งบ 750000
avatar
mimi


อยากจะซื้อรถในงบ ประมาณ 750000 แต่เลือกไม่ถูกเลยครับว่าจะเอารุ่นไหน

ส่วนใหญ่การใช้งานในกทม ไม่มีการบรรทุกอะไร ออก ตจว บ้างบางครั้ง

คือผมอยากได้เน้นที่ช่วงล่างการเข้าโค้งดีดีระบบความปลอดภัยดี คือไม่เน้นความเร็วมากอะครับ

ควรเล่นของค่ายไหนดีคัรบ



ผู้ตั้งกระทู้ mimi :: วันที่ลงประกาศ 2010-06-24 14:01:58 IP : 58.9.46.152


1

ความคิดเห็นที่ 14 (3194224)
avatar
mimi

ขอบคุณอาจารย์ คนว่างวันอาทิตย์ด้วยนะครับ  ที่มาให้ความรู้และขอบคุณเพื่อน ๆ ในเว๊ปทุกท่านครับ

สุดท้ายแฟนก็บอกว่าไม่ชอบนิสสันตัวนี้อยู่ดี เฮ้อออ  เรามันก็ต้องตามใจกันไป ตอนนี้เลยบอกว่าให้รอ อัสติสตัวเปลี่ยนโฉมละกัน เพราะไม่รู้จะออกมาแบบไหน ถ้าไม่โดนก็คงไปสอย วีออสหรือ แจ๊สแทน

ผู้แสดงความคิดเห็น mimi วันที่ตอบ 2010-07-01 13:09:18 IP : 61.90.104.200


ความคิดเห็นที่ 13 (3194019)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

แนะนำว่าให้คุณพาแฟนไปทดลองขับโดยให้เขาขับหรือจะเป็นคนนั่งก็ได้ทั้ง Tiida และ Jazz เขาจะเห็นความแตกต่างเองครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2010-06-30 12:23:35 IP : 58.8.79.150


ความคิดเห็นที่ 12 (3194018)
avatar
mimi

ขอบคุณมากมากเลยครับ  ที่นี้ก็เหลือแต่

คุยกับแฟนเรื่องคุณสมบัติที่ดีของนิสสันตัวนี้

เพราะโดยส่วนตัวแฟนจะเอา แจ๊สตัวท๊อป หรือไม่ก็วีออส

แต่เท่าที่ฟัง ๆ มาผมว่า นิสสันทีด้า 5 ประตูน่าจะคุ้มค่าที่สุด

ผลเป้นงไจมาบอกนะครับ อิอิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น mimi วันที่ตอบ 2010-06-30 12:05:20 IP : 61.90.116.170


ความคิดเห็นที่ 11 (3194000)
avatar
มนุษย์เงินเดือน

ผมว่าอย่าไปกังวลเลยครับถึงแม้ล้อหลังจะเป็น ดรั้ม แต่วิศวะกรเค้าออกแบบ มาดีแล้วครับว่าแค่ดรั้มเบรคก็เอาอยู่ และอีกอย่างระบบเบรคเดี๋ยวนี้ไม่ใช่มีแค่กลไกในการเบรคอย่างเดียว แต่มีระบบอิเล็คโทรนิคเข้ามาช่วยในการเบรคแล้วครับไม่ว่าจะเป็นระบบสมองกล ระบบควบคุ่มแรงดันน้ำมันเบรคเป็นต้น ส่วนเรื่องรูน็อตตามข้างล่างเลยครับ

ในอดีตที่ผ่านมาก็มีผู้ผลิตรถยนต์ หลายค่ายทั้งเอเชีย, ยุโรป หรือ อเมริกา เองก็ดี ได้ทำการคิดค้นและออกแบบแตกต่างกันออกไป ตามแต่ความคิดอ่าน ของแต่ละค่าย ซึ่งสันนิษฐานว่าในอดีตกาล เขาใช้หน่วยเป็นนิ้ว แต่ต่อมา ในบางประเทศที่คุ้นเคยกับระบบเมตริก ก็มักใช้หน่วยเป็นมิลลิเมตรแทน จึงมีการเรียกแตกต่างกันไป แต่จริงแล้ว ค่าของ PCD ก็มีที่มาจากที่เดียวกันนั่นเอง

