ผมเชียร์ให้รวมตัวกันนะครับ...แล้วยื่นฟ้องและนำผลที่ได้ตลอดจนการดำเนินการมาเผยเพร่ด้วยครับ..เพื่อที่สาธารณชนจะได้รับรู้..สู้ๆๆครับ

เป็นเรือ่งที่น่าเห็นใจอย่างยิ่ง เป็นความจริงต้องได้รับความยุติธรรมอย่างแน่นอน  ขอให้ผู้บริโภคคนไทยช่วยคนไทยด้วยกันและช่วยกันบอกต่อพวกเราต้องออกมาช่วยกันปกป้อง  และเรียกร้องสิทธิของเราเองตามกฎหมายที่ให้สิทธิผู้บริโภค    ต้องกำจัดพวกที่ขาดความรับผิดชอบให้ถูกลงโทษเสียบ้าง

ขอเล่าความจริงเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชนทัวไป ณวันนี้หมดความอดทนกับผู้ผลิต และผู้ประกอบการ ที่ขาดความรับผิดชอบ ในสินค้าที่ผลิตขึ้นมาสร้างปัญหาให้กับผู้บริโภคและหน่วยงานของรัฐ ที่ค้มครองผู้บริโภคก็บกพร่องต่อหน้าที่ ไม่ปกป้องและคุ้มครองสิทธิให้กับผู้บริโภคตามกฎหมายที่กำหนดไว้  ยังซ้ำเติมให้จ็บปวดทุกข์ทรมาร  มากกว่าเดิมไม่ได้ดำเนินการให้ผู้ร้องอย่าฉันได้รับการเยียวยาและความเป็นธรรมใดๆทั้งสิ้นอย่างนี้  เรียกว่าหน่วยงานของรัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ใชหรือไม่ท่านนายก  และท่านองอาจ คล้ามไพบูลย์  ช่วยตอบด้วย  ฉันทนทุกข์ทรมาร2ปี1เดือนกับการซื่อรถมาเพื่อซ่อม และอีก9 เดือนที่มาร้องต่อสคบ  แต่ไม่มีความคืบหน้าเรียกร้องหาความเป็นธรรมยังไม่ได้  ซื้อรถป้ายแดง 3;วันต้องนำเข้าซ่อม เวลา2ปี ซ่อมกว่า50ครั้ง  ปกปิดซ่อนเร้นปัญหาของรถตั้งแต่วันส่งมอบ โกงเบี้ยประกันชั้นหนึ่ง ทำสัญญาที่ไม่เป็นธรรม นำรถจากศูนย์อื่นมาส่งมอบให้(ทราบจากผู้จำหน่ายรับสารภาพกับ ส.ค.บ.) รถมีปัญหาตั้งแต่ป้ายแดง ผู้ผลิตและผู้จำหน่าย ไม่แก้ปัญหาอย่างจริงจัง นำปัญหาของรถคันนี้ไปแจ้งให้ผู้ผลิตรับทราบแต่ก็ถูกปฏิเสธการซ่อม ไล่ผู้ร้องกลับไปซ่อมที่ผู้จำหน่าย ปัญหาที่เกิดขึ้นผู้จำหน่ายก็จะบอกว่าไม่เป็นไรโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ร้อง นำเข้าซ่อมใหญ่เกื่อบ 3 เดือน ตั้งแต่ 6 มค. ถึง 26 มีค. 2552 ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ยังแก้ไม่จบ ผู้จำหน่ายก็จะบอกว่าให้นำกลับมาซ่อมใหม่ จากนั้นผู้จำหน่ายเริ่มไม่พอใจ ก็จะมีพฤติกรรมที่แสดงออกมาที่จะไม่ให้บริการ จนวันที 10 ตค 2552 จะนำรถเข้าซ่อมต่อจากที่ซ่อมก่อนหน้านั้นมา 3 วันแล้วยังไม่เสร็จ ซ่อมค้างเรื่องเบรค รอบกระตุกสั่น และอีกหลายรายการที่ซ่อมค้างอยู่ ผู้จัดการศูนย์เรียกเข้าไปคุยแล้วบอกว่าเราไม่สามารถให้บริการคุณได้ ไม่ว่าการบริการด้านใดๆของศูนย์ ให้คุณนำรถไปซ่อมที่อื่น การปฏิเสธครั้งนี้เป็นการปฏิเสธครั้งที่ 2 ของศูนย์จำหน่าย ผู้ผลิตก็ปฏิเสธ ผู้จำหน่ายก็ปฏิเสธ แล้วผู้ใช้รถจะนำรถไปซ่อมที่ไหนโดยเฉพาะปัญหาเรื่องเบรค เพราะก่อนหน้านี้ซ่อมเบรคมาแล้วหลายครั้ง เบรคหน้าซ้าย ขวา กินผ้าเบรคไม่เท่ากัน จนวันที่13 ตค. 2552 ปัญหาของรถคันดังกล่าวได้ทำให้ผู้ร้องประสบอุบัติเหตุบนถนน ด้วยระบบเบรคที่ทำงานผิดปกติ ณ ขณะนั้น ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการตรวจของแพทย์กระดูกต้นคอมี่รูปร่างผิดไปจากปกติ ต้องใส่เฝือกคออยู่เกือบ 2 เดือน รักษาอาการบาดเจ็บประมาณ 7 เดือนเศษ ได้รับความทุกข์ทรามานทั้งร่างกายและจิตใจ โดยไม่ได้รับการเยียวยา ผู้ร้องได้พยายามติดต่อ ทั้งผู้ผลิต และ ผู้จำหน่ายในทุกทางทั้งโทรศัพท์และมีจดหมายหลายฉบับส่งไปทั้งผู้ผลิตและผู้จำหน่าย แต่ทั้ง 2 ที่ก็เพิกเฉย และมิได้นำพาแต่อย่างใด จนผู้ร้องร้องไปที่ ส.ค.บ. ผู้จำหน่ายจึงมีหนังสือให้ไปซ่อมงานที่ค้างซ่อมเกี่ยวกับเบรค และอาการกระตุกสั่น ซึ่งรถคันนี้ก็มีปัญหาเกี่ยวกับเกียร์ น้ำมันเครื่องก็ยุบเติมหลายครั้งแล้ว ทั้งที่รถยังอยู่ในวรันตี 3 ปี 100,000 กิโล ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายยังปฏิเสธการซ่อมและอ้างว่าผู้ร้องผิดสัญญา แม้แต่ต่อหน้า ส.ค.บ. ก็ยังปฏิเสธการซ่อม และหาความรับผิดชอบใดใดไม่มี ยังกล่าวหาผู้ร้องผ่านสื่อ ในข้อความที่เป็นเท็จ เรื่องจริงที่สร้างความเสียหายให้ตัวเองไม่นำมาพูด แล้วยังกล่าวข้อความและพยานหลักฐานที่เป็นข้อความอันเป็นเท็จ ต่อเจ้าพนักงานของรัฐ จนทุกวันหนี้ผู้ร้องไม่แน่ใจว่า ส.ค.บ. คุ้มครองใคร 9 เดือนผ่านมาทำให้แน่ใจว่า หน่วยงานของรัฐมิได้ปกป้องสิทธิของผู้บริโภค ณ ตอนนี้ผู้บริโภคท่านใดมีปัญหาเรื่อ งรถยนต์ซีวิค แล้วต้องทนทุกข์ทรมานแบบฉัน อย่ารอเวลาให้มันเกิดอุบัติเหตุก่อนเหมือนฉัน ให้มาร่วมกันฝ้องศาลตามพรบ.พิจารณาความผู้บริโภค ผู้ร้องได้ตั้งทนายขึ้นมาดำเนินการ ผู้บริโภคท่านใดต้องการร่วมฟ้อง ติดต่อได้ที่ nut_kot@windowlives.com หรือ เบอร์โทร 0849328895

