พอดีจะขายรถอ่ะคะ ช่วงนี้รถติดเลยใช้แต่มอเตอร์ไซต์ ก็เลยคิดว่าจะขายรถ Sport Rider ปี 2004 เกียร์ออโต้อ่ะคะ แต่ตอนนี้ยังผ่อนกับไฟแนนซ์อยุู่ แต่ถ้าสนใจจะผ่อนต่อในราคาที่ส่งก็ติอต่อมานะคะ ส่งมาได้ 1 ปีกว่าแล้วอ่ะคะ (จะครอบ 2 ปี เดือนพฤศจิกายน นี้ค่ะ) 

064-283 3741 แอนค่ะ

 ซื้อ มาแล้วครับเครื่อง5แอล ปี2001สีเทา อย่างเท่ห์เลย มันก็ไม่กินน้ำมันเท่าไหร่หรอกขับ90 ก็ได้13กิโลเมตร/ลิตรนะ 20 ลิตรวิ่งได้360 กิโลเมตรครับ ชอบเลยแบบนี้

 จริงค่ะคุณ bird เราก็ใช้รุ่นปี 1999 มันก็ไม่กินน้ำมันนะ เราว่ามันขึ้นอยู่กับวิสัยของการขับขี่มากกว่า เราเป็นผู้หญิงที่ใช้รถกระบะมาตลอดใช้รถเก๋งไม่เป็น เกียร์ออโตก็ไม่เป็น เราใช้รุ่นนี้มานานตั้งแต่แรกจนปัจจุบัน และใช้ทุกวันวิ่งทางไกล เหนือจรดใต้ อิสานก็ถึงฝั่งลาว ความเร็ว120ขึ้นเทียบกับรถเพื่อนมันก็พอๆกัน

หลายคนมาจากกูเกิล จะเห็นได้ชัดเลยว่าทุกคำตอบจะบอกว่าอืด วิ่งไม่ขี้น แต่เอาเข้าใจจริง เครื่อง 3000 d4d ก็กินในเมืองประมาณ 8-9 โลลิตรเหมือนกัน มันไม่ได้ประหยัดจริงอย่างที่โฆษณา เมื่อใจมันมีอคติก็ให้ความเห็นเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน ถ้าเครื่อง 5L มันห่วยมันแย่ทำไมทุกวันนี้ยังมีคนรับซื้อกันโครมๆราคา 3-4 หมื่น ก็เพราะมันทน อึด สู้น้ำไง ดีเซลอย่าง d4d มันเป็นดีเซลคุณหนู มันอึดสู้ปู่ของมันคือ 5L ไม่ได้หรอก หลังจากน้ำท่วมปี 54 มีคนประกาศรับซื้อเครื่อง 5L กันโครมๆ ดังนั้นถ้าจะซื้อตัวนี้มาลุย เอาเลยครับ ตอนนี้ราคาไม่แพง ผมว่าราคายุติธรรมน่าจะอยู่ราว 280,000 - 350,000 ปี 1999-2000 ครับ ทั้งนี้ขี้นอยู่กับสภาพว่าเคยไปทำอะไรมา อีกอย่างที่ต้องทำใจคือ รถเก่าที่เจ้าของบางคนเอามาโมกว่าสิบปีย่อมเจอจุดเสียแน่ๆ ก็ซ่อมไปครับ ถ้าให้ซื้อใหม่ออกห้างล้านกว่าๆ ใครมันจะกล้าเอาไปลุย

ตอนนี้กำลังจะหาไว้ใช้บ้าง ปี 1999-2000  เครื่อง 5L  ราคาอยู่ที่เท่าไรครับ เพราะชอบขับขึ้นที่สูงปัจจุบันใช้ มังกรทองแวนไทยรุ่งอืดมากๆ แต่ก็ประหยัดน้ำมันดี  ใครมีข้อแนะนำช่วยบอกด้วย

เคยใช้  ตัว 3.0 G  ออโต้ โฉมสุดท้าย ที่ไฟหน้าเป็นโปรเจคเตอร์   พวงมาลัยลายไม้   

ใช้ยังไง ก็ 8 - 9 โล/ลิตร  อย่างเก่งที่สุด 10 กม./ลิตร   ส่วนช่วงล่างก็คงไม่นิ่มแบบเก๋ง

