเซลธรรมดามาเป็นเวลานาน แทนที่คุณจะไปซื้อหัวเชื้อน้ำมันดีเซลเติมเอง แนะว่าให้หันไปใช้ Shell V-Power แทนการเติมหัวเชื้อเพราะคิดแล้วอาจจะถูกกว่าหัวเชื้อดีเซลที่มีราคาแพงและหัวเชื้อบางยี่ห้อมีสารกัดกร่อนที่ทำให้ชิ้นส่วนยางที่อยู่ในหัวฉีดจะถูกกัดกร่อนและทำให้เกิดการเสียหายจากการใช้หัวเชื้อดังกล่าวได้ โดยคุณสามารถใช้น้ำมันดีเซลธรรมดาไปสัก 10 ถังก็หันมาใช้ Shell V-Power สักหนึ่งถ้ง วิธีนี้สามารถล้างสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในหังน้ำมันชองคุณและสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ตามหัวฉีดให้หลุดออกมาได้ครับ  

ขอแจมด้วยคน ขับน้องจูน ผ่านไปแสนกว่าโล เริ่มมีเสียงแซดๆทุกครั้งที่เหยียบคันเร่ง  ถามเด็กทีศูนย์ สองศูนย์ ตอบเหมือนกันว่า เป็นที่หัวจ่ายคอมมอนเรล ต้องล้างถังและหัวจ่าย  เค้าว่าน้ำมันพวกไบโอดีเซลยังไม่เหมาะกับเครื่องคอมมอนเรลในปัจจุบัน  แต่ไม่รู้ทำไมถึงผลักดันกันนักหนา รวมทั้งตัวอาจารย์ก็เคยโฆษณาไว้ด้วยว่าใช้ได้ไม่มีปัญหา ศูนย์รับประกันแสนโล  พอแสนกว่ามันก็เริ่มมีอาการ  แต่มีเด็กที่ศูนย์คนนึงบอกว่าให้ใช้ v power เพราะยังเป็นดีเซลเพียวๆ ล้วนๆ ไม่ใช่ไบโอ  พอออกจากศูนย์ น้ำมันเหลือ 1 ใน 4 ก็ลองเติม v power เต็มถัง.....เสียงที่ว่า หายสนิท     แรงกว่าหรือประหยัดกว่าหรือเปล่าไม่ได้สังเกตุ  แต่เสียงแซดๆหายไปจริงๆ    ปัจจุบันใช้เติมสลับกันกับ ปตท ประมาณครึ่งถัง  หรือไม่ก็เติม ปตท ไปเรื่อยๆก่อน พอเริ่มมีเสียงอีก ก็เติม v power อีก  ทำอย่างนี้มาปีกว่าแล้ว  เสียงน่ารำคาญ ค่อยยังชั่วขึ้น   ใครเป็นเหมือนกันบ้าง....

ความรู้สึกผมก็แบบเดียวกับคุณผู้เฒ่านั่นแหละครับ ตอนออกรถมาใหม่ๆ ผมก็เติมแต่ ปตท.(หาปั๊มง่ายดี) ช่วงแรกขับรถยังไม่คล่อง ก็ไปช้าๆ ยังไม่เห็นความแตกต่าง พอผ่านไปนานๆ หน่อย เริ่มคล่อง เลยลองเหยียบคันเร่งให้แตะ 120 มันก็แตะ 120 ได้อยู่ แต่อืด ขับขึ้นเขาทางเหนือบ้าง ทำไมรถเรามันอืดๆ วะ ใส่เกียร์ 3 แล้วนา สังเกตว่ารถวีโก้ขับผ่านปิ๊ด ผ่านปิ๊ด เอ หรือเราขับรถไม่เป็นหว่า จับจังหวะรถไม่เป็น ช่วงนั้นเข้ามาในบอร์ดนี้เป็นประจำ คุณคนว่างวันอาทิตย์แนะนำให้เติม v-power สักถัง เวลาขึ้นเขา พอได้เติม v-power ครั้งแรก ติดใจ มันแซง มันเร่งได้ดั่งใจ ไม่อืด เหมือนเติม ปตท. บางจาก แต่ครั้นจะหาเติม v-power ทุกครั้งก็ไม่ไหว ปั๊ม shell ที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด ในระแวกนี้ อยู่ห่างกัน 80 กิโลเมตร เลยต้องจำยอมเติมน้ำมันอะไรก็ได้ไปก่อน อดทนเอากับความอืด พอได้ไปแถวๆ ที่มีปั๊ม shell ก็จัดการเติม v-power diesel ให้เต็มถังทุกครั้งไป

