ให้เครื่องwarm down บ้างก็คงดี จอดเสร็จก็ลงมายืดเส้นยืดสาย บิดขี้เกียจ แล้วค่อยดับก็ยังดีครับ..

พ่อตาผมใช้รถมาจนหัวหงอก ไม่เคยเจอปัญหาอย่างที่พี่ว่า คือแกจะจอดแล้วดับเครื่องเลยเป็นประจำ แต่ล่าสุดแกขับมาจากต่างจังหวัดจะมากรุงเทพฯ พอแวะจอดกินข้าวที่สถานีบริการน้ำมัน แกก็ทำเหมือนทุกครั้ง คือหาที่จอดรถได้ก็ดับเครื่อง ล๊อครถ ลงไปกินข้าว กลับมา สตาร์ทรถ เรียบร้อยครับ แกร๊กๆๆๆๆ โทรตามผม ไอ้เราก็ลูกเขย ต้องเอาใจพ่อตาหน่อย ก็ต้องรีบหอบเครื่องมือ บึ่งไปหา พอไปถึงก็จัดการดูแบต ดูระบบไฟ มันก็ปรกติ ลองเอาประแจไปหมุน พูลเล่หน้าเครื่องดู งานเข้าแล้ว เครื่องหมุนไปได้นิดเดียวติด ตกลงลากกลับบ้านต่างจังหวัด เปิดฝาสูบดู โอ๊ะโอ๋ แหวนหักกระเด็นไปนั่งเล่นบนฝาสูบซะได้ โดนไปหลายพันกว่าจะกลับมาใช้ใหม่ได้ อาการบางอย่างมันก็ไม่ได้แสดงออกมา วันสองวัน มันต้องสะสมมาเป็นเวลานาน ถ้าเป็นไปได้ก็ทำอย่างที่พี่ๆ แนะนำมา แหล่ะครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ในขณะนั้นว่าใครเป็นรัฐบาลก็ย่อมเป็นฝ่ายถูก เอ้ยไม่ใช่คนละเรื่อง ก็ต้องใช้ดุลพินิจกันครับ มันเป็นเรื่องธรรมดา ต่างคนต่างความคิด ร้อยคนร้อยความคิด ๖๕ ล้านคน ก็ ๒ สี เอ้ย ๖๕ ล้านความคิด แต่เรายังมีใจเป็นหนึ่ง คือ เรารักในหลวงของเรา ขอพระองค์ทรงหายจากอาการพระประชวลโดยเร็วด้วยเทอน

ไม่ดับ มลพิษบานเลย ลองคิดดู

ปั๊ม มีที่จอดรถประมาณ 10-20 คัน สตาร์ตเครื่องจอดไว้ ซัก 10 คัน แถมยังมีรถวิ่งเข้าออกมาเติมน้ำมันอีก

เป็นคุณ คุณจะนั่งดม ควันรถในปั๊ม หรือปล่าว แล้วคุณ คิดถึงคนอื่นๆที่เขา นอน หรือพักผ่อนในปั๊มบ้างมั้ย

ขับจากนิวอิงค์แลนไปคีย์เวสต์ ประมาณ 30 ชม. ไม่ได้พักรถครับ ขับกันสี่คน รถน่ะไหว สบายมาก แต่คนจะแย่เอา ปกติขับทีละสองชั่วโมง กำลังดี

ของผมดับเครื่องเข้าเกียร์ว่างแล้วขึ้นเบรคมือทุกครั้งครับ ส่วนกระโปรงเอ๊ยฝากระโปรง ผมชอบเปิดมากกว่าปิด ให้ลมโกรก เย็นดีครับ แต่ก็ต้องดูเวลาและสถานที่จอดด้วย หากไม่น่าไว้ใจผมก็ไม่เปิด ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเครื่องยนต์ นอกจากมีบางคนผ่านมาเห็นเครื่องในรถผมแล้วบอกว่าวันไหนว่างๆพี่ล้างห้องเครื่องซะมั่งนะ เขรอะเชียว 5555...

ส่วนตัวผมไม่เคยจอดติดเครื่องทิ้งไว้ครับ เพราะก่อนจะแวะปั๊ม ผมจะเบารถมาก่อนระยะหนึ่งแล้ว(ไม่เคยท้องเสียเวลาขับทางไกล อิอิ) พอจอดได้ที่ ก่อนจะดับ ก็จะสำรวจไฟหน้าปัดต่างๆ โดยเฉพาะเกจ์ความร้อนแวบหนึ่ง ราวๆ สิบวินาทีมั๊ง แล้วก็ดับเครื่อง ลงรถ ไม่เคยเปิดฝากระโปรงด้วยครับ

กรณีพี่ดวงว่ามา ก็มีตรงกับที่ผมรับทราบมาสองเรื่อง เรื่องแรกคือเรื่อง hot spot ในเครื่องยนต์ จากการลากรอบสูง(แต่ก็ไม่ค่อยเกิดขึ้นในการใช้งานจริงอย่างลุงคนว่างฯ บอก) จะกระจายความร้อนผ่านน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเครื่องไปรอบๆ ก่อน ทำให้ความร้อนเฉพาะจุด ไม่ทำความเสียหายกับเครื่องได้ แล้วค่อยดับเครื่อง แต่การขับปกติ มันไม่ค่อยเกิด hot spot ถึงขั้นอันตรายหรอกครับ

