น้ำมันดีเซล บี2 และ บี5
avatar
ต้อม


ถามผู้รู้เป็นข้อๆนะครับ

1. น้ำมันดีเซลบ้านเราปัจจุบันยังมีใช้อยู่หรือเปล่าครับ หรือว่ามีแต่ บี2  กับ บี5

2. อนาคตถ้าไม่มี ดีเซล บี2 และ บี5   แต่มีดีเซล  บี ฯลฯ  ตามมาที่มากกว่า บี 5  แล้วรถยนต์เครื่องดีเซลในปัจจุบัน ถึงตอนนั้นจะเติมได้หรือครับ

3. ถ้าเราจะได้หารถยนต์ที่รองรับหลาย ๆ บี เช่น รถรุ่นที่ใช้ระบบ SOHCเอาใว้ใช้จะดีกว่าใหมครับ



ผู้ตั้งกระทู้ ต้อม :: วันที่ลงประกาศ 2009-11-13 22:49:48 IP : 119.31.19.151


1

ความคิดเห็นที่ 5 (3276494)
avatar
yo

ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่มีความรู้เรื่องน้ำมัน จึงอยากถามว่า ถ้ารถผมในตอนนี้ไม่ได้ใช้น้ำมันดีเซล บี 5 ถ้าผมจะเปลี่ยนมาใช้ดีเซล บี 5 ผมต้องรอให้น้ำมันดีเซลเดิมหมดไปหรือเปล่า หรือว่าสามารถเติมผสมลงไปได้เลย ช่วยรบกวนด้วยนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น yo (molly_yo-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2010-12-10 21:33:17 IP : 110.49.193.98


ความคิดเห็นที่ 4 (3128708)
avatar
k13

คุณต้อมเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์เห็นภาพชัดมากครับ เปรียบเหมือนเราจะหาแรมกับฮาสดิสความจุต่ำๆมาใช้ตอนนี้ ซึ่งจะพบว่าทั้งหายากและแพงกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังแพงกว่าแรมและฮาสดิสที่ใช้เทคโนโลยีในปัจจุบันทั้งที่เทคโนโลยีต่างกันราวฟ้ากับดิน เปรียบเสมือนน้ำมันเป็น OS ในคอมพิวเตอร์จะพบว่าใหม่ๆ Vista คนก็ไม่ค่อยยอมรับ แต่ปัจจุบันหลายๆค่ายก็ใช้ขายพร้อมกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งเวอร์ชั่นหลังๆก็จะเสถียรมากขึ้น ฉันใดฉันนั้นครับ รถยนต์น้ำมันก็เป็นแค่ส่วนประกอบยังมีระบบอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องอีกมากมาย เช่นไฟฟ้า ดังนั้นถ้าเราจะออกรถสักคันถ้าไม่รีบร้อนจนเกินไปก็รอเวอร์ชั่นที่คิดว่าเขาได้แก้ไขข้อบกพร่องไปหมดแล้ว เช่นวีโก้ ฟอจูนเนอร์เรื่องเบรกในเวอร์ชั่นแรกๆ ดีแมกซ์เรื่องกล่องและกินน้ำมันเครื่องในคอมมอนเรลรุ่นแรก ซึ่งถ้าซื้อในปัจจุบันปัญหาดังกล่าวล้วนได้รับการแก้ไขแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น k13 วันที่ตอบ 2009-11-15 17:27:27 IP : 61.7.160.6


