ผมแฟนพันธุ์แท้ bm  แต่มีปัญญาแค่มือสองนะครับ ใจมันรัก ไม่เคยใช้รถญี่ปุ่น ใช้มาตั้งแต่ e30  e36 และปัจจุบัน e46 ปี 2005 ซื้อมาปี 2010 ใช้มา 6 ปีแล้ว ตอนซื้อแปดหมื่นกว่าโล  ตอนนี้เกือบสามแสนแล้ว  ค่าซ่อมก็ปกตินะครับ ไม่มีอะไรหนักหนาสาหัสอย่างที่เค้าว่า  ที่งานใหญ่ๆที่โดนก็จะมี คอมแอร์  หลายตังค์อยู่  ไดร์ชาร์จ หมื่นต้นๆ หม้อน้ำไม่กี่พัน  นอกนั้นก็พื้นๆ ราคาอะไหล่ก็ไม่ต่สงจากรถญี่ปุ่นเท่าไหร่ ถ้าใจรักเล่นเถอะครับ ผมว่ามันขับแล้วมั่นใจกว่ารถญี่ปุ่นเยอะๆๆๆๆๆ  อย่าไปห่วงเรื่องซ่อม รุ่นนี้อะไหล่เพียบ แถมเป็นรุ่นที่รูปทรงสวยงาม ราคาตอนนี้ก็ไม่เท่าไหร่  ลุยครับ อู่นอกดีๆเยอะแยะไปหมด 

 ที่จริงผมมีคำตอบในใจแล้วละ ถ้าจะเล่นรถยุโรป ก็ต้องทำใจ กับปัญหาที่จะตามมา เพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อน ไม่ค่อยรับกับการใช้งานรถยุโรป แต่่ปัจจุบันเทคโนโลยีดีขึ้นมากกว่าสมัยก่อน ปัญหาก็ค่อยๆ ลดลง อีกปัจจัยหนึ่งมันขึ้นอยู่กับผู้ใช้ด้วย ถ้าใช้รถแบบไม่ดูแลไม่ทั่วถึง จอดตากแดดทั้งวัน วิ่งต่างจังหวัดเหยียบกระชาก  ยิ่งเป็นรถใน กทม. ซึ่งเจอปัญหารถติด เดี่ยวขับ เดี่ยวต้องหยุดเพราะรถติด การใช้งานก็ถือว่าหนัก ย่อมมีปัญหามากกว่ารถต่างจังหวัดแน่นอน อายุเกียร์ เครื่องยนต์ ย่อมเสียเปรียบรถต่างจังหวัด บางคนที่ผมอ่านเจอ ซื้อรถไป 4-5 ปี แทบไม่ต้องซ่อมเลย บางคนถือว่าซวย ซื้อรถมาใช้งานไป ปีสองปี ซ่อมแล้ว และไม่จบด้วย สุดท้ายก็ต้องขายรถ ผมว่าทุกท่านคงเข้าใจในจุดนี้ แต่อย่างไรก็ตามรถญี่ปุ่น ใช่ว่าจะไม่มีปัญหา แต่ก็น้อยกว่ารถยุโรป คนที่ใช้รถญี่ปุ่นแล้วซ่อมบ่อย ผมว่าเขาซวยนะ ได้รถไม่ดีไป 
ปัญหาที่เกิดกับรถโฃนยุโรปนั้น มันขึ้นอยู่กับผู้ซื้อว่ารับได้ไหม รถในตลาดเต้นท์รถส่วนใหญ่ใช้มากว่าหนึ่งคน อย่างต่ำ 2 มากก็4 มือเดียวก็เป็นรถรุ่นใหม่ รถเก่าอย่าหวัง และเราก็ไม่รู้พฤติกรรมการใช้งาน ผมรู้ที่ท่านตอบ ผมเดานะ น่าจะเป็นรถในกรุงเทพ
ที่บ้านผมใช้ Benz C220 ( ึ7ปี) , BMW E 90(3ปี) , CRV 2007 สีดำ(ผมใช้อยู่), CIVIC ปี 10 ล่าสุดเพิ่งถอย Jazz ตัวใหม่ สีเหลืองผมขับเอง สะดวกดี  รถบ้านผมค่อนข้างโชคดี อาจจะเป็นเพราะการดูแลถึงด้วย อีกอย่างขับน้อยด้วย  จึงไม่เจอรายการใหญ่ๆ เจอปัญหาบ้างเล็กๆน้อย อย่าง Benz เจอปัญหาไฟ ก็แก้เรียบร้อยแล้ว  BM ไม่เคยซ่อมเลย รถผม CRV ใช้มา 7 ปีกว่า ปีนี้เข้าปีที่ 8 ไมล์ 130,xxx ผมจอดตากแดดน้อยมาก โคมไฟหน้ายังใสอยู่เลย ปัญหาไฟ แอร์ ไม่เคยเจอ ผมรักรถคันนี้มาก เพิ่งไปเข้าสปามา รถนี้ใหม่เอียม เหมือนรถใช้เพียง ปีสองปี ผมตั้งใจจะใช้ ไปอีก 4 ปี แล้วค่อยขาย แต่บังเอิญ มีคนเอาเจ้า  BMW E46 318iseเครื่อง N42 มาจำนำ รถปี 02 ไม่ใช่ 05(ขอโทษด้วยที่โกหกไป) รถบ้านแท้ๆ มือเดียว  (เครื่องรุ่นนี้เท่าที่หาความรู้ใน Net ประหยัดน้ำมัน ไม่ต่อยมีปัญหา)ซึ่งชอบรถรุ่นนี้มากตอนออกใหม่ แต่ก็ซื้อ CRV แทน เพราะที่บ้านชอบเที่ยวบ่อย พอรถหลุดจำนำ เจ้าของก็เลยอยากขายต่อให้บ้านผม
ผมขอบคุณทุกท่านในความหวังดี ผมรู้ว่าท่านหวังดี ใช่ผมจะลองของขอความรู้ แต่อยากได้ความรู้และคำตอบประกอบการตัดสินใจ 
ท่านใดที่เปลี่ยนรถบ่อย อย่าทำเลย ใช้รถแล้วใช้ให้คุ้ม รถบ้านผม ใช้ไม่ต่ำกว่า 8 ปี ถึงจะขาย

