ผมไม่ค่อยได้ติดตามอาจารย์สักเท่าไร เลยไม่ค่อยรู้ ยังไงก็ขออภัยคุณคนว่างฯมา ณ ที่นี้นะครับ

ซีตรองช่วงล่างเขาสุดยอดจริงๆครับ เคยขโมยรถเพื่อน(รุ่นXantia)ไปลองเอาแก้วน้ำวางไว้บนหลังคาแล้วลองวิ่งข้ามทางรถไฟ น้ำยังไม่หกเลยครับ

 ขอถอนคำพูดครับ

ซีตรอง ซี 5 Hydractive ระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ

โดย Business Thai - 10 ตุลาคม 2546 เวลา 13:59 น.

นับตั้งแต่ยนตรกรรมซีตรองเข้ามาทำตลาดในบ้านเรา ภาพลักษณ์ของแบรนด์เป็นรถยนต์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี นักเลงรถหรือเจ้านายยุคก่อนยังจำข้อความโฆษณารถยนต์ยี่ห้อนี้ได้ว่า สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลร่วมครึ่งร้อยกิโลเมตรขณะที่ยางรั่ว ซึ่งมาจากระบบนวัตกรรมกันสะเทือนอัจฉริยะ Hydractive รุ่นแรกๆ

ปัจจุบันระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ Hydractive ได้พัฒนามาถึงรุ่นที่ 3 โดยระบบกันสะเทือนรุ่นใหม่ เป็นการผสานความล้ำหน้าทางอิเล็กทรอนิกส์เข้ากับเทคโนโลยีไฮโดรลิกได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นความสามารถเชิงสร้างสรรค์ของวิศวกรผู้ออกแบบของซีตรองโดยแท้

โดยระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ Hydractive รุ่นที่ 3 ได้ถูกนำมาติดตั้งในซีตรอง ซี 5 ที่วางจำหน่ายในตลาดเมืองไทย หลังจากเปิดตัวสู่สายตาชาวโลก ครั้งแรกในงานจัดแสดงเทคโนโลยีในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2000 โดยระบบการทำงานของระบบกันสะเทือนรุ่นที่ 3 คือ สิ่งสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างการยึดเกาะถนน และความนุ่มนวลในการขับขี่ นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความพึงพอใจในการขับขี่ แถม ยังก่อให้เกิดความปลอดภัยในเชิงป้องกัน ซึ่งระบบกันสะเทือนจะทำสัมพันธ์เชื่อมโยงกันทั้ง 4 ล้อ

ระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ Hydractive รุ่นที่ 3 ประกอบด้วยระบบการทำงานดังนี้ คือ BHI หรือ Built-In Hydroelectronic Interface ซึ่งเป็นหัวใจของระบบนี้ มีหน่วยควบคุมพลังงาน ตัวสร้างแรงไฮโดรลิกอย่างอิสระ ประกอบด้วยปั๊ม และอิเล็กโทรวาล์ว พร้อมอุปกรณ์กระจายแรงดันไฮโดรลิก และมอเตอร์ไฟฟ้า

ถัดมาเป็นชุดรองรับน้ำหนักระบบช่วงล่าง 4 ชุด พร้อมกับลูกตุ้มแบบใหม่ นอกจากนี้ยังมีตัวควบคุม ระดับความสูงของล้อหน้า และล้อหลัง จากนั้นก็จะมีตัวจับระดับความสูงควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ทำงานร่วมกับเหล็กกันโคลง พร้อมถังน้ำมันสำรองที่ช่วยท่านนำรถคันโปรดไปให้ถึงปั๊มน้ำมันยามฉุกเฉิน

นอกจากนี้ในระบบกันสะเทือนอัจฉริยะมีการเชื่อมต่อแบบใหม่ที่มีพื้นฐานการทำงานอย่างเรียบง่าย แต่ทันสมัยเต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพเพื่อรับส่งข้อมูลในระบบไฮโดรลิก

ระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ Hydractive รุ่นที่ 3 สามารถปรับสภาพเพื่อตอบสนองสไตล์การขับขี่ของแต่ละคนอัตโนมัติทั้งแบบสปอร์ต (Sport) และนุ่มนวลสบายๆ (Comfort) เพราะระบบความจำจะบันทึกสไตล์การขับขี่ของคุณเอาไว้ และสั่งการผ่านทาง BHI ช่วยให้ระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ Hydractive ทำงานได้ลงตัวสอดคล้องกับความเร็ว และสามารถเข้าสู่โหมดสปอร์ตเพียงกดปุ่มเท่านั้น

สุดท้ายเป็นปุ่มควบคุม และการบอกระดับความสูงของตัวรถ ซึ่งตรงนี้จะแสดงผลผ่านทางจอมอนิเตอร์ภายในห้องโดยสาร โดยระบบเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และไฮโดรลิกทั้งหมดจะถูกควบคุมด้วยระบบ BHI ยนตรกิจ ออโต เซ็นเตอร์ เคยโชว์ระเบิดยางซีตรอง ซี 5 ทั้งสองเส้น ณ ลานจอดรถหลังซีคอนสแควร์ เพื่อทดสอบสมรรถนะระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ

