พี่ๆ หลายท่านตอบไปแล้วคือ "หาหมอให้ถูกโรค" สำคัญเป็นอันดับต้นครับ เพราะบางร้านถึงไม่ถนัด แต่รถเข้ามาก็จะทำ... เราก็เสี่ยงเป็นหนูทดลองเค้าครับ

อู่นอกที่เป็นร้านใหญ่มากๆ ผมมักเลี่ยงครับ โดยเฉพาะพวก "เฟรนชายส์" ต่างๆ ที่มักเน้นขายของ เปลี่ยนของ บางทีช่างคนเดียว ลูกมือแปดคน แล้วช่างเดินดูเฉยๆ พวกนี้ผมไม่เอาครับ และเวลามีปัญหาต้องคุยหลายคน มันไม่ "one stop service" ครับ

อู่ข้างบ้านผม เจ้าของเก่งมากๆ ช่วงแรกก็ทำกับแกอยู่ ช่วงหลังเฮีย(ช่าง)ไม่ทำเอง ลูกน้องทำความเสียหาย แกก็รับผิดชอบนะครับ แต่เราเสียความมั่นใจไปแล้ว ผมก็เลี่ยงไปเลย

วิธีของผมคือหาร้านเล็กๆ ใหญ่สุดก็อาจมีช่างสองสามคน กับเจ้าของร้านคนนึง(คอยสั่งช่างและคิดตังค์) ที่กำลังดีคือเจ้าของอู่หรือร้านเป็นช่างลงมือเอง มีลูกมือสักสองสามคนครับ งานจะเร็วและไม่เสี่ยง

ตัวอย่างร้านช่วงล่างและยางเจ้าประจำของผมมีช่างสองคน กับเจ๊เจ้าของ เจ๊ทำไม่เป็นแต่รู้อะไหล่ ผมคุยราราคับเจ๊และก็เดินอีกสามก้าวต่อไปนั่งคุยอาการกับช่าง ทุกอย่างจบในห้องเดียวครับ

ตัวอย่างอู่เครื่องยนต์ ผมทำกับช่างศูนย์เก่าที่ออกมาเปิดบ้านทำอู่เอง คิดราคาเอง มีลูกมือคนเดียว แต่ช่างลงมือเองเป็นส่วนใหญ่ งานช้าหน่อยแต่ชัวร์ ต้องวางแผนสักครึ่งวันไปนั่งดู นั่งคุยไปด้วย กำลังดีครับ

พวกไดฯ พวกแบตฯ ผมเข้าร้านตึกแถวคูหาเดียวครับ รถผมโบราณ มันไม่ซับซ้อน ได้ราคาถูกกว่าร้านใหญ่ที่ต้องเลี้ยงลูกน้องเยอะ

ร้านแอร์ผมมีเจ้าประจำ หลังจากทำมาสองสามเจ้า เจ้านี้แพงกว่าเจ้าอื่นหน่อย แต่งานเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาตามมา เฮียเจ้าของเป็นช่างเก่าออกมาเปิดร้านเอง มีลูกน้องร่วมสิบคน แต่เฮียเดินเองตลอด วิเคราะห์เอง ลองเอง แล้วสั่งลูกน้องทำ เดินดูเป็นระยะ สำคัญคือแกตรวจงานเองด้วยก่อนส่งมอบ แล้วสั่งช่างแก้งานที่ไม่เรียบร้อยโดยที่ผมยังไม่ได้ติงอะไรเลย เฮียค่อนข้างดุจริงจังกับคุณภาพงานครับ ร้านนี้ผมชอบมาก แต่นานแล้วไม่ได้เข้าไปเยี่ยมเลยเพราะงานซ่อมแอร์ของแก "ใช้ลืม" จริงๆ