ขอร่วมด้วยนะ  เห็นด้วยกับคห 12  ถ้าผู้ผลิตไม่รู้จักรับผิดชอบความเป็นธรรมและความธรรมชอบ ต่อผู้บริโภคจะหาได้จากที่ไหน ๆๆๆๆ  อ๋อก็ฟ้องศาลเลยเป็นธรรม100% โดยเฉพาะสินค้าที่รู้ว่ามีปัญหา ยังนำมาขายให้อีกถีอว่าขาดความรับผิดชอบอย่างยื่ง อย่างกรณีนี้คงถูกsale หรอกตั้งแต่วันออกรถ ปัญหาอี่นๆก็ตามมา  ได้ข่าวว่า2คันที่ซื้อคืน มีปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัย ผู้ผลิตจึงขอซื้อคืน ถ้าไม่มีปัญหามีหรือที่จะซื้อคืนเพราะไม่ใช่นโยบาย  เห็นใจเจ้าของรถ และก็ไม่เคยออกมาพูดสักวันพวกเราคงรู้ความจริง  ว่าปัญหาคืออะไร  วันนั้นจะได้รู้กันว่าใครโกหก คงไม่มีใครอยากออกมาทุบรถตัวเอง ถ้าไม่ถูกบีบคั้น โดยหาทางออกไม่ได้  และถูกปฏิเสธความรับผิดชอบ ทำไมผู้บริโภคคนไทยจึงถูกกระทำ เป็นต่างชาติถูกฟ้องแบบกลับบ้านเดิมไม่ถูกแน่  หน่วยงานที่ดูแลผู้บริโภคทำงานหน่อย  อย่าให้คนไทยถูกทุนข้ามชาติรังแก  ...รักกันไว้เถิดไทยไม่ช่วยไทย...แล้วใครจะมาช่วยเรา  เลือดไทยเข้มข้นสู้ๆๆๆๆๆเพื่อความถูกต้อง  เอาใจช่วย ..ญ..เหล็ก.....