 เพื่อนผมแฟนพันธ์แท้BMW ใช้คันแรกปี๒๕๒๒รุ่น๒๐๐๒แล้วก็เปลี่ยนไปใช้E21 E30 E36 E34 E40 :กว่า๓๐ปีที่ใช้มาซ่อมเองบ้างเข้าอู่บ้างใช้งานได้ตลอดมันมายอมแพ้ก็ไอ้ตัว318i E46 นี่แหละบอกเสียจุกจิกมากและเป็นบ่อยๆทั้งระบบไฟรถ ไฟเครื่องยนต์ แอร์ สุดท้ายต้องขายไปแล้วถอยแคมรี่มาขี่แทน

 อ๋อ แล้ว 4 ปี 4 แสน นี่บังเอิญไม่ใช่คันเดียวด้วยนะสิ หึ หึ
http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2012/05/V12161531/V12161531.html

 คุณไม่เชื่อก็ตามใจครับ ผมก็ขับอยู่ไม่ใช่มานั่งมโนเอา ก๊วนผมซ่อมก็รู้อยู่เท่าไหร่ ไปเปิดตู้ขนจากญี่ปุ่นก็ทำมาแล้ว
อยากได้ก็ซื้อครับ มีเงินก็ซ่อม ซ่อมไม่จบก็รถท่าน  

 ขอบคุณสำหรับความเห็น
  ความเห็นแรก ดูจะอคติกับ BM มากไปหน่อย กับปัญาคนใช้รถ 4 ปี ซ่อม 4 แสน เสียชื่อ BM แย่ และคนที่ใช้รถคันนั้นน่าจะซวย
  ส่วนที่ว่าไล่ซ่อมเจ้า E46 ที่ใช้มา10 ปี น่าจะหมด ผมว่า  คุ้มนะ เฉลี่ยปีละ 20,000.-บาท ส่วนค่าดูแลสำหรับรถ BM รุ่นนี้ปีละ
  3-40,000.-บาท พอรับไหว
   ที่จริงผมอยากได้คนใช้ BM มาตอบมากกว่านะ น่าจะรู้ปัญหาดี
  ความเห็นที่ 2 คุณก้อง ใช้ BM อยู่ ชอบครับ แต่ขอความกรุณาช่วยตอบให้ละเอียดกว่านี้ ตามปัญหาที่ผมถาม
  ความเห็นที่ 3 คุณ Ongamo อย่าตกใจ เท่าที่รู้ รถยุโรป ค่าดูแลพอๆกัน ผมว่า เปอโยต์ กับ ซีตรอง หาอู่ซ่อมยากกว่า(ขายได้น้อยกว่า)
                         ค่าซ่อมน่าจะโหดกว่า(ผมเดานะ)
   อยากได้ความเห็นจากคนที่ใช้รถ BM มาไขปัญหาอีกสักท่าน เพื่อประกอบการตัดสินใจ 