ความคิดเห็นที่ 3 (3128619)
avatar
ต้อม

ขอบคุณครับ สำหรับคำตอบทั้งสองท่านที่ให้ความรู้ในมุมมองหลาย ๆ ด้านครับ แสดงว่าหลาย ๆ สิ่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านเครื่องยนต์ น้ำมัน และสิ่งประกอบกันต้องมีการพัฒนา คงคล้าย ๆ กับ computer ในอดีตที่มีขนาดใหญ่ กินไฟสูง ราคาแสนแพง แต่ปัจจุบันราคาย่อมเยาวมาก และมีขนาดกระทัดรัด ประสิทธิภาพการใช้งานสูง ประหยัดไฟ ถ้าย้อนกลับมามองด้านยานยนต์ของบ้านเรา ย่อมมีการพัฒนาไปอีกหลายระดับ และสอดคล้องกับการพัฒนาด้านน้ำมัน  ถ้าเป็นอย่างที่ทั้งสองท่านแนะนำ ผมควรจะรอรถยนต์ที่พัฒนามากกว่านี้อีกสักรุ่นคงจะดี เพื่อจะได้ใช้น้ำมัน บี5 หรือมากกว่าได้อย่างสบายใจไปอีกอย่างน้อย 20 ปี ถูกไหมครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ต้อม วันที่ตอบ 2009-11-15 10:01:37 IP : 110.49.177.50


ความคิดเห็นที่ 2 (3128395)
avatar
คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ

1. น้ำมัน B2 คาดว่าจะยกเลิกผลิตในไม่ช้าเพราะถ้าเป็นไปตามกฏหมายแล้ว ัมนควรถูกยกเลิก แต่เนื่องจากมีปัญหาที่มาบตาพุด จึงทำให้ยืดเวลาการยกเลิก B2 ออกไป ในอนาคตจะเหลือแต่ B5 จำหน่ายเท่านั้นครับ  2. รถเก่าพวกที่ไมไ่ด้เป็น Commonrail สามารถใช้ B5 ได้แน่นอนเพราะหัวฉีดหยาบ ส่วนพวกที่ใช้ Commonrail น้น ทุกบริษัทออกมายอมรับว่าสามารถใช้ B5 ของ ปตท. และบางยี่ห้อของเชลล์ได้ครับ

http://www.doeb.go.th/news/car_b5.pdf

ผู้แสดงความคิดเห็น คนว่างวันอาทิตย์ช่วยตอบ วันที่ตอบ 2009-11-14 11:16:59 IP : 61.90.30.224


ความคิดเห็นที่ 1 (3128369)
avatar
k13

คิดมากไปหรือเปล่าครับ

1.ไม่มีดีเซล100%ขายในเชิงพาณิชย์แล้ว เหลือเฉพาะ B2&B5

2.คงอีกนานกว่าที่จะยกเลิก B2,B5 จะเลิกผลิต คำณวนจากอายุเครื่องยนต์ 1 เครื่องอายุการใช้งานตามกม.15-20ปี น้ำมันB2,B5 เพิ่งประกาศใช้ทดแทนดีเซลน่าจะยังไม่ถึง 5 ปี ดังนั้นเหลือเวลาอย่างน้อยที่สุดก็ 15 ปี และอย่าลืมว่าเรามีพ่อหลวงที่ทรงมองไกลทดลองมาก่อนถึงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา รถในโครงการส่วนพระองค์ล้วนใช้น้ำมันไบโอดีเซล 0 - 100% ทรงทดลองใช้มาหมดแล้ว

3.ในอนาคตรถจะพัฒนาให้ทันสมัยมากขึ้นรองรับน้ำมันที่ B มากขึ้น รถรุ่นเก่าๆก็จะค่อยๆยกเลิกการผลิต เนื่องจากกฎหมายด้านมลพิษเป็นตัวกำหนด ถึงตอนนั้นเราคงจะซื้ออะไหล่ที่มีขายกันถูกๆตอนนี้ไม่ไหว เพราะคงหายากและแพงมาก อีกทั้งราคาน้ำมันคงไปไกลแล้ว ซึ่งรถรุ่นเก่าๆ คงจะมีอัตราการกินน้ำมันสูง เมื่อเทียบกับรถรุ่นใหม่ๆที่จะผลิตออกมาแล้ว ถึงตอนนั้นเราคงต้องเดินไปตามเทคโนโลยีละครับ เหมือนกับการแก้ปัญหา SCV ในปัจจุบัน ที่ถ้าติดขัดก็มีร้านรับล้างราคาแค่หลักร้อยเท่านั้นเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น k13 วันที่ตอบ 2009-11-14 08:47:05 IP : 61.7.160.6



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.