ผมเคยดูข้อมูลในเว็บบอร์ดอะไรจำไม่ได้ เขามีปัญหาแอร์ไม่เย็นฉ่ำ เข้าอู่ล้างแอร์ก็แล้ว ก็ดีขึ้นบ้าง แต่ยังไม่เย็นฉ่ำเท่าที่ควรจะเป็น เขาก็พยายามหาวิธีแก้ สอบถามคนโน้นคนนี้ว่าจะทำยังไง สุดท้ายไม่รู้ไปได้ไอเดียร์มาจากไหน เขาจึงไปซื้อน้ำยาล้างคอยล์เย็นมา แล้วนำมาล้างคอยล์ร้อน(ที่เป็นรังผึ้งอยู่หน้าพัดลม) โดยขั้นตอนการล้างคือ

1.ถอดกระจังหน้าออก

2.ใช้ลมเป่าทำความสะอาดคอยล์ร้อนให้ทั่วทุกซอกมุม

3.ฉีดน้ำเปล่า พรมให้ทั่วคอยล์ร้อน ทุกซอกมุมด้วย

4.ใช้น้ำยาล้างคอยล์เย็น ฉีดให้ทั่วด้านนอกคอยล์ร้อน ระวังอย่าให้น้ำยาโดนสีรถ หรือบริเวณรอบข้างส่วนอื่นๆ

5.ทิ้งไว้สักครู่(ประมาณ5 นาที) น้ำยาจะเป็นฟอง และมีคราบสกปรกติดออกมากับฟองเหล่านั้น ซึ่งสิ่งสกปรกก็จะเป็นพวกคราบน้ำมัน ฝุ่น เศษแมลงตัวเล็กๆ ฯลฯ ที่ติดเกาะและฝังลึกเป็นเวลานาน

6.ใช้น้ำสะอาดฉีดชะล้าง น้ำยาและเศษสิ่งสกปรกออกทุกซอกทุกมุม

7.ตรวจดูความสะอาดของคอยล์ร้อน หากยังไม่สะอาดอาจใช้น้ำยาฉีดซ้ำ(ตามขั้นตอนข้อ4-6)

8.ใช้ลมเป่าคอยล์ร้อนให้แห้ง ทุกซอกมุม แล้วประกอบชุดกระจังหน้าเข้าให้เรียบร้อย

ผมเองก็ได้ทดลองล้างตามขั้นตอนข้างต้นของรถผมซึ่งใช้งานมา 10 กว่าปีเพิ่งจะเคยล้างคอยล์ร้อน ผลก็คือทำให้แอร์เย็นฉ่ำขึ้นจริงๆ ครับ

รถผมเวลาแอร์มันตัดหรือไม่ได้เปิดแอร์ รอบเครื่องจะต่ำ และเวลาเปิดแอร์หรือแอร์มันต่อ รอบเครื่องจะสูง เนื่องจากชุดโซลินอยซ์ทำการดึงสายเร่งให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบสูงเพราะต้องใช้แรงในการฉุดให้แอร์ทำงานได้เสถียรขึ้น และเมื่อรอบเครื่องยนต์สูงขึ้น จึงทำให้รถไม่สั่น แต่ถ้าไม่ได้เปิดแอร์หรือแอร์ตัดอยู่ เครื่องจะสั่นเพราะรอบเดินเบาปกติของเครื่องยนต์

ใช้รุ่นนี้อยู่ครับ ใช้มา จะ 8 ปีแล้วไม่เคยมีปัญหาเลยครับ ล้างแอร์ไป 1ครั้ง ล้างแบบถอดตู้ ค่าล้าง+เติมน้ำยาแอร์+เติมน้ำมันคอม 1,100 บาทครับ อู่ประจำแถวบางแคครับ ใช้เวลาในการล้างประมาณ 1 ชม.  ครับ แอร์ตัดรอบเครื่องจะเพิ่มขึ้นนิดหน่อยครับ900 ไม่ถึงพันครับ แอร์ติดรอบก็จะอยู่ประมาณ 800 รอบครับ แนะนำวิธีใช้ครับ ก่อนถึงที่หมาย 2 กม. ให้กดปุ่มสวิตช์ AC ออก เปิดพัดลมเบอร์ 3 หรือ 4 เพื่อไล่น้ำทิ้งออกจากท่อแอร์ ตู้แอร์จะได้ไม่ผุครับ ก่อนสตาร์ทก็ไม่ควรกดสวิตช์ AC ก่อน ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกอย่างก่อนสตาร์ท บิดสวิช์ไปที่ออนแล้วรอไฟสีส้มเครื่องยนต์ดับแล้วค่อยสตาร์ทครับ อุ่นเครื่องแปปนึง แล้วก็ออกรถได้เปิดแต่พัดลมก่อนแปปนึงแล้วสักพักค่อยกดสวิตช์ AC ครับ ทำอย่างนี้ระบบไฟ และระบบแอร์รถคุณจะไม่มีปัญหาครับ

