ใช้ อัลติส 1.6 ดมแก๊ส LPG ตั้งแต่เกิด ออกมา 8 เดือน วิ่ง 75000 โล ไม่มีอะไรให้จุกจิก วิ่งเร็ว แต่ไม่สูงนัก 120 -130 บางโอกาสและเมือเดินทางไกล ส่วนมากวิ่งยาว กทม-เชียงใหม่ กทม-เชียงของ 

ประหยัดไว้ใจได้ ลงยาง 17 พอ ไม่ต้องพะวง เรื่อง หลุมมากนัก 

ที่เลือก โตโยต้า เพราะเป็นห่วงเรื่อง ค่าพลังงาน 

และที่เลือก LPG เพราะชีวิตของรถวิ่ง แต่ต่างจังหวัดบ่อยกว่า ในกทม 

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นค่ะ  ตอนนี้เหลือตัวเลือก 1.6  กับ 1.6NGV   เพราะถ้า NGV  อาจจูงใจให้ไปเที่ยวตจว.ใกล้ๆได้บ่อยสักเดือนละครั้ง สองครั้งค่ะ

การที่คุณใช้รถวันละ 50 กม. คุณจะไปดิ้นรนใช้ CNG เพื่ออะไร การซื้อรถ CNG นั้น กรุณาเข้าใจก่อนว่าคุณจะต้องจ่ายเพิ่ม ตัวอย่างเช่น Mitsubishi Lancer 1.6 GLX รุ่นใช้น้ำมัน ค่าตัว 632,000 บาท ส่วนในรุ่นเดียวกันแค่ติด CNG ค่าตัว 682,000 บาท ผลต่างห้าหมื่นบาทนั้นเป็นราคาที่คุณจะต้องจ่ายในการติดตั้ง CNG แต่ถ้าคุณใช้รถวันละ 200 กม. การที่จะซื้อ CNG ผมไม่ห้าม เพราะรถที่ใช้พลังงานทดแทนจะต้องเป้นรถที่ผู้ใช้ๆงานหนักเท่านั้น ถ้าใช้งานน้อย อย่าได้คิดเพราะไม่คุ้มค่ากับการลงทุนครับ ในคำถามที่ถามว่าเครื่อง 1.6 กับ 1.8 ถ้าคุณใช้งานในเมืองเป็นหลัก 1.6 ประหยัดกว่า แต่ถ้าคุณใช้งานนอกเมืองซึ่งต้องใช้ความเร็วสูงและจะต้องเร่งแซงเพื่อเพิ่มความเร็วในตอนแซงประจำ เครื่อง 1.8 จะประหยัดกว่า จริงอยู่ อัตราการสิ้นเปลืองของเบนซินจะมากกว่าเครื่องยนต์ดีเซล แต่ปัญหาคือรถขนาดที่คุณกำลังจะซื้อนี้ มีอยู่ยี่ห้อเดียวที่เป็นเครื่องดีเซล ซึ่งถ้าคุณคิดจะซื้อด้วยความรักรถยี่ห้อนี้ผมไม่ว่ากัน เพราะคุณจะต้องทราบก่อนว่าศุนย์บริการของเขามีจำกัดและอะไหล่ของรถรุ่นนี้ต้องเบิกศูนย์เท่านั้นและราคาก็ไม่ถูก ซึ่งถ้าคุณเป็นผู้ที่ใช้รถเยอะเดินทางต่างจังหวัดตลอดเวลาวิ่งรถวันละ 150 กม. ขึ้นไป ผมก็คงจะเห็นด้วยในการซื้อครับ แต่ถ้าคุณใช้งานแต่ในเมือง นานๆเดินทางสักที ลงทุนไปเพื่ออะไรครับ รถเครื่อง 1.6  ถึง 1.8 ราคาแปดเก้าแสน ไปเล่นดีเซล ล้านหนึ่ง แตกต่างกันสองแสนกว่านะครับ เอาสองแสนกว่าบาทไปซื้อน้ำมันเติมไม่ดีกว่าหรือครับ        