เรื่องที่สองคือเรื่องแกนเทอร์โบ ที่อาศัยน้ำมันหล่อลื่นและระบายความร้อน ถ้าวิ่งมาแบบอัดเทอร์โบทำงานรอบจัดๆ มา แกนจะร้อนจัด ท่านว่าควรเบาเครื่องสักพัก ให้น้ำมันเครื่องในส่วนที่ไม่ร้อนจัดมาหล่อลื่นแทนที่แกน และระบายน้ำมันในส่วนที่ร้อนจัดออกไป พร้อมกับการระบายความร้อนจากแกนไปบ้าง จะป้องกันการสึกหรอหรือพังก่อนเวลาของแกนเทอร์โบได้ ที่อาจเกิดจากเขม่าน้ำมันเครื่องที่เกาะบริเวณแกนจากความร้อนแบบ hot spot ที่ตำแหน่งเล็กๆ นั้น.... แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ถ้าไม่ท้องเสียจัดๆ คงไม่มีใครบูสท์มาเต็มๆ แล้วจอดดับเครื่องปุ๊บเลยหรอกครับ ช่วงการเบาเครื่องก่อนเลี้ยวเข้าปั๊ม หาที่จอด เข้าซอง ตรวจสอบหน้าปัด ปลดเข็มขัด บิดขี้เกียจ แล้วปลุกลูกให้ตื่นไปฉี่...... ผมว่าช่วงเวลานี้ถ้าขับรถตามปกติวิสัย ก็ไม่จำเป็นต้องติดเครื่องทิ้งไว้ครับ 

เทคนิคของผม เป้าหมายอยู่ที่ปลอดภัยและประหยัด กล่าวคือ คุณจะต้องดับเครื่องและล๊อครถทุกครั้งก่อนที่คุณจะทิ้งรถไป และตามเทคนิคของผมนั้น มันเป็นตามสภาพการใช้งานของผู้ขับรถจริงบนถนนในประเทศไทยเราครับ คือไม่มีใครหรอกที่จะขับที่ 160กม/ชม แล้วพุ่งเข้าจอด ส่วนใหญ่จะลดความเร็วมาแล้วทั้งนั้น บางครั้ง คุณอาจจะพุ่งเข้ามาได้ แต่ไม่มีที่จอดอยู่ดี ต้องจอดรอสามถึงห้านาทีก่อนที่ๆจอดรถจะว่าง ซึ่งเท่ากับว่าเครื่องยนต์มันคลายความร้อนลงไปหมดแล้วครับ สุดท้าย การที่คุณติดเครื่องเอาไว้ตอนจอดนั้น ผิดกฏหมายนะครับ อากาศก็เสีย น้ำมันก็เปลือง ผมถึงไม่แนะนำครับ ใครจะเชื่ออย่างไร พิจารณาเอาเองครับ ถ้าคุณคิดว่าการติดเครื่องไว้สามนาทีแล้วค่อยดับ ทำไม่บริทรถเขาไม่ติด Turbo timer มาจากโรงงานเลยละถ้าเขาคิดว่ามันจำเป็นที่จะต้อติดเคร องไว้สามนาทีก่อนดับเล่าครับ   

ทำไมเทคนิคแต่ละคนจึงแตกต่างกันหว่าเราจะเชื่อใครดี บางตำราก็อย่างที่คุณ ดวง บอกบางตำราก็อย่างที่คุณคนว่างฯบอก งงงงงง

ขอบคุณคับ...คนว่างฯ

ขอย้ำว่าไม่จำเป็น สาเหตุเพราะการขับรถส่วนใหญ่ คุณได้ลดความเร็วลงมาแล้วก่อนที่จะจอด ดังนั้นความร้อนจึงไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าคุณกระทืบมาที่ 160 กม/ฃม แล้ววิ่งเข้าจอดในปั๋มทันทีโดยไม่ลดความเร็วหรือชลอความเร็วรถลงมาก่อน นั่นแหละถึงแนะนำว่าติดเครื่องสักสองนาทีก่อนดับ ซึ่งบ้านเรามันไม่มีใครกระทืบที่ 160 กม/ฃม. แล้วจอดในทันทีกันหรอกครับ เพราะถนนบ้านเรามันไม่ให้กับการวิ่งแบบนั้นครับ  

การหยุดพักรถระหว่างการเดินทางระยะำไกล ก่อนที่จะดับเครื่องต้องติดเครื่องไว้ก่อนประมาณ2-5 นาทีีเนื่องจากเครื่องทำงานหนักมาตลอด..หลังจากนั้นค่อยดับเครื่องไม่งั้น..เครื่องจะสึกหรอสูงเนื่องมาจากความร้อนที่สะสม (โดยเฉพาะรถที่คิดเทอร์โบด้วยแล้ว)

ดับไปเถอะ เดี๋ยวจะได้เห็นคนบางคนต้องวิ่งหน้าตั้งเพราะรถมันอยู่ๆก็จะมีคนขึ้นไปขับทำรถหายไปต่อหน้าต่อตากันหรอกครับ สาเหตุที่รถบางคันเขาไม่ดับเพราะเขาอาจจะติด Turbo timer ซึ่งตั้งเวลาไว้ แต่เขาล๊อครถนะ พอครบหนึ่งหรือสามนาที (แล้วแต่เขาจะทั้งเวลา) เครื่องก็จะดับเองครับ แต่ข้อเสียคือเกิดขึนไปขับตอนเครื่องกำลังติดแม้นกุญแจรถจะไม่ได้ใส่ก็ตาม รถยังวิ่งไปได้สักพัก พอครบเวลามันก็จะหยุดครับ