เคยมีช่างบอกว่า จอดรถล้อไม่ตรง ทำให้น้ำมันไฮดรอลิคไม่ไหลลง รถเกียร์Auto นะช่างบอกมา

การทำให้ล้อตรงดูกันยังไง ไม่เข้าใจ ที่บอกกันว่าให้คืนพวงมาลัย 2 รอบ แล้วล้อจะตรง แล้วก่อนคืนพวงมาลัย 2 รอบต้องทำไงก่อนหรอ

ผมชอบความเห็นที่ 6 มาก มองโลกในแง่ดีเอาไว้ก่อน

ผมเองก็สงสัยเหมือนคุณ เอาไว้ให้ถูกรางวัลที่ 1 สัก 10 คู่ก่อน ผมจะเรียนถามอาจารย์ให้เอง

ถูกต้องครับ  คุณกองเข้าใจถูกต้องแล้วครับ  สลับกันไปจะทำให้สึกหรอเท่าๆกัน  สิ่งที่ผมห่วงมากท่สุดคือโครงสร้างยาง  เพราะพอมันบิดเบี้ยวภายในโครงสร้าง  ดูด้วยตาเปล่าก็ไม่เห็น  พวงมาลัยสั่น ล้อสั่นสะบัด  เอารถไปหาช่างปุ๊บ  ช่างก็จัดการถ่วงล้อ  ถ่วงได้ไปสักพัก  สั่นอีกแล้ว  ช่างก็จัดการตั้งศูนย์  ตั้งไปใช้ได้สักพัก  สั่นอีกแล้ว ทีนี้ก็เละละ เพราะถึงผมเป็นช่างถ้าไม่รู้รายละเอียดมาก่อน  ผมก็รื้อช่วงล่าง  เปลี่ยนยางแท่นเครื่องแท่นเกียร์  เปลี่ยน ฯลฯ จนเจ้าของรถต้องเปลี่ยนช่าง  ผมจึงห่วงเรื่องโครงสร้างยางที่สุดครับ 

สมมุติว่าบ้านอยู่บนเนินที่เเป็นทางขึ้นเอาแบบทางใน San Francisco ก็ได้ครับ เราก็จอดรถเอาห้วขึ้นไว้วันคู่  พอวันคี่เราก็จอดรถเอาหัวลง  เท่านี้ เราก็สลับพวงมาลัยหักล้อข้างละวัน มันจะช่วยลดการสึกหรอให้ช้าลงมั้ยครับ หรือช่วยให้พังพร้อมๆกันทั้งสองข้างมั้ยครับ   ถามเผื่อไว้วันที่ 16 นี้ ได้เลขเด็ดจากพี่ไมเกิ้ล ถูกรางวัลที่ 1 สัก 10 คู่ จะได้ไปหาซื้อที่บนแม่ริมปลูกบ้านบ้างครับ แล้วที่นี้บ้านบนเขามันก็คงต้องจอดรถคล้ายๆ แบบที่ถามครับ

ช่วงนี้เห็นอาจารย์เข้ามาบ่อย ดีใจครับ

คำตอบชัดเจน และเห็นภาพเลยครับ

ขอเสริมคุณคนว่าง ฯหน่อย  การจอดล้อไม่ตรงไม่ทำให้เพาเวอร์เสีย  แต่จะทำให้น้ำหนักกดลงที่ระบบช่วงล่างรับน้ำหนักไม่เท่ากัน ช๊อคแอบซอบเบอร์จะเสื่อมไม่เท่ากัน  โครงสร้างยางจะบิดไม่เท่ากัน  ทำนานๆบ่อยๆจะทำให้ล้อสั่นพวงมาลัยสั่นแก้ยาก  ส่วนการจอดโดยหันล้อเข้าขอบทางนั้น  เป็นกฏตามที่ คุณคนว่าง ฯบอกมาครับ  และในเมืองไทยการจอดบนทางลาดเช่นคอสะพาน  ก็มีคำแนะนำแบบเดียวกันครับ  แต่หากเป็นรถที่ใช้ช่วงล่างระบบไฮดรอลิคหรือถุงลม เช่น ซีตรอง หรือเรนจ์โรเวอร์  แนะนำว่าอย่าไปริจอดล้อไม่ตรงหรือล้อยืนไม่เท่ากันบ่อยๆนะครับ  ดดนค่าซ่อมแล้วจะหนาวจนรู้สึกตัวว่า  "รู้อย่างนี้กูจอดมันตรงๆนานแล้ว"