แต่ผมใช้ของ   OLD  MAN  EMU  ทั้งชุด  ถือว่า ดีและนุ่มแบบสบายไม่กระแทกจนจุกเหมือนของเดิม

แต่ ผมเองก็ขับ รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่เป็นกระบะ มาก่อน 3 คัน ก่อนมาออก สปอร์ตไรเดอร์

เลยทำให้ ชินกับความกระด้างของมันครับ 

ขอบคุณทุกท่านครับ

เท่าที่ดูๆ มา(เหมือนกัน อิอิ)  sport rider มีหลายรุ่น หลายเครื่องให้เลือก เครื่อง D4D จะเป็นตัวประหยัดสุด(เค้าว่ามา) ส่วน KZ จะวิ่งดีสุด(เค้าว่ามาเหมือนกัน) แต่เหตุนึงที่ผ่านคือเท่าที่ทราบมันมีแต่ขับสี่ ถึงจะ part time ก็มีอุปกรณ์ขับสี่ให้ดูแล และผมเป็นพวกขี้เกียจดูแลครับ... ลูกเยอะพอแล้ว แหะๆ

คุณบุญลือ หาโฉมดีโฟร์ดี ( ตัวที่สอง) ประมาณปี 2002 ขึ้นไป มีทั้งเครื่อง 1 kd(3000) 2 kd(2500) เครื่องคอมมอนเรล และ 1 kz(3000) เครื่องเทอร์โบ อีเอฟไอ คันเร่งไฟฟ้า เพราะว่าจะได้ความแรงมากกว่า 5 l    ของผมเป็น เครื่อง 1 kz  ปี 02 ขับสี่ โฉมดีโฟร์ดี ซื้อมือหนึ่งจากห้าง เปลี่ยนโช๊คอัพ เป็นของ อีเกิ้ลลายน์ 4 ตัว เทิร์นของเดิม เพิ่มเงิน 9500 บาท  ผมว่ามันก็รับได้น่ะสำหรับรถกระบะดัดแปลง ไม่ขนาดตับคลอนหรอก ใส้เลื่อน อัตราการกินน้ำมัน ใช้งานทั่วไป 8-9 โล ต่อลิตร ผมใช้บี 5 ของเชลล์เติม 3-4 ถัง หันมาใช้ วีเพาเวอร์ 1 ถัง ตามสูตรของคนว่างวันอาทิตย์ที่เคยแนะนำมานานแล้ว  ลองเช็คราคาดูที่เวป วันทูคาร์ได้ครับ 4 - 5 แสน    อ้อ หากคุณบุญลือฯ อยากได้จริงหรือลองขับรถผมได้น่ะ( ไม่ขายน่ะแค่อยากให้ลองขับ) จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้นครับ  ถ้าอยู่ย่านบางนาน่ะ

Sport Ryder เป็นรถที่ขึ้นชื่อว่าเจ้าของเก่าขายทิ้งเพราะไม่สามารถที่จะทนความกระด้างของรถคันนี้ได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว รถคันนี้ค่าตัวที่ตอนออกมาใหม่ๆเกือบล้านจึงเหลือแค่สามแสนกว่าถึงสี่แสนด้วยเหตุผลนี้แหละครับ เพราะเจ้าของเก่าไปหาซื้อรถรุ่นอื่นแทน เครื่องยนต์ใช้เครื่อง 5L ก็มี รุ่นล่าสุดจะมีให้เลือกเป็นเครื่อง 1KZ ที่แรงสะใจ แต่เครื่อง 5L ก็ได้ชื่อว่ากินและไม่มีแรง เครื่อง 1KZ เป็นเครื่องแรง แต่กินสะใจ ข้อดีของมันคือเครื่องทนทาน เรื่องช่วงล่างไม่ต้องคิดที่จะไปแก้ไขเพราะไม่คุ้มครับ อย่างไงก็เด้งเพราะมันถูกออกแบบมาอย่างนั้นอยู่แล้ว คุณบุญลือน่าไปพาครอบครัวไปลองขับดู ถ้าทนได้ก็ซื้อ ถ้าไม่ไหวก็ผ่าน เล่นง่ายๆแบบนี้แหละครับ