^

^  ไอร้านนี้น่ะเอง  เหอๆ  ดีที่พี่ไม่เจอแบบนี้  มีรถคันเดียว ช่าง 10 คน รุมทำ แต่ แม่ม ไม่ได้ทำ มัวแต่เม้าส์แตกกันอยู่ เติมน้ำมันเกียร์ หกไปครึ่งกระป๋อง แถมตอนไป 4 โมง ร้านปิด 5 โมง  ทำเสร็จ 6 โมง  เจ้าของร้านเดินมาบอกขอเงินเพิ่มเป็นค่า OT ช่าง  แสรด  แค่ถ่ายน้ำมันเกียร์ ชั่วโมงเดียวก็เกินพอล่ะ 

อู่ใหญ่ ทำเลดี ก็ใช่ว่าจะดีเสมอไปครับ บางครั้งต้องทดลองดูก่อน หรืออาจจะสอบถามเพื่อนสมาชิกดูก่อน อย่างของผมเอารถไปเปลี่ยนถ่ายของเหลว พวกน้ำมันเครื่อง เกียร์ เฟือง และอีกหลายอย่าง เห็นเป็นอู่ใหญ่ทำเฉพาะรถยุโรป ยืนดูตลอดยังผิดพลาดเลย เห็นเป็นอู่ใหญ่ใกล้บ้าน เอา บีเอ็มไปใช้บริการดู เกือบต้องยกเครื่องใหม่ เพราะว่าช่างเปิดฝาหม้อน้ำไว้แต่ลืมปิด น้ำแทบหมดหม้อ ต้องเติมประมาณ 5ลิตร ดีที่เป็น บีเอ็มมันเตือนไม่งั้น พัง แม้แต่กรองอากาศมันยังไม่เป่าให้เลย ช่างบอกถอดออกยาก  ระบุไปเลยดีกว่า ร้านทวีชัย อยู่ถนนลาดพร้าววังหิน  เข้าไปครั้งเดียวเจอดีเลยครับ  และอีกตัวอย่าง รถเพื่อนเช่นกัน นิสสัน เข้า0ด้วย เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง พอออกจาก0 น้ำมันเครื่องแห้งเพราะช่างชุ่ย เครื่องพัง ฉนั้นอู่เล็กๆข้างทางบางอู่อาจทำได้ดีกว่าอู่ใหญ่หรือ0 ครับ

ตามมาขอบคุณทุกคำตอบครับ  (โดยเฉพาะคุณลูกบอล)

เลือกหาหมอให้ตรงโรค....ดีที่สุด

ช่วงนี้ใหม่ๆ ก็ต้องอ่านคู่มือเยอะๆ

เวลาเข้าศูนย์ช่วงประกัน 3 ปี/100,000ก.ม. หรือเจอเพื่อนร่วมรุ่น  ก็ถามสิ่งที่อยากรู้มากๆ

เก็บมาเป็นความรู้เรื่องรถของเราเอง จะได้รักกันนานๆ และช่วยประหยัดได้ด้วย

ก็ถามไม่เคลียร์นิ   ส่วนใหญ่ที่เลือก คือ จะแยกแบบนี้

เครื่อง + เกียร์ + ช่วงล่าง + ระบบไฟ   = ร้านเดียวกัน ซึ่งบางที ถ้าบทมันจะเสีย มันต้องไล่ทั้งหมด ไม่ใช่เข้าทีละร้าน เหนื่อย ทำทีเดียว ทำให้เสร็จไปเลย  บางทีถ้าเข้าทีละร้านมันวินิจฉัยออกมาไม่ตรงกัน เสียเวลาต้องกลับไปร้านแรก  

ได+แบต+ระบบไฟ   = ร้านเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเลือกเข้าร้านได ที่มีแบตให้เปลี่ยนด้วย เพราะถ้าเข้าร้านแบตอย่างเดียว  ร้านแบตไม่สามารถตั้งไฟให้ได้ครับ ต้องวิ่งไปร้านได อีกรอบ เสียเวลา 