ฟ้องศาลเลยพี่  ผู้ผลิตผู้ขาย  มันบกพร่องเรื่องความรับผิดชอบ เราผู้บริโภคต้องรวมตัวกัน

คนไทยติดยี่ห้ออ่ะ

ฮ แปลว่ารถดี มีระดับ

ผมอยู่เมกาตั้งแต่ฮอนด้าเมืองไทย ยังเป็นวุ้น

ลักลอบนำเข้าจากฮ่องกง สิงคโปร์ โดย เฮงหมง รุ่น ซีวีซีซี ทีมีฉายาว่า เป็ดน้อย

เสร็จแล้วรัฐบาลก็สั่งคุ้มครองทารกอุตสาหกรรมประกอบรถในประเทศ

ฮ นำเข้าเลยตายสนิท คนนำเข้าเลยไปขายมอไซค์เหมือนเดิม

อยู่เดลาแวร์ ขับทั้ง ฮ ทั้ง อะคุร่า ไม่เห็นดีกว่ารถยี่ห้ออื่นเลย

เจอลมในอ่าวเซสพีค เห็นเซทุกคัน ฮะฮะ

ผมขออนุญาตมีความเห็นที่ต่างไปจากคุณอุทัยหน่อยนะครับ  ตามที่คุณ “คนว่างฯ” บอกนั้น บริษัทได้แถลงแล้วว่า ผู้ซื้อรถได้ซื้อรถรุ่นนี้ไปก่อนหน้านี้แล้วสองคัน และได้ทำเรื่องขอคืนรถและได้รับรถใหม่คืนมาแล้วทั้งสองคัน  ฟังแล้วมันน่าแปลกใจที่เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นได้ถึงสองครั้ง โอกาสที่จะเกิดขึ้นกับคนเดิมจะมีสักกี่เปอร์เซ็นต์

คำสำคัญในเรื่องนี้อยู่ตรงที่ว่า “ถ้ารถบกพร่องจริง” เท่าที่ผมเคยอ่านผ่านตามาในเว็บบอร์ดแห่งนี้ ปัญหารถซิวิครุ่นนี้ก็มีแต่รุ่นเครื่อง 1800 ที่เสียงดังตอนเดินเบา (ไม่เคยเจอเองนะครับ แค่อ่านมา) นอกนั้นก็ไม่เห็นมีใครแจ้งปัญหาอะไร

 ผมจึงคิดว่าถ้าผมเป็นบริษัท ผมคงรู้แล้วว่าเจอลูกค้าประเภทดินเป็นรอย (เขี้ยว) เข้าแล้ว ไอ้เรื่องจะเอารถเก่าไปย้อมแมวให้คงไม่กล้าทำ  เพราะขนาดของใหม่ซิง ๆ ยังทำเรื่องขอคืนเพื่อจะเอาคันใหม่เลย  สงสัยผมต้องขอเปลี่ยนความเห็นที่เคยพูดทำนองว่า เป็นนักธุรกิจประเภทไหนถึงยอมเซ็นสัญญาที่ตัวเองเสียเปรียบ เพราะจากข้อมูลตอนนี้ผมดูแล้วว่า เจ้าของรถไม่ได้ฉลาดน้อยอย่างที่ผมคิดในตอนแรก แต่รู้สึกจะฉลาดชนิดที่สามัญชนอย่างผมนึกไม่ถึงเอาเลยก็ได้ จ่ายครั้งเดียวแต่ได้ใช้รถใหม่สองคัน และกำลังจะลุ้นเอาคันที่สามอยู่ ครั้นไม่ได้ก็แบล็กเมล์ด้วยสื่อมันเสียเลย 

ก็แค่แสดงความเห็นเฉย ๆ นะครับ ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะไม่รู้ข้อมูลจริงทั้งหมด

ความเห็นส่วนตัวนะครับ...

