มองย้อนกลับไปเมื่อสัก 30 ปี ที่แล้ว รู้จักฉนวน หรือแผ่นกันความร้อนกันเหรอครับ?

มันมีที่ไหนกันครับ ระบบเค้าทำมาดีได้มาตราฐาน iso กันดีอยูแล้ว จะมาถกเถียงเพื่ออะไร?

หรือว่าอยากเสียเงิน เสียเงินไม่เท่าไหร่ แต่เสียค่าโง่นี่สิ?

สรุป ทางโรงงานรถยนต์เค้าออกแบบมาดีมีมาตราฐานดีอยู่แล้วครับ 

          โดยปกติแล้วการออกแบบรถยนต์ทุกประเภท สิ่งที่ขับเคลื่อนตัวถังรถยนต์คือเครื่องยนต์ แน่นอนว่าเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงพลังงานเชื้อเพลิงในรูปหนึ่งให้เป็นการเคลื่อนที่อีกรูปหนึ่งย่อมเกิดพล้งงานความร้อนออกมา ซึ่งถ้าไม่มีการระบายความร้อนออกจากชิ้นส่วนเครื่องยนต์ก็จะทำให้เกิดการหลอมละลายของชิ้นส่วนนั้นๆ ในแนวทางแก้ไขคือใช้น้ำผ่านส่วนต่างๆที่เกิดความร้อนทำให้ระบายความร้อนในระดับหนึ่ง แล้วก็ใช้ลมหรืออากาศพัดผ่านท่อและคีบเพื่อระบายความร้อนในอีกระดับหนึ่งโดยที่ทั้งน้ำและอากาศจะมีพัดลมพัดพาความร้อนออกจากกระบวนการนี้ ดังนั้นการพาความร้อนออกจากกระบวนการย่อมมีทางเข้าของลมและทางออกของลม นั้นคือเข้าช่องลมบริเวณกันชนหน้าแล้วออกใต้ท้องรถไป(เครื่องยนต์ที่อยู่ด้านหน้า) ตอนที่รถยนต์เคลื่อนที่ย่อมระบายความร้อนได้ดี แต่ตอนที่รถยนต์จอดความร้อนจากเครื่องยนต์จะระบายออกรอบทิศทางถ่ายเทพลังงานความร้อนออกไปยังห้องเครื่องที่มีส่วนประกอบเป็นโลหะส่วนใหญ่เก็บสะสมความร้อนและเมื่อรถยนต์เคลื่อนที่จะทำการระบายความร้อนที่มีในห้องเครื่องออก ถ้าต้องจอดรถยนต์บ่อยๆนานๆจะแก้ปัญหาอย่างไร จะอาศัยพัดลมระบายความร้อนเพียงอย่างเดียวดีหรือไม่ จึงมีการนำฉนวนกันความร้อนมาติดตั้งที่รถยนต์ บริเวณที่ติดตั้งคือด้านบนของห้องเครื่องและด้านหลังของห้องเครื่อง เมื่ออากาศเข้าช่องกันชนหน้าผ่านหน้าเครื่องออกหลังลงใต้ท้อง เครื่องห้องเครื่องไม่สะสมความร้อนมาก ดังนั้นจึงระบายความแต่เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว

สรุปคือ

ถ้าไม่ได้ขับในเมืองรถยนต์ติดบ่อยๆจอดบ่อยๆก็ไม่จำเป็นครับ

ผมอยากจะชี้แนะปะปนบทความนี้มีใจความเนื้อที่ห้วนเต็มแรง ละโมบเสริมเพิ่มประเด็นไม่ใช่หรือตรวจร่วมมาถึงกับข้าวข้อเขียนอื่นรับช่วงฉนวนกระแสความร้อน เป็น อุปกรณ์เหรออุปกรณ์ที่อยู่กอบด้วยคดีเก่งในงานกีดขวางข้อสงสัยเกี่ยวกับฉนวนกันความร้อน

แย้งหน่อยละครับ ฉนวนจากโรงงานไม่มีการอมความร้อนนะครับร้อนแค่ผิวหน้าสัมผัสเท่านั้น ลองเปิดฝากระโปรงตอนจอดรถดูได้เอามือลูบๆร้อนหน้าสัมผัสนิดเดียวสักพักก็หายหมดแล้ว ของนอกศูนย์ไม่ดีอมร้อนกว่าครับ ติดดีกว่าไม่ติดละคับ

 ไม่ว่ารถ้ก่หรือรถใหม่ถ้าผู้ผลิตไม่ติดมาให้จากโรงงานก็ไม่้องติด ฉนวนที่ดีถูกสุขลักษณะต้องเป็นวัสดุโปร่งสามารถคลายความร้นออกจากตัวเองได้หลายทิศทาง ถ้าชนิดติดแปัจะอมความร้อนเอาไว้นานเกินไป

ผมก็มีความเห็นไปในแนวทางเดียวกับอาจารย์ คือคามิโอของผมฉนวนใต้ฝากระโปรงก็เริ่มเสื่อมสภาพแล้ว  ผมรอให้มันเสื่อมกว่านี้อีกหน่อยคือเปื่อยยุ่ยไปผมก็จะลอกออกแล้วคิดว่าจะไม่ติดใหม่  เพราะผมเห็นว่าฉนวนนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย  ข้อดีคือกันความร้อนจากเครื่องมาสู่ฝากระโปรงกับกันเสียงของเครื่องยนต์ได้ส่วนหนึ่ง  แต่ข้อเสียคือทำให้การระบายความร้อนในห้องเครื่องยนต์ไม่ดี  เมื่ออยู่ในสภาพเจอความร้อนนานๆ อาจจะอมความร้อนแบบที่อาจารย์บอกก็ได้  ประสบการณ์ของผมกับรถรุ่นเก่าๆ ไม่มีฉนวนเมื่อเทียบกับรถที่มีฉนวนก็เห็นว่าสีฝากระโปรงก็เสื่อมเหมือนๆ กันคือย่างเข้าปีที่ 10 สีก็จะเริ่มลดความเงาลง น่าจะเป็นเพราะแดดและฝุ่นละอองที่ทำให้สีหมองมากกว่ามาจากความร้อนใต้ฝากระโปรง เลยคิดว่าไม่ติดดีกว่าครับ

รบกวนอาจารย์ขยายความอีกนิดครับ

"ไม่ต้องติด" หมายถึง แม้แต่รถใหม่(กำลังจะออกใหม่น่ะครับ) คือมันไม่จำเป็น และเป็นส่วนเกิน เป็นสิ่งสิ้นเปลืองเหรอครับ

...ขอบคุณครับ

ไม่ต้องติดครับ  เพราะฉนวนบางชนิดเป็นตัวอมความร้อนด้วยซ้ำไปครับ

คือรถที่เก่าแล้วสีก็เสื่อมสภาพตามเวลา ดังนั้นถ้าไม่ติดฉนวนโอกาศสีพอง เป็นคลื่น มีให้เจอได้ภายใน8เดือน ยกเว้นรถใหม่ป้ายแดง 1ปีผ่านไปสีก็เป็นคลื่นยากมาก(ต่อให้ไม่ใส่ฉนวน) เพราะความสดของเนื้อสี ประกอบกับเนื้อสีที่ดีจากโรงงาน มันหนังคนละม้วนกัน ติดไม่ติดอยู่ที่เงินตัวเดียว ไม่จำเป็นต้องของศูนย์ก็ได้ นอกศูนย์ก็เหลือเฟือครับ