Hydractive รุ่นที่ 3 จากการสอบถามผู้เข้าร่วมทดสอบทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่มี ความรู้สึกว่ารถที่เขากำลังขับอยู่ยางแบน” และยังสามารถขับไปได้ระยะทางพอสมควร เนื่องจากระบบ Hydractive จะส่งกำลังและน้ำหนักไปยังล้อปกติ อาจจะกล่าวได้ว่า Hydractive เป็นอุปกรณ์เชิงป้องกันที่ทันสมัย และอมตะที่สุดในโลกยนตรกรรม

ขอประทานโทษนะพ่อนักเปรียบเทียบ ผมทราบดีว่าอาจารย์ใช้รถอะไร และคิดว่าอาจารย์ก็ยังใช้ซีตรองรุ่น ซี 8 อยู่ ซึ่งไม่ได้ตอบซี้ซั้ว แต่เมื่อคุณออกมาแย้ง ขอถามหน่อยว่าแล้วคุณนะ รู้จริงหรือถึงเที่ยวมาแย้งขาวบ้านเขานะ        

เห็นด้วยครับคุณนน เน้นความปลอดภัยอยู่ไกลๆFortunerดีกว่า แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ ตัดออกไปได้เลยครับ(ก็ต้องเข้าใจครับ ผู้บริหารมันไม่ห่วงตัวรถเท่าไร มันห่วงโฆษณา ห่วงแต่ไปจ้างโรนัลโดมาเป็นพรีเซนเตอร์จนไม่มีเงินให้วิศกรเอาไปปรับปรุงพัฒนา) ไปดูรุ่นอื่นๆอย่าง Pajero Sport ที่กำลังขายอยู่หรือไม่ก็ All New Everest,All New Trailblazer ที่จะตามมาเร็วๆนี้ดีกว่าครับ พวกนี้ระบบความปลอดภัยเหนือกว่ามาก

แต่ถ้าสนใจแค่อีซูซุกับโตโยต้า เลือกอีซูซุดีกว่าครับ ระบบความปลอดภัยแม้ไม่ได้ดีมากแบบฟอร์ดแบบเชฟ แต่ก็ดีกว่าโตโยต้าครับ

*หมายเหตุ รถพวกนี้ไม่ใช่แบบซีตรองหรือรถตุ๊กตุ๊กนะครับ จะได้วิ่ง3ล้อได้

คุณคนว่างฯ ผมไม่ได้อยากว่าคุณเท่าไรนะครับ เรื่องที่คุณไปพาดพิงว่าอาจารยพัฒนเดชไปใช้ซีตรอง คือถ้าไม่รู้ว่าอาจารย์ใช้รถรุ่นอะไรเราอย่าไปตอบซี้ซั้วครับ (ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าอาจารย์ใช้รถรรุ่นอะไร)

เน้นความปลอดภัย อยู่ไกลๆ Fortuner ครับ... แนะนำให้ลองดู CHEVROLET Trail Blazer อีกตัวด้วยนะครับ น่าจะปลอดภัยกว่า แรงกว่า แต่อัตราสิ้นเปลืองอาจจะมากกว่า Mu-7 เล็กน้อยครับ

ท่านประธานครับ  พาดพิงครับ  ขอให้ถอนครับ

รถยี่ห้อเดียวที่วิ่งได้สามล้อคือ Citroen ซึ่งเป็นรถนำเข้า มีราคาแพงและค่าบริการแพง การซ่อมมีปัญหาพอตัว คนที่จะใช้รถยี่ห้อนี้จะต้องเป็นคนที่มีใจรักในรถยี่ห้อนี้เช่นอาจารย์พัฒนเดชเท่านั้นครับ ถ้าไม่แน่จริง ไม่แนะนำครับ ซื้อไปแล้วเมียด่าเช้า-เย็นเพราะรถเอาแต่เข้าซ่อม จะใช้กลับไม่ได้ใช้ครับ 

ซื้อสามล้อกันกระสุนเลยครับ

ในกรณีของ MU-7 นัี้น กำลังจะมีตัวใหม่ออกมาในไม่ช้า คาดว่าไม่เกิน 2 ปีนี้ ดังนั้นถ้าซื้อตัวนี้ในตอนนี้ อาจจะผิดหวังครับเพราะรุ่นใหม่จะแตกต่างกันมาก แต่ราคาก็คงจะปรับเพิ่มขึ้นด้วย Fortuner จะเปลี่ยนเมื่อไร ไม่ทราบครับ แต่แนวโน้มคงจะใกล้เคียงกัน รถพวกนี้ไม่สามารถวิ่ง 3 ล้อได้ครับ