ป.ล. ท่านใดทำงานที่บริษัท shell แจ้ง MD ขอค่าโฆษณาโดยด่วน 555

เท่าที่เคยใช้และปัจจุบน ถ้ามีโอกาสเติมก็ยังใช้อยู่ และเคยจดสถิติการใช้ ไม่ว่าจะเปรียบเทียบกับยี่ห้อใดก็แล้วแต่ อัตราการกินน้ำมันได้อัตราส่วนที่เท่ากัน เพียงแต่ว่า วี เพาเวอร์เหยียบขึ้นรวดเร็วสะใจโก๋มากกว่า

ถึงว่า แถวๆ อีสานทั้งตอนบนและตอนล่าง หาปั๊มเซลส์ยากมาก มีแต่ ปตท. แต่ไปทางภาคเหนือหาง่ายพอสมควร

    สมัย estate เก่าๆ ยังอยู่กับผม เติม V power ก็แรงขึ้นแต่กินเท่ายี่ห้ออื่นๆครับ แต่เทคโลยีเครื่องเมื่อ 30 ปีก่อนคงเป็นบรรทัดฐานอะไรไม่ได้นัก

    อีกแง่มุมหนึ่งนะครับ เจ้าเพื่อนผมที่เป็นดีเลอร์วิ่งน้ำมันมันบอกว่า เชลล์เนี้ยบริษัทจะสั่งล้างถังค่อนข้างบ่อย และก็จะเก็บตังค์กับเจ้าของป้๊ม ทำให้ภาคอีสานไม่ค่อยมีเชลล์ เพราะสู้ค่าโสหุ้ยพวกนี้ไม่ไหว หันไปเป็นผู้ค้าน้ำมันอิสระกันเยอะ เพราะสั่งน้ำมันจากปตท. บางจาก หรือเจ้าอื่นๆได้ ตามที่เห็นว่าราคาส่งมันถูกกว่า เรียกว่าสหยี่ห้อในถังเดียว แต่ไม่เอา V Power มาปนแน่ๆ ๕๕๕๕๕

ถึงมันจะแพง แต่ถ้ามีโอกาสไปเจอปั๊มเซลส์ ผมจะเติมให้เต็มถังไว้ก่อนครับ สำหรับ v-power diesel แตกต่างกันมากครับในการขับขี่ ไม่ได้ค่าโฆษณาจากเซลส์สักบาทนะครับ ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ

 ขอบคุณทุกความเห็นมากครับ

ถูกต้องครับ Shell V power มีราคาแพงกว่า Shell Fuel safe Diesel  คือ 35.32 บาท/ลิตรเทียบกับ 32.33 บาท/ลิตร ผมถึงได้บอกว่าถ้าคุณเป็นรถกะบะของญี่ปุ่น อยากจะใช้ก็ใช้ได้ แต่ขอให้ใช้เฉพาะกิจตามที่ได้พูดมาข้างต้น ส่วนถ้าคุณเป็นคนมีฐานะ ขี่เบนซ์ดีเซลหรือบีเอ็มดีเซล แนะนำให้ใช้ V-power ไปเลย เพราะเครื่องยนต์ที่คุณใช้นั้นมีคุณภาพสูงกว่าเครื่องยนต์ของญี่ปุ่นเยอะ แรงม้าและแรงบิดก็มากกว่า จึงแนะนำว่าใช้น้ำมันที่มีค่าซีเทนสูงกว่าจะช่วยรักษาเครื่องยนต์ และบุคคลที่มีปัญญหาซื้อรถประเภทนี้ไม่ควรที่จะมีปัญหาหาของดีๆมาเติมให้รถไม่ได้กระมังครับ เพราะฉะนั้น ผมอยากที่จะขอให้คุณประพันธ์กรุณาอ่านให้ดีๆและชัดเจน ว่าผมให้ใช้เฉพาะกิจเท่านั้นครับ อีกกรณีคือถ้าคุณใช้้นำมันดีเซลธรรมดาสัก 10 ถังสามารถหันมาเติม V-Power สักหนึ่งถังก็ดีเพราะจะได้ให้น้ำมันตัวนี้เข้าไปทำความสะอาดระบบส่งน้ำมันคือแทนที่จะซื้อหัวเชื้อที่ไม่มีคุณภาพเติมก็ใช้ V-Power ให้มันทำหน้าที่ของมันแทนครับ กรุณาจำไว้ด้วยเลยว่าน้ำมันดีเซลที่เราเติมอยู่ทุกวันนี้มันสกปรก คุณภาพต่ำ และอาจจะถูกปลอมปน การที่เราเอาน้ำมันคุณภาพดีเข้าไปล้างทำความสะอาดระบบอย่างน้อยทุก 10 ครั้งต่อการเติมน้ำมันคุณภาพดีหนึ่งครั้งนั้น มันช่วยยืดอายุระบบหัวฉีดของคุณได้นะครับ    

