พี่ก็เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นสังเคราะห์ 100 แทนครับ

 พอดีใช้รถทุกวันหน่ะครับคุณสงคราม เลยถีงแสนกิโลไวไปนิด ช่วงยังไม่ถึงแสนกิโล ก็เข้าศูนย์ตามปกติ ตามระยะที่กำหนด ทุกครั้ง เช็คครั้งล่าสุด คือที่ระยะ 100,500 km ครับ ตามปกติ ก็ต้องไปเช็คอีกตอน 105,500 km ใช่ไหม แต่ทีนี้ผมเพลินไปหน่อย ทำงาน (จันทร์-ศุกร์) และไปเรียนหนังสือ (เสาร์-อาทิตย์) ดูอีกทีขึ้นไปแล้ว 107,990 km แล้ว เลยสงสัยว่าจะไปเช็คทีเดียวตอน 110,500 km ได้ไหม

ส่วนศูนย์ที่ใกล้บ้านที่สุด ห่าง 102 km ครับ และยังไม่รู้จักอู่นอกแถวๆ บ้านสักเท่าไร เพราะที่ผ่านมาก็พึ่งแต่ศูนย์ตลอด ครับผม

ขอบคุณมากครับสำหรับความคิดเห็นของทุกๆ ท่าน

 ปีเดียวกับ x-trail ของผมเลย ของผมยังหมื่นหกพันโลเอง .... สิ่งหนึ่งที่แนะนำได้คือ  ดูตารางว่ารถจะต้องทำอะไรบ้างในแต่ละช่วงเวลา เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกห้าพันโล หากคุณใช้ ซินฯ ก็เปลี่ยนเป็นหมื่นโลได้  เฟืองท้ายเปลี่ยนที่ สี่หมื่นโล ก็ตามนั้น ฯลฯ  แต่ส่วนที่สำคัญเชน  ปรับตั้งวาล์ว หรือส่วนที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์  ต้องพยายามทำให้ตรงเวลา เพื่อสุขภาพของรถเราครับ....

เรื่องน้ำมันหัวเชื้อนั้น ผมพูดมานานแล้วว่ามันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มัน ไม่ต้องซื้อ วิธีคุณชวลิตเป็นวิธีหนึ่งที่ถูกต้องคืออะไรที่ซ่อมข้างนอกได้ ก็ควรทำ ไม่ต้องพึ่งศูนย์ฯ คุณสามารถเลือกเองได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องการ SET ECU ต้องพึ่งเขาแน่นอน เพราะข้างนอกไม่มีและถ้ามี ช่างก็ต้องแอบเอารถคุณไปให้ที่ศูนย์ฯทำหลังร้าน Set ECU แล้วมาเก็บเงินคุณเพิ่มที่เขาเอาไปทำอีกรอบหนึ่งครับ   

   ได้ครับสบายมาก ของผมก็ปีเดียวกับคุณแต่ยังไม่ครบแสนโล ผมก็เข้าทุกหมื่นโล  บางยี่ห้อเขาเข้าทุกหมื่นห้า-สองหมื่นโลเลยทีเดียว  และผมจะไปยืนดูทุกครั้ง บางครั้งผมต้องบอกช่างเรื่องความละเอียดบางอย่าง ผมเห็นเขาทำกับรถลูกค้าที่นั่งรอรับรถอยู่ที่ห้องแอร์แล้ว  โห..ถ้าเป็นรถผมรับไม่ได้

น้ำมันล้างหัวฉีด กระป๋องเล็กๆ ครับคุณชวลิต เวลาไปเช็คทุก 5000 เช่น 95000 km 105000 km ชอบเติมให้โดยที่เราไม่ได้สั่ง จะบอกให้เอาออก ก็กระไรๆ อยู่ ช่างหัวมันเถอะ กระป๋องนิดเดียว สามร้อยกว่าบาทเชียวนะนั่น เขาอ้างว่า มันจะไปทำความสะอาดหัวฉีดให้ เพราะน้ำมันสมัยนี้สกปรก ว่างั้น หารู้ไม่ว่า ผมเติม shell v-power เต็มถังเป็นประจำ ตามคำแนะนำของคุณคนว่างฯ 

