ทีวัดลมยางที่ได้มาตรฐาน
avatar
วัดลมแบบงง


อยากทราบว่าท่านกูรู ใช้ที่วัดลมยาง แบบไหนกันส่วนใหญ่ ดิจิตอล หรือ อนาลอ็ค และเป็นยี่ห้อไหน ที่ได้มาตรฐานครับ  สังเกตุตู้ที่ติดอยู่ตามปั๊มน้ำมัน และ ที่ศูนย์ - ร้านยาง - แต่ละที่ ไม่เท่ากันเลย เช่นศูนย์ เติมให้ 30 ปอนด์ มาวัดที่ปั๊ม เป็น 34 ปอนด์ เป็นต้น ที่ร้านยางเหมือนกัน ไปซื้อที่วันลมยางที่เป็นแบบ ดิจิตอล ยี่ห้อมาย คาร์ มา 1 อัน ราคา 500 บาท มาวัดดูก็ไม่เท่ากันอีก ทุกวันนี้ ก็เลย งง ตัวเอง ว่า รถตัวเองเติมลมกีปอนด็กันแน่ ที่มาตรฐานจริง ๆ



ผู้ตั้งกระทู้ วัดลมแบบงง :: วันที่ลงประกาศ 2009-11-19 11:54:26 IP : 113.53.159.104


1

ความคิดเห็นที่ 5 (4067108)
avatar
mancardy
เดี๊ยวนี้ปั๊มลมอัติโนมัติแบบฉุกเฉิน สามารถใช้เติมได้เลยแค่เสียบกับที่เสียบบุหรี่คับ แรงดัน set ได้เลย กรณียางแตก หรือลมยาง
อ่อนเติมเองได้คับ ...มีเกจวัดลมเรียบร้อยในตัว 
ผู้แสดงความคิดเห็น mancardy วันที่ตอบ 2017-07-21 13:45:03 IP : 49.49.241.78


ความคิดเห็นที่ 4 (3130907)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

วิธีการใช้งานของที่วัดลมของมิชลินตัวที่เป็น Digital นี้เหมือนกับที่วัดลมของมิชลินตัวเก่าที่คุณใช้อยู่ แต่การใช้งานง่ายกว่ามากครับ จนทำให้ผู้ใช้อยากวัดทุกวัน (เช่นพี่เลิศศักดิ์ที่ภรรยาจะต้มยางรถยนต์แทนอาหารให้กินอยู่แล้ว) วิธีเติมลมยางคุณบ้องตื้นเข้าใจถูกลแ้วว่าควรเติมตอนที่ยางยังเย็น แนะนำว่ามีที่วัดที่ได้มาตราฐานจะเหมาะกว่าจะไปเชื่อเครื่องวัดราคาถูกครับ เพราะส่วนใหญ่ พอพังคุณก้ไม่รู้เรื่อง นึกว่าลมยางได้ที่ พอเอาของดีเสียบเท่านั้น ยางอ่อนไปตั้ง 5 ปนอด์แนะพี่ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2009-11-22 08:11:25 IP : 61.90.29.217