1. แอร์รถยนต์นั้นเหมือนกับแอร์บ้านทุกอย่างครับ คือถ้าคุณ Jikki ตั้งอุณหภูมิถูกต้อง เมื่อถือระดับที่ต้องการ แอร์มันจะตัดการทำงานทันที โดยสังเกตุได้ที่รอบเครื่องจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยครับ ถ้าแอร์ของคุณไม่เคยตัดเลย ผมเสนอให้ไปอ่านวิธีการใช้งานที่มีข้อมูลอยู่ในคู่มือการใช้รถ จะบอกวิธีการใช้งานอย่างละเอียดให้คุณครับ 2. การล้างแอร์ ผมเชื่อเหมือนอาจารย์ครับ คือชอบแก้ผ้าอาบน้ำครับ ดังนั้น คุณควรหาร้านแอร์ที่ทำโดยซิธีถอดออกจะเหมาะกว่าครับ ช่างเขาจะตรวจสอบก่อนว่าตัวคอลย์เย็นของคุณมีอาการรั่วหรือเกือบจะรั่วหรือไม่ ถ้ามีอาการ เขาจะแนะนำให้เปลี่ยนแทนการล้าง แต่ถ้ามันยังอยู่ในสภาพที่ดี เขาก็จะทำการล้างให้คุณ เวลาล้างเขาก็จะถอดตัว Dryer ออกแล้วเปลี่ยนเอา Dryer ตัวใหม่ใส่ให้แทน เมื่อติดตั้งเสร็จ เขาก็จะทำการอัดน้ำยาแอร์และเติมน้ำมันในคอมเพรสเซอร์ให้คุณจนเต็มครับ ราคาทั้งหมด ไม่ทราบครับ   

1. ใช่คับ ตัดเหมือนแอร์บ้าน ตามอุณภูมิที่ตั้งไว้ คุณบอกว่าแอร์คุณไม่เคยตัดเลย สาเหตุเกิดได้หลายกรณี อันแรกถ้าน้ำยาแอร์ขาดพร่องไป มันก็ไม่ตัดครับ เพราะเย็นไม่ฉ่ำชื่น เย็นทื่อธรรมดาก็ไม่ตัด  หรือ ตัววัดอุณภูมิของคุณเสียชำรุดทำงานไม่เต็มร้อย ก็ไม่ตัดเช่นกัน และหรือ ตู้แอร์ตันเพราะเกิดจากความสกปรกก็ด้วย แอร์ตัดรอบเครื่องต้องตกลงมานิดหน่อย แต่เครื่องต้องไม่สั่นตามนะครับ ถึงจะปกติ อันนี้อธิบายรวบรัดให้เข้าใจง่ายก่อนครับ

2. อันนี้ถ้าคุณซื้อเพคเกจไว้แล้ว ก็ไปทำก่อนซิคับ ทำไปก่อนถ้าไม่ดีขึ้น ไม่แฮป*** ก็ค่อยถอดออกมาล้างอีกครั้ง รุ่นที่คุณใช้ถอดง่ายใส่ง่ายไม่ช้ำหรอกคับ  การเติมน้ำยาแอร์นั้นต้องให้ช่างต่อเกจ์วัดระดับควบคู่กับการมองผ่านกระจกไดเออร์ ซึ่งช่างที่ชำนาญจะทำได้อย่างเป็นงาน ผมว่ารถคุณน้ำยาแอร์น่าจะพร่องไปแล้ว  ก็ไหนๆเข้าร้านแอร์แล้วก็ให้เขาตรวจเช็คระบบให้สมบูรณ์นะครับ ว่ามีซึมตรงไหนบ้างป่าว ทำทีเดียวอย่าต่อรองนะครับ