การที่เรารักษ์โลกรักสิ่งแวดล้อมมันดีหมดครับ( โลกสวย ) แต่รถผมจะพังเพราะ แคส ตัน และ ถ้าเปลี่ยนใหม่ เงินในกระเป๋าไม่เอื้ออำนวย ถ้าให้ผมเลือก ผมขอตัดแคส เพราะ ขนาดอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เวลา แข่งรถสูตรกัน ไม่เป็นเค้าจะ รักสิ่งแวดล้อมกัน เบิ้ลเสียงดังและปล่อยแก๊สพิษกันสนั่นเมือง เค้ายังไม่โลกสวยในทุ่งลาเวนเดอร์เลย  ถ้าผมโลกสวยแล้วรถผมมีปัญหาขึ้นมา ใครจะยื่นมือออกมาช่วยค่าซ่อมคับ ถ้ามีก็จะยินดีมากครับ

ถัาเจ้าตัวนี้ตันจะทำใหักินน้ำมันมากขี้นเปล่าครับ

 ใช้ D12  Voltronic เติมลงในน้ำมันดีเซล.. จบ   มีการรับประกันจากเยอรมันด้วยจ้า สอบถามจากเกรมาร์เก็ตชั้นนำเลย

 เอาเหอะครับ จะอะไรก็แล้วแต่

ผมจำเป็นต้องถอด 2แสนกว่าโล รถวิ่งไม่ออกเลยแคทตันจนไม่มีรูออก

จะรักโลกให้ซื้อแคทใหม่ บอกตรงๆ ไม่มีปัญญาครับ หลักหมื่น

จะไม่ถอดก็เสี่ยงเครื่องพัง โบพัง 

 เชื่อช่างเหมือนกัน ทำไปแล้ว แต่รถใช้งานมาสองแสนกว่าโลแล้ว

 น่าเสียดายในคู่มือรถไม่บอกแบบนี้เลย

ผมช่างยุให้ทำก็เชื่อ...ขำไม่ออกละ

ของใช้แล้วไม่มีครับ มีแต่ของแทน  ของ nitto, hks อ่ะ 

แล้วซื้อของใช้แล้วจากไหนครับ ถ้าไม่มีคนถอดออก ถ้าขายถูกผมคงไม่ถอดดอกครับ

อายุรถแค่ 5 ปี ผมไม่คิดว่า Cat จะตัน แต่คิดว่าช่างต้องการจะภอดเอา Cat ของคุณไปขายหาเงินเข้ากระเป๋าและคิดค่าติดตั้งท่อตรงกับคุณ เท่ากับกินสองต่อ

ดังนั้น ถ้า Cat มันไม่เสีย รถคุณก็ไม่ปล่อยอากาศเสียออกมาเพราะทุกอย่างจะเป็นไปตามมาตราฐานของรถที่ออกมาจากโรงงานอยู่แล้วครับ Cat จะตันเกิดจากไส้ข้างในมันล้มซึ่งเกิดได้กับรถที่มีอายุการใช้งานนาน เช่น 10 ปีขึ้นไปครับ ประสิทธิภาพของ Cat จะค่อยๆลดลงตามเวลาการใช้งาน รถอายุ 10 ปี Cat อาจจะไม่ล้ม แต่จะมีกลิ่นที่ท่อไอเสียเพราะ Cat เริ่มเสื่อมก้มีครับ วิธีแก้ไขคือหาของใหม่มาเปลี่ยนหรือซื้อของใช้แล้วมาเปลี่ยน 

คุณคนว่างวันอาทิตย์ครับ ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย ปล่อยไว้เฉยๆ จะมีผลอะไรต่อเครื่องยนต์มั๊ยครับ หรือจะส่งผลต่อระดับอากาศเสียที่จะปล่อยออกมาอย่างเดียว ถ้าจะแก้ไขต้องทำอย่างไรครับ