ความคิดเห็นที่ 3 (3130878)
avatar
บ้องตื้น

ไม่ทราบว่าอันที่คุณคนว่างฯ พูดถึงนี่ วิธีวัดมันใช้ปลายข้างหนึ่งกดเข้ากับวาล์วยางหรือเป็นแบบจุ๊บฝาปิดยางครับ เพราะถ้าเป็นแบบหลังนี่อยากจะซื้อมาใช้ไว้สักอัน เพราะผมใช้ของมิเชอแลงอยู่เหมือนกัน แต่เป็นแบบอนาล็อก ซื้อไว้เกือบยี่สิบปีแล้วครับ ยังวัดได้เที่ยงตรงดี แต่ปัญหาคือตอนวัดต้องกดปากมันให้ตรงกับวาล์วให้ดี ไม่งั้นลมมันจะรั่วออกมา เพราะฉะนั้นลมที่อาจกำลังพอดีอยู่ตอนก่อนวัด ก็อาจอ่อนลงไปได้สักครึ่งปอนด์เพียงเพราะเราดันไปวัดมันเข้า  สมัยก่อนเรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา เพราะเราเติมให้เกินไว้แล้วค่อยปล่อยทิ้งได้ แต่สมัยนี้หลายปั๊มมักไม่มีที่ให้เราเติมเอง เวลาไปเติมตอนที่ยางร้อนอยู่ก็ต้องเติมเผื่อร่วมสี่ห้้าปอนด์ ไม่งั้นความดันอาจต่ำไป ทำให้หงุดหงิดใจ เมื่อเดือนที่แล้วผมเลยไปซื้อปั๊มสำหรับเติมลมยางแบบระบบลูกสูบ รู้สึกจะยี่ห้องริชเทค หรืออะไรทำนองนั้น ราคาก็ประมาณสองพันเศษ ที่ชอบมันก็เพราะมัน (อ้าง) ว่าเติมลมยางแบนได้ภายในสิบกว่านาที (หรือประมาณนั้น เพราะพูดจากความจำ) และใช้ต่อเนื่องได้ถึงสามสิบนาที  และปลายสายข้างที่ต่อเข้ากับวาล์วยางก็เป็นแบบจุ๊บ มีเกลียวหมุนได้แน่นสนิท แก้ปัญหาของเจ้าตัววัดอันเก่าผมไปได้ เท่าที่ทดลองใช้มาก็ประทับใจครับ  เครื่องนี้ต่อกับตรงที่เสียบจ่ายไฟในรถ และเมื่อต่อเข้ากับยางก็สามารถวัดความดันลมได้ อ่านค่าออกมาเป็นดิจิตอล  อ้อ อันที่ว่านี้ซื้อที่เซ็นทรัล (ปิ่นเกล้า) มีกระเป๋าผ้าสำหรับใส่ให้เสร็จ คนขายคุยว่าของสวีเดนหรืออะไรประมาณนั้น แต่ผมแน่ใจว่าผลิตในจีน (ไม่ได้แปลว่าไม่ดีนะครับ)  แล้วเมื่อวันก่อนไปเดินดูแถวโลตัสที่ใกล้ ๆ กัน ก็เห็นมีอยู่เครื่องหนึ่งรูปร่างหน้าตาเหมือนกัน แต่คิดว่าคนละยี่ห้อกัน และราคาก็ถูกกว่าเยอะ จะผลิตโดย OEM เจ้าเดียวกันหรือเปล่าผมไม่ทราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น บ้องตื้น วันที่ตอบ 2009-11-22 05:00:42 IP : 125.24.2.55


ความคิดเห็นที่ 2 (3129996)
avatar
คนว่างวันอาทิตยืช่วยตอบ

ถ้าอยากได้แบบดีจริงๆ ไปที่ Autobac เป็นของ Michelin เป็นแบบ Digital ราคาอันหนึ่งน่าจะประมาณ 800 บาทครับ เที่ยงตรงแน่แต่โอกาสหายมีสูงครับ เพราะใครเห็นก็อยากได้ฟรีๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตยืช่วยตอบ วันที่ตอบ 2009-11-19 14:21:38 IP : 58.8.76.36


ความคิดเห็นที่ 1 (3129984)
avatar
M(น่ารัก)

ป๋ม บ่แม่นกูรูเด๊อครับ ใช้ที่วัดแบบเข็มอันละ 99 บาท จนป่านนี้สีแดงถลอกออกมาจนเป็นเนื่อเหล็กเกือบหมดแล้ว ก็ยังใช้การได้ดีครับ ส่วนจะตรงหรือเปล่าอันนี้ไม่ค่อยมันใจเพราะยังไม่ได้เอาไปเข้าศูนย์สอบเทียบเครื่องมือวัดครับ...แหะๆ

แต่ประเด็นของผมคือ เบี่ยงเบนเล็กๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ สำคัญคือมันวัดได้และบอกได้ว่าขณะนี้ยางสี่เส้นลมเท่ากัน หรือคู่หน้าลมเท่ากัน เช่น "ประมาณ 32" ..... ผมก็โอแล้วครับ เพราะผมว่าลมที่เท่ากันสองข้าง สำคัญกว่าความตรงเสป็คมากครับ เพราะเวลาขับ ยังไงลมยางก็เปลี่ยนไปราว 3-5 ปอนด์จากความร้อนได้ง่ายๆ และปกติครับ

ผมใช้ความรูสึกประกอบด้วย คือถ้ามันกระด้าง ผมก็ลดลมลงนิดหนึ่งสองข้างเท่าๆ กัน นิ่มไป(มีเหมือนกัน) ก็ไปเติมและเช็คให้มันได้เท่ากันครับ

ขับในเมือง ทางใกล้ๆ ผมใช้ลมที่ 30 ครับ เดินทาง 32-34 แล้วแต่น้ำหนักบรรทุก(เก๋งเล็ก) ในเมืองกระด้างหน่อย แต่ว่องไวดีครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น M(น่ารัก) วันที่ตอบ 2009-11-19 13:45:29 IP : 202.12.97.119



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.