P.C.D. มีอยู่ 2 ประเภท คือ

1. Single P.C.D. มีค่า P.C.D. เพียงค่าเดียวเท่านั้น จึงสามารถใช้ได้กับรถเฉพาะรุ่น เช่น ล้อที่มีค่า P.C.D. 4-100 ก็จะมีรู P.C.D. 4 รู

2. Multiple P.C.D. มีค่า P.C.D. 2 ค่า จำนวนรู P.C.D. ก็จะมีมากกว่า Single P.C.D. ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะผู้ผลิตต้องการให้ล้อรุ่นดังกล่าวสามารถใส่กับรถได้ หลากหลายรุ่นซึ่งมีจำนวนรู P.C.D. ไม่เท่ากัน เช่น ในล้อที่มี P.C.D. 4-100/114.3 ก็จะมีรู P.C.D. 8 รู หรือ 5-100/114.3 ก็จะมีรู P.C.D. 10 รู เป็นต้น

รถยนต์ขนาดเล็กมักมี 4 รูน๊อตต่อ 1 ล้อ และรถยนต์ขนาดใหญ่ขึ้นไปมักมี 5 - 6 รูน๊อต เพื่อความแน่นหนาในการยึดล้อเข้ากับดุมล้อ

ร ะ ย ะ พี.ซี.ดี (P. C. D)
P.C.D. ย่อมาจาก PITCH CIRCLE DIAMETER หมายถึง ระยะห่างของรูน๊อตบนตัว ล้อแม็กซ์ โดยวัดจากกึ่งกลางรูน๊อตทุกตัวลากเส้นเป็นวงกลม แล้ววัดผ่าน เส้นผ่าศูนย์กลาง มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ถ้าเป็นจำนวนเลขคู่ 4 หรือ 6 รูน๊อตต่อ 1 ล้อ ก็สามารถวัดจากกึ่งกลางรูน๊อตด้านหนึ่งไปยังด้านตรงข้ามได้เลย แต่ถ้าเป็นจำนวนเลขคี่ 3 หรือ 5 รูน๊อต ต้องวัดจากแนววงกลมกึ่งกลางรูน๊อตผ่านเส้นผ่าศูนย์กลาง


การวัดระยะ PCD ด้วยตนเอง

หากเราต้องการทราบว่า ล้อแม็ก ของเรานั้น มีระยะ PCD เท่าไร ? เราสามารถวัดได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้

ก่อนอื่นก็ต้องมี อุปกรณ์ ที่ต้องใช้วัด เช่น ไม้บรรทัด หรือ ตลับเมตร ก็ได้เช่นกัน


ล้อ 4 รู / 8 รู

การวัดสามารถวัดโดย วัดที่หน้าแปลนของ ดุมล้อ ด้านหลัง โดยทาบไม้บรรทัด จากจุด (A) ไปถึงจุด (B) ดูระยะว่าเป็นเท่าไร เช่น อ่านค่าได้เท่ากับ 100 มม. นั่นก็คือระยะ PCD ของ ล้อแม็กซ์ วงนั้น นั่นเอง

ล้อ 5 รู / 10 รู

การวัดสำหรับ ล้อแม็ก ที่มี 5 รู หรือ 10 รู นั้น ต้องมีการคำนวนเล็กน้อย

(A) คือ ระยะของเส้นผ่าศูนย์กลาง ของรูดุมล้อ Center Bore
(B) คือระยะระจากขอบรู ดุมล้อ กับขอบรูยึดน๊อต
(C) คือ ระยะของเส้นผ่าศูนย์กลาง ของรูยึดน๊อต

