|
อยากถามเรื่องการเติมลมยางครับ ใช้มาตรฐานข้างประตูรถหรือใช้ที่เขาบอกเล่ากันมา | |
laka | อย่างรถเก๋ง เขาให้เติมทุกล้อ 30 หมด รถกระบะทุกล้อ 40 หมด ถ้าบรรทุกของก็ให้เติม 45 ประมาณนั้น แต่ดูที่มาตรฐานข้างประตูรถแล้วเติมน้อยกว่ามาก เมื่อถามผู้รู้ (หรือผู้เดา) บางท่านก็ว่าเป็นมาตรฐานเมืองนอก ใช้ไม่ได้กับเมืองไทย รถผมก็เลยเติม 30 มาตลอด แบบนี้ถูกต้องมั๊ยครับ แล้วล้อหน้ากับล้อหลังต้องเติมเท่ากันมั๊ยครับ เห็นเวลาเติมลมจักรยานเขาให้เติมล้อหน้าอ่อนกว่า |
ผู้ตั้งกระทู้ laka :: วันที่ลงประกาศ 2010-07-19 16:54:43 IP : 110.168.90.199 |
1 |
ความคิดเห็นที่ 15 (3415370) | |
ธนิก อินทนิล | ผมใฃ้ยางรถเก๋ง 215/60/16 เติมลม 35 ปอนด์ ตอนใส่ยางใหม่นิ้มมาก ผ่านไป 1 อาทิตย์ยางเริ่มแข็งต้องปล่อยออกเกิดจากสาเหตุุไรครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ธนิก อินทนิล วันที่ตอบ 2016-09-07 08:10:35 IP : 223.206.120.16 |
ความคิดเห็นที่ 14 (3415267) | |
นิน | กะบะยาง215เติมลมเท่าไรคับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น นิน วันที่ตอบ 2016-09-04 17:45:49 IP : 49.49.106.146 |
ความคิดเห็นที่ 13 (3394352) | |
เดย์ | ขณะบรรทุกของหลังกระบะ สามารถเติมลมได้ไหม และกรณีเติมลมไนโตรเจนมาก่อนจะเติมลมธรรมดา จะมีผลกับยางรถหรือเปล่าครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เดย์ วันที่ตอบ 2014-08-31 16:02:44 IP : 27.55.217.78 |
ความคิดเห็นที่ 12 (3197792) | |
xx | ตอบได้สะใจโก๋จริงฯ..ผมเคยเติมอ่อนใว้ให้รถนิ่ม ยางละเบิดไปสองเส้น เป็นบั้งไปสองเส้น เสียเงินโดยใช่เหตู... |
ผู้แสดงความคิดเห็น xx วันที่ตอบ 2010-07-21 13:03:20 IP : 113.53.114.194 |
ความคิดเห็นที่ 11 (3197642) | |
น้าเลิศ | อันที่จริงท่านอาจารย์เดชและพี่คนว่างเคยบอกผมว่าไม่ต้องไปเติมตามคู่มือก็ได้ แต่ผมมันโรคจิตและดื้อจึงเติมแบบเป๊ะๆตรงตามข้างประตูตอนรถจอดนิ่งๆไม่ได้วิ่งไปไหน แต่รู้สึกเองได้ว่ามันวิ่งและไม่ได้ถูกโฉลกก็คิดว่าต่อไปคงต้องเติมตามที่พอใจดีกว่าตามคู่มือครับ แต่พยายามไม่ให้ต่างจากคู่มือมากนักครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น น้าเลิศ วันที่ตอบ 2010-07-20 17:30:26 IP : 57.59.164.229, |
ความคิดเห็นที่ 10 (3197619) | |
น้าเลิศ | อาจารย์ครับแรงดันผมหมดครับเพราะเมื่อคืนคุยกับญี่ปุ่นพี่แกเล่นอัดบุหรี่ตลอด ไมเกรนผมกำเริบจนป่านนี้ยังไม่ทุเลาเลยครับ ทานcafegotจนใจสั่น |
