กลิ่นหอมๆ ผมชอบครับ แต่ได้กลิ่นแล้วอาการปวดหัวใจมันกำเริบ เลยต้องห่างๆ ไว้ครับน้า แหะๆ

น้าเอ็มมาแล้วนะ อย่าว่าแต่ผมเลย น้าเอ็มเองก็คงพิศมัยกลิ่นอย่างว่านะสิถึงได้รู้ใจผมนัก อิอิ

ถึงว่าสิ น้้าเลิศของผมถึงนิยมแต่กลิ่นของหอม ประเภทแป้ง น้ำหอม และกลิ่นโลชั่นจากสุภาพสตรี อิอิ

ยังไงสูบแล้วไม่เขวี้ยงก้นบุหรี่ออกนอกรถก็ไม่ว่ากันเด้อ.........อิ อิ

อย่างเพื่อนผมนี่น่ารักมากครับพกกระป๋องโค้กไว้อันดูดเสร็จยัดลงกระป๋องโค้กครับ

ปล.คุณลูกบอลยังไงสูบเลือกซองหน่อยเด้อ เอาซองที่เป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์ อย่าเอาซองมะเร็งปอดมาสูบเด้อ อิ อิ(จะเข้าใจมุกเราป่าวหนอ)

ผมคนนึงหล่ะครับที่ได้กลิ่นบุหรี่ทีไรเป็นไมเกรนทุกที เพราะมันเป็นโรคประจำตัวของกระผม รวมทั้งของมึนเมาทุกชนิด เมียผมก็เลยสบายใจที่ทั้งเหล้าบุหรี่ผมไม่ข้องเกี่ยว ส่วนเรื่องขับแล้วโทรนั้น ตั้งแต่ขับรถมาผมใช้ทั้งสมอลทอร์คและบลูทรูธมาโดยตลอดก่อนเขาจะออกกฏหมายซะอีกครับ ไม่ต้องมาบังคับกันเพราะคิดเป็น

อย่าเลยเดี๋ยวก็เลิกอีก ตอนนี้เห็นคนขับถือโทรศัพท์พูดขณะขับรถ ไม่เห็นตำรวจจับเลย

พอเหอะครับ  ......แค่นี้ก็หาที่สูบยากจะตายอยู่แล้ว  ...............  เอาไอกฏหมายห้ามสูบบุหรี่บนรถ เนี่ย เปลี่ยนมาเป็นกฏหมายห้ามทิ้งขยะดีกว่าไหม 

เห็นไอพวกไม่สูบบุหรี่เนี่ย ทิ้งจัง ทั้งขวด ทั้ง ถุง ทั้งกล่องขนม จิปาถะ    ขับรถตามมาเร็ว ๆ กระจกแทบแตก  ............ 

ไม่ออกกฎหมาย ห้ามสูบบุหรี่ ขณะ ขี้ในห้องน้ำ บ้านตัวเอง เลยล่ะคับ  ............. 

อะจ้าก.....งี้ผมขับรถจับมือแฟนไปด้วยเนี่ยจะโดนจับป่าวเนี่ยค้าบ อิ อิ อะแซวเล่ง

คืออาจอธิบายได้สองข้อครับ

อันแรก อันนี้เป็นปัญหาข้อเท็จจริงครับ คือการสูบบุหรี่มีผลต่อการควบคุมยานพาหนะแค่ไหน อันนี้ยังไม่มีการศึกษาให้ได้ข้อมูลเชิงปริมาณชัดเจนครับผมจึงตอบข้อนี้ไม่ได้ ต่างจากมือถือที่มีงานวิจัยออกมารองรับว่าทำให้การตัดสินใจเพื่อตอบสนองต่อสิ่งเร้าช้าลง ถ้าสมมติว่ามีรายงานที่เชื่อถือได้ว่าเป็นอันตรายต่อการขับรถจริง ก็จะเข้าสู่ข้อสอง

ข้อสองเป็นส่วนของการบัญญัติกฎหมายครับ ประโยชน์ที่คุณอาร์ตต้องการคุ้มครองเนี่ยคือความปลอดภัยบนถนน ดังนั้นก็จะไม่อยู่ในกฎหมายควบคุมยาสูบครับ แต่จะอยู่ในกฎหมายพรบ.จราจร แบบเดียวกับโทรศัพท์มือถือ แต่ทีนี้อาจต้องหาจุดร่วมของ มือถือ บุหรี่ จับมือแฟน ฯลฯ เพื่อให้ได้"แบบ"ของการขับรถที่จะเป็นอันตราย แล้วบัญญัติเป็นกฎหมายครับ เพราะในทางการบัญญัติกฎหมายไม่นิยมบัญญัติในเชิงพรรณาครับ

อ่ออย่างนี้นี่เอง ขอบคุณมากครับ

แต่ถ้าทำจริงๆก็น่าจะแก้กฎหมายได้เนาะ เพราะขนามือถือใครจะโทรที่ไหนก็ได้แต่เวลาขับรถนั้นห้ามหยิบขึ้นมาโทร มือถือยังมีแฮนฟรี บูลทูช เป็นตัวช่วย แต่บุหรี่นี่ซิ มือนึงถือพวงมาลัย อีกมือถือบุหรี่ตลอดเวลา อันตรายไหมครับ

คือวัตถุประสงค์ของกฎหมายควบคุมยาสูบเนี่ย คือป้องกันสุขภาพของคนรอบข้างครับ จึงไม่ให้มีการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ รถประจำทาง ห้องปรับอกาาศ สถานที่ชุมนุมชนต่างๆ แต่ก็มีบางที่เช่น เคหสถาน(ซึ่งต้องอยู่ร่วมกับครอบครัวตัวเอง) หรือในรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งในส่วนนี้กฎหมายเขาถือว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ประชาชนพอจะบริหารจัดการเองได้  แต่การทิ้งบุหรี่ออกนอกรก นั้นอาจเกิดอัคคีภัย หรือสกปรก วัตถุประสงค์ที่กฎหมายคุ้มครองคนละอย่างกันครับ กล่าวคือ กรณีเกิดอัคคีภัยเป็นเรื่องของการคุ้มครองภยันตรายต่อประชาชนจึงมีความผิดฐานประมาททำให้เกิดเพลิงไหม้ตามป.อาญา หรือกรณีทำพื้นสกปรกก็เป็นเรื่องพรบ.ทางหลวงหรือพรบ.รักษาความสะอาดที่คุ้มครองความสะอาดบนถนนครับ จริงๆแล้วมันมีกฎหมายอื่นที่บัญญัติเป็นการทั่วไปในเรื่องนั้นๆอยู่แล้วครับ แต่ปัญหาคือการที่เราจะบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ นึกภาพเวลาขับรถมาเร็วๆทิ้งก้นบุหรี่ลงถนน กว่าเจ้าหน้าที่จะเรียกให้หยุด แจ้งข้อหา แสวงหาหลักฐานมาดำเนินคดี มันก็ค่อนข้างลำบากครับ

    จริงๆแล้วผมก็เซ็งเหมือนกันครับกับพวกคนสำนึกต่ำพวกนี้ไม่ค่อยนึกถึงส่วนรวม