ถ้ารถบกพร่องจริง...แม้ว่าต้องเปลี่ยนอีกกี่ครัน..ก็ต้องยอมนะครับ...

แต่โอกาศเป็นไปได้น้อยมาก  ที่คนๆเดียวกัน  จะได้รับรถที่มีปัญหาซึ้ๆกันหลายรอบ  หรือว่า   รถที่เปลี่ยนให้นั้น  ไม่ใช่รถใหม่จริงๆ.???

ล่า่สุด ได้ฟังรายงานข่าวจากทางรายการเรื่องเล่าเช้านี้ แจ้งว่า ทางฮอนด้าได้ออกมาแถลงให้สื่อมวลชนทราบว่า เจ้าของรถท่านนี้ ได้เคยซื้อรถรุ่นนี้ไปแล้วก่อนหน้านี้แล้วสองคัน และทั้งสองคัน เจ้าของท่านนี้ก็ได้ขอทำเรื่องคืนรถมาแล้วโดยทางบริาัทฯยอมซื้อคืนมาแล้วทั้งสองคันเต็มราคา ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ตอนที่ซื้อรถคันที่สาม ทางบริษัทฯถึงได้ขอให้เซ็นรับสภาพว่าจะขอใช้สิทธิเฉพาะการซ่อมและไม่ยอมให้คืนรถอีกเป็นครั้งที่สาม ซึ่งปัญหานี้ยังจะอยู่ในช่วงการต่อรองและการร้องเรียนกับทาง สคบ. อยู่ครับ

ถ้าจะถามว่าส่วนงานลูกค้าสัมพันธ์ผิดไหม ต้องตอบว่าผิด เพราะถ้าทราบว่าปัญหาจะลุกลาม เขาควรที่จะต้องวิ่งไปหาผู้บริหารและหาทางแก้ไขปัญหา อย่างน้อยรับผิดไปก่อนแล้วไปคุยกันหลังบ้านว่าใครผิดใครถูก ไม่ใช่ให้ลูกค้ามาทุบรถเล่นอย่างสนุกสนานต่อหน้าสื่อมวลชนแบบนี้ครับ แต่ถ้าจะมาให้วิเคราะห์ว่าใครผิดหรือถูกนั้น ไม่ขอวิเคราะห์เพราะข้อมูลของอีกด้านไม่มี และมันควรที่จะเป็นหน้าที่ระหว่างบริษัทฯและลูกค้าซึ่งผมก็เห็นด้วยว่าถ้าถึงที่สุดยังไม่พอใจ ควรที่จะฟ้องร้องต่อศาลไปเลยครับ 

กำลังจะรับรถรุ่นนี้แล้ว ต้องเอาไปลองขับก่อนไหมครับ อาจจะเจอปัญหา

หรือไม่ต้องแค่เช็คคร้าวๆก็พอ แนะนำทีครับ

อื้มก็น่าเห็นใจนะครับแต่ก็โทษเจ้าของด้วย แล้วก็โทษศูนย์ที่ยัดเยียดให้ลูกค้าด้วย ถือว่าเป้นประมาทร่วมครับ ส่วนเรื่องชื่อเสียงของรถก็ 1 ใน ล้าน ละครับ

กรุณากลับไปอ่านตัวเนื้อข่าวให้ละเอียดเสียก่อนว่า ในวันแรกที่จะออกรถ ทางศูนย์ฯพบว่ามีสิ่งผิดปรกติ จึงได้ขอเลื่อนไปเป็นออกอีกวันหนึ่งเพื่อแก้ไำข พอในวันออกรถ ทางศูนย์ฯก็ให้เอกสารมาเซ็นเพื่อยอมรับสภาพของรถว่าถ้ามีข้อผิดพลาดขึ้น เจ้าของจะไม่สามารถขอเปลี่ยนเป็นรถคันใหม่ได้ และจะต้องซ่อมรถคันนี้เท่านั้นโดยศูนย์ของฮอนด้า ซึ่งถ้าพวกท่านติดตามอาจารย์พัฒนเดช จะทราบดีว่าอาจารย์ทั้งสั่งและสอนพวกเราว่า ในวันรับรถ ถ้าพบว่ามีอะไรผิดกับรถ ต้องไม่ออกรถคันนั้น และจะต้องทำการตกลงกับศูนย์ฯซึ่งถ้าการเสียหายของรถมีมาก คุณก็มีสิทธิที่จะไม่รับรถคันนั้นไม่ว่าในกรณีใดๆ แต่นี่คุึณกลับไปรับรถพร้อมเซนต์ยินยอมเข้าไปอีก ปัญหามันถึงได้เริ่มจากตรงนี้ไงครับท่าน สาเหตุหลักคือกลัวจะไม่มีรถใหม่เอาไปใช้ในวันนั้นไงเล่าครับ ซึ่งจริงๆแล้วการไม่มีรถกลับไปในวันนั้นอาจจะดีกับท่านเจ้าของรถเสียอีกเพราะศูนย์ฯจะต้องหาทางแก้ไขหรือไม่ก็อาจจะหารถคันใหม่มาทดแทนใ้ไปแล้ว ส่วนเรื่องการแก้ไขหลังจากนั้น เนื่องจากผมไม่ทราบข้อมูลทั้งสองด้าน จึงไม่ขอวิจารณ์ในเรื่องนี้ครับ 