ผู้แสดงความคิดเห็น น้าเลิศ วันที่ตอบ 2010-07-20 15:09:44 IP : 1.46.159.51 |
ความคิดเห็นที่ 9 (3197573) | |
พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ | ตัวน้าเลิศเองนั่นละ ที่ต้องเช็ค "แรงดัน" บ่อยๆ เพราะใช้งานบ่อยเหลือเกิน |
ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ วันที่ตอบ 2010-07-20 11:45:35 IP : 125.27.46.12 |
ความคิดเห็นที่ 8 (3197547) | |
M(น่ารัก) | น้าเลิศไม่แย้งอาจารย์เหรอครับ อิอิ เพราะเรื่องยางเนี่ย เหมือนน้าเลิศไม่ชอบยางแข็งนะครับ ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นยางอ่อน เน้นยางบาง ไม่ก็เสริมลายหรือกลิ่นพิเศษด้วยไม่ใช่เหรอครับ อิอิอิ ส่วนยางรถผมก็ชอบเติมแข็งกว่าปกตินิดหน่อยครับ เวลาปั่นล้อฟรีแล้วมันนิ่งกว่า ไม่สะบัดเหมือนลมอ่อนตามเสป็คน่ะครับ อิอิ |
ผู้แสดงความคิดเห็น M(น่ารัก) วันที่ตอบ 2010-07-20 10:10:53 IP : 202.12.97.116 |
ความคิดเห็นที่ 7 (3197537) | |
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ | แต่ที่แน่ๆนะอาจารย์ น้าเลิศแกวัดลมยางทุกครั้งที่ว่างครับ แรงดันผิดไปนิด เป้นต้องรีบเติม เกินไปหน่อย ต้องรีบลด จนภรรยาน้าเลิศจะต้มที่วัดลมยางกับปั๋มลมให้กินแทนข้าวแล้วครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2010-07-20 09:42:05 IP : 58.8.244.130 |
ความคิดเห็นที่ 6 (3197504) | |
พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ | ขออนุญาตทั้งเสริมเห็นด้วยและเห็นแย้งบางประเด็นต่อไปนี้ การตอบเรื่องแรงดันลมยางทั้หงมด "เดา" ทั้งนั้นละครับ เพราะตัวเลขที่ข้างประตูที่บริษัทบอกมานั้น วิศวกรคนที่บอกไม่รู้หรอกว่าคุณจะใช้รถลักษณะอย่างไร ยกตัวอย่างเช่นการขับที่ความเร็ว 100 กม. กับ ที่ความเร็ว 140 กม. ก็ "ควร" เติมลมยางมากน้อยกว่ากันประมาณ 2 ปอนด์ต่อตารางนิ้วแล้ว เพื่อสมรรถนะและความปลอดภัย ลมยางจึงเหมือนเครื่องปรุงก๊วยเตี๋ยว ที่คนทำก๊วยเตี๋ยวได้แต่บอกว่าถ้าไม่ใส่น้ำปลาเลยจะไม่อร่อย แต่ใส่น้ำปลามากไปจะเป็นโรคไต แต่คนที่ชอบรสเค็มจะใส่มากกว่าคนชอบรสหวาน ดังนั้น แรงดันลมยางที่ดีสำหรับทุกคนจึงไม่มี อยู่ที่ความพึงพอใจและลักษณะการใช้งาน รถคันเดียวของผมก็ปรับแรงดันลมตามการใช้งานตลอดเวลา ส่วนสูตรของอาจารย์เลิศ ที่เชื่อว่าเติมด้วยเครื่องปั๊มประจำรถจะได้ลมที่เย็นกว่าไปปั๊มก็ไม่จริง เพราะทดลองแล้วพบว่า เครื่องปั๊มขนาดเล็กเมื่อต้องทำงานต่อเนื่อง ลมที่ได้จะมีความร้อนมากขึ้นเรื่อยๆครับ สรุปว่าแรงดันลม อาศัยที่บอกข้างปนะตูเป็นเกณฑ์ได้ แต่คุณต้องปรับหาค่าที่ลงตัวพอดีเหมาะกับความต้องการของคุณเองครับ และที่สำคัญยางแข็งดีกว่ายางอ่อนนะครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ วันที่ตอบ 2010-07-20 06:01:32 IP : 125.25.133.127 |
