จุกจิก แค่ 2 อย่าง ที่ว่าจุกจิกคือเสียบ่อย  เป็นปัญหาของมิตซูที่แก้ไม่ตก มานาน อาจเป็นเพราะใช้ supplier เจ้านี้ก็เป็นได้

คือ ปั๊มเพาเวอร์กับปั๊มครัชบน ชอบรั่ว  ซึ่งราคาไม่กี่บาท หลักพัน 

นอกนั้น ก็ OK หมดครับ  เผลอ ๆ ช่วงล่างดีกว่า Triton อีกครับ  ฮาาาาา

ขอยืนยันตามที่คุณปราณีตตอบในกระทู้ที่ 2 และ 4 แต่ขอเพิ่มเติมในกระทู้ที่ 5 คือ นอกเมืองขับได้ 12 กม./ลิตรนั้นต้องคลึงคันเร่งเนียนมากๆ ไม่เกิน 100 กม./ชม.ครับ

สมรรถนะในตัว G-Wagon นั้นหาตัวจับยากครับ...ยกเว้นซดกว่าชาวบ้านเท่านั้นเอง (ผมเคยมองเปรียบเทียบหลายยี่ห้อแล้ว ตัวนี้เจ๋งกว่าเยอะ เครื่อง 4M40T แข็งแรงดี แต่ติดตรงกินน้ำมันเนี่ยแหละครับ)

เพิ่งจะยกเครื่อง เบนซิล 6G72 ลงให้เพื่อน ติด LPG  ใต้ท้องรถ สาเหตุคือราคาตกขายไม่ลง  ทุกวันนี้ยิ้มอย่างเดียว เหลือยกเฟืองท้ายอย่างเดียว เพราะเค้าจะต้องการ คอยล์สปริง เดี่ยวจัดให้ ทุกอย่างเดินช็อปที่เซียงกง ลงทุนประมาณ 75000 จบ

คนที่เคยใช้เขาบอกว่าขับไปทำงานตอนเช้า ตอนเย็นกลับบ้าน[ในกรุงเทพฯ] รถค่อนข้างติด กินน้ำมันเป็นเลขตัวเดียวเลย ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็นไปตามความเห็นที่ 4 ครับ  แต่ถ้าเขาขับกลับบ้านต่างตังหวัดหรือพาครอบครัวไปเที่ยว มีเลขสองตัว สิบกว่าๆ [ก็คงอยู่ในช่วง 12 ก.ม./ล. - ผมเข้าใจว่าอย่างนั้น]

7-9 กม/ลิตรถ้าเครื่องสภาพยังพอใช้ได้อยู่ครับ

รับประทานประมาณกี่โลลิตรครับ

                       ขอบคุณครับ

จากคำบอกเล่าของผู้เคยใช้ ข้อดีคือเครื่องยนต์แข็งแรง ทนทาน ใช้งานหายห่วง ข้อด้อยคือกินน้ำมันไปนิดครับ

เครื่องยนต์รุ่นนี้ดูเหมือนว่าเขาไปใส่ให้ PPV คือตัว G-Wagon รุ่นสุดท้ายด้วยครับ

คงจะไม่ขอวิจารณ์อะไรมากมาย เพราะมันเป็นรถเก่า การซื้อรถเก่าต้องดูตามสภาพของแต่ละคันครับว่าสภาพที่เหลือมันอยู่ที่กี่เปอร์เซนต์ เครื่องถามว่าทนไหม ตอบว่าทน แต่กินน้ำมันสะบัดช่อ เพราะใช้เทคโนโลยี่รุ่นเก่าครับ เจอน้ำมันอะไรใช้ได้หมด ข้อด้อยในรุ่นขับสี่คือตัว Solinoid valve ชอบเสียบ่อยทำให้ไฟขับสี่ติดขึ้นมาครับ