ขอถามอีกครั้งครับ เนื่องจากคุณยังไม่อธิบายในประเด็นนี้

ขอบคุณอีกครั้งครับ

http://www.dlt.go.th/th/attachments/plan48-51/3538_image6554.pdf

มีหลายทางเลือกนะครับ ลองดู

ถอดแคตเดิมออก แล้วหาท่อแทนแคตมาใส่ ราคาประมาณ 1,000-1,500 บาท

ทำการทะลวงแคตตาไลติกทิ้งไปเลย ราคา 300-500 บาท

เบิกแคตตาไลติกใหม่มาใส่ ราคาน่าจะ 25,000-30,000 บาท

ซื้อแคตตาไลติกตรงรุ่น มือ 2 จากเจ้าของเดิมเอามาใส่ น่าจะ 2,000-3,00 บาท

ลองดูครับ ตังค์ในกระเป๋าของแต่ละคนไม่เท่ากัน

ในกรณีรถเก่า (สองแสนโล) แล้วเริ่มมีปัญหาเวลาวอร์มเครื่องตอนเช้าจะมีกลิ่นเหม็นมากขึ้นเรื่อยๆ  แบบนี้แสดงว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแคตแล้วหรือปล่าวครับ

ถ้าคุณต้องการที่จะถอด ปัญหาก็อย่างที่คุณม่อนบอกไว้ข้างต้นคือคุณปล่อยอากาศเสียออกมาซึ่งทั้งอู่และบริาัทฯเจ้าของสินค้าจะไม่รับผิดชอบแน่นอนถ้ารถคุณเกิดปัญหาขึ้นมา และต่อไปในอนาคตอันใกล้ ถ้ามีการตรวจสภาพแบบครบสูตรตามที่ผมทราบมา คุณก็ต้องกลับไปติดตั้ง Cat ใหม่ เสียเงินสองรอบ และจะต้องทำการทดสอบใหม่ว่ารถคุณจะต้องผ่าน Emission test ให้ได้ ถึงจะผ่านการตรวจของ ตรอ. แล้วใครเสียค่าใช้จ่ายละครับ

ถ้าไม่ทำอะไรเลย ก็ไม่ต้องเสียเงิน Cat จะตันได้ก็เกิดจากภายในของ Cat มันล้มเพราะผ่านการใช้งานมาสูง คำว่าละลายไม่เกิดขึ้นแน่ อยากดูรูปก็ไปค้นใน google เอาเองครับ มีแน่นอน 

ในกรณีรถ 5 ปี ถ้า ภายใน Cat ล้มแสดงว่าตัวช่างผิดปรกติ เพราะมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะล้มในระยะเวลาแค่ 5 ปีครับ คุณคิดว่าการทะลวง Cat จะเพิ่มความเร็วความแรง เรียนตามตรงนะ น้ำมันแพงเสียขนาดนี้ จะแรงไปหาอะไรกัน ขับแบบประหยัด ลดการใช้น้ำมันมันไม่เซฟเงินคุณไม่ดีกว่าหรือครับ ช่างบางคนกลับอ้างว่า Cat ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน ตัดออกจะช่วยประหยัดเพิ่มขึ้น ถ้าคุณลดน้ำหกนักเท้าที่วางบนคันเร่ง ผลออกมาก็ประหยัดไม่ใช่หรือครับ ทุกอย่างอยู่ที่คุณเองครับ อย่างโทษรถหรืออุปกรณ์

รถกะบะทุกวันนี้มันก็แรงสุดฤทธิ์สุดเดชอยู่แล้วจนปัญหาที่เกิดขึ้นคือรถมีประสิทธิภาพสูงมาก แต่คนขับรถกลับคุณภาพลดลงเพราะไม่สามารถเอารถอยู่เพราะอ่อนประสพการณ์ ชั่วโมงบินน้อยครับ รู้แต่ขับรถกแต่ไม่สามารถควบคุมรถ ในกรณีถ้าคุณอยากเสียเงินจริงๆเพราะมีเงินเหลือจนธนาคารมาตามตื้อหาเงินฝากที่บ้านทุกวัน ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็น่าจะพิจารณาหันไปปรับปรุงระบบช่วงล่าง หาโช๊คแก๊สดีๆใส่ หายางคุณภาพสูงมาใส่ ทำให้รถมีการทรงตัวที่มั่นใจขึ้นกว่าเดิม ผมว่าทำแบบนี้จะช่วยเรื่องความปลอดภัยให้กับตัวคุณซึ่งผมเห็นว่าคุมค่าเงินที่ลงทุนไปมากกว่านะครับ ขออภัยที่ไม่สามารถตอบแบบตามใจคนถามได้ครับ   

สำหรับคุณคนข้างบนอ่ะ จะถอดก็ได้นะ มีดีสองข้อ 1. ช่างได้เงิน ที่เอาแคตคุณไปขาย 2. ถ้าเกิดอะไรขึ้น ศูนย์บอกว่า กุไม่รู้