ความคิดเห็นที่ 5 (3197461) | |
น้าเลิศ | ลืมบอกไปว่ารถขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วนใหญ่บริษัทผู้ผลิตจะกำหนดให้เติมด้านหน้ามากกว่า หรือเท่ากันทั้งสี่ล้อ ขับเคลื่อนล้อหลังอย่างอแวนซ่าให้เติมหลังมากกว่าเพราะชุดขับ อยู่ที่ล้อหลัง ไม่ใช่บางศูนย์ที่เซลล์(ไม่รู้เรื่องรถเลยนอกจากขายอย่างเดียว) มักจะบอกว่าให้เติมหน้ามากกว่าเพราะข้างหน้ามีเครื่อง คำตอบแบบนั้นมันมั่วครับ ไม่อย่างนั้น Benz BMW ที่ขับหลังส่วนใหญ่แล้วเครื่องเขาอยู่หน้าทำไมเขาถึงกำหนดให้เติมหลังมากกว่าหล่ะครับจริงไหม |
ผู้แสดงความคิดเห็น น้าเลิศ วันที่ตอบ 2010-07-19 20:51:51 IP : 57.59.164.209, |
ความคิดเห็นที่ 4 (3197460) | |
น้าเลิศ | สำหรับความเชื่อว่ายางใหญ่ให้เติมเยอะยางเล็กให้เติมน้อยมันเป็นความเชื่อความรู้สึกมากว่าความรู้ที่ถูกต้อง ดังจะเห็นว่า MU7 ให้เติมลม 29 psi ทั้งสี่ล้อ Fortuner ให้เติม 30 ทั้งสี่ล้อ Avanza ทั้ง 1.3 /1.5 ให้เติมหน้า 31 หลัง 35 psi New Jazz/City หน้า 32 หลัง 30 psi แรงดันลมยาง ต้องเข้าใจก่อนนะครับว่ามันเป็นแรงดัน มิใช่ปริมาณ ที่ต้องเติมเยอะๆใส่ล้อใหญ่ๆ ส่วนใหญ่บอกว่าเติมตามคู่มือแล้ววิ่งไม่ดี นั่นก็เพราะสาเหตุหลักคือ เติมตอนยางร้อน เมื่อยางเย็นมันจึงเหลือแรงดันที่ต่ำกว่ามาตรฐานมากกว่า 2-3 psi ท่านลองซื้อที่วัดลมที่ได้มาตรฐานมาลองตอนยางร้อนยางเย็น หรือแม้กระทั่งตอนจอดมาตั้งแต่กลางคืนแต่มาวัดตอนจอดนิ่งๆเวลากลางวันแดดเปรี้ยงๆ ดูซิครับจะเห็นว่ามันต่าง รวมทั้งลมไนโตรเจนด้วย ทั้ง บีควิก ออโต้บอย ค็อคพิท และที่มีชื่อเสียงอีกหลายที่ ผมต่างลองมาแล้ว พบว่าเมื่อวิ่งไปแรงดันก็มากขึ้นเท่าลมปกติเลยครับ อย่างไรก็ดีถ้ายังไม่พอใจกับแรงดันของที่บริษัทผู้ผลิตกำหนดให้ก็ลองเพิ่มหรือลดแต่ไม่ควรต่างจากที่กำหนดมากนัก และอย่าลืมว่า ยางอ่อน วิ่งต่างจังหวัด อาจทำให้ยางระเบิดได้มากกว่ายางแข็งนะครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น น้าเลิศ วันที่ตอบ 2010-07-19 20:47:16 IP : 57.59.164.209, |
ความคิดเห็นที่ 3 (3197458) | |