เหอะๆ BM นี่น่ากลัวกว่าที่ผมคิดเยอะเลย

เคยเล่น เปอโยต์ กับซีตรอง คิดว่า ค่าดูแลโหดแล้ว BMW นี่เข้าขั้น มหาโหด กลัวเลยครับ

ขอบคุณที่เปิดโลกไม่สวยให้ได้เห็นครับ

 คุณขับ estate เก่าๆ ครับ  อู่ซ่อม BMW ข้างนอกดีๆยังมีอีกหลายที่ครับ  มันอาจจะน้อยกว่าของเมอร์เซเดสอยู่มากก็จริง  ผมใช้ E65  วันนี้ผมฝากชีวิตคันนี้ไว้ที่อู่แถวลาดพร้าว  ก็ใช้ได้ครับแก้จบ  มีคอมฯจับกล่อง  กับอู่สำรองอีกอันแถวพระรามสาม  ผมว่าใช้ได้ทั้งสองที่ครับ

คำแนะนำสำหรับการเล่นรถเก่าของผม  หาอู่ที่คุณจะฝากผีฝากไข้สำหรับรถคันนั้นก่อนครับ  รถเก่ายังงัยก็ต้องซ่อม  เมื่อมีที่ฝากผีฝากไข้แล้ว เช็คว่าอะไรที่จะเจอเป็นประจำแล้วเช็คดูว่าเลี้ยงไหวมั้ย  ถ้าไหวก็ลุยเลยครับ

*************ถ้าพี่ไม่มีอู่นอกเจ๋งๆ คิดเป็นระบบแบบวิศวกร พี่พับโครงการทันทีนะครับ ใครให้รถฟรีก็อย่ารับ แค่ไฟหรี่ขาดธรรมดา ช่างต้องเข้าใจว่า ไฟเลี้ยวจะติดแทน เป็น safe mode ถ้าช่างทั่วไปทำ รื้อไฟเลี้ยวด้วย พังไปใหญ่  การหาอู่ก็ลองคุยกับช่างดูครับ ลองดูการใช้ตรรกะ ความสัมพันธ์ระบบต่างๆของรถ ความสะอาดอู่ (อันนี้ไม่รู้เป็นไร อู่ bmw เทพๆ จะสะอาด) ดูfeedback ผู้ใช้ ผมเล่นbmw หลายปี เจออู่ทำแล้วรอดอยู่ 2 เจ้า เจ้าหนึ่งอยู่ ลำลูกกา อีกอู่อยู่ชลบุรี แค่นั้นจริงๆ ราคาก็สมกับงานนะครับ อย่าคิดว่าถูก แต่ไม่มีมั่ว มีฟัน ไม่มีซ้ำ*************

 มี E39 ลงเว็บตลาดรถอยู่นะครับ วิ่ง 40k โล ราคา 39k ซ่อม 0 ตลอด ไม่รู้ว่ารถไปหรือยัง ผมว่าน่าจะคุ้มค่ากว่าครับ 

