เมื่อมี สิทธิ ก็จะมี หน้าที่ ตามมา

ปฏิบัติตามหน้าที่ก็จะได้สิทธิ

หน้าที่ของความเป็นพลเมืองที่อยู่ภายใต้กฏหมายและได้รับสิทธิตามกฏหมาย

ทุกวันนี้เรานึกถึงและเรียกร้องแต่สิทธิ จนลืมทำหน้าที่

เนี่ยแหละสังคมไทยมีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันไป ใครทำอะไรมันก็ย่อมได้ผลนั้นตอบแทน ไม่มีใครที่ทำผิดแล้วยอมรับผิดหรอกมันก็อ้างนู้นอ้างนี่ไปเรื่อย ทุกคนก็เคยทำผิดมาทั้งนั้น ปืนอยู่ที่ตัวยังโดนแย่งไปได้(ไม่ได้เกิดขึ้นเป็ฯครั้งแรก) น่าจะเปลี่ยนมาเป็นปืนไฟ้ยิงแล้วแค่ให้มันช๊อตทำอะไรไม่ได้ชั่วขณะ จะได้ไม่ต้องมีการสูญเสียเกิดขึ้น

ผมพอจะจำได้ว่าเคยมีการออก พ.ร.บ.ว่าด้วยการติดฟิลม์   แต่มีคนจำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วย   แล้วก็มีการชลอ  ที่จะออกพ.ร.บนั้นออกไป   แต่พอถึงเวลาที่ให้ชลอครบกำหนด  ก็มีคนไม่เห็นด้วย  โดยมีประเด็นที่ถกเถียงกันว่าควรจะกำหนดให้ติดใด้กี่% และหาก  หมาต้า ตรวจจะตรวจกันอย่างไร  ในครั้งนั้น มีการพูดกันในอีกหลายเรื่อง  สรุปว่ายืดการออกพ.ร.บ.ไปไม่มีกำหนด    ก็นักการเมืองกับข้าราชการ    และคนมีตังส์  นั้นแหละ  ตัวดี   

ผมเชื่อว่า ติดฟิล์มมืดแล้วมันจะทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ลดลง มันก็อยู่ที่วิจารณญานของผู้ใช้รถ ว่าจะเลือกอะไร ระหว่างความเป็นส่วนตัวอะไรของมัน กับ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง

และไอ้พวกใส่หมวกขับรถ (รถเก๋ง) เขาใส่เพื่ออะไร ผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ (ไม่รู้จริงๆ) 

มันเป็นปัญหาระหว่าง คนที่มีชุดข้อมูลในการใช้ชีวิต

"ข้อมูลแบบวิทยาศาสตร์"กับ"ศาสนา"กับ"ไสยศาสตร์(ความเชื่อ)"

ก็ลอกเขามาเช่นเคย

ก็แค่การเกี๊ยะเซียะระหว่างหน่วยงานราชการกะคนขายฟิล์ม เราคงไม่เกี่ยว (ถ้าเราไม่ได้รับผลกระทบเอง)

อยากจะบอกอีกกรณี ที่เกี่ยวกับรถฟิล์มมืด หมู่บ้านที่ผมอยู่ โดนยกเค้ากันหลายหลัง ข้อสังเกตเมื่อถามไถ่กันว่าตอนออกจากบ้านเห็นรถฟิล์มมืดจอดอยู่หรือเปล่า? บางคนเห็นแต่ไม่ได้ใส่ใจ เพราะคนสมัยนี้จอดรถนอกบ้านเพราะเอาพื้นที่ในบ้านไปใช้อย่างอื่น ยามก็ไม่กล้าไปป้องส่องดูว่ามีคนในรถหรือเปล่า? แต่เวลามีการโดนยกเค้า ยามและบริษัทยามโดนก่อน เมื่อเข้มงวดให้ลดกระจกก็โดนหงุดหงิดใส่ ของหายก็โดนด่า ต้องชดใช้