สูตรการคิด ระยะ PCD = ( A หาร 2 ) + B + ( C หาร 2 )
ตัวอย่าง
A = 110, B = 117 และ C = 13
( 55 ) + (57.5) + ( 6.5 )
รวมแล้ว = 120 ดังนั้นตัวเลขที่ได้ก็คือ ค่า PCD นั่นเอง


ล้อ 6 รู

การวัดสำหรับ ล้อแม็ก 6 รู จะคล้ายกับ 4 รู โดยวัดในแนวเส้นตรงจากขอบด้านในของรูยึดน๊อต ตรงมายังขอบด้านนอกของรูยึดน๊อตฝังตรงข้าม ผ่านรู ดุมล้อ ทำการวัดจากจุด (A) มายังจุด (B) อ่านค่าได้เท่าไร ก็คือ ค่า PCD นั้นเอง
 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก http://civicesgroup.com/forum/topic5241

ผู้แสดงความคิดเห็น มนุษย์เงินเดือน วันที่ตอบ 2010-06-30 11:03:49 IP : 202.122.130.31


ความคิดเห็นที่ 10 (3193991)
avatar
mimi

ครับผมขอบคุณมากครับทุกท่านที่สละเวลามาให้คำแนะนำ

คืออย่างที่บอกพอเก็บเงินมาได้ตรงจุดนี้ก็ค่อนข้างเลือกมากพอสมควรเลยเพราะอยากได้รถดีดีที่อยู่กับเราไปนาน ๆ

แต่นิสสันทีด้า เสียดายอย่างตรงที่ เบรกหลังเป็น ดรั้ม และน๊อตล้อมี 4 พ๊อต 2 อย่างนี้มันจะแตกต่างอะไรกันมากไหมครับ

กับวีออสหรือแจ๊สตัวท๊อปที่เป็น ล้อหลังดิสเบรก

ผู้แสดงความคิดเห็น mimi วันที่ตอบ 2010-06-30 10:03:29 IP : 61.90.116.170


ความคิดเห็นที่ 9 (3193620)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

มันขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของคุณ เช่นถ้าคุณต้องการรถที่ใช้งานในเมือง หาที่จอดง่าย สิ้นเปลืองต่ำ ทีด้าตอบโจทย์คุณตรงนั้น แต่ถ้าคุณใช้งานวิ่งต่างจังหวัดประจำหรือใช้งานนอกเมืองเป็นหลัก ใช้กะบะสี่ประตูผมเห็นด้วย เหตุผลคุณมนุษย์เงินเดือนบอกหมดแล้วครับ กะบะมาใช้งานในเมืองจะหาที่จอดได้ยากด้วยครับ  

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2010-06-28 11:53:47 IP : 58.8.82.44


ความคิดเห็นที่ 8 (3193609)
avatar
มนุษย์เงินเดือน

ความทนทาน = รถกะบะ

ความเกาะถนน = รถเก๋ง

ความนุ่มนวล = รถเก๋ง แต่ถ้าเทียบกับกะบะ 4 ประตู ด้วยกัน อีซูซุ นุ่มนวลกว่าทุกยี่ห้อ

ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาช่วงล่าง = รถกะบะถูกกว่า

ความคล่องตัว = รถเก๋งคล่องตัวกว่า // จอดตามห้างง่ายกว่า

ผู้แสดงความคิดเห็น มนุษย์เงินเดือน วันที่ตอบ 2010-06-28 11:10:17 IP : 57.59.104.181,


ความคิดเห็นที่ 7 (3193577)
avatar
mimi

ขอบคุณทุกท่านครับ ตอนนี้ในใจที่ 1 ก็เล็ง นิสสันทีด้า 5 ประตูไว้

ตอนแรกจะเอาอัสติสแต่เพื่อนที่เป็นเซลล์บอกเลิกผลิตหมดแล้วกำลังมีตัวเปลี่ยนโฉมมาใหม่

ถามเพิ่มเติมครับและถ้าเป็น กะบะ 4 ประตู อีซุซุ  จะดีกว่าไหมครับ พวกช่วงล่างต่าง ๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น mimi วันที่ตอบ 2010-06-28 08:39:35 IP : 61.90.116.65