ผมโดนมากะตัวเลยล่ะ ช่างศูนย์แนะนำ ทะลวงแคต เด๋วมันจะละลาย รถจะวิ่งไม่ออก ทุกวันนี้ ด่ากะเจ้าของศูนย์ว่า ศูนย์คนมันปล้นกลางอู่ เจ้าของทำท่าไม่ค่อยพอใจ แต่คนที่เสียคือ เราควันจะเหม็น มาก ๆ ขอบอก เวลาวอร์มเครื่องตอนเช้า นี่นรกมาเกิดเรยล่ะ

 ขอบคุณข้อมูลของคุณคนว่างวันอาทิตย์ฯ ครับ แปลว่าการถอดจะมีปัญหาในการต่อทะเบียนรถหลัง 7 ปี (ซึ่งรถผมก็กำลังเข้าปี่ีที่ 5 แล้ว) หากผมไม่ถอดมันจะส่งผลอย่างไรต่อระบบเครื่องยนต์บ้างหรือไม่ครับ หรือมีวิธีการใดที่จะทำให้อาการแคตตันดีขึ้นได้บ้าง การเพิ่มความเร็วในการขับ หรือมีเหยียบหนักๆ บ้างเป็นช่วงๆ ช่วยได้หรือไม่ครับ อีกอย่างคือได้แคตที่ว่ามันอยู่ตรงไหนอ่ะครับ ลักษณะเป็นอย่างไร

ขอบคุณอีกครั้งครับ

ก่อนอื่นขออภัยที่จะต้องอธิบายให้คุณ Navaraman และผู้อื่นที่ต้องการจะถอด Catalytic convert ให้ทราบถึงข้อเสียก่อนว่า

1. ในอนาคตอันใกล้นี้ กรมการขนส่งทางบกจะบังคับให้สถานตรวจสภารถเอกชน (ตรอ) ทุกรายจะต้องทำการตรวจสอบรถที่มีอายุใช้งานเกิน 7 ปีขึ้นไปทุกคัน จะต้องผ่านการทดสอบโดยทุกสถานีทดสอบจะต้องถูกบันทึกลงในคอมพิวเตอร์ที่มีการโยงข้อมูลเข้าส่วนกลางของกรมการขนส่งโดยตรง เมื่อทำการทดสอบครบทุกสถานีแล้ว ตรอ. จึงจะสามารถพิมพ์รายงานจากคอมพิวเตอร์ลงแบบฟอร์มของกรมการขนส่ง เท่ากับว่าการซื้อใบรายงานแบบที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้จะต้องหยุดโดยสิ้นเชิงและรถที่มีอายุเกิน ทุกคันจะต้องถูกตรวจอย่างละเอียดตามข้อกำหนดของกรมการขนส่ง 

2. การถอด Cat ผู้ที่ได้ประโยชน์คือช่าง เพราะลูกค้าจะไม่ชอบเอากลับไปบ้านเพราะเอากลับมาก็ไม่ทราบว่าจะเอาไปทำอะไร ข่างจึงถือโอกาสเอาไปขายซึ่งสามารถทำเงินได้ราวๆอันละ 5,000 บาท เท่ากับว่า เจ้าของรถต้องซื้อท่อต่อตรง ค่าแรงถอดและใส่ท่อตรง งานนี้ช่างจะรับทรัพย์เท่าไร พิจารณาเอาเองครับ

3. ทะลวง Cat ทำได้ แต่ ถ้าคุณถอดหรือทะลวง ถ้ารถคุณอายุใกล้ตะครบ 7 ปีแล้วจะต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียดโดยตรอ. รับรองได้ว่ารถคุณไม่ผ่านการตรวจมลพิษอย่างแน่นอน ทางเดียวคือต้องวิ่งหา Cat ใหม่หรือเก่ามาติดคืน ซึ่งช่างก็กินค่าติดอีกรอบและถ้าซื้อของใหม่ ช่างก็กินค่าแรง+อะไหล่อีกรอบ 

สรุปแล้วคุณคิดว่าใครได้กันแน่ครับ ไม่แปลกใจช่างถึงรีบยุไห้ถอด ถ้าเจอแบบนี้น่าจะเจอไม้หน้าสามฝาดเสียให้เข็ด 

 ทะลวงแคต อุดอีจีอาร์