ขอเป็นอีกเสียงที่ไม่เห็นด้วยกับการติดฟิลม์ดำรอบคัน จนมองจากภายนอกไม่เห็นอะไร ส่วนใหญ่อ้างเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ไม่เคยคำนึงถึงเพื่อนผู้ร่วมเส้นทาง ส่วนใหญ่ที่ติดจะทำในสิ่งที่ไม่ดี อีกข้อที่ขอเชียร์ขับมอเตอร์ไซค์ใส่หมวกกันน็อคเถอะครับ จะถูกต้องตาม มอก.หรือไม่ เป็นอีกเรื่อง แต่ขอให้ใส่ ผิดพลาดใดขึ้นมาไม่ได้น็อคคนเดียว คนชนคุณก็น็อคด้วย

มันมีกฎหมายไม่ใช่หรือครับ เกี่ยวกับการติดฟีล์มในรถเนี้ย ผมจำไม่ได้ว่าให้ติดไม่เกินกี่% เจ้าของรถไม่ปฎิบัติตามเอง..

สังคมปัจจุบัน  มีคนจำนวนหนึ่งคิดถึงแต่เรื่องของตนเอง  ไม่คิดถึงคนอื่น   ไม่รู้จักคิดเอาใจเขามาใส่ใจเรา  พ่อแม่ก็ไม่ค่อยสอน  ไปโรงเรียนครูก็ไม่สนใจ

อตัมมยา ตัวกูของ ตถตา ลอก มาเขียน หนะ ครับ

          ม้งศักดิ์ ณ เชียงตุง

อยากฟังแรงๆโดยไม่คิดว่าแสลงใจจริงหรือครับ  สมมุติว่ามีคนบอกว่า  เหลืองบอกมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เลยปิดสนามบิน  คนนับหมื่นเดินทางไปไหนมาไหนไม่ได้  พวกมึงมีสิทธิอะไรไปล่วงละเมิดสิทธิการเดินทางของคนอื่น   แดงบอกพวกกูก็อยากมาทวงถามสิทธิ  ปิดถนนปิดทางแยก  คนไปไหนมาไหนลำบาก  ผมขอถามว่า แล้วกูจะไปทำธุระได้ยังไง  รัฐธรรมนูญบอกว่าพวกมึงมีสิทธิมาละเมิดสิทธิของกูรึไงไว   เรื่องนี้ผมเมานอนหลับแล้วฝันว่ามีคนมาถามผมเท่านั้นเองครับ 5555555

เห็นด้วยกับ ทุกความเห็น เลยครับ  สิทธิส่วนบุคคลกับการละเมิดสิทธิคนอื่น มีเส้นแบ่ง บาง ๆ เองครับ  พวกฟิล์มมืดสร้างความเป็นส่วนตัวแต่มีภัยอย่างมากมาย เหมือนกรณีนี้ ถ้าฟิล์มบางหน่อยไม่ปรอท ก็สามารถประเมินสถานะการณ์ได้ ไม่สูญเสียบาดเจ็บรุนแรง พวกฟิล์มดำหรือปรอท คนภายนอกไม่เห็น ก็ให้ความช่วยเหลือไม่ได้ ก็ต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรม ถูกจี้ ปล้น ข่มขืน ก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง

แต่ในส่วนของตำรวจผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ผมเห็นใจในครอบครัวครับ แต่ส่วนตัว ตำรวจคิดว่าตัวเองมีเครื่องแบบ ไม่มีใครกล้า ไม่ระวังตัว ก็ต้องโดนซะ

 คนไทยถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุก่อนหรือเกิดความรุนแรงขึ้นมาก็จะไม่มีจิตสำนึกที่จะนึกถึงความปลอดภัย เช่นเดียวกับอุบัติเหตุรถตู้ 9 ศพ แต่ตอนนี้ก็เงียบไปแล้ว เหมือนไฟไหม้ฟาง ทุกวันนี้มีรถมอร์เตอร์ไซวิ่งย้อนศรเยอะมากและถ้าไม่เกิออุบัติเหตุหนักๆ ขึ้นมาคงไม่มีใครสนใจ นี้คือประเทศไทย ทำอะไรตามแต่จะสะดวกใจคือไทยแท้ ใครที่ทำตามกฎกติกาคือผู้ที่เสียผลประโยชน์ มันถึงเจริญช้ากว่าประเทศอื่นๆ 