ข่าวนี้มีอะไรแหม่ง ๆ ชอบกล  ผมก็เคยซื้อรถใหม่มาหลายคัน ยังไม่เคยเจอที่เขาให้เซ็นยอมรับว่า ถ้ามีปัญหาอะไรจะไม่ยอมให้เปลี่ยนรถคันใหม่ แต่จะให้มาซ่อมที่ศูนย์นี้แทน เพราะหนังสือรับประกันเขามีออกให้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ไม่น่าจะต้องมาทำสัญญาอะไรเพิ่มเติม

 ในข่าวบอกว่าผู้ซื้อเป็นนักธุรกิจแต่ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงไปเซ็นสัญญาที่ตัวเองเสียเปรียบแบบนั้น แล้วเป็นสัญญาที่สมบูรณ์ มีพยานเซ็นรับรองด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนนี้จึงยังเป็นเพียงการรับข้อมูลเพียงด้านเดียวของสื่อ (ที่บอกว่าได้มาจากผู้ทุบรถ) แต่ยังไม่เสนอข้อเท็จจริงจากคู่กรณีให้หมดทุกด้าน  เท่าที่เคยทราบมา เมื่อหลายปีก่อนเคยมีคนทุบ CR-V แล้วได้เปลี่ยนรถคันใหม่มาแล้ว เพราะฉะนั้นก็ต้องฟังหูไว้หูกันหน่อย 

ที่พูดนี่ใช่ว่าศูนย์จะทำอะไรไม่ผิดนะครับ ผมเคยเจอกับตัวเองชนิดที่ทำไม่ครบตามสั่ง หรือทำนอกสั่งมาก็สองสามครั้ง แต่ก็ยังไม่ถึงขนาดคุยกันไม่รู้เรื่อง  แต่กรณีนี้ เท่าที่อ่านดูคงถึงขั้น “ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ” กันแล้ว  ถึงอย่างนั้นก็เถอะ การเอาสื่อมากดดันก็ไม่แน่ว่าจะได้ผลเสมอไป สื่อเขาอาจเล่นข่าวนี้แค่วันสองวันแล้วเลิกไป ถึงตอนนั้นคุณอาจต้องเผารถเพื่อจะให้เขาเล่นข่าวนี้อีก ถ้าเจ้ารถคันที่ว่ามันแย่ขนาดนั้นจริง ๆ ผมว่าผู้เป็นเจ้าของคงต้องยอมลงทุนจ้างทนายฟ้องศาล ทำไปตามกระบวนการยุติธรรม น่าจะได้ผลเป็นที่พอใจมากกว่าการใช้สื่อมาประจานบริษัท  หรือไม่อีกทีก็ลองหาแนวร่วมที่มีอิทธิพลต่อมวลชนหน่อย อย่างเช่น นิตยสารฉลาดซื้อ เขาก็มีสายตรงถึงสมาคมคุ้มครองผู้บริโภค (หรืออะไรทำนองนั้น) อยู่  ส่วน สคบ. นั่นอย่าไปตั้งความหวังให้สูงนักเลยครับ  สภาทนายความยังน่าจะเป็นองค์กรที่พอจะให้คำแนะนำดี ๆ ได้มากกว่า ถ้าหากเกิดเรื่องทำนองนี้กับเรา

  เสีย ดาย ไม่รู้ อะไร ดัง รุ่นไหนก็ไม่รู้ ทำไม สามีไม่ห้าม

เสียดาย  น่าจะให้คนอื่นไปใช้หรือจะให้ผมน่าจะดีกว่าครับ