ความคิดเห็นที่ 6 (3193239)
avatar
เด็กรักรถ

ฟังทางนี้ก่อนครับ     ถ้าคุณคิดจะเอาอัลติสผมว่าให้รออีกไม่นานประมาณปลายปีจะมีตัวไมเนอร์เชนออกมาใหม่ครับสวยมาก  อดใจรอสีกแปป

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กรักรถ วันที่ตอบ 2010-06-25 19:48:28 IP : 112.142.30.136


ความคิดเห็นที่ 5 (3193139)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

Mazda 1.6 นั้น ถ้าจะเล่นต้องทำใจ เป็นรถที่กินแต่ไม่วิ่งครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2010-06-25 08:34:40 IP : 58.8.77.150


ความคิดเห็นที่ 4 (3193128)
avatar
ต.ตุ้ย

มี มาสด้า 3  1.6  อีกตัวนึง คุณภาพคับแก้ว+สวยด้วย เหมือนกัน

ต้องไปลองนั่ง+ขับ พร้อมครอบครัว ถูกใจ ก็เลือกได้เลย

โชคดีครับ....

ผู้แสดงความคิดเห็น ต.ตุ้ย วันที่ตอบ 2010-06-25 07:30:59 IP : 115.87.117.243


ความคิดเห็นที่ 3 (3193074)
avatar
รักพี่เสียดายน้อง

สนับสนุน tiida อีกหนึ่งเสียงครับ เป็นรถที่คุณค่ากับราคาจริงๆ

แต่น่าจะเล่น ตัว 5 ประตู hatchback นะครับผมว่ามันสวยกว่า

ตัว sedan มากเลยทีเดียว (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)

ผู้แสดงความคิดเห็น รักพี่เสียดายน้อง วันที่ตอบ 2010-06-24 20:26:29 IP : 110.49.92.221


ความคิดเห็นที่ 2 (3193018)
avatar
มนุษย์เงินเดือน

เสริมด้วยคนครับ Tiida 1.6G นี้เป็นตัว Top เลยนะครับ มีทุกอย่าง ABS,EBD,BA เบาะหนัง แอร์ออร์โต้ กุญแจรีโมท Imobirizer ไฟหน้าเปิดปิดอัตโนมัติ aribag 2 ลูก เสียอย่างเดียวยางหน้าแคบไปนิด ซื้อมาแล้วเปลี่ยนยางหน้ากว้างขึ้นแค่นี้ก็ชิวๆแล้วครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น มนุษย์เงินเดือน วันที่ตอบ 2010-06-24 16:21:35 IP : 57.59.104.181,


ความคิดเห็นที่ 1 (3192995)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

ในงบ 750,000 บาท มีให้เลือกคือ 1. Toyota Corolla 1.6J เกียร์ธรรมดาที่ 739,000 บาท 1.6J เกียร์ออโต้ฯที่ 764,000 บาท 2. Honda Civic 1.8S เกียร์ธรรมดาที่ 754,000 บาท 1.8S เกียร์ออโต้ฯที่ 794,000 บาท 3. Mitsubishi 1.6 GLX CVT ที่ราคา 632,000 บาท 4. Nissan Tiida 1.6G เกียร์ออโต้ที่ราคา 762,000 บาท ทุกคันที่บอกมานี้ออกต่างจัวหวัดได้ การทรงตัวดี แต่เรื่องการบริการ Mitsubishi เชื่อถือได้น้อยที่สุด และใช้เกียร์ CVT ที่อาจจะสร้างปัญหาในอนาคตได้ ซึ่งผู้ใช้จะต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ การบริการของค่าย Nissan นั้นต้องยอมรับว่าศูนย์บริการมีน้อย แต่เชื่อถือได้ครับ ด้านบริการดีที่สุดก็จะเป็น Toyota และ Honda ใช้งานในเมือง Tiida ขับสบายเพราะตัวรถสั้น หาที่จอดง่ายที่สุด  

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2010-06-24 14:54:13 IP : 58.8.77.150



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.