เหตุผลของการไม่สลับยาง และการถ่วงล้อแบบประชิด
avatar
บ้องตื้น


คุณคนว่างวันอาทิตย์มีความเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องสลับยางให้ยุ่งยาก ใช้ไปให้ครบสี่หมื่นกิโลแล้วเปลี่ยนใหม่เลยดีกว่า  ผมขอเรียนถาม(ด้วยความเคารพ) ว่า เหตุผลคืออะไรครับ

ถ้าเราสลับแบบตัว X สำหรับยางที่ไม่กำหนดทิศทางการหมุน ตามที่หนังสือคู่มือแนะนำ (โดยให้เหตุผลว่าเพื่อ “ช่วยยืดอายุยางและเพื่อให้ยางสึกอย่างสม่ำเสมอ” ) ก็แปลว่าจะไม่ได้ประโยชน์อะไรคุ้มค่าเหมือนการปล่อยไว้อย่างเดิม อย่างนั้นหรือครับ ผมขอทราบเหตุผลเพื่อตัดสินใจว่าจะทำตามคู่มือ หรือทำตามคำแนะนำนี้ดีครับ

อีกเรื่อง เกี่ยวกับการถ่วงล้อ  คู่มือแนะนำให้ถ่วงแบบประชิด (แบบจี้) หรือ ไดนามิก เสมอไป แต่เมื่อผมโทรฯ ไปถามศูนย์บริการของฮอนด้า (วี กรู๊ป บางขุนนนท์) เขาบอกว่าเขาไม่มีเครื่องถ่วงแบบนี้ บอกว่าราคาแพง ถ้าจะถ่วงจี้ต้องไปถ่วงกับการยางข้่างนอก  รถผมเป็นแจ๊ซรุ่น 10 ครับ (ถามไว้ก่อนเพราะยังอีกนานกว่าจะถึงขั้นตอนนี้) แต่ผมฟังแล้วคิดว่าเป็นการตอแหลเสียมากกว่า ที่อยากจะเรียนถามคือ ผมเหมือนกับเคยจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า คุณพัฒนเดชเคยแนะนำไว้ (อาจจำผิดก็ได้นะครับ) ว่า ในกรณีรถขับล้อหน้า ให้ยกล้อน้าลอยทั้งคู่และติดเครื่องเอาไว้ระหว่างการถ่วงแบบจี้ เพื่อให้ปั๊มน้ำมันเกียร์ทำงานและระบายความร้อนจากล้อที่กำลังถูกจี้อยู่ได้  ขอเรียนถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ และถ้าร้้านเขาไม่ทำแบบนี้เราจะบอกเขาอย่างไรดีครับ เพราะตามเหตุผลแล้ว น้ำมันเกียร์คงร้อนจัด

และเท่าที่เคยอ่านผ่านตามา มีบางรายถึงกับแนะนำว่า ให้เข้าเกียร์แล้วเร่งเครื่องให้ล้อหมุน แทนที่จะใช้การหมุนจากเครื่องถ่วง อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ฟังดูมีเหตุผลเหมือนกัน แต่นั่นแหละครับ ฟังดูมีเหตุผลไม่ใช่ว่าจะถูกเสมอไป จึงขอรบกวนเรียนถามมา ขอบคุณครับ