 ตั้งแต่เด็กจนโต และกำลังเข้าสู่ วัยกลางคน ก็ได้ยินแต่เรื่องการศึกษาพัฒนาคน แต่พวกการศึกษาสูงที่ชูคออยู่ในสภาไม่รู้ว่าพัฒนาไปถึงไหน

ปรกติไม่ค่อยกินเส้นกับตำรวจ เพราะเจออะไรที่ไม่เข้าท่ามาเยอะ คิดว่าหลายท่านคงเคยเจอมาไม่มากก็น้อย แต่เหตุการณ์ล่าสุดคิดแบบเป็นลาง

ก็เห็นใจตำรวจครับ เพราะมันเกิดขึ้นเร็วมากไม่กี่นาที คงไม่มีใครมีข้อมูล ว่าในรถมีตัวประกัน หรือผู้บริสุทธิ์ แม้คนที่เห็นกับตาก็คงไม่สามารบอก

ได้ว่าในรถมีตัวประกันหรือไม่ หรือหากเห็นก็คงบอกไม่ทัน พูดไปก็หงุดหงิดกับประเทศไทย ไม่รู้จะบอกว่าโชคดีที่เกิดเป็นคนไทย หรือโชร้า

กันแน่กับประเทศที่คนที่เอาเปรียบคนอื่นได้เป็นคนเก่ง คนซื่อๆ ดีๆเคารพสิทธิ์คนอื่น กลายเป็นคนโง่ ถ้าเป็นคนปรกติ ตั้งแต่ตื่นมาก็หงุดหงิด

แล้วครับ เวลาไปต่างประเทศ ไม่เห็นว่ามันน่าภูมใจตรงไหนเลยกับการถือพาสปอร์ตไทย 

ครับกับนิสัยคนไทย

ฟิมล์มืดมากๆสร้างโลกส่วนตัว ขณะที่รถข้างหลังอ่านสภาพถนนข้างหน้าไม่ได้ ทำให้มีโอกาสชนมากขึ้น..ทุกคนมีสิทธิแต่ควรอยู่ในกรอบของความรับผิดชอบในสังคมครับ

เห็นพูดเรื่องสิทธิขึ้นมา ก็เลยอยากจะแสดงความเห็นส่วนตัวบ้าง

ผมเห็นด้วยกับ คห.1 ในขณะนี้รู้สึกว่าคนไทยจะเรียกร้องสิทธิกันมากเหลือเกิน แต่ไม่ค่อยจะรู้ว่าหน้าที่คืออะไร

โดยความเป็นจริงแล้ว สิทธิและหน้าที่จะต้องมาพร้อมๆกัน ความสงบสุขถึงจะเกิดขึ้น ขอได้โปรดสังวรห์ไว้ด้วย

ประเทศไทย จัดอยู่ในกล่ม "ประเทศกำลังพัฒนา"........

ขอตอบเองอีกนิด หน้าที่ของคนใช้รถใช้ถนนคือ การรับผิดชอบความปลอดภัยของเพื่อนร่วมทาง การทำลายทัศนวิสัยในการมองเห็นของตนเองในเวลากลางคืนด้วยการอ้างสิทธิความเป็นส่วนตัว ติดฟิล์มมืดมากๆ เป็นการละเมิดสิทธิของผู้ใช้รถท่านอื่นและไม่ทำหน้าที่ของผู้ใช้พื้นที่สาธารณะที่ตระหนักถึงส่วนรวม ขออภัยที่อาจให้เคืองไปบ้าง แต่คงต้องขอระบาย