E46 ผมว่าจะติดเล็กไปนะครับ แต่ไม่เป็นไรถ้าใจรัก  

1.ก็เรื่อยๆนะครับ ไม่ถึงกับขวัญใจรถยก แต่ก็ไม่ได้ทนไรมากมาย (ผมหมายความเฉพาะเครื่องนะไม่ใช่เกียร์) แต่จงระวัง รางกระจก โดนแน่ๆ บูชกระจก ระบบระบายความร้อน อาจต้องเปลี่ยนหม้อน้ำ ปั๊มน้ำ แอร์ ปั๊ม ABS พัง 
2.มีคนใช้ตั้งแต่ 04-13 ซ่อมไป สองแสนก่าๆ บางคน สี่ปี โดน สี่แสน Vary ครับ แต่เท่าที่คุยๆมา 4 ปี 2 แสน กันเงินไว้ปีละ สามสี่หมื่น น่าจะกลางๆดี แต่ถ้าเกียร์พี่พังพี่จะโดน 2 แสนทันที (หาเกียร์เชียงกงเปลี่ยนจะสบายกระเป๋ากว่ากันเยอะ)  แต่ถ้าพี่เปลี่ยน jz มันจะเซฟเยอะมว๊ากกกกกกกกก ไว้พี่ซ่อมไม่รอดก็ยก jz ลง

3.มีตังค์ก็ซ่อมครับ ไม่มีก็รอเสียก่อน ของเหลวถ่ายให้หมดตอนรับรถ สายพานดูเลย ถ้าไม่ใหม่ก็เปลี่ยน ปั๊มน้ำ

4.ซ่อม 2 แสน ถ้าตะลุยเปลี่ยนก็หมดครับ E39 ช่างผมได้รถมา เลาะช่วงล่างใหม่ ของเหลว สายพาน เจออะไรน่าจะเริ่มเสื่อมเปลี่ยนหมดหมดสองแสนเหมือนกัน (preventive Maintenance ) แต่ใช้ยาว อันนี้ยกตัวอย่าง แสนสองแสนหมดได้สำหรับ BMW 

ถ้าพี่ย้ายไป E90 ก็เผื่องบซ่อมแบบเดียวกันแหละครับ ไฟหน้าคู่ละแสนนะครับเบิกห้าง ข้างนอกรึ 7 หมื่น

5.สามแสนกว่า สี่แสนนู่นแหละครับ ถึงจะหลวม (ไม่นับโซ่ราวลิ้นที่ต้องเปลี่ยนก่อน) เฉพาะเครื่องน่ะ เกียร์นี่ตามทีน แต่สองสามแสนก็ได้แกะมาทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ

6.BMW มีระบบป้องกันการกรอไมล์ได้อยู่ แต่ผมไม่แน่ใจว่าเทคโนโลยีเด๋วนี้ไปถึงไหน ตอบว่า "ไม่รู้ครับ" แต่ ดูสภาพเป็นหลักดีกว่าครับ ไมล์เป็นน้ำจิ้ม อยากรู้ไมล์สำพันธ์กับรถไหม ดูรอยสึกที่แป้นเบรก กับคันเร่่งครับ ถ้าเปลี่ยนมา ตีเป็นใช้มาก หรือชนหนัก ถ้าไม่เปลี่ยน ก็ดูการสึก มาก สึกน้อย 

7.พาช่างไปดูครับ ของแบบนี้มันประสบการณ์ครับ เอาว่าดูไม่มีรอยพับรอยบี้ ช่องไฟต้องเท่ากัน ส่องแดดแล้วสีเท่าน้ัน ดูทางระบายน้ำด้านหน้า แผงคอจิ้งหรีด ส่วนมาก bmw เป็นสนิมจุดนี้แทบทุกรุ่น แต่ e46 รถยังใหม่อยู่ สนิมจะไม่ค่อยเห็น  
  เครื่องก็เข้าเกียร์ เข้าช้า เข้ากระตุก ก็ผ่าน หากล่อง GT1 เสียบโค้ด
8 อย่าไปหวังอะไรกับเต๊นท์เยอะครับ ถ้ารับจริง ตอนทำสัญญาโอน ก็เขียนให้มันชัดเจน ว่าถ้ารายการอะไรเสีย หรือไปพบภายหลังว่าชนหนักมา คืนเงินใน 3 วัน 7 วัน อะไรก็ว่าไป 
    โดยข้อเท็จจริงมันประกันกันยาก เพราะรถก็มือสอง ทุกอย่างไม่รอ้ยเปอร์เซ็นต์ แถมท่านใช้เองก็สึกหรอเพิ่มอีก เหนื่อยครับ สู้จ้างช่างไปดูขาดๆ เลยดีกว่า