ขออนุญาตตอบแทนนะครับ...ปกติ รถยนต์รุ่นเดียวกันที่มีเครื่องยนต์ใหญ่กว่า มีแรงบิดมากกว่า จึงสามารถลดอัตราทดเกียร์และเฟืองท้ายลงได้ เพื่อลดรอบการทำงานเครื่องยนต์ในความเร็วเท่าๆ กัน เช่น รุ่น 1.6 ใช้ 2,400 รอบ/นาที ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. รุ่น 1.8 ใช้ 2,000 รอบ/นาที ที่ความเร็วเท่ากัน ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงกว่า....เห็นได้ชัดถ้าเปรียบเทียบระหว่างเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบกับเบ็นซินครับ (ยังไงดีเซลก็ประหยัดกว่าเบ็นซินวันยันค่ำครับ)

คุณลูกบอลแนะนำให้ใช้ CNG เลยใช่มั๊ยคะ   แล้ว 1.6 ประหยัดกว่า 1.8 CVT  ทำไมค่าอัตราทดเกียร์ของ 1.8 ต่ำกว่า 1.6   ขอบคุณค่ะ

ฟันธง ยังไง 1.6 ก็ประหยัดกว่า 1.8 ครับ  ถ้าไม่ kickdown บ่อย หรือ ขับเกิน 140 ครับ  ยิ่งถ้าเป็น 1.6 CNG ก็จะยิ่งประหยัด เป็น 2 - 3 เท่า

ถ้าคุณกะใช้ระยะยาว ไม่เน้นราคาขายต่อ และศูนย์บริการที่มีจำนวนน้อยกว่ามาก... ผมแนะนำรุ่นที่เจ๋งกว่ารุ่นที่คุณกล่าวมาทั้งหมดก็คือ FORD Focus 2.0 TDCi ที่โครงสร้างตัวรถ ช่วงล่างแกร่งมากๆ ตามมาตรฐานยุโรป เครื่องดีเซลประหยัดมากๆ (ความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ประมาณ +20 กม./ลิตร ในเมืองได้ประมาณ 13-15 กม./ลิตร) และแรง (เร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8-9 วินาที ความเร็วสูงสุดเกิน 220 กม./ชม.) ระบบส่งกำลังแจ๋ว (เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ Powershift ใช้ Dual Clutch) เบรกเยี่ยม เกาะถนนยอด เครื่องยนต์ทนทาน (ใช้โซ่ขับราวลิ้นไม่ต้องเปลี่ยนตลอดอายุการใช้งานเครื่องยนต์)

มีน้องข้างบ้านผมลักษณะการใช้รถและคำถามคล้ายๆคุณ แนนี่ มาถามผมแบบนี้เปี๊ยบ สาวกเก่าโตต้า ใช้อัลติสมาก่อนเหมือนกัน สุดท้ายจูงมือไปลองขับ นิวแคมรี่ ผมก็ทำในแบบที่อัลติสทำไม่ได้เหมือนอย่างแคมรี่ให้ดู อีกทั้งให้เค้าลองขับเอง พิสูจน์เอง เชื้อเชิญให้เค้าพัฒนาการใช้รถในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งไม่ต้องไปยึดติดแบบเดิมๆ สร้างสุนทรีย์และอารมณ์ในการขับขี่ของแคมรี่ใหม่ จนทุกวันนี้เค้ารักและชอบแคมรี่มาก ตัวเล็กๆขับรถคล่องแคล่ว แต่ท้ายที่สุดเจ้าของเป็นผู้ตัดสินใจให้ตัวเองอีกครั้งครับ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำต่างๆค่ะ  คืองบมีครอบคุลมทุกรุ่นแล้ว รอตัดสินใจ

ขอถามเพิ่มเติมว่าระหว่าง 1.6 กับ 1.8G เกียร์ CVT อย่างไหนจะประหยัดน้ำมันกว่ากันคะ  อีกอย่างที่เลือก 1.8G เพราะเบาะหลังพับได้ทำให้มีพื้นที่เพิ่มกรณีขนของชิ้นใหญ่    ถ้าเราใช้ 1.6  แล้วขอเปลี่ยนเป็นเบาะพับได้ จะได้หรือไม่