ผู้ตั้งกระทู้ บ้องตื้น :: วันที่ลงประกาศ 2009-11-08 17:30:21 IP : 125.24.72.74


1

ความคิดเห็นที่ 4 (3127720)
avatar
บ้องตื้น

อันนี้ผมต้องขอแก้เรื่องที่ตัวเองเข้าใจผิดครับ ที่บอกว่า “คู่มือบอกให้ถ่วงแบบประชิด (แบบจี้) หรือ ไดนามิก เสมอไป”  ที่เข้าใจผิดคือ ผมดันไปคิดว่าการถ่วงแบบจี้กับไดนามิกนั้นเป็นอย่างเดียวกัน แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่ใช่ (แหะ ๆ ความโง่ไม่เคยปรานีใครจริง ๆ) และลำพังการถ่วงแบบไดนามิก (แบบหมุน หรือแบบคอมฯ) นั้นก็ดีพออย่างที่คู่มือบอก และตรงตามที่คุณคนว่างฯ แนะนำแล้วครับ ว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปถ่วงจี้ให้เปลืองเงินเปล่า ๆ  ขอขอบคุณที่ให้ความรู้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น บ้องตื้น วันที่ตอบ 2009-11-12 06:51:43 IP : 125.24.5.2


ความคิดเห็นที่ 3 (3126686)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

ในการถ่วงแบบประชิดนั้น ช่างจะยกล้อหน้าของคุณขึ้นก่อนที่จะเอาเครื่องจี้ไปจี้ที่ล้อด้านหน้าด้านหนึ่งด้านใดก่อน ซึ่งเวลาที่มันหมุนนั้น มันจะไม่ไปทำให้เกิดความเสียหายกับระบบขับเคลื่อนเพราะในตอนนั้นระบบเกียร์ก็ได้รับการปลดจากเครื่องยนต์และเครื่องยนต์ก็ดับในตอนที่ทำด้วย ซึ่งเป็นคำตอบในคำถามต่อไปว่าไม่ต้องสตารท์เครื่องเลยถ้าจะทำ แต่เรียนตามตรงว่าไม่ต้องไปทำมันหรอกครับ นอกเสียจากว่าคุณจะไปตกหลุมขนาดใหญ่แล้วกะทะล้อมันเสียศูนย์ฯ หรือยางที่คุณซื้อมาใช้นั้นมันคุณภาพต่ำจนไม่สามารถถ่วงให้มันสมดุลย์ได้ครับ เรื่องลากนั้นมันเป็นคนละเรื่องกันครับ เพราะการจี้มันใช้ระยะทางนิดเดียวเอง มอเตอร์มีความแรงในการหมุนจากศูนยืถึง 100 กม./ชมได้ในเวลาอันสั้นครับ จึงไม่กระทบกระเทือนอะไรครับ อย่าคิดมากครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2009-11-09 18:07:36 IP : 58.8.77.104


ความคิดเห็นที่ 2 (3126670)
avatar
บ้องตื้น

ขอบคุณมากครับที่ช่วยให้ความกระจ่าง เพราะประเด็นของเรื่องนี้คือ “เหตุผล” ที่ผู้ใช้รถแต่ละคนนำไปประกอบการตัดสินใจ  และเหตุผลที่แนะนำมานี้ก็นับว่าใช้ได้เลยสำหรับผม แต่ที่ยังข้องใจเรื่องถ่วงแบบจี้ เพราะสมัยใช้ Civic 96 นั้น เขาถ่วงล้อหน้าแบบจี้ให้ตอนไปเปลี่ยนยาง เพียงแต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าเขายกล้อหน้าขึ้นทั้งสองข้างหรือเปล่าเท่านั้นเองครับ

 อันนี้ขอถามเป็นความรู้เฉย ๆ นะครับว่า ฮอนด้าแจ๊ซ เกียร์ออโต้ เบรก ABS ถ้าจะถ่วงแบบจี้:

1. ต้องยกล้อขึ้นทั้งสองล้อหรือเปล่า เพราะอะไร (ที่สงสัยเพราะขนาดจะลากรถเขายังจำกัดความเร็วและระยะทางถ้าหากไม่ยกลอย)

2. การติดเครื่องไว้เฉย ๆ ขณะถ่วงจะมีประโยชน์ไหม หรือเปลืองน้ำมันเปล่า ๆ 

 