v-power ดีเซล มันแพงกว่ายี่ห้ออื่นๆ สองบาทกว่าๆ เชียวนะครับ

 จริงแต่ถ้าเทียบเป็นจำนวนเงินที่จ่ายต่อกิโลเมตรแล้วพอๆกัน

เจ้าของกระทู้ถามถึง v power ดีเซล เห็นมีแต่คุณคนว่างวันอาทิตย์คนเดียวที่พูดถึง v power ดีเซล

ผมขี่ Harley เติมทุกตัวแล้วที่เป็น95 วิ่งต่างจังหวัดไปกลับ450Km.ไม่ค่อยเห็นความแตกต่างนะครับ แต่จะประหยัดกว่าเพียง3ลิตรเท่านั้นเอง อาจเป็นเพราะรถเหมาะกับค่าออกเทนนี้หรือเปล่า เพราะขับรถยนต์1500cc.เติม95ประหยัดกว่า91และEเช่นเึคย สรุป95ดีที่สุดครับ

Shell V-Power Diesel เป็นน้ำมันเกรด Premium ที่จุดเด่นอยู่ที่ตัวน้ำมันสะอาดกว่าดีเซลธรรมดาและมีค่าซีเทนสูงกว่าน้ำมันดีเซลธรรมดาทั่วไป รถที่เหมาะที่จะใช้ V-Power Diesel ควรที่จะเป็นรถพวก BMW, Mercedes Benz เครื่องดีเซลเพราะตัวรถเองมีราคาแพงและเจ้าของรถเหล่านี้เป็นคนมีฐานะดีพอที่จะเติมน้ำมันเกรด Premium นี้ได้โดยไม่เดือดร้อนเงินในกระเป๋า และรถที่กล่าวถึงข้างต้นนั้น เป็นรถยุโรปที่ควรใช้น้ำมันเกรด Premium ที่มีค่าซีเทนสูง จะทำให้เครื่องยนต์ทนทานและอัตราเร่งที่ดี สำหรับรถกะบะทั่วไปนั้น น้ำมันดีเซลธรรมดามีค่าซีเทนเพียงพอกับการใช้งานตามปรกติอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปใช้ V-Power ให้สิ้นเปลืองเงิน ยกเว้นในกรณีที่เจ้าของรถใช้รถในพื้นที่ๆเป็นภูเขา ต้องขับรถขึ้นขาขึ้นดอยตลอดเวลา แนะนำว่าการใช้น้ำมันระดับ Premium เช่น V-Power Diesel จะช่วยให้ขับง่ายขึ้น รถมีแรงเพิ่มขึ้นเมื่อต้องเจอเส้นทางสูงชัน รถจะมีแรงในการไต่มากขึ้นนั่นเอง  แต่มันไม่ได้ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงและไม่ได้ช่วยให้วิ่งได้ไกลขึ้นตามที่คุณเข้าใจแม้นแต่น้อยครับ การประหยัดที่ถูกต้องคือต้องคอยตรวจสอบลมยางให้อยู่ในเกณท์มาตราฐานตลอดเวลา ตรวจสอบช่วงล่างว่าจะต้องสมบูรณ์ ยางจะต้องเปลี่ยนเมื่อถึงกำหนดเพราะยางเก่าจะเพิ่มอัตราการกินน้ำมันให้สูงขึ้นจนน่าตกใจ สุดท้าย ห้ามลากเกียร์เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองสูง    

ผมว่าไม่นะ ถ้าเทียบกับ คาสเท๊ก เทกรอน อ่ะ ...   vpower ใส่แล้วเหมือนรถแรงขึ้นเหยียบกระจาย พอเหยียบมาก ๆ หมดเร็วอีก จ๊าก

ไม่ได้ใช้เฟอรารี่ครับ ไม่มีโอกาสลอง

เติมเต็มถังแล้วจดกิโลไว้ ครั้งต่อไปก็นำมาคิดเป็น กม/ลิตร

ที่ใช้อยู่ก็คือ บางจาก / เอสโซ่ / คาลเทกซ์ / เชลล์ / ปตท.

บางจากจะได้ระยะทางมากกว่า นิดเดียว