แอร์ = ส่วนใหญ่ ผมจะเข้าร้านที่ทำแอร์อย่างเดียวครับ  อันนี้ต้องเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ไอร้านที่ทำแอร์ + หม้อน้ำ + ได + อื่น ๆ อย่าไปเข้า เพราะมันจะมั่ว แล้วมันจะฟันเยอะ  ไอที่ไม่เสียมันก็ทำให้เสียได้  เคยเจอมา 2 ที่ ล่ะ เซ็ง

ช่วงล่าง / ยาง  = อันนี้เข้าร้านเดียวกันก็ได้ หรืออย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ครับ  เพราะส่วนใหญ่ที่ยา่งมีปัญหาเกิดจากช่วงล่างไม่สมประกอบ ถ้าเข้าร้านยางอย่างเดียว มันซ่อมช่วงล่างไม่ได้ งิ 

เลือกซ่อมเป็นส่วน ๆ ครับ

ช่วงล่าง / ยาง

แอร์ / หม้อน้ำ

ระบบไฟ / แบต

เกียร์

เครื่อง

การเลือกอู่นอกที่ไม่ใช่ศูนย์สำหรับซ่อมรถ  ขึ้นอยู่กับว่าผมใช้รถอะไร  ถ้าผมใช้รถยุโรป เช่น เบนซ์ บีเอ็ม โฟล์ค เปอร์โยต์ ฯลฯ แบบนี้  ผมจะเลือกอู่ซ่อมเฉพาะยี่ห้อนั้นๆ

แต่ถ้าผมใช้รถตลาดและปัญหานั้นไม่ได้เกิดจากเครื่องยนต์  ผมก็จะเข้าอู่เฉพาะทาง เช่น แอร์ ไฟฟ้ารถยนต์ ช่วงล่าง เบรค เกียร์ออโต้ ฯลฯ  แต่ถ้าเป็นเครื่องยนต์ ผมก็จะดูอู่ที่มีเครื่องแสกนหรือโอบีดีตรวจวิเคราะห์เครื่องยนต์ครับ

ไม่ว่าจะเป็นอู่ซ่อมเฉพาะยี่ห้อ อู่ซ่อมเฉพาะทาง หรืออู่ซ่อมเครื่องยนต์  ขั้นแรกผมจะหาข่าวก่อนว่ามีอู่ใดบ้างและเสียงจากผู้ใช้บริการเป็นอย่างไร  ถ้าเสียงออกมาดีผมก็จะไปที่อู่นั้น (แต่ยังไม่เอารถเข้าซ่อม) ไปดูสภาพอู่ก่อน  พื้นที่ซ่อมเป็นอย่างไร  เครื่องมือที่ใช้เป็นอย่างไร ครบหรือไม่  ช่างในอู่เป็นอย่างไร  คล่องแคล่วทำงานอย่างชำนาญหรือไม่  และที่สำคัญคือเจ้าของอู่หรือช่างใหญ่เป็นอย่างไร  ต้องพูดคุยดูการวิเคราะห์รถที่จะซ่อม  การบริหารจัดการซ่อม ราคาและอะไหล่ที่ใช้ซ่อม  ตลอดจนดูลักษณะด้วยว่าเขาเป็นคนอย่างไร  รับผิดชอบหรือไม่  ถ้าดูแล้วเห็นว่าเข้าท่าหรือดี  ก็ค่อยนำรถเข้าซ่อมกับเขา  แต่ถ้าดูแล้วยังไม่ค่อยมั่นใจ  ก็จะมองอู่อื่นต่อไปครับ

ไม่ได้อยากรู้ว่าร้านไหนครับ  แต่อยากรู้ว่าดูอย่างไรสำหรับรถทั่วไปก็ได้  ไม่ต้องวีโก้ครับ

ตามคุณ K13 ไปครับ

ลองสอบถามในวีโก้คลับดูครับ สังคมใหญ่ อาจมีคนรู้จักร้านดีๆ ใกล้บ้าน