อันนี้ขอนอกเรื่องนิดนะครับ  คือผมเคยอ่านกระทู้เรื่องการเปลี่ยนเกียร์ D เป็น N ตอนเบรก กับการเหยียบเบรกแช่ไว้ในเกียร์ D  ซึ่งถูกด้วยกันทั้งสองฝ่าย ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้รถจะเห็นอะไรเป็นเรื่องสำคัญกว่ากัน (priority)  เหมือนอย่างที่คุณเคยตอบเอาไว้ว่า (ในทางทฤษฎี) การเหยียบเบรกเอาไว้อาจทำให้เกียร์ทนกว่า แต่ผู้ผลิตเขาก็คำนวณเอาไว้แล้วว่าไม่มีปัญหา ถ้าจะทนกว่าแค่ปีสองปีจากอายุใช้งานไม่ต่ำกว่าสิบปี (ซึ่งก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์)  ผมยอมเปลี่ยนเกียร์เพื่อความสบายขาที่ไม่ต้องคอยเกร็งเหยียบเอาไว้ดีกว่า  และจากประสบการณ์จริงของตัวเอง ใช้ Civic 96 VTIE มาสิบกว่าปี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเกียร์เลยจนเพิ่งขายไปเมื่อไม่กี่เดืือน ก่อนจะถอยแจ๊ซคันใหม่ออกมา  ผมจึงขอสนับสนุนที่คุณไม่บ้าจี้ตามทฤษฎีแบบไม่คำนึงว่า ผู้ใช้จะได้ประโยชน์อะไรในทางปฏิบัติจริง

ขอขอบคุณอีกครั้งครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น บ้องตื้น วันที่ตอบ 2009-11-09 17:51:00 IP : 125.24.63.126


ความคิดเห็นที่ 1 (3126317)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

เรียนตามตรงว่ามันเป็นวิธีที่ทั้งผมและอาจารย์พัฒนเดชใช้อยู่คือไม่ต้องไปสลับมันหรอกครับ ใช้ให้ครบสี่หมื่นกิโลเมตรและใช้รถวิ่งทางไกล ใช้ความเร็วสูงประจำ (บางคนใช้ในเมือง ไม่ได้วิ่งบ่อย จะลากไปหกหมื่นผมก็ไม่ห้าม) เปลี่ยนยางใหม่ไปเลยม้วนเดียวจบครับ ยางสมัยใหม่เรื่องการสึกมันแตกต่างกับยางสมัยยี่สิบปีก่อนอย่างกับฟ้ากับดินครับ เรื่องการถ่วง ถ้าคุณไม่ได้ใช้ประเภท BMW ที่ชอบจะมีปัญหาเรื่องสั่นเป็นประจำ ไม่ต้องไปถ่วงแบบประชิดหรอกครับ ถ่วงแบบธรรมดาไปเถอะ พอแล้ว ข้อดีคือถ้าเกิดจะต้องสลับยางคุณก็ยังทำได้ แต่ถ้าถ่วงแบบประชิด มันจะถ่วงให้น้ำหนักมีความพอดีกับล้อนั้นเท่านั้น พอย้ายเอาไปไว้ล้ออื่น มันจะสั่นได้ ผมถึงไม่ค่อยสนับสนุนให้ทำนัก ข้อสำคัญ ร้านยางคิดค่าถ่วงพิเศษเข้าให้อีก จึงไม่อยากให้คุณเสียเงินตรงนี้ครับ ส่วนที่ถามว่าการถ่วงแบบจี้จะทำให้น้ำมันเกียร์ร้อนไหม ตอบว่าไม่ร้อนหรอกครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ส่วนคำแนะนำที่ให้เร่งเครื่องแล้ให้ล้อหมุนนั้น บอกได้เลยว่าถ้าอยากจะทำให้เกิดปัญหาหนัก ให้ทำไป เพราะลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรถ้าตั้งรถไม่ดีแล้วล้อหลุดลงมากระแทกพื้นตอนที่หมุนอยู่ ไม่ต้องไปงานศพกับบ้างให้รู้ไปครับ โอ้โฮ คิดได้นะนี่คนเรา   

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2009-11-09 09:51:17 IP : 61.90.29.161



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.