ในกรณีที่คุณเล็กพูดถึงการจอดรถโดยเฉพาะในต่างประเทศซึ่งพวงมาลัยจะต้องหักให้ล้อเกยฟุตบาทนั้น ในต่างประเทศ เขาปฏิบัติกันเพราะเป็นกฏหมายบังคับครับ ซึ่งถ้าคุณไปสอบขับรถแล้วไม่ปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ขนส่งจะปรับตกในทันที เพราะรถที่จอดบนเนินมีโอกาสที่มันจะไหล ดังนั้นกฏหมายจึงบังคับให้ล้อเกยเพื่อไม่ให้มันไหล แต่ถ้ามันยังไหลอีก อย่างน้อยให้ไหลไปชนต้นไม้หรือตัวบ้าน ไม่ใช่ต้องวิ่งไล่ตามรถไหลลงเนินเขาจนไปขนคนตายเอาครับ ลืมบอกไปว่าการหมุนพวงมาลัยแบบนี้มันไม่เสียหายอะไรครับ แต่ถ้าอยู่ในประเทศไทยที่ไม่มีกฏหมายนี้และไม่ได้เป็นบ้านที่จอดบนเนินหรือเขา ผมก็ไม่เสนอให้ปฏิบัติด้วยเหตุผลที่พูดมาข้างต้นครับ แต่ถ้าพวกคุณจะต้องจอดบนเนินเขาเมื่อไร แนะนำให้ทำครับ เพื่อความปลดภัยครับ  

มีคนพูดกันว่า หากจอดรถแล้วล้อไม่ตรงจะทำให้พวงมาลัยพาวเวอร์เสียหายได้ แต่ผมไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องนี้เพราะว่า ที่ SANFRANCISCO เมืองนี้เขาปลูกบ้านกันบนไหล่เขากันทั้งเมือง เวลาจอดรถหน้าบ้าน ก็เหมือนกับจอดรถบนทางขึ้นเขาบ้าง ลงเขาบ้าง วิธีจอดรถของคนที่นี่คือเมื่อจอดรถชิดข้างทางแล้วเขาจะหมุนล้อให้เกยกับฟุตบาทไว้กันรถไหล แม้ว่าเขาจะขึ้นเบรคมือแล้วก็ตาม ก็จะเหมือนกับเราเอาก้อนหินรองล้อไว้อย่างนั้นแหละครับ เพราะฉะนั้น หากทำให้พวงมาลัยพาวเวอร์เสียหาย รถของเมืองนี้คงมีปัญหาเรื่องพวงมาลัยพาวเวอร์กันทั้งเมือง

แต่ก็อย่างที่คุณคนว่างฯแนะนำ หากไม่มีเรื่องทางเอียง จอดรถก็พยายามจัดล้อให้ตรงไว้เป็นนิสัยก็ดี หากมีคนจะเข็นรถของเรา จะได้ไม่ไปชนอะไรให้เสียหายได้ ผมแนะนำอีกอย่างว่าหากจอดรถแล้วคิดว่าอาจจะไปขวางทางใครเขาเข้า น่าจะหากระดาษเล็กๆวางไว้บน DASHBOARD ขอโทษเขาเสียหน่อย และเขียนเบอร์โทรฯไว้ให้เขาสามารถติดต่อเราได้ เขาจะได้ติดต่อเราให้มาเลื่อนรถได้ และเขาก็คงจะไม่โมโหจนเกินไป

แนะนำว่าให้จอดแบบล้อตรงจะเหมาะสมกว่า เพราะถ้าเกิดคุณไปจอดเกะกะคนเขา อย่างน้อยยามก็ยังเอาตะเข้ยกล้อหลังแล้วเข็นไปข้างหน้าได้ ถ้าล้อไม่ตรง เขาจะเข็นอย่างไรครับ แนะนำว่าควรทำจนเป็นนิสัยครับ