1. ในด้านการใช้รถของคุรแนนนี่นั้น ใช้ในเมืองวันละ 50 กม. ไปต่างจังหวัดบ้าง ความเร็วที่ใช้ก็ 110-120 กม/ชม. เรียนตามตรง ผมเห้นด้วยกับความเห็นที่สามคือใช้เครื่อง 1.6 พอครับ เพราะคุณใช้งานน้อยมาก วิ่งทางไกลก้ไม่ได้ใช้ความเร็ว Option ต่างๆถ้าไม่จำเป็นต้องใช้ก็สามารถประหยัดเงินลงไปได้มากครับ 2. Paddle shift เป็นของเล่นสำหรับนักขับรถที่ออกจะเป็นมืออาชีพสักหน่อย ส่วนคุณเป็นแม่บ้าน เขาเกียร์ D วิ่งจากจุด A ไป B เท่านั้น ไม่จำเป้นต้องไปซื้อมันให้เปลืองเงินหรอกครับ 3. อย่างที่ผมได้บอกเอาไว้ว่าภายในสองปีนี้ Technology รถยนต์กำลังเปลี่ยนไปมาก แต่คุณจะรอเพื่อซื้อรถตอนนี้หรือซื้อตอนนั้น มันขึ้นอยู่กับเหตุผลคือคุณจำเป็นที่จะต้องใช้รถใหม่แล้วหรือยัง เช่นถ้ารถเก่าสภาพแย่มากแล้ว ซ่อมไม่ไหวเพราะค่าซ่อมเล่นเอาเลือดเหวะหวะ อย่างนั้นจะไปกังวลทำไมกับรถที่กำลังจะตกรุ่น เพราะอย่างไรซื้อมาแล้วคุณก็ใช้มันไปแล้วเกือบสองปีเข้าไปแล้วกว่าตัวใหม่จะออก แต่สำหรับบางคนที่เปลี่ยนรถตามรอบกำหนดคือถึงเวลาจะต้องเปลี่ยนเพราะมีนิสัยไม่ชอบรถเก่า (ยกเว้นห้ามใช้เป็นข้ออ้างว่าภรรยาคนปัจจุบันเก่าแล้วขอภรรยาคนใหม่ได้ไหม) นี่คือจุดที่ผมอยากจะสื่อสารถึงคือรอได้ไหม ถ้ารอได้ จะได้เจอของใหม่ๆที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะค่าน้ำมันได้ครับ

ความเห็นส่วนตัวนะครับ เดิมคุณใช้เครื่อง 1.3 เปลี่ยน มาเป็น 1.6 ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แล้วยิ่งคุณเป็นคนที่ขับรถไม่เร็วด้วยเหมาะสมแล้ว เครื่องใหญ่ก็กินน้ำมันมากแล้วคณเอามาใช้ในเมืองรถติดๆ มันก็ไปกันใหญ่ รถติดมันก็เผาน้ำมันทิ้งไปเปล่าๆ ออฟชั่นอย่าไปใส่ใจมันเลย ขนาดคันเก่าคุณไม่มียังใช้มาได้ถึง 20 ปี จริงไหมครับ เรื่องสีคอนโทรลเอาพรมหน้าปัดวางทับก็สิ้นเรื่องไม่ต้องไปเสียเงินตั้ง 5 หมื่น อยากได้รถหรูก็เลือกแคมรี่คนอื่นมองว่าเรามีตังค์ แต่ผมว่าเลือกรถตามที่กำลังทรัพย์เรามีดีที่สุดจะได้ไม่ต้องเป็นหนี้ให้เครียดครับ รถใหญ่หาที่จอดยาก ขับในเมืองก็ไม่คล่องตัว (เมื่อวานเห็นจะ จะ มอเตอร์ไซด์แหกโค้งมาใส่แคมรี่ไฮบริดป้างแดง แคมรี่ข้างหน้าด้านขวางตั้งแต่กันชนยุบมาถึงซุ้มล้อวิ่งไม่ได้เลยต้องเอารถตำรวจมาลากไปโรงพักไปดูรถได้ที่ สน.บางขุนเทียน ถ้าใครอยากเห็นนะครับ มอเตอร์ไซด์ก็เละกระเด็นไปสลบ 2 คน ทีแรกนึกว่าตายสักพักกระดิกได้เลือดเต็มปาก อีกคนขาหัก เจ้าของแคมร่ยื่นส่ายหัวเซ้ง)

เลือกที่ชอบ ทั้งภายนอก ภายใน ละครับ เพราะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน

ใช้โตโยต้าอยู่แล้ว ควรใช้อัลติส 2.0 น่าจะพอแล้ว

แคมรี่คันใหญ่ คุณอาจขับไม่สะดวกเหมือนรถเล็ก ๆ