น้าเลิศ | บริษัท Bridgestone เคยสำรวจพบว่ามีเพียง 6 % ของผู้ใช้รถที่เติมลมยางถูกต้อง เพราะอะไรทราบไหมครับ ผมเคยจอดรถแล้วถูกแดดเลียล้อ ล้อนั้นความดันลมยางเพิ่มมา 2 psi แล้วที่คนใช้รถวิ่งไปเติมที่ปั๊ม ท่านคิดว่าท่านจะได้แรงดันลมยางที่ต้องการหรือไม่ ยิ่งได้ที่วัดลมที่วัดตั้งแต่มอเตอร์ไซค์ยันรถสิบล้อ และวัดโดยเด็กปั๊ม คุณคิดว่ามันจะเพี้ยนไปเท่าไหร่ สำหรับผม ใช้ที่เติมลมแบบเสียบที่ใช้ไฟรถ และ ที่วัดลมของมิชลิน วัดตอนที่อุณหภูมิปกติ หรือถ้าวิ่งมาจอด ก็ให้จอดไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมง สำหรับท่านที่ไม่มีที่เติมลมแบบผม ก็ให้เติมก่อนกลับเข้าบ้าน โดยบวกไปประมาณ 3 psi จากแรงดันที่ท่านต้องการ แล้วตอนเช้าๆค่อยเอาที่วัดลมยางที่ได้มาตรฐานมาวัด และค่อยๆปล่อยลม โดยเอาเล็บที่นิ้วก้อยจิกปล่อยลมทีละนิด ลองดูครับแล้วท่านจะทราบว่าที่ผ่านมาความร้อนในลมยางแม้เพียงเล็กน้อยมันทำให้ท่านวัดลมยางแบบผิดๆมาตลอด ลมยางที่กำหนดให้ข้างประตูนั้นนอกจากเป็นการรับน้ำหนักแล้วยังมีความสำคัญกับการทรงตัวของรถยนต์รุ่นนั้นๆอย่างยิ่งยวดด้วยครับ สำหรับความเชื่อที่ว่า ยางใหญ่ให้เติมเยอะ ยางเล็กให้เติมน้อย |
ผู้แสดงความคิดเห็น น้าเลิศ วันที่ตอบ 2010-07-19 20:38:00 IP : 57.59.164.209, |
ความคิดเห็นที่ 2 (3197437) | |
yngwie | ปรกติ มาตรฐานโดยทั่วไปเติม 35 ถ้าไม่บรรทุก ถ้าบรรทุกก็เพิ่ม 38-40 ปอนด์อย่าให้แข็งมาก ส่วนยางอะไหล่เติม เผื่อไว้เลย 45 ปอนด์ เพราะถ้าเติมน้อยกว่านั้นเวลายางแบบ และต้องเปลี่ยนยางเอง กรณีไม่มีร้านเปลี่ยน จะช่วยได้มาก เพราะถ้าเติมน้อยมันจะอ่อนเกินไปเพราะลมมันจะซึมออกด้วยไม่มากก็น้อย พอเปลี่ยนเสร็จค่อยมาปล่อยลมออกเพื่อให้มันเท่ากัน เติมลมยางอ่อนเกินไป ยางสึกหรอเร็วโดยเฉพาะแก้มยาง เติมแข็งไปอาจจะไม่กินน้ำมันตามความรู้สึกเพราะยางแข็ง แต่กระด้างไม่นุ่มนวล เต้นเมื่อเจอถนนที่เป็นคลื่น หรือถนนที่ไม่ราบเรียบ |
ผู้แสดงความคิดเห็น yngwie วันที่ตอบ 2010-07-19 19:29:30 IP : 125.26.125.190 |
ความคิดเห็นที่ 1 (3197414) | |
ขจกท | เติมตามที่สติกเกอร์ประตูบอกไว้ คือ มาตรฐาน แต่ถ้าจะให้สูงกว่า หรือ ต่ำกว่า คุณคงต้องลองสังเกตวิธีขับรถคุณเองครับ ผมเองจะเติมมากกว่าสองปอนด์ ได้ผลประหยัดน้ำมัน (ทางใจ) |
ผู้แสดงความคิดเห็น ขจกท วันที่ตอบ 2010-07-19 17:22:15 IP : 203.146.189.99 |
1 |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 4859516 |