 ที่เรียกว่า น้ำมันหัวเชื้อเทวดา คืออะไรหรือครับ

รถผมตอนใช้ไป 1 แสนโล ก็หยุดเข้าศูนย์ครับ 

แล้วก็เข้าศูนย์อีกตอนที่เครื่องยนต์มีปัญหา แล้วเข้าอีกทีตอน 2 แสนโล 

เพื่อตรวจเช็คเปลี่ยนซ่อมโดยละเิีอียดทุกอย่าง เพราะว่ารอบแสนโล

เป็นรอบที่ศูนย์จะเช็คทุกอย่าง เปลี่ยนของเหลวทุกอย่าง อะไรที่งบมันมาก

ก็ไม่ต้อง say yes เช่น ทางศูนย์บอกต้องเปลี่ยนครัชท์ทั้งชุด เอาไปให้อู่นอก

ซ่อมครัชท์ใช้เงินแค่ 7 พัน แต่ศูนย์เสนอมา 2หมื่นกว่าบาท หวังว่าประสบการณ์ผม

จะเป็นประโยชน์นะครับ

รถกะบะรุ่นใหม่จะมี ECU เป็นตัวควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ ตามปรกติ เวลาที่คุณเอารถไปเช็คที่ศูนย์ฯเมื่อครบกำหนด ช่างจะทำการ Clear code และตรวจสอบการทำงานของ ECU โดยต่อเข้ากับอุปกรณ์ของศูนย์ฯ ซึ่งช่างทั่วไปไม่มีอุปกรณ์ตัวนี้เพราะราคาโคตรแพงและซื้อไม่ไหว ถ้าถามว่ารถรุ่นเก่าที่ไม่มี ECU ไม่ต้องเขาศูนย์ฯ ใช้บริการข้างนอกอย่างเดียวไหวไหม ตอบว่าสบายเพราะมันไม่มี ECU ตัวแสบนี่แหละ และการดูแลมันง่ายกว่าเยอะ แต่ถ้ารุ่นใหม่ แนะนำว่าควรที่จะได้รับการบริการอย่างน้อยปีละครั้ง เข้าไปตรวจสอบการทำงานของ ECU ครับ อนึ่ง บางอู่หรือช่างบางคนเขา Set clear code ECU ให้คุณ แต่เขาไม่โฆษณาให้คุณทราบในตอนรับรถ เพราะลูกค้าบางท่านบอกไปแล้วก็ไม่สนใจ สนใจแค่คุณเปลี่ยนอะไหล่อะไรให้ผม ซ่อมตามที่ผมสั่งไหม คุณเลยคิดว่าเข้าไปแค่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเท่านั้น ซึ่งถ้าจะเปลี่ยนแค่น้ำมันเครื่องเท่านั้น ปั๋มน้ำมันก็ทำได้ครับ ส่วนข้อแก้ตัวว่าไม่มีเวลานั้น เรียนตามตรง หาเวลาครับ เพราะรถคันหนึ่งราคาแพงกว่าบ้านหลังเล็กๆอีก จะไม่ดูแลมันเลยหรือครับ ถ้าคุณเป็นเจ้าของบ่อน้ำมันแถวซาอุฯ มีฮาเร็มสักสี่หลัง เมียแปดสิบคนรออยู่ จะใช้รถแบบวิ่งจนพังไม่ต้องไปบริการมัน แล้วเปลี่ยนคันใหม่ตลอดกาลคงจะไม่มีใครว่าคุณหรอกครับ

ไม่ได้หมายความว่า กลัว นะครับ เพียงแต่รำคาญ ศูนย์ไม่ได้บังคับก็ใช่อยู่ และมีตรงใหนบ้างที่ผมบอกว่า กลัว ผมแค่ถามว่า ไม่เข้าทุก 5,000 km ได้ไหม แต่เข้าทุก 10,000 km ซึ่งก็ต้องเข้าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามปกติ แต่เพิ่มช่วงห่างให้มากขึ้นเท่านั้น แค่นี้จริงๆ ไม่เห็นมีตรงใหนที่ผมบอกว่า กลัว

ถ้าคุณจะเดาใจผมนะ เดาว่า รำคาญ หงุดหงิด เรื่อง น้ำมันหัวเชื้อเทวดา หน่ะถูกต้องครับ คุณสิงห์กระบะ น้ำมันเครื่องไม่เคยขาด

555555555555555555555555555555

กลัวก็ไม่ต้องเข้าสิครับ ศูนย์มันไม่ได้บังคับขืนใจใครซะด้วย อยากทำไรทำเลยรถคุณเองแท้ จะนอกศูนย์ ในศูนย์ หรือเผาทิ้ง ก็